เรื่อง : Softlens เพราะเรากำลังอยู่ในภารกิจอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ แม้ว่าต้องงดการออกไปนอกบ้าน ออกไปท่องเที่ยว ที่ทำกันเป็นประจำทุกปีในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ แต่ก็ใช่ว่าจะอดไปเสียทุกอย่าง อย่างน้อยลิสต์ภาพยนตร์เล็กๆ นี้จะช่วยให้เพลิดเพลิน ชมวิวสวยๆ ดูกันแบบสบายๆ เรียกว่าเอ็นจอยกันได้ทุกเพศทุกวัย 1.The Sound of Music (1965) แนว : ภาพยนตร์เพลง-ครอบครัว เปิดเรื่องแรกขอย้อนไปที่ภาพยนตร์เพลงระดับตำนาน อย่าง The Sound of Music หรือชื่อไทยว่า มนต์รักเพลงสวรรค์ นำแสดงโดย จูลี่ แอนดรูว์ ภาพยนตร์ดัดแปลงมาจากละครเพลงชื่อเดียวกัน ซึ่งเป็นเรื่องของหญิงสาวผู้รักเสียงเพลงชื่อมาเรีย และเป็นแม่ชีฝึกหัดในเมืองซาลซ์บูร์ก ออสเตรีย ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง แต่เธอได้รับมอบหมายจากคุณแม่อธิการให้มาเป็นพี่เลี้ยงเด็ก 7 คน ของ จอร์จ ฟอน แทรปป์ ทหารเรือพ่อหม่ายผู้เคร่งครัด แม้ภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีอายุมากกว่าครึ่งศตวรรษและดำเนินเรื่องค่อนข้างอืดอาดตามสไตล์หนังเพลงยุคนั้น แต่เป็นหนังที่คว้ารางวัลระดับโลกมามากมายและมีแฟนคลับเหนียวแน่นอยู่ทั่วโลก ด้วยเนื้อหาที่เปี่ยมด้วยความหวัง ที่พอเริ่มเปิดฉากไม่ทันไรรู้ตัวอีกทีคุณจะหลงเข้าไปบทเพลงและฉากอันสวยงามอลังการของเมืองซาลซ์บูร์กและทิวเขาสุดลูกหูลูกตายุค 60 แบบไร้ CG ใดๆ สมชื่อเรื่องภาษาไทยจริงๆ ภาพ […]Read More
เรื่อง : Softlens จากการระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่พลิกวิถีชีวิตคนทั้งโลก Work From Home อาจกลายมาเป็น New Normal ของชีวิตหลังโควิด พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปนี้เอง ทำให้อดนึกถึง Surrogates ภาพยนตร์ที่ฉายเมื่อปี 2009 ขึ้นมาทันที Surrogates เป็นภาพยนตร์แอคชั่นไซไฟ สร้างจากผลงานของนักเขียนการ์ตูนชื่อดัง โรเบิร์ต เวนดิตติ ว่าด้วยเรื่องของโลกพัฒนาเทคโนโลยีสุดล้ำสามารถให้มนุษย์ใช้ชีวิตผ่านการเชื่อมโยงกับหุ่นยนต์สุดไฮเทคที่มีหน้าตาเหมือนมนุษย์ทุกกระเบียดนิ้ว วิทยาการใหม่นี้ปฏิวัติวิถีชีวิตมนุษย์โดยสิ้นเชิง มนุษย์ปฏิสัมพันธ์ติดต่อกับโลกทั้งใบผ่านหุ่นยนต์ที่เป็นเสมือนตัวแทน การเปิดรับหุ่นยนต์เข้ามาเป็นปัจจัยที่ 5 โดยผู้คนไม่ต้องออกจากบ้านด้วยตัวเอง (แอบรู้สึกบรรยากาศคุ้นๆ ) เพียงแค่นอนบนเก้าอี้ควบคุมหุ่นยนต์และรับความรู้สึกผ่านอุปกรณ์เชื่อมต่อ โดยใช้หุ่นออกไปทำกิจวัตรแทนทุกอย่าง จะช้อปปิ้ง เที่ยว แม้แต่เสพยาไปจนถึงเรื่องบนเตียง ก่อเกิดสังคมอุดมคติที่ทุกคนปลอดภัยจากโรคติดต่อ รวมถึงอาชญากรรมลดลงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จนเรื่องราวมาสะดุดเมื่อ ทอม ตำรวจผู้รับหน้าที่ไขคดีเหตุฆาตกรรมปริศนาที่หุ่นถูกทำลายพร้อมกับผู้ควบคุมตายไปพร้อมกัน คดีพาไปเกี่ยวพันกับผู้ริเริ่มสร้างหุ่นและเหตุการณ์คาดไม่ถึง แม้ตัวหนังดำเนินเรื่องไม่ต่างไปจากหนังแอคชั่นทั่วไปที่ดูสนุกเรื่องหนึ่ง เสพง่าย ไม่ซับซ้อน ยิ่งได้ บรูซ วิลลิส เจ้าพ่อหนังบู๊ มาแสดงนำ ยิ่งการันตีถึงความมันส์ระดับไฮเลเวล แต่ด้วยพล็อตเรื่องช่างสอดคล้องกับเหตุการณ์ปัจจุบัน จนพอทำให้ตั้งคำถามได้ว่า นี่อาจเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับโลกอนาคตหรือเปล่า? ที่มนุษย์จะหวาดกลัวโรคร้ายมากขึ้น แสวงหาทางออกหรือบางสิ่งมาเติมเต็มเพื่อให้รู้สึกปลอดภัยมากขึ้น Surrogates จึงหมือนเป็นแฟนตาซีที่จำลองทางเลือกนี้มาให้แล้ว โดยเรื่องราวในภาพยนตร์สะท้อนประเด็นทางสังคมมากมาย เพราะในโลกที่เหมือนสมบูรณ์แบบ แต่ยังคงเต็มไปด้วยปัญหาคลาสสิคของสังคมมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นประเด็นการเมือง-การแบ่งชนชั้นของกลุ่มน้อยที่ใช้ความรุนแรงเพื่อประท้วงเลิกการใช้หุ่น เพราะขัดกับแนวคิดเชิงศีลธรรม ในมุมกลับกันคนส่วนมากมองคนที่ใช้ร่างเนื้อออกจากบ้านแทนการใช้หุ่น เป็นพวกสังคมแปลกแยกล้าหลัง ความเหลื่อมล้ำของรายได้ที่ตัวหนังเล่าผ่านฉากช้อปปิ้งซื้อหุ่น ถ้ากระเป๋าหนักหรือเป็นชั้นชนอภิสิทธิ์ก็ได้ครองหุ่นสวยประสิทธิภาพเหนือมนุษย์ หรือการโฆษณาชวนเชื่อของบริษัทผู้ผลิตหุ่นยนต์ที่เฝ้าพร่ำบอกจุดขายต่างๆ นานา อาศัยหุ่นทำกิจกรรมต่างๆ แทนในจุดที่ขีดจำกัดมนุษย์ไปไม่ถึง, การยึดติดในรูปลักษณ์ ที่เล่าผ่านตัวละคร ‘แมกกี้’ […]Read More
ไม่ต้องมีสถิติที่ไหนยืนยัน ก็สันนิฐานได้ว่าช่วงกักตัวมีโอกาสทำให้คุณน้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ง่ายๆ จากการลดกิจกรรมหลายๆ อย่างลง และเพื่อส่งเสริมสุขภาพจิตและสุขภาพกาย ไม่ให้อวบจนเกินงาม เราจึงจัดลิสต์เล็กๆ มาให้ได้ออกสเต็ปกันบ้างไม่มากก็น้อย ตั้งแต่เพลงเมดเล่สุดร้อนแรงจากคอนเสิร์ตแห่งประวัติศาตร์ของ Shakira & J. Lo’s ในงาน Super Bowl ครั้งที่ 54 ไปจนถึงเพลงลูกทุ่งสุดปั๊วะ “ซูเปอร์วาเลนไทน์” ที่จู่ๆ ก็กลายเป็นกระแสไวรัสในเมืองไทย 1. I Will Survive ของ Gloria Gaynor นาทีนี้ไม่หยิบยกเพลงนี้มาพูดเห็นจะไม่ได้ เพราะแค่ชื่อเพลงก็เข้าสถานการณ์สุดๆ กับ I Will Survive (ฉันจะต้องรอด) ของ Gloria Gaynor ที่วางขายมาตั้งแต่ปี 1978 แต่จนทุกวันนี้ก็ยังคงโด่งดัง กลายเป็นเพลงติดผับและเป็นเพลงประจำตัวของกลุ่ม LGBT แต่รู้ไหมว่า เพลงนี้ยังได้รับรางวัล Grammy Award for Best Disco Recording (รางวัลเพลงดิสโก้ยอดเยี่ยม) ซึ่งรางวัลนี้ถูกจัดไว้เพียงครั้งเดียวในการจัดการประกาศรางวัล Grammy Awards ปีนั้น ของเขาไม่ธรรมดา […]Read More
ในช่วงเวลาที่ทุกคนกักตัว เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิท-19 หลายคนอาจจะเกิดอาการเบื่อ เซ็ง แต่ขอให้ทุกคนอดทน เพราะหากนี่คือสถานการณ์ที่คุณคิดว่าเอือมกันสุดๆ แล้ว ขอแนะนำภาพยนตร์-ซีรีส์ ที่จะทำให้รู้ซึ้งว่า พวกเรากักตัวในระดับไฮโซกันพอสมควร เมื่อเทียบกับหลายๆ ฉากกักตัวและความโดดเดี่ยวที่ตัวละครเหล่านี้ต้องเผชิญบนแผ่นฟิล์ม งานนี้คัดลิสต์มาให้ดูแก้เซ็งกันหลากหลายรสชาติ เพื่อให้ได้ทั้งข้อคิดและความสนุกหรรษาไปพร้อมๆ กัน 1.Cast Away (2000) แนว : ดราม่า เรื่องแรกที่ต้องอยู่ลิสต์เลย คือ Cast Away หนังติดเกาะเบอร์ต้นๆ ที่ทำให้นักแสดงดังอย่าง ทอม แฮงค์ส ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่ 73 ในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม กับบทพนักงาน FedEx ผู้ทุ่มเทที่ประสบเหตุเครื่องบินตก จนไปติดบนเกาะร้างเพียงลำพัง ในเรื่องจะได้เห็นฉากการเอาตัวรอด ที่ไหนจะต้องดิ้นรนหาอาหารมาประทังชีวิตอันแสนยากลำบาก ไปจนถึงการต่อสู้กับความโดดเดี่ยว เพราะต้องอยู่คนเดียวในเวลาหลายสิบปี จนต้องมโนเป็นเพื่อนกับลูกวอลเลย์บอล ตั้งชื่อว่า วิลสัน บอกเลยว่าเรื่องนี้ต้องดูเอง บรรยากาศไม่ได้หดหู่อย่างที่คิด มีประเด็นให้ติดตามที่มาพร้อมกับฝีมือการแสดงขั้นเทพของ ทอม แฮงค์ส ที่สามารถตรึงคนดูไว้ได้ตลอดทั้งเรื่อง เรียกว่าทำเอาการกักตัวแบบคนเมืองอย่างเราๆ กลายเป็นเรื่องเด็กๆ ไปเลย ภาพ : […]Read More
เรื่อง : ตติยา แก้วจันทร์ ก่อนอื่นขอพาคุณย้อนกลับไปในศตวรรษที่ 18 สมัยที่ยุโรปยังมีการแบ่งฐานันดรศักดิ์ในสังคมออกเป็น 3 ชนชั้น ประกอบด้วย ฐานันดรที่ 1 ใช้เรียกกษัตริย์ ผู้ปกครอง และขุนนาง ฐานันดรที่ 2 ใช้เรียกนักบวช ส่วนฐานันดรที่ 3 ใช้เรียกประชาชนทั่วไป โดยระหว่างการประชุมรัฐสภาวาระหนึ่ง มีนักการเมืองนาม ‘เอ็ดมันด์ เบอร์ค’ (Edmund Burke) ได้ลุกขึ้นเพื่ออภิปราย และชี้นิ้วไปทางกลุ่มนักหนังสือพิมพ์ที่กำลังร่วมนั่งฟังการประชุมอยู่ว่า “ในขณะที่พวกเราซึ่งกำลังประชุมกันอยู่ในรัฐสภาแห่งนี้ ล้วนเป็นหนึ่งในบรรดา 3 ฐานันดร บัดนี้ได้มีฐานันดรที่ 4 กำเนิดขึ้นแล้ว ซึ่งพวกเขากำลังนั่งฟังการประชุมอยู่ด้วย” นับจากนั้นเป็นต้นมา นักหนังสือพิมพ์จึงกลายเป็นฐานันดรที่ 4 หรือ The Fourth Estate โดยเป็นกลุ่มฐานันดรพิเศษที่มีสิทธิและเสรีภาพในการนำเสนอประเด็นทางสังคมและการเมืองต่อสาธารณะ ได้รับอภิสิทธิ์ในการเข้าไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อเก็บบันทึกข้อมูลและ นำสิ่งที่เกิดขึ้นไปถ่ายทอดให้ประชาชนได้รับรู้ ในปัจจุบันฐานันดรที่ 4 ไม่ได้หมายถึงนักหนังสือพิมพ์เพียงเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงบุคลากรอื่นๆ ในแวดวงสื่อสารมวลชน หรือที่เรียกรวมๆ ว่า […]Read More
เรื่อง: ตติยา แก้วจันทร์ ภาพ: พิชญุตม์ คชารักษ์ เราอาจรู้จักผู้ชายหน้าเข้ม ไว้หนวดเคราและสวมหมวกตลอดเวลาอย่าง ‘สิงโต นำโชค’ หรือ สิงโต-นำโชค ทะนัดรัมย์ ในฐานะศิลปินชื่อดังของเมืองไทย ภายใต้สังกัดค่ายเพลง What The Duck แต่หลังม่านหน้าที่การงานบนถนนสายดนตรีอันเป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณะแล้ว เขายังมีบทบาทเป็นสามีของภรรยาสาวชาวอเมริกันและเป็นคุณพ่อของลูกๆ ที่น่ารักทั้ง 3 คน ช่วงต้นปีที่ผ่านมาสิงโตได้ปล่อยเพลงรักแสนอบอุ่น ‘เธอยังสวยเหมือนเดิม’ เพื่อมอบเป็นของขวัญวันเกิดให้แก่ภรรยา แต่ภายใต้เมโลดี้หวานๆ ฟังไพเราะนี้ กลับซ่อนนัยความนุ่มลึกที่ผ่านการตกตะกอนทางความคิดเรื่องกฎของเวลาและความสัมพันธ์ ซึ่งเขาบอกว่าเมื่ออายุเริ่มเพิ่มมากขึ้น เรื่องเหล่านี้ก็แวะเวียนเข้ามาในหัวเองโดยอัตโนมัติ “เวลามันผ่านไปเร็ว เร็วมากจริงๆ ผมเลี้ยงหมาตัวหนึ่งชื่อ ‘โมก้า’ ผ่านไปแป๊ปเดียวก็ 7 ปีแล้ว มานั่งคิดว่าหมาอายุสั้นกว่าเราอีก บางทีเราทำงานไม่ค่อยมีเวลาพาไปเดินเล่น ทีนี้ผมก็นึกถึงภรรยาเลย (หัวเราะ) นึกแล้วก็ใจหายเหมือนกันนะ แต่เราปฏิเสธกฎของเวลาไม่ได้ มันเดินไปข้างหน้า เด็กก็ต้องโต วัยรุ่นก็ต้องเป็นผู้ใหญ่ ส่วนผู้ใหญ่ก็ต้องแก่” เพลง ‘เธอยังสวยเหมือนเดิม’ จึงเป็นการครุ่นคิดถึงกาลเวลาที่ผ่านพ้นมา ซึ่งศิลปินคนนี้ใช้เตือนตัวเองให้ระลึกไว้เสมอว่าเหตุใดเราจึงควรใช้ทุกเวลาให้มีประสิทธิภาพที่สุด ขณะเดียวกันก็ได้ย้อนสำรวจสิ่งที่เวลาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ นั่นคือ ‘ความรัก’ ที่เขามีต่อลูกๆ และภรรยาhttps://www.youtube.com/embed/j9WD4-rUUAk?feature=oembed “สิ่งที่เรายังรู้สึกว่าสวยงามอยู่ก็คือภรรยาของเรา ความรักของเรา ครอบครัวของเรา จะให้รักภรรยาตอนที่สาวๆ อย่างเดียวก็คงไม่ใช่ […]Read More
เรื่อง: เมเจอร์ ทอม “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” กลายเป็นประโยครณรงค์ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ไวรัสอุบัติใหม่ที่กำลังสร้างความวิตกให้หลายประเทศทั่วโลกอยู่ในขณะนี้ ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศไทยก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนไม่รู้จะไปสิ้นสุดที่ใด โดยในช่วงเวลาเช่นนี้ การกักตัวอยู่บ้านเพื่อ Work From Home ดูเหมือนจะเป็นวิธีที่ทำได้ง่ายที่สุดเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อเพิ่ม แต่การอยู่บ้านนานๆ โดยที่ไม่ได้ออกไปพบปะกับเพื่อนๆ ก็อาจทำให้หลายคนเกิดอาการเหงาได้ กิจกรรมยาวว่างสำหรับคลายเหงาที่คนยุคนี้นิยมกันมากที่สุด คงหนีไม่พ้นการท่องโลก Netflix แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งหนังและซีรีส์ยอดนิยมที่ทำหน้าที่พาคุณหลีกหนีจากโลกความเป็นจริงไปสู่โลกสมมติที่มอบความบันเทิงและสนุกสนานให้ได้ในคราวเดียวกัน เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศการกักตัวตลอด 14 วัน เราลองเปลี่ยนบรรยากาศน่าเบื่อให้กลายเป็น ‘สุข 14’ กับลิสต์หนังระทึกขวัญใน Netflix จำนวน 14 เรื่อง ให้คุณตามไปลุ้นกับเนื้อหาสุดเข้มข้น โดยแต่ละเรื่องนั้นเป็นภาพยนตร์เรื่องเดียวจบ ใช้เวลาแค่ 1-2 ชั่วโมงก็ดูจบแล้ว เหมาะสำหรับคนทำงานที่อยากผ่อนคลาย แต่ก็ไม่อยากอดหลับอดนอนกับการดูซีรีส์เรื่องยาวที่กว่าจะดูจบซีซั่นต้องใช้เวลาราวๆ 10 ชั่วโมง] 1. The Platform เดอะ แพลตฟอร์ม เรื่องราวภายในเรือนจำแนวตั้งที่มีการแบ่งชนชั้นนักโทษ หากเป็นนักโทษชั้นดีก็จะมีความเป็นอยู่และอาหารการกินที่ดีหน่อย แต่หากเป็นนักโทษชั้นล่างก็ต้องเผชิญกับสภาพแร้นแค้นอย่างจำยอม ทำให้ ‘โกเร็ง’ นักโทษชายคนหนึ่งต้องลุกขึ้นมาแสวงหาความเท่าเทียมให้กับนักโทษทุกคน […]Read More
Marvel Studios ยังไม่พร้อมที่จะเปิดเผยรายชื่อหนังแต่ละเรื่องในเฟส 4 ก็จริง แต่เพื่อไม่เป็นการใจร้ายจนเกินไป จึงประกาศวันเข้าฉายของหนังออกมาแล้ว โดยเป็นไทม์ไลน์ที่ยาวถึงปี 2022 เลยทีเดียว Reasons to Read: ตอนนี้ทางสตูดิโอคงยังไม่พร้อมจริงๆ ที่จะเปิดเผยรายชื่อหนังแต่ละเรื่องในเฟส 4 แต่เพื่อไม่เป็นการใจร้ายจนเกินไป พวกเขาได้ประกาศวันเข้าฉายของหนังออกมาแล้ว โดยเป็นไทม์ไลน์ที่ยาวถึงปี 2022 เลยทีเดียว (แต่จริงๆ ดิสนีย์มีกำหนดวันเปิดตัวภาพยนตร์ยาวถึงปี 2027 แล้ว) ปี 2022 อาจเป็นไปได้ว่า ‘Captain Marvel 2’ อาจจะมาเปิดศักราชให้จักรวาลมาร์เวล มีความเป็นไปได้ว่า อาจจะมีหนังจากสตูดิโอยักษ์ใหญ่อย่าง FOX ออกมาให้ดูด้วยก็เป็นได้ ตอนนี้ ‘Avengrs : Endgame’ หนังรวมซูเปอร์ฮีโร่ฟอร์มยักษ์เรื่องล่าสุดจาก ‘จักรวาลหนังมาร์เวล’ (Marvel Cinematic Universe) หรือ MCU กำลังเดินหน้าทำรายได้อย่างถล่มทลาย จนล่าสุดมีลุ้นว่าอาจจะโค่นแชมป์เก่าหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลอย่าง ‘Avatar’ ด้วยรายได้ทะลุ 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งที่เข้าฉายยังไม่ถึงเดือน อีกหนึ่งเรื่องที่ ‘ดิสนีย์’ (Disney) และ ‘มาร์เวล […]Read More
อัลกอริทึมของนักศึกษาทำการวิเคราะห์ข้อมูลตัวละครกว่า 2,000 ตัว มีคำทำนายที่น่าจับตามองเกี่ยวกับการเสียชีวิตของ จอน สโนว์ เมื่อสิ้นสุดซีซันที่ห้า ซึ่งนักศึกษาให้เหตุผลว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะเป็นไปได้ทางสถิติ Reasons to Read อัลกอริทึมของนักศึกษาทำการวิเคราะห์ข้อมูลตัวละครกว่า 2,000 ตัว มีคำทำนายที่น่าจับตามองเกี่ยวกับการเสียชีวิตของ จอน สโนว์ เมื่อสิ้นสุดซีซันที่ห้า ซึ่งนักศึกษาให้เหตุผลว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะเป็นไปได้ทางสถิติ เมื่อปี 2016 ก่อนที่ซีซันที่หกของซีรีส์ Game of Thrones จะออกอากาศ นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคนิคแห่งมิวนิก ประเทศเยอรมนี ได้สร้างแอปพลิเคชันปัญญาประดิษฐ์ (AI) ขึ้นมาทำนายว่าใครจะอยู่ใครจะรอดในซีซันนั้นบ้าง โดยผลการทำนายครั้งนั้นบอกว่า Tommen Baratheon, Stannis Baratheon, Daenerys, Davos Seaworth และ Petyr Baelish จะต้องตายไป ซึ่งพบว่าทำนายถูกถึง 3 ใน 5 (จนถึงตอนนี้) ซึ่งก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว และในขณะที่ซีซันสุดท้ายของ ซีรีส์ Game of Thrones ได้เริ่มออกอากาศไปแล้วในวันอาทิตย์ที่ 14 เมษายนที่เพิ่งผ่านมานี้ ทีมนักศึกษาเจ้าเดิมได้กลับมาอีกครั้ง พร้อมการสร้างอัลกอริทึมในการบีบอัดข้อมูลที่เกี่ยวกับ Game […]Read More