Raising Questions, Reforming Society ลุกขึ้นตั้งคำถาม เดินหน้าปฎิรูป นับว่าเป็นยามบ่ายที่น่าประทับใจ เรานั่งจิบชาร้อนๆ คุยเรื่องปัญหาเศรษฐกิจร้อนๆ กับนักเศรษฐศาสตร์หนุ่มที่กำลังร้อนแรงที่สุดในเวลานี้เรื่องประชานิยมในกรีซเหรอ? หรือว่าจะเรื่องฟองสบู่ในจีนดี หรือว่าจะเป็นเรื่องการเมืองในบ้านเราที่ทำให้เศรษฐกิจซบเซามาต่อเนื่องยาวนาน… เขาบอกว่าเรื่องพวกนี้ซ้ำซากน่าเบื่อ ถึงเราจะถามเขาไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรนัก เราน่าจะคุยกันในเรื่องที่ลึกซึ้งกว่านั้นถ้าเช่นนั้น…เราขอถาม…เรื่องที่คุณเคยเป็นหนุ่มโสดในฝัน จากการจัดอันดับโดยนิตยสารชั้นนำของเมืองไทยโอ้โฮ! นั่นมันตั้งกี่ปีมาแล้วนะ อย่างผมนี่คงตกรุ่นไปแล้วมั้ง แถมตอนนี้ผมแต่งงานแล้วด้วย – เขาหัวเราะและดูกระตือรือร้นขึ้นมาเล็กน้อยดร. เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ อยู่ในไลม์ไลท์ของสังคมไทยตั้งแต่ช่วงปี 2540 ตอนนั้นเขาเป็นนักเศรษฐศาสตร์เลือดใหม่ หนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยว กลับมาช่วยงานกระทรวงการคลัง ในห้วงยามที่เรากำลังเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจก่อนหน้านั้น เขาจบด้านเศรษฐศาสตร์มาจาก Swarthmore และ Yale ทำงานเป็นนักวิเคราะห์ในบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำของโลก ก่อนจะไปทำงานวิชาการที่ World Bankหลังจากที่ช่วยงานกระทรวงการคลัง เขาไปเป็นอาจารย์อยู่ที่ศศินทร์แล้วไปทำงานให้กับตลาดหลักทรัพย์และธนาคารยักษ์ใหญ่ จนกระทั่งเพิ่งมาเปิดบริษัทที่ปรึกษาของตัวเอง The Advisor และสถาบันอนาคตไทยศึกษา เขานำเสนอผลงานวิจัยที่นำไปสู่การถกเถียงอย่างกว้างขวาง เกี่ยวกับการปฏิรูปเศรษฐกิจ สังคม และระบบราชการล่าสุดในตอนนี้ เขาบอกกับเราว่าไม่สนใจเข้ารับตำแหน่งทางการเมืองจากประสบการณ์มหาศาลทั้งในภาครัฐและเอกชน เขาสนใจที่จะตั้งคำถามว่าประเทศไทยเรามา End Up กันที่จุดนี้ได้อย่างไรในการเรียนการสอนวิชาเศรษฐศาสตร์ เรามักจะเพิกเฉยกับประวัติศาสตร์ – เขาบอกเราทั้งที่ความเป็นมาของปัญหาในทางเศรษฐกิจนั้นเป็นเรื่องที่น่าสนใจ และเราสามารถขุดค้นลงไปจนถึงรากของมัน […]Read More
น่าแปลกดี ที่นาฬิกาเรือนกลมๆ บนฝาผนังบ้านของเขา เดินเร็วกว่านาฬิกาบนข้อมือของผมอยู่ 1 ชั่วโมง 30 นาที ดังนั้น ยามสายของผม คือเวลาเที่ยงไปแล้วของเขา แต่วันนี้เขาไม่ได้รีบเร่งเพราะถูกใครหรืออะไรมาเร่งรีบอีกต่อไป ตรงกันข้าม กลับมีเวลาเหลือเฟือที่จะละเลียดทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวสถานะปัจจุบันของหนุ่มใหญ่วัยสี่สิบเศษๆ คนนี้ คือผู้เต็มใจตกงาน มันน่าสงสัยจริงๆ ว่าอะไรหนอ ที่ทำให้หนุ่มโปรโฟล์ดีทั้งการศึกษาและสถานะทางสังคม ตัดสินใจออกมาอยู่บ้านอ่านหนังสือ ทำงานเพลง เขียนนวนิยาย จูงสุนัขบุลล์เทร์เรียสีขาวอวบอ้วน เดินเล่นไปวันๆ ในอดีต เขาดำรงตำแหน่ง Vice President แห่ง Lehman Brothers บริษัทยักษ์ใหญ่ที่อยู่ ณ ใจกลางของเศรษฐกิจการเงินโลก แต่แล้ว เขาลาออกมาเป็นนักดนตรีอินดี้และนักเขียนอิสระ มีชีวิตอยู่ชายขอบของกราฟและตัวเลขที่วุ่นวายทั้งปวง จะว่าไปแล้ว เขาทำสิ่งเหล่านี้ก่อนใคร ก่อนที่คีย์เวิร์ดร่วมสมัยอย่างพวก…ลาออกไปเล่นหุ้น…สโลว์ไลฟ์…เดินตามความฝัน…ค้นหาแพสชั่น อะไรพวกนั้นจะกลายเป็นคำฮิตอย่างทุกวันนี้ เขาแฮ็กระบบที่ซับซ้อนของทุนนิยม แหกกรงขังของชีวิต ออกมากระโดดโลดเต้นในโลกของความฝันของตัวเอง ตั้งแต่เมื่อ 11 ปีก่อน นอกจากเป็นผู้รอดตายแล้ว เขายังจะดำเนินชีวิตต่อมาได้อย่างชิลล์ๆ สร้างผลงานประณีตๆ โดยที่ไม่จำเป็นต้องโดดเด่น โด่งดัง มิหนำซ้ำ ยังหันหลังให้โซเชียลมีเดีย นี่คือส่วนหนึ่งของระบบชีวิตแบบใหม่ […]Read More
สำหรับคนอื่นๆ สรรพเสียงรอบตัวในเมืองใหญ่นั้น คือสิ่งรบกวนจิตใจ สร้างความรำคาญ และทำลายความสงบ แต่สำหรับ นุวีร์ เลิศบรรณพงษ์ เขาฟังมันอย่างรื่นรมย์ สงบสุข และนำมาเป็นแรงบันดาลใจมากมายในการทำงานครีเอทีฟโฆษณา เขียนหนังสือไลฟ์สไตล์ รวมถึงการเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย งานหลักของเขา ในฐานะของ Head of Invention แห่ง Mindshare Worldwide (WPP Group) เขาคือคนที่ต้องทำงานอยู่กับสื่อใหม่ สื่อดิจิทัล โซเชียลมีเดีย เอาต์ดอร์ รวมถึงสื่อทุกอย่างที่จะถูกนำมาใช้เป็นแอมเบียนต์รอบๆ ตัวเรา ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของภูมิทัศน์สื่อครั้งใหญ่ที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้ แอมเบียนต์มีเดียพวกนี้แหละ!! ที่มีความสำคัญขึ้นมา และเขาพบว่าความรักในสรรพเสียงอันวุ่นวายรอบตัวนั้น ทำให้เขาเกิดไอเดียเจ๋งๆ มากมาย • ทุกๆ ปี เขาต้องปลีกวิเวกไปหาแรงบันดาลใจ ไม่ใช่การเดินธุดงค์เข้าป่าเพื่อแสวงหาจิตวิญญาณภายใน แต่เขาไปนิวยอร์ก เพื่อรับฟังสรรพเสียงแปลกใหม่จากโลกภายนอก • เสียงแตร เสียงรถตำรวจ เสียงวณิพกข้างถนน รวมถึงความแออัดจอแจของผู้คน สำหรับนุวีร์ เขาบอกว่าน่าสนใจไม่แพ้เสียงหยดน้ำเล็กๆ กลางป่าใหญ่ • เขามีความเป็นนักเขียน พอๆ กับเป็นครีเอทีฟ เขาเชี่ยวชาญด้านสื่อ […]Read More
TALK WIT TEDX BANGKOK การประชุมว่าด้วยเทคโนโลยี ความบันเทิง และการออกแบบ หรือ TED (Techno-logy Entertainment and Design) กลายเป็นปรากฏการณ์ในสังคมออนไลน์ และแวดวงปัญญาชนทั่วโลก กำหนดเวลา 18 นาทีสำหรับแต่ละทอล์กบนเวที เปิดโอกาสให้ผู้คนจากทุกมุมโลก ได้ขึ้นมาบอกเล่าเรื่องราวในชีวิต ที่เกี่ยวข้องกับสายงานหรือความรู้ที่เขาแตกฉาน ความหลงใหล ข้อมูลแปลกใหม่ และสำนวนโวหารอันเร้าใจ กิจกรรมการทอล์กกลายเป็นเทรนด์ และกลายเป็นแพลตฟอร์มในการถ่ายทอดความรู้ ข้อมูลข่าวสาร ที่ได้รับความนิยมสุดๆ สถิติตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เฉพาะในเว็บไซต์ทางการของ TED มีคลิปการบรรยายมากกว่า 1,900 รายการ มียอดวิวสะสมมากกว่า 500 ล้านครั้ง โดยเฉลี่ยเรื่องที่ได้รับความสนใจ มักมียอดวิวอยู่ที่ 1 ล้านขึ้นไป ในตอนนี้ TED ยังได้แตกตัวเองออกไป เป็นอีเวนท์การบรรยายย่อยๆ TEDx ในประเทศต่างๆ อยู่ทุกเดือน ส่งต่อแพลตฟอร์มการจัดงาน และจิตวิญญาณของความสร้างสรรค์บันดาลใจออกไปทั่วโลก และมันกำลังจะเกิดขึ้นที่กรุงเทพฯ ในชื่อ TEDxBangkok อรรณวุฒิ ลีไพศาลสุวรรณา […]Read More
THIRD EYE UNBLIND ความเบิกบาน ของ ผู้ชายตาบอด ถ้า ‘เติ๊ด’ ต่อพงศ์ เสลานนท์ จะลุกขึ้นมาทำเดี่ยวไมโครโฟน แสดงทอล์กโชว์ปีละครั้งสองครั้ง ไม่น่าเป็นเรื่องเหลือบ่ากว่าแรง ทั้งชั้นเชิงการพูด ประสบการณ์ และอารมณ์ขันของเขา มีศักยภาพเพียงพอที่จะทำได้ GM เชื่อจริงๆ ว่าเขาน่าจะทำได้ดีเสียด้วย ทั้งที่มันขัดแย้งกันอยู่พอสมควรกับภาพที่เราคุ้นชิน ความพิการย่อมหมายถึงความหดหู่ หงอยเหงาซึมเซา ด้อยโอกาส และโดดเดี่ยว ฯลฯ แต่เชื่อไหม? ว่ารูปทรง มวลสาร และพลังงานของต่อพงศ์ แทบจะไม่มีสิ่งเหล่านี้เลย ตลอดเวลาที่นั่งคุยกับเขา ดูเหมือนเราจะสัมผัสได้เพียงความเบิกบาน และไม่มีอะไรนอกจากความเบิกบาน เรื่องเล่าเขาเยอะ เพราะใช้ชีวิตมาโชกโชน มุมมองเขามัน เพราะแถมสั่งสมวิชาความรู้มาจากวงเพื่อนและวงเหล้า ต่อพงศ์เป็นลูกนายอำเภอ เกิดกรุงเทพฯ แต่ต้องเดินทางบ่อยครั้งตั้งแต่เด็กเพราะพ่อย้ายไปทำงานหลายแห่ง ไม่ว่าชุมแสง ตาคลี เลย และบุรีรัมย์ ทำให้ได้บุคลิกของเด็กบ้านสวน ที่โตมากับการยิงนก ตกปลา ขี่จักรยาน ปีนต้นไม้ ส่วนเรื่องว่ายน้ำนั้น เขาแข็งแกร่งในระดับเคยว่ายข้ามแม่น้ำป่าสักมาแล้วเข้าเรียนที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล และใช้ชีวิตวันหยุดอยู่ต่างจังหวัด เขาจึงคล้ายปลาสองน้ำ คือเป็นคนเมืองหลวง […]Read More
ALL I NEED TO KNOW, I LEARNED FROM FOOTBALL สำหรับผม ฟุตบอลคือความสุข ตกอยู่ในภาวะสิ้นศรัทธา ราวกับถูกแช่แข็งพัฒนาการอยู่นานร่วมทศวรรษ สำหรับวงการฟุตบอลไทย เราแทบจะไม่มีอะไรให้เชียร์ร่วมกันมานาน ไม่สามารถพูดได้เต็มปาก ว่าฟุตบอลทีมชาติ คือทีมกีฬายอดนิยมอันดับหนึ่งของเราทุกคน หลังจากสถิติการแข่งขันที่เลวร้ายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ช่วงที่ตกรอบแรกซีเกมส์ 2 สมัยซ้อน ตั้งแต่นั้นมา ทีมชาติลงเล่นทีไร ก็ไม่ค่อยได้ลุ้นถ้วย แค่ลุ้นว่านัดนี้จะรอดไหม ก็เหนื่อยแทนแล้ว ไหนจะปัญหาการบริหารจัดการของทางสมาคมฯ ที่ย่ำแย่ จนทีมชาติไทยแทบไม่ค่อยได้มีโอกาสอุ่นเครื่อง แน่นอนว่าอันดับโลกก็ร่วงหล่นจนเป็นประวัติการณ์ ไหนจะกระแสความนิยมในทีมกีฬาอื่นๆ ที่ก้าวหน้าไปไกลกว่า ทั้งปรากฏการณ์สนามแตกตอนได้แชมป์เอเชีย 2 สมัยของทีมวอลเลย์บอลหญิงไทย รวมถึงผลงานของทีมฟุตบอลหญิงไทยที่น่าสนใจขึ้นเรื่อยๆ ความฝันเกี่ยวกับฟุตบอลโลก หรือการเป็นเจ้าแห่งเอเชีย ดูห่างไกลออกไปทุกขณะ เข้าขั้นเลือนราง กระทั่งการมาของเขาคนนี้ ซิโก้-เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ตำนานที่ยังเดินดินอยู่ของทีมชาติไทย ซิโก้เพิ่งใช้เวลาไม่นานนัก กับบทบาทระดับกุนซือทีมชาติ นั่นก็แค่ราวๆ ปีครึ่ง เขามารับงานเมื่อมิถุนายน 2013 เพื่อดูแลทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี […]Read More
OUT OF THE LIME-LIGHT มองชีวิต มองการเมือง ในวันที่ลงจากเวที กว่าปีมาแล้ว ที่ ดร. สมเกียรติ อ่อนวิมล หลีกเร้นมาใช้ชีวิตสงบๆ ที่บ้านพักในอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา อยู่ที่นี่เขาเข้านอนประมาณ 3 ทุ่ม ตื่นราวตีสี่ ชงกาแฟ แล้วออกมาเดินบนถนนหน้าบ้าน มองดูฟ้า ดูดาว สูดอากาศบริสุทธิ์ ก่อนเตรียมตัวพูดออกอากาศรายการวิทยุ ซึ่งในตอนนี้ เขาถือว่ามันเป็นงานอดิเรก ในแต่ละสัปดาห์ เขาจะเข้ากรุงเทพฯ เพื่อบันทึกเทปรายการทีวี หรือทำกิจธุระอย่างอื่น 1-2 วัน ซึ่งนี่ก็ถือว่าเป็นงานอดิเรกอีกเช่นกัน พอเสร็จแล้วก็บึ่งรถกลับปากช่อง ช่วงที่เข้ามาอยู่ยาวหน่อย ก็คือปลายปีที่แล้ว ที่มีการ ‘ปิดกรุงเทพฯ’ ของกลุ่ม กปปส. และเขาก็ขึ้นเวทีปราศรัยไปสิบกว่าครั้ง เรียกเสียงฮือฮาจากชนชั้นกลางในเมืองได้ล้นหลาม “เคยมีคนมาถามว่า การเดินทางครั้งไหน ที่เปลี่ยนแปลงชีวิต มากที่สุด ผมตอบว่า มันคือการเดิน จากคณะนิเทศฯ ไปที่คณะอักษรฯ เพราะสำหรับผม มันเปลี่ยนแปลงชีวิตเลย คือผมเห็นว่ามีวิชา ที่ผมอยากรู้แต่อยู่อีกคณะ […]Read More
ท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมือง เราต่างถูกฉีกทึ้งให้แตกแยกออกจากกัน บรรยากาศในบ้านเมืองเต็มไปด้วยความหวาดระแวง ไม่มีความไว้วางใจกันหลงเหลืออยู่ จนไม่มีใครอยากจะลุกขึ้นมาทำอะไร นอกจากแค่นอนดูข่าวรายวัน แล้วก็กระโจนเข้าร่วมวงทะเลาะเบาะแว้ง หรือเข้าร่วมม็อบโน้น ม็อบนี้ แบบรายวัน ด้วยความฝันว่าจะมีส่วนช่วยทำให้บ้านเมืองนี้ดีขึ้น แต่ชายวัยเจ็ดสิบกว่าๆ คนหนึ่งไม่ได้ทำเช่นนั้น เขาลุกขึ้นมาพูดย้ำๆ ซ้ำๆ ถึงปัญหาคอร์รัปชั่นในสังคมไทย การแยกแยะความดี-เลว ธรรมะ-อธรรม และความมีหิริโอตตัปปะในใจ จริงๆ แล้วมันเป็นเรื่องง่ายๆ ที่เราทุกคนควรจะมีความเห็นร่วมกันได้เหมือนเดิมแต่ในวันนี้ เรากลับเห็นมันต่างกันออกไป ทั้งดอกไม้และก้อนหิน ถูกระดมปาเข้าใส่เขา จากทั้งคนที่เห็นด้วยและเห็นต่างทางการเมือง…ส่วนใหญ่โยงตัวเขาเข้าสู่เรื่องการเมือง และโยงเรื่องคอร์รัปชั่นเข้าสู่เรื่องอคติ ทฤษฎีสมคบคิด การใส่ร้ายป้ายสี การหวังผลทางการเมือง โดยแทบจะไม่มีใครสนใจเรื่องคอร์รัปชั่นอะไรนั่นอีกเลย จนถึงวันที่กระสุนปืนลึกลับปลิวเข้าบ้านพักของเขา ตามติดมาด้วยข้อกล่าวหาร้ายแรงทางธุรกิจ ในวันที่แม้แต่เรื่องคุณธรรมความดี เราก็ไม่สามารถมีความเห็นร่วมกันอีกแล้ว GM จึงหาโอกาสมานั่งจับเข่าคุยกับชายคนนี้ ประมนต์ สุธีวงศ์ วันนี้เขามาให้สัมภาษณ์ ในฐานะของประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) ล้วนๆ ไม่มีภาคของธุรกิจหรือชีวิตส่วนตัวเข้ามาปะปน แววตาของเขายังคงสดใส น้ำเสียงของเขายังคงมีพลัง เมื่อต้องมาพูดถึงการต่อสู้กับปัญหาคอร์รัปชั่นในเมืองไทย ที่น่าจะเป็นภารกิจสุดท้ายในชีวิตของเขา หลังจากผ่านชีวิตการทำงานมาอย่างโชกโชนในแวดวงธุรกิจและอุตสาหกรรมของไทย GM ไม่ได้เห็นด้วยกับความเห็นทางการเมืองของเขาทั้งหมด เรานั่งคุยและโต้เถียงกับเขาอย่างสนใจใฝ่รู้ และเขายอมรับในความเห็นต่างในสังคมไทย แต่สำหรับเรื่องคอร์รัปชั่น เราเห็นด้วยกับเขาทั้งหมด […]Read More
วิพากษ์ดาร์กไซด์บอลโลก2014 โคจรมาครบรอบ 4 ปี ให้พวกเราได้มีอะไรทำร่วมกันอีกแล้ว กับหนึ่งในมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก ฟุตบอลโลก 2014 ณ ประเทศบราซิล เมื่อประเทศที่เปรียบดั่งคู่หมั้นของลูกหนัง เพราะเคยได้แชมป์โลกมาแล้ว 5 สมัย เป็นชาติต้นตำรับความสวยงามในเกม รวมทั้งแฟนบอลแซมบ้า ที่ใครๆ ก็รู้ว่าพวกเขาคลั่งไคล้เอาเป็นเอาตายเพื่อทีมที่รักได้ขนาดไหน ได้มีโอกาสรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพจัดฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ทศวรรษ หลายคนคิดว่ามันต้องมีอะไรพิเศษ ต้องมีอะไรให้เราเซอร์ไพรส์สุดๆ แต่ทว่า…คราวนี้ GM ไม่แน่ใจว่ากระแสฟุตบอลโลก จะกลบทุกกระแสในสังคมโลกไปได้จนหมดมิดหรือเปล่า เจ้าลูกกลมๆ ที่กลิ้งไปมา โดยมี 22 คนวิ่งไล่กวดกัน 90 นาที จะยังมีมนต์ขลังตราตรึงคนทั้งโลกได้อยู่อีกไหม ในเมื่อสังคมเปลี่ยน เทคโนโลยีเปลี่ยน ทำให้รูปแบบการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และไลฟ์-สไตล์ของผู้คนพลิกโฉมหน้าไปอย่างมากเมื่อเทียบกับ 4 ปีก่อน ฟุตบอลโลกครั้งที่ดีที่สุดนั้นได้เตะกันไปแล้ว และจบกันไปหมดแล้ว ตั้งแต่ก่อนยุคสหัสวรรษ นักวิเคราะห์หลายคนพูดแบบนั้น และ เกี๊ยง-นันทขว้าง สิรสุนทร ก็มองคล้ายๆ กัน เกี๊ยงเป็นนักสังเกตการณ์ทางสังคมตัวยง เชี่ยวชาญในป๊อปคัลเจอร์ทุกแขนง หลายคนชื่นชอบติดตามการวิจารณ์หนัง […]Read More
ขุดไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต deconstructing the labyrinth จู่ๆ เธอก็โผล่เข้ามาในแวดวงวรรณกรรม พร้อมกับนวนิยายที่ทำให้หลายคนอ่านจบแล้วต้องร้องว้าว! และถามว่า “เธอเป็นใคร” ว่ากันตามจริง วีรพร นิติประภา ไม่ใช่คนแปลกหน้าของเรา เพราะย้อนกลับไปเมื่อ 3 ทศวรรษก่อน เธอคือบรรณาธิการของนิตยสารเกย์ในตำนานอย่าง ‘นีออน’ ซึ่งอยู่ภายใต้ชายคาเดียวกันกับนิตยสาร ‘หนุ่มสาว’ ที่ ปกรณ์ พงศ์วราภา ปลุกปั้นมากับมือ และเป็นผู้ชักชวนเธอเข้าสู่วงการ หลังจากวนเวียนอยู่กับเรื่องราวของชายรักชายจนอิ่มตัว วีรพรออกไปหาความท้าทายใหม่ในสายงานโฆษณา ซึ่งในภายหลังเธอก็ทนกับงานพร็อพพาแกนดาแบบนั้นไม่ได้ จึงกลับมาดำรงตำแหน่ง ‘คุณนาย บ.ก.’ ให้กับนิตยสารเด็กแนวผู้มาก่อนกาล ซึ่งนั่นถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของชีวิตของเธอ จากนั้นมีอันต้องไปทำมาหาเลี้ยงชีพ และเป็นแม่บ้านสมองใส เลี้ยงลูกและเลี้ยงแมวอยู่กับบ้าน ก่อนที่เธอจะนั่งลงใช้เวลา 3 ปี กับงานอดิเรกในการสร้างสรรค์ ‘ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต’ อันเป็นนวนิยายเรื่องแรก เสียงตอบรับดีเกินคาดสำหรับผู้เขียนหน้าใหม่ มันป่าวประกาศตัวเองว่าเป็นนวนิยาย ‘น้ำเน่า’ ซึ่งดูทรงแล้ว มันก็น้ำเน่าจริงๆ นั่นแหละ เพียงแต่ถ้าคุณอ่านลงไปมากกว่านั้น คุณก็อาจจะตั้งคำถามขึ้นมาว่า ทำไมนวนิยายน้ำเน่าจะต้องพร่ำบอกย้ำๆ ซ้ำๆ ว่าตัวเองเป็นนวนิยายน้ำเน่าขนาดนั้นด้วย …นวนิยายน้ำเน่า…โฆษณาพร็อพพาแกนดา…มายาคติในวัฒนธรรมร่วมสมัย…และไส้เดือนตาบอดที่กินดิน ขี้ออกมาเป็นดิน […]Read More