THIRD EYE UNBLIND ความเบิกบาน ของ ผู้ชายตาบอด ถ้า ‘เติ๊ด’ ต่อพงศ์ เสลานนท์ จะลุกขึ้นมาทำเดี่ยวไมโครโฟน แสดงทอล์กโชว์ปีละครั้งสองครั้ง ไม่น่าเป็นเรื่องเหลือบ่ากว่าแรง ทั้งชั้นเชิงการพูด ประสบการณ์ และอารมณ์ขันของเขา มีศักยภาพเพียงพอที่จะทำได้ GM เชื่อจริงๆ ว่าเขาน่าจะทำได้ดีเสียด้วย ทั้งที่มันขัดแย้งกันอยู่พอสมควรกับภาพที่เราคุ้นชิน ความพิการย่อมหมายถึงความหดหู่ หงอยเหงาซึมเซา ด้อยโอกาส และโดดเดี่ยว ฯลฯ แต่เชื่อไหม? ว่ารูปทรง มวลสาร และพลังงานของต่อพงศ์ แทบจะไม่มีสิ่งเหล่านี้เลย ตลอดเวลาที่นั่งคุยกับเขา ดูเหมือนเราจะสัมผัสได้เพียงความเบิกบาน และไม่มีอะไรนอกจากความเบิกบาน เรื่องเล่าเขาเยอะ เพราะใช้ชีวิตมาโชกโชน มุมมองเขามัน เพราะแถมสั่งสมวิชาความรู้มาจากวงเพื่อนและวงเหล้า ต่อพงศ์เป็นลูกนายอำเภอ เกิดกรุงเทพฯ แต่ต้องเดินทางบ่อยครั้งตั้งแต่เด็กเพราะพ่อย้ายไปทำงานหลายแห่ง ไม่ว่าชุมแสง ตาคลี เลย และบุรีรัมย์ ทำให้ได้บุคลิกของเด็กบ้านสวน ที่โตมากับการยิงนก ตกปลา ขี่จักรยาน ปีนต้นไม้ ส่วนเรื่องว่ายน้ำนั้น เขาแข็งแกร่งในระดับเคยว่ายข้ามแม่น้ำป่าสักมาแล้วเข้าเรียนที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล และใช้ชีวิตวันหยุดอยู่ต่างจังหวัด เขาจึงคล้ายปลาสองน้ำ คือเป็นคนเมืองหลวง […]Read More
ALL I NEED TO KNOW, I LEARNED FROM FOOTBALL สำหรับผม ฟุตบอลคือความสุข ตกอยู่ในภาวะสิ้นศรัทธา ราวกับถูกแช่แข็งพัฒนาการอยู่นานร่วมทศวรรษ สำหรับวงการฟุตบอลไทย เราแทบจะไม่มีอะไรให้เชียร์ร่วมกันมานาน ไม่สามารถพูดได้เต็มปาก ว่าฟุตบอลทีมชาติ คือทีมกีฬายอดนิยมอันดับหนึ่งของเราทุกคน หลังจากสถิติการแข่งขันที่เลวร้ายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ช่วงที่ตกรอบแรกซีเกมส์ 2 สมัยซ้อน ตั้งแต่นั้นมา ทีมชาติลงเล่นทีไร ก็ไม่ค่อยได้ลุ้นถ้วย แค่ลุ้นว่านัดนี้จะรอดไหม ก็เหนื่อยแทนแล้ว ไหนจะปัญหาการบริหารจัดการของทางสมาคมฯ ที่ย่ำแย่ จนทีมชาติไทยแทบไม่ค่อยได้มีโอกาสอุ่นเครื่อง แน่นอนว่าอันดับโลกก็ร่วงหล่นจนเป็นประวัติการณ์ ไหนจะกระแสความนิยมในทีมกีฬาอื่นๆ ที่ก้าวหน้าไปไกลกว่า ทั้งปรากฏการณ์สนามแตกตอนได้แชมป์เอเชีย 2 สมัยของทีมวอลเลย์บอลหญิงไทย รวมถึงผลงานของทีมฟุตบอลหญิงไทยที่น่าสนใจขึ้นเรื่อยๆ ความฝันเกี่ยวกับฟุตบอลโลก หรือการเป็นเจ้าแห่งเอเชีย ดูห่างไกลออกไปทุกขณะ เข้าขั้นเลือนราง กระทั่งการมาของเขาคนนี้ ซิโก้-เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ตำนานที่ยังเดินดินอยู่ของทีมชาติไทย ซิโก้เพิ่งใช้เวลาไม่นานนัก กับบทบาทระดับกุนซือทีมชาติ นั่นก็แค่ราวๆ ปีครึ่ง เขามารับงานเมื่อมิถุนายน 2013 เพื่อดูแลทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี […]Read More
OUT OF THE LIME-LIGHT มองชีวิต มองการเมือง ในวันที่ลงจากเวที กว่าปีมาแล้ว ที่ ดร. สมเกียรติ อ่อนวิมล หลีกเร้นมาใช้ชีวิตสงบๆ ที่บ้านพักในอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา อยู่ที่นี่เขาเข้านอนประมาณ 3 ทุ่ม ตื่นราวตีสี่ ชงกาแฟ แล้วออกมาเดินบนถนนหน้าบ้าน มองดูฟ้า ดูดาว สูดอากาศบริสุทธิ์ ก่อนเตรียมตัวพูดออกอากาศรายการวิทยุ ซึ่งในตอนนี้ เขาถือว่ามันเป็นงานอดิเรก ในแต่ละสัปดาห์ เขาจะเข้ากรุงเทพฯ เพื่อบันทึกเทปรายการทีวี หรือทำกิจธุระอย่างอื่น 1-2 วัน ซึ่งนี่ก็ถือว่าเป็นงานอดิเรกอีกเช่นกัน พอเสร็จแล้วก็บึ่งรถกลับปากช่อง ช่วงที่เข้ามาอยู่ยาวหน่อย ก็คือปลายปีที่แล้ว ที่มีการ ‘ปิดกรุงเทพฯ’ ของกลุ่ม กปปส. และเขาก็ขึ้นเวทีปราศรัยไปสิบกว่าครั้ง เรียกเสียงฮือฮาจากชนชั้นกลางในเมืองได้ล้นหลาม “เคยมีคนมาถามว่า การเดินทางครั้งไหน ที่เปลี่ยนแปลงชีวิต มากที่สุด ผมตอบว่า มันคือการเดิน จากคณะนิเทศฯ ไปที่คณะอักษรฯ เพราะสำหรับผม มันเปลี่ยนแปลงชีวิตเลย คือผมเห็นว่ามีวิชา ที่ผมอยากรู้แต่อยู่อีกคณะ […]Read More
ท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมือง เราต่างถูกฉีกทึ้งให้แตกแยกออกจากกัน บรรยากาศในบ้านเมืองเต็มไปด้วยความหวาดระแวง ไม่มีความไว้วางใจกันหลงเหลืออยู่ จนไม่มีใครอยากจะลุกขึ้นมาทำอะไร นอกจากแค่นอนดูข่าวรายวัน แล้วก็กระโจนเข้าร่วมวงทะเลาะเบาะแว้ง หรือเข้าร่วมม็อบโน้น ม็อบนี้ แบบรายวัน ด้วยความฝันว่าจะมีส่วนช่วยทำให้บ้านเมืองนี้ดีขึ้น แต่ชายวัยเจ็ดสิบกว่าๆ คนหนึ่งไม่ได้ทำเช่นนั้น เขาลุกขึ้นมาพูดย้ำๆ ซ้ำๆ ถึงปัญหาคอร์รัปชั่นในสังคมไทย การแยกแยะความดี-เลว ธรรมะ-อธรรม และความมีหิริโอตตัปปะในใจ จริงๆ แล้วมันเป็นเรื่องง่ายๆ ที่เราทุกคนควรจะมีความเห็นร่วมกันได้เหมือนเดิมแต่ในวันนี้ เรากลับเห็นมันต่างกันออกไป ทั้งดอกไม้และก้อนหิน ถูกระดมปาเข้าใส่เขา จากทั้งคนที่เห็นด้วยและเห็นต่างทางการเมือง…ส่วนใหญ่โยงตัวเขาเข้าสู่เรื่องการเมือง และโยงเรื่องคอร์รัปชั่นเข้าสู่เรื่องอคติ ทฤษฎีสมคบคิด การใส่ร้ายป้ายสี การหวังผลทางการเมือง โดยแทบจะไม่มีใครสนใจเรื่องคอร์รัปชั่นอะไรนั่นอีกเลย จนถึงวันที่กระสุนปืนลึกลับปลิวเข้าบ้านพักของเขา ตามติดมาด้วยข้อกล่าวหาร้ายแรงทางธุรกิจ ในวันที่แม้แต่เรื่องคุณธรรมความดี เราก็ไม่สามารถมีความเห็นร่วมกันอีกแล้ว GM จึงหาโอกาสมานั่งจับเข่าคุยกับชายคนนี้ ประมนต์ สุธีวงศ์ วันนี้เขามาให้สัมภาษณ์ ในฐานะของประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) ล้วนๆ ไม่มีภาคของธุรกิจหรือชีวิตส่วนตัวเข้ามาปะปน แววตาของเขายังคงสดใส น้ำเสียงของเขายังคงมีพลัง เมื่อต้องมาพูดถึงการต่อสู้กับปัญหาคอร์รัปชั่นในเมืองไทย ที่น่าจะเป็นภารกิจสุดท้ายในชีวิตของเขา หลังจากผ่านชีวิตการทำงานมาอย่างโชกโชนในแวดวงธุรกิจและอุตสาหกรรมของไทย GM ไม่ได้เห็นด้วยกับความเห็นทางการเมืองของเขาทั้งหมด เรานั่งคุยและโต้เถียงกับเขาอย่างสนใจใฝ่รู้ และเขายอมรับในความเห็นต่างในสังคมไทย แต่สำหรับเรื่องคอร์รัปชั่น เราเห็นด้วยกับเขาทั้งหมด […]Read More
วิพากษ์ดาร์กไซด์บอลโลก2014 โคจรมาครบรอบ 4 ปี ให้พวกเราได้มีอะไรทำร่วมกันอีกแล้ว กับหนึ่งในมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก ฟุตบอลโลก 2014 ณ ประเทศบราซิล เมื่อประเทศที่เปรียบดั่งคู่หมั้นของลูกหนัง เพราะเคยได้แชมป์โลกมาแล้ว 5 สมัย เป็นชาติต้นตำรับความสวยงามในเกม รวมทั้งแฟนบอลแซมบ้า ที่ใครๆ ก็รู้ว่าพวกเขาคลั่งไคล้เอาเป็นเอาตายเพื่อทีมที่รักได้ขนาดไหน ได้มีโอกาสรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพจัดฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ทศวรรษ หลายคนคิดว่ามันต้องมีอะไรพิเศษ ต้องมีอะไรให้เราเซอร์ไพรส์สุดๆ แต่ทว่า…คราวนี้ GM ไม่แน่ใจว่ากระแสฟุตบอลโลก จะกลบทุกกระแสในสังคมโลกไปได้จนหมดมิดหรือเปล่า เจ้าลูกกลมๆ ที่กลิ้งไปมา โดยมี 22 คนวิ่งไล่กวดกัน 90 นาที จะยังมีมนต์ขลังตราตรึงคนทั้งโลกได้อยู่อีกไหม ในเมื่อสังคมเปลี่ยน เทคโนโลยีเปลี่ยน ทำให้รูปแบบการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และไลฟ์-สไตล์ของผู้คนพลิกโฉมหน้าไปอย่างมากเมื่อเทียบกับ 4 ปีก่อน ฟุตบอลโลกครั้งที่ดีที่สุดนั้นได้เตะกันไปแล้ว และจบกันไปหมดแล้ว ตั้งแต่ก่อนยุคสหัสวรรษ นักวิเคราะห์หลายคนพูดแบบนั้น และ เกี๊ยง-นันทขว้าง สิรสุนทร ก็มองคล้ายๆ กัน เกี๊ยงเป็นนักสังเกตการณ์ทางสังคมตัวยง เชี่ยวชาญในป๊อปคัลเจอร์ทุกแขนง หลายคนชื่นชอบติดตามการวิจารณ์หนัง […]Read More
ขุดไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต deconstructing the labyrinth จู่ๆ เธอก็โผล่เข้ามาในแวดวงวรรณกรรม พร้อมกับนวนิยายที่ทำให้หลายคนอ่านจบแล้วต้องร้องว้าว! และถามว่า “เธอเป็นใคร” ว่ากันตามจริง วีรพร นิติประภา ไม่ใช่คนแปลกหน้าของเรา เพราะย้อนกลับไปเมื่อ 3 ทศวรรษก่อน เธอคือบรรณาธิการของนิตยสารเกย์ในตำนานอย่าง ‘นีออน’ ซึ่งอยู่ภายใต้ชายคาเดียวกันกับนิตยสาร ‘หนุ่มสาว’ ที่ ปกรณ์ พงศ์วราภา ปลุกปั้นมากับมือ และเป็นผู้ชักชวนเธอเข้าสู่วงการ หลังจากวนเวียนอยู่กับเรื่องราวของชายรักชายจนอิ่มตัว วีรพรออกไปหาความท้าทายใหม่ในสายงานโฆษณา ซึ่งในภายหลังเธอก็ทนกับงานพร็อพพาแกนดาแบบนั้นไม่ได้ จึงกลับมาดำรงตำแหน่ง ‘คุณนาย บ.ก.’ ให้กับนิตยสารเด็กแนวผู้มาก่อนกาล ซึ่งนั่นถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของชีวิตของเธอ จากนั้นมีอันต้องไปทำมาหาเลี้ยงชีพ และเป็นแม่บ้านสมองใส เลี้ยงลูกและเลี้ยงแมวอยู่กับบ้าน ก่อนที่เธอจะนั่งลงใช้เวลา 3 ปี กับงานอดิเรกในการสร้างสรรค์ ‘ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต’ อันเป็นนวนิยายเรื่องแรก เสียงตอบรับดีเกินคาดสำหรับผู้เขียนหน้าใหม่ มันป่าวประกาศตัวเองว่าเป็นนวนิยาย ‘น้ำเน่า’ ซึ่งดูทรงแล้ว มันก็น้ำเน่าจริงๆ นั่นแหละ เพียงแต่ถ้าคุณอ่านลงไปมากกว่านั้น คุณก็อาจจะตั้งคำถามขึ้นมาว่า ทำไมนวนิยายน้ำเน่าจะต้องพร่ำบอกย้ำๆ ซ้ำๆ ว่าตัวเองเป็นนวนิยายน้ำเน่าขนาดนั้นด้วย …นวนิยายน้ำเน่า…โฆษณาพร็อพพาแกนดา…มายาคติในวัฒนธรรมร่วมสมัย…และไส้เดือนตาบอดที่กินดิน ขี้ออกมาเป็นดิน […]Read More
POLITICAL & MEDIA LANESCAPE ส่องภูมิทัศสื่อสารและการเมืองไทย ณ ห้องประชุมในตึกสูงเด่นบนถนนบางนา-ตราด ที่เมื่อก่อนคนมักจะเรียกกันติดปากว่า ตึกเนชั่น ผู้บริหารระดับสูง 4 คน เคลียร์ทุกคิวเพื่อมานั่งคุยกับ GM เกี่ยวกับภารกิจใหญ่ครั้งใหม่ คือ ทีวีดิจิตอลที่พวกเขาเพิ่งไปประมูลมาได้ 2 ช่อง ในสนนราคากว่า 3,500 ล้านบาท และกำลังจะเริ่มออกอากาศในอีกไม่กี่วันนี้แล้ว นอกจาก สุทธิชัย หยุ่น ในฐานะหัวเรือใหญ่แล้ว อดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ ในฐานะกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เนชั่น แชนแนล เทพชัย หย่อง ผู้หวนคืนรังหลังกลับมาจากไทยพีบีเอส เขาจะมาคุมช่องข่าวใหม่ และ ดวงกมล โชตะนา ผู้ดูแลกรุงเทพธุรกิจทีวี และจะมาคุมช่องสาระบันเทิงใหม่ แน่นอนว่าไม่มีใครกล้าปฏิเสธความเป็นเบอร์หนึ่งในสายข่าวของเครือเนชั่น ที่พวกเขาแสดงให้เห็นมาตลอดว่านำหน้าคนอื่น ในการนำคอนเทนต์เดินทางข้ามสื่อ GM คอยจับตาดูเขาเสมอ เมื่อมีอะไรใหม่ๆ เกิดขึ้นในวงการ […]Read More
BE COMING WELL ROUNDED ความกลมกลืนของอุดมคติและชีวิต เราได้เห็น นิ้วกลม-สราวุธ เฮ้งสวัสดิ์ ในบทบาทของพิธีกรโทรทัศน์หลายรายการ ขณะที่ในบทบาทของการเป็นนักเขียน เขาก็ยังคงดำรงสถานะเป็นนักเขียนเบสต์เซลเลอร์ และจำนวนคนที่ต่อแถวขอลายเซ็นในงานสัปดาห์หนังสือก็ยังยาวเหยียดเหมือนเดิมปี 2013 ที่กำลังจะผ่านไป น่าจะเป็นปีที่นิ้วกลมก้าวขึ้นถึงจุดสุดยอดของชีวิต เขามีรายการแฟนพันธุ์แท้ตอนของตัวเอง และล่าสุดถึงกับจัดทอล์กโชว์ของตัวเองอีกด้วย ในช่วงหนึ่งของการสนทนา นิ้วกลมพูดถึงแนวคิดของปรัชญาหลังสมัยใหม่ ที่มองว่าชีวิตเราไม่ใช่ Being หรือการสถิตดำรงอยู่อย่างเดิมตลอดไป แต่แท้จริงแล้ว คนเราอยู่ในภาวะของการ Becoming หมายถึงทุกคนกำลังเปลี่ยนไปสู่อะไรบางอย่างตลอดเวลาเขาเองยอมรับว่าทุกมิติของชีวิต ก็อยู่ในภาวะที่เปลี่ยนแปลงไปสู่อะไรบางอย่างตลอดเวลาเช่นกัน จุดยืนทางการเมือง ความคิดเห็นที่โพสต์ผ่านสเตตัสเฟซบุ๊ค อุดมคติส่วนตัว ความรักกับชิงชิง-แฟนสาว ความสัมพันธ์ในครอบครัวกับพ่อและแม่ เรื่อยมาจนถึงความสำเร็จ ชื่อเสียง และคำวิพากษ์วิจารณ์แรงๆ หรือเรียกง่ายๆ ว่าด่านั่นแหละ ฯลฯ คำถามที่จะตามมาคือ ณ จุดสุดยอดนี้ เขากำลัง Becoming ไปเป็นอะไร เขากำลังคิดอะไรอยู่ และจุดสุดยอดถัดไปจากนี้คือที่ไหน “ขีดจำกัดของคนเรานั้นอาจไม่ได้อยู่ที่ตัวเรา แต่อยู่ตรงที่เรายอมเสียอะไรในชีวิตไปบ้าง” เขาพูดให้เราได้ฉุกคิด เขาได้เรียนรู้ขีดจำกัด และหาวิธีใช้ชีวิตอย่างสมดุล กลมกลืน ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่เขาจะบอกว่า วันหนึ่งเขาก็จะไม่ฮิต […]Read More
However mean your life is, meet it and live it. – Henry David Thoreau – ความขัดแย้งเริ่มปะทุขึ้นมาทันที ในที่ประชุมกองบรรณาธิการ GM เมื่อมีคนเสนอให้เราทำสัมภาษณ์ใหญ่ มิตซูโอะ ชิบาฮาชิ หรืออดีตพระมิตซูโอะ คเวสโก ผู้ลาสิกขาไปแต่งงานกับ สุทธิรัตน์ มุตตามะระ หรือสีกาแอน ซึ่งทั้งสองเพิ่งรู้จักกันมาได้เพียงไม่กี่เดือนก่อนหน้านั้น เรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้ว พุทธศาสนายังบอบช้ำไม่พออีกหรือ? – ฝ่ายคอนเซอร์เวทีฟแย้งมาด้วยแนวคิดประมาณนี้ หลังจากที่เรื่องราวฉาวโฉ่และคำติฉินนินทามากมาย แพร่กระจายอยู่ในโซเชียลมีเดียไปทั่ว เกี่ยวกับสีกาสาวที่ร้ายกาจ สึกพระที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดแห่งยุคสมัย ถึงอย่างไรก็ตาม เขามีคุณค่า ในเชิงข่าว มีฮิวแมนอินเทอเรสต์สูงที่สุดในช่วงเวลานี้นะ – ฝั่งที่ไม่สนใจคุณค่าเชิงนามธรรมใดๆ นอกเหนือจากการได้ทำหน้าที่สื่อมวลชน จะเสนอขึ้นมาแนวนี้ เพราะเห็นว่าทั้งสองคนเดินสายออกรายการทีวี ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ และนำหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊คเล่มใหม่ ‘ความในใจ…อาจารย์มิตซูโอะ’ ออกวางขายอย่างเอิกเกริก ถึงอย่างไรก็ตาม คนเรามันก็เท่านี้ไม่ใช่เหรอ บางครั้งเราได้รับคำชม บางครั้งเราได้รับคำนินทา เรื่องราวในชีวิตของคนที่กำลังเจอมรสุมหนัก เราเรียนรู้ความเป็นมนุษย์อย่างแท้จริง […]Read More
บทสัมภาษณ์ ศศิน เฉลิมลาภ ในคราวนี้ เป็นเหมือนหนังภาคต่อจากบทสัมภาษณ์ในเล่มเดือนเมษายนที่ผ่านมา เมื่อ GM ได้ไปร่วมล้อมวงคุยกับนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมหลายท่าน โดยมีศศินร่วมเป็นหนึ่งอยู่ในนั้น GM ได้ถามถึงความหวังและอนาคตของสิ่งแวดล้อม นักวิชาการท่านอื่นบอกเล่าถึงการใช้พลังงานทางเลือก นวัตกรรมของเครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ รวมถึงนวัตกรรมทางสังคม การรวมพลังประชาชนผ่านสื่อใหม่ๆ ที่ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงต่อสิ่งแวดล้อมและจิตสำนึกของผู้คนไปในทางที่ดีขึ้นวันนั้นศศินดูมีสีหน้าวิตกกังวล เขาบอกเล่าสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงอยู่หลายจุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ผืนป่าตะวันตก อันเป็นฐานที่มั่นสำคัญของเขาเอง พร้อมทั้งแสดงความเหน็ดเหนื่อยกับการทำหน้าที่ของตนเอง ในฐานะเลขาธิการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ว่ายังไม่สามารถทำงานอย่างได้ผลนักเขาเปรยขึ้นมาว่าศัตรูของนักสิ่งแวดล้อมในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไป เมื่อคนรุ่นใหม่มีปรัชญาแบบใหม่ รูปแบบการสื่อสารแบบใหม่ และเขากำลังตามความเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ทันคอนเสิร์ตเพื่อสิ่งแวดล้อมที่เขาเคยจัดแล้วได้รับการตอบรับอย่างมากในสมัยก่อน พอมาวันนี้มันกลับดูเชยสิ้นดี เช่นเดียวกันกับเรื่องจิตสำนึกและคุณค่านามธรรมทั้งหลาย ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครพูดถึงกันแล้วในยุคสมัยนี้ปรัชญาใหม่คืออะไร? … การสื่อสารใหม่คืออะไร? …GM มีโอกาสย้อนกลับมานั่งคุยกับเขาอย่างละเอียดอีกครั้ง หลังจากที่เขาเพิ่งหายเหน็ดเหนื่อยจากการเดินเท้า 13 วันเต็มๆ จากอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ มุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ เพื่อรณรงค์คัดค้านรายงาน EHIA เพื่อก่อสร้างเขื่อนแห่งใหม่คณคงได้ติดตามเรื่องราวการเดินเท้าที่แสนโด่งดังครั้งนี้ และพอรู้ถึงผลดีและผลร้ายของเขื่อนแม่วงก์กันมาบ้างแล้ว GM จึงอยากชวนศศินคุยในประเด็นสิ่งแวดล้อมที่กว้างและลึกกว่านั้นวันนี้ศศินดูมีสีหน้าปลอดโปร่ง และเปี่ยมด้วยพลังในการทำงานอนุรักษ์ของเขามากขึ้น และดูเหมือนเขาพร้อมแล้วที่จะตอบคำถามเหล่านั้นอย่างชัดเจน GM: เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา คุณยังคุยกับ GM อยู่เลย ว่าคุณเป็นนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมรุ่นเก่า ที่กำลังท้อถอยกับการสื่อสารกับคนรุ่นใหม่ ศศิน : ก็นี่แหละครับ […]Read More