fbpx

From Book to Bean ‘พีระ พนาสุภน’ เมื่อ MAC เปลี่ยนผ่านจากกระดาษสู่กาแฟสด

สำนักพิมพ์แม็ค ชื่อเด่นอยู่มุมหนังสือที่ไม่ว่าเด็กเตรียม Admission หรือคนยุค 90 ที่สอบเอนทรานซ์ต้องผ่านตากันมาบ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งผู้ที่อยู่เบื้องหลังหน้ากระดาษนี้คือ ‘อ.พีระ พนาสุภน’ นักการศึกษาที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในการเรียนของเยาวชนไทยหลายหมื่นคน ผ่านมา 40 ปี วันนี้เขาได้นำ บริษัท แม็คเอ็ดดูเคชั่น จำกัด เปลี่ยนผ่านขยายธูรกิจครั้งสำคัญ จากวงการการศึกษาสู่วงการกาแฟ สาเหตุไม่ได้มาจากกระแสสิ่งพิมพ์ที่กำลังถดถอยอย่างช้าๆ แต่เป็นเพราะความหอมหวานของกลิ่นกาแฟสดใหม่ ที่เย้ายวนใจมากกว่า   “เริ่มจากลูกชายของผม อยากเปิดร้านกาแฟเล็กๆ ผมเลยได้มีโอกาสลองศึกษาเรื่องกาแฟดูแล้วพบว่ามันน่าสนใจ เลยตัดสินใจว่าไม่เอาแล้วร้านกาแฟ เรามาเริ่มจากศูนย์ด้วยการปลูกกาแฟคุณภาพตั้งแต่ต้นกล้ากันเลยดีกว่า” อ.พีระ พนาสุภณ เล่าจุดเปลี่ยนเล็กๆ ที่ทำให้เข้าสู่วงการเครื่องดื่มที่เป็นที่นิยมของคนทั้งโลกให้เราฟัง แน่นอนว่าจากประสบการณ์ในวงการศึกษามานานหลายสิบปี ทำให้ไม่ว่าจะสนใจเรื่องอะไร อ.พีระ ก็ต้องลงมือศึกษาหาความรู้อย่างจริงจัง จากการศึกษาด้วยตัวเองมาถึงการปรีกษาผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งได้รับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่กรมวิชาการเษตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ปรึกษาด้านการปลูกกาแฟ ในปี พ.ศ. 2554 อ.พีระ พนาสุภน และลูกชาย คมพิชญ์ พนาสุภน ได้เริ่มต้นทำไร่กาแฟออร์แกนิกที่ เชียงใหม่ บนพื้นที่สูง 1,000-1,300 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลซึ่งเป็นระดับที่เหมาะสมสำหรับการปลูกกาแฟอราบิก้า โดยไร่กาแฟทั้งสองแห่งมีพื้นที่รวมประมาณ 500 ไร่ […]Read More

รีวิว Klipsch : All Reference Series III 2018

Paul Klipsch ผู้ก่อตั้ง บริษัท Klipsch Speaker เมื่อราวปี พ.ศ. 2488 ว่ากันว่าเขาเป็นคนที่มีบุคลิกเฉพาะตัว Paul Klipsch ผู้ก่อตั้ง บริษัท Klipsch Speaker เมื่อราวปี พ.ศ. 2488 ว่ากันว่าเขาเป็นคนที่มีบุคลิกเฉพาะตัว ถ้าสิ่งที่เขาต้องการ และคิดว่า ‘ใช่’ ในความคิดของเขา อะไรก็คงหยุดเขาไม่ได้ ตัวอย่างเช่น เขาสวมนาฬิกาข้อมือสามเรือนพร้อม ๆ กันเมื่อเดินทางออกไปนอกเมือง เพื่อที่ว่าเรือนหนึ่งบอกเวลาท้องถิ่น เรือนหนึ่งเวลาที่บ้านของเขา และอีกเรือนเอาไว้ดูเวลามาตรฐานของกรีนนิช ใครที่เห็นข้อมือของเขาคงต้องตั้งคำถามว่า พี่จะบ้าแล้วเหรอใส่นาฬิกาทีละ 3 เรือน แต่ถ้าได้คุยกับเขาก็อาจจะลดดีกรีความสงสัยลงได้ ลำโพง Klipsch ก็มีความแปลกประหลาดเช่นกัน จากผลิตภัณฑ์แรกของบริษัท Klipschorn บริษัทได้ให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพการทำงานของลำโพงที่ให้เอาต์พุตสูง ๆ โดยต้องทำให้มีการบิดเบือนต่ำ และให้ได้ช่วงไดนามิกของเสียงที่ออกมากว้างให้มาก ๆ ที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทำให้เขาหันไปพัฒนาลำโพงฮอร์นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และแม้ว่าปัจจุบันนี้เทคโนโลยีการผลิตลำโพงทำให้มีลำโพงรุ่นอื่น ๆ อุบัติออกมามากมายก็ตามที Klipschorn AK5 ยังคงอยู่ในเส้นทางของ […]Read More

RAYMOND WEIL ปลุกตำนานนักร้องชื่อก้อง “แฟรงก์ ซินาตรา” ให้ฟื้นคืนชีพ

“ดนตรี” ถือเป็นแรงบันดาลใจในการรังสรรค์สร้างเรือนเวลาสุดหรูของเรย์มอนด์ เวล (Raymond Weil)​ จนกลายเป็นจุดกำเนิดชื่อคอลเลกชั่นต่างๆ ซี่งล้วนแล้วมีส่วนเกี่ยวของกับนักดนตรีและโอเปร่าแทบทั้งสิ้น อาทิ นาบัคโค (Nabucco), พาร์ซิฟาล (Parsifal) เป็นต้น รวมไปถึงหลากหลายพันธมิตรด้านดนตรีที่ทางแบรนด์ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้เกิดคอลเลกชั่นเรือนเวลาสุดพิเศษที่สะท้อนถึงความสำเร็จของโลกแห่งเสียงดนตรีและเรือนเวลา​ สำหรับคอคนรักดนตรีคงรู้จักแฟรงก์ ซินาตรา  (Frank Sinatra) เป็นอย่างดี เพราะเขาเป็นทั้งดาราและนักร้องชาวอเมริกันที่โด่งดัง เริ่มต้นอาชีพด้านดนตรีในยุคเพลงสวิง โดยร่วมกับแฮร์รี่ เจมส์และทอมมี ดอร์เซย์ ก่อนจะประสบความสำเร็จในฐานะศิลปินเดี่ยวช่วงกลางทศวรรษ 1940 แต่อาชีพเขาก็หยุดไปในช่วงทศวรรษ 1950 และกลับมาดังอีกครั้งในปี 1954 หลังจากที่เขาได้รับรางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบยอดเยี่ยมจากภาพยนต์เรื่อง The House I Live in ต่อมาช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สังคมอเมริกันเปลี่ยนรูปแบบความชอบทางด้านดนตรี ยุคแผ่นเสียงถูกส่งต่อช่วงเทปคาสเซ็ท ตอนนั้น แฟรงก์ ซินาตรา เกิดเส้นเสียงแตกและเลือดออก เขาต้องพักรักษาตัวจนทำให้ถูกยกเลิกสัญญาทั้งกับค่ายหนังและค่ายเพลง ซึ่งนั้นถือเป็นจุดตกต่ำที่สุดในชีวิตของเขา แต่หลังจากอ่านนิยายเรื่อง From Here to Eternity ของ เจมส์ โจนส์ ที่เป็นเรื่องของหนุ่มหัวดื้อ […]Read More

5 นาฬิกาเวิลด์ไทม์พาท่องโลก

OMEGASeamaster Aqua Terra Worldtimer Master Chronometer Limited Edition นาฬิกาเวิลด์ไทม์สำหรับนักเดินทางท่องโลกในเวอร์ชันตัวเรือนแพลทินัม ขนาด 43.0 มิลลิเมตร และจะผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดเพียง 87 เรือน เผยโฉมพร้อมหน้าปัดเทคนิคฟรอสเต็ด (frosted) ตกแต่งด้วยลวดลายแผนที่โลกจากงานลงยาประณีต ติดตั้งด้วยชุดเข็มชี้และเครื่องหมายบอกชั่วโมงทำจากทอง 18K และเคลือบสารเรืองแสง รายล้อมด้วยดิสก์แสดงชื่อเมืองต่างๆ แบบยึดกับที่ และเฟืองแสดงเวลาบ้านเกิด 24 ชั่วโมงแบบหมุน ผสมผสานด้วยรูปโลกลงยา ณ กลางหน้าปัด โดยในช่วงการเปลี่ยนเวลาตามฤดูกาลต่างๆ ชื่อเมืองบนดิสก์แสดงเวิลด์ไทม์จะแสดงร่วมกับรหัสสี คือ สีดำแสดงถึงสถานที่ซึ่งใช้เวลาซัมเมอร์ไทม์ (summer time) และสีน้ำเงินสำหรับสถานที่ที่ไม่มีเวลาซัมเมอร์ไทม์ ขณะที่ปารีสหรือเจนีวา ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะใช้เป็นตัวแทนไทม์โซน GMT +1 ในรุ่นนี้จะแทนที่ด้วยเมืองเบียนน์ เมืองในสวิตเซอร์แลนด์ที่เป็นบ้านเกิดของโอเมก้า (Omega) กับอีกหนึ่งไฮไลต์ของรุ่นคือการบรรจุด้วยกลไกอัตโนมัติ ผ่านประกาศนียบัตรมาสเตอร์ โครโนมิเตอร์ (Master Chronometer) ใน Co-Axial Master Chronometer Calibre 8939 ที่มีคุณสมบัติของการต้านทานแม่เหล็กได้กว่า […]Read More

เตรียมตัว TAKE OFF เหินฟ้าไปพร้อมกับนาฬิกาสำหรับนักบิน 4 รุ่นพิเศษ

เครื่องประดับสำหรับบุรุษ ลำดับต้นๆ ที่หลายคนนึกถึง คือ ‘นาฬิกา’ ที่ทำหน้าที่บอกเวลาและยังสะท้อนรสนิยมและไลฟ์สไตล์ของผู้สวมใส่ นอกจากนั้นยังเป็นเครื่องมือที่ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานเฉพาะทาง จึงเห็นการจำแนกแบ่งประเภทของนาฬิกา อาทิ นาฬิกาสำหรับนักดำน้ำหรือนาฬิกาสำหรับนักบิน เป็นต้น นาฬิกาสำหรับนักบิน หรือ Pilot’s Watch เริ่มต้นใช้งานในกองทัพอากาศเยอรมันในช่วงปลายทศวรรษ 1930 โดยใช้ในภารกิจการบินของกระทรวงการบิน หรือ Reichs-Luftfahrt-Ministerium (Ministry for Aviation) เป็นหลัก เพื่อให้เหล่านายทหารอากาศที่ออกไปปฏิบัติภารกิจสามารถปฏิบัติงานได้ตามแผนตรงเวลาที่กำหนด ดังนั้นนาฬิกาที่ใช้งานจะต้องมีความเที่ยงตรงและแม่นยำลงรายละเอียดระดับวินาทีเลยทีเดียวจากวันนั้นจวบจนถึงวันนี้ นาฬิกาสำหรับนักบินได้มีการพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพและปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ให้ดูน่าใช้งานยิ่งขึ้น ZENITHPilot Type 20 Extra Special มาพร้อมคุณสมบัติของนาฬิกาสำหรับนักบินต้นตำรับ ด้วยตัวเรือนสเตนเลสสตีลขนาด 40.0 มิลลิเมตร ผ่านกรรมวิธีทำให้ดูเก่า ยิ่งเพิ่มความคลาสสิก ติดตั้งเม็ดมะยมเซาะร่องขนาดใหญ่ คู่หน้าปัดเทาด้าน ตกแต่งด้วยตัวเลขอารบิค ขับเคลื่อนการทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติ Elite Calibre 679 สำรองพลังงานได้นาน 50 ชั่วโมง กันน้ำได้ลึก 100 เมตร ควงแขนคู่สายหนังสไตล์วินเทจ ALPINAStartimer Pilot Automatic สานต่อตำนานการเป็นผู้บุกเบิกนาฬิกาสำหรับนักบิน ซึ่งมีมาให้เลือกทั้งหมดสี่เวอร์ชัน ภายในตัวเรือนสเตนเลสสตีลเคลือบไทเทเนียมขนาด 44.0 […]Read More

ORIS STAGHORN RESTORATION ผู้พิทักษ์แนวปะการัง

รู้หรือไม่? ณ ปัจจุบันแนวปะการังโลกกําลังเผชิญหน้ากับปัญหาจากภัยคุกคาม  ซึ่งมีสาเหตุมาจากการฟอกขาว การประมงที่เกินขีดจํากัดและการท่องเที่ยวที่ขาดจิตสำนึก แต่ยังคงไม่สายเกินไปในการทําอะไรสักอย่างเพื่อรักษาแนวปะการัง ดังนั้นทางโอริสจึงภูมิใจที่จะประกาศเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ Oris Staghorn Restoration Limited Edition นาฬิกาสําหรับนักประดาน้ำประสิทธิภาพสูงที่รังสรรค์ขึ้นด้วยความร่วมมือกับมูลนิธิเพื่อการฟื้นฟูแนวปะการัง ซึ่งเป็นองค์กรเพื่อการอนุรักษ์ที่ไม่หวังผลกำไร ที่ทํางานเพื่อการปกป้องแนวปะการังอย่างแท้จริง มูลนิธิเพื่อการฟื้นฟูแนวปะการัง ตั้งอยู่ที่มลรัฐฟลอริดา เป็นองค์กรเพื่อการอนุรักษ์ที่ไม่หวังผลกำไร มีความมุ่งมั่นที่จะฟื้นฟูแนวปะการัง โดยมีความเชื่อที่ว่าในทุกๆวันนั้นแต่ละคนสามารถสร้างให้เกิดความเปลี่ยนแปลงต่อระบบนิเวศน์ได้ และยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับบุคคลอื่นผ่านทางการศึกษา และโครงการอาสาต่างๆ ที่ก่อให้เกิดผลในวงกว้างในการรักษาไว้ซึ่งอนาคตของระบบนิเวศน์ของแนวปะการังที่มีความบอบบาง โดยในปี 2015 อาสาสมัครของมูลนิธิได้ทําการปลูกปะการังใหม่จํานวน 22,502 ต้น นอกจากนั้นยังเป็นผู้จัดโครงการประดาน้ำอีก 72 โครงการ เพื่อทําการศึกษาและสร้างแรงบันดาลใจต่อนักท่องเที่ยวจิตอาสาเพื่อดําเนินการทางด้านการปกป้องระบบนิเวศของมหาสมุทร นาฬิกา Staghorn Restoration Limited Edition ถือเป็นผลงานไฮไลท์ในคอลเล็คชั่น Aquis ที่ได้ทําการเปิดตัวในปีนี้ซึ่งมีลักษณะที่โดดเด่น โดยเลือกใช้สีน้ำเงินเข้มมาประดับลงบนหน้าปัด ในขณะที่จุดเครื่องหมาย รวมทั้งเข็มวินาทีและเลขศูนย์บนวงแหวนขอบหน้าปัดที่มีมาตรเวลาเป็นนาทีจะใช้สีส้มที่ดูสะดุดตา การเลือกใช้สีส้มนั้นเพื่อสะท้อนถึงสีของปะการัง Staghorn และยังเป็นสีที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนภายใต้สภาวะที่มีแสงน้อยเมื่ออยู่ใต้น้ำ หน้าปัดจะถูกคั่นด้วยหน้าต่างแสดงวันและวันที่ โดยวันจะถูกแสดงผ่านช่องที่ถูกตัดเจาะเป็นระยะที่เท่ากันเจ็ดช่องรอบวงกลมที่อยู่ส่วนด้านในของหน้าปัด ในแต่ละช่องจะแสดงด้วยสีส้มเมื่อปรากฏตามวันจริง ส่วนวันที่จะแสดงอยู่ที่ตําแหน่ง 6 นาฬิกาด้วยสีส้มเช่นกัน ขับเคลื่อนการทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติ ในตัวเรือนสเตนเลสสตีล ขนาด […]Read More

5 สุดยอดนาฬิกาแบรนด์หรูกับเรื่องเล่าสุดขั้วใต้ท้องทะเล

1.OFFICINE PANERAIMare Nostrum Titanio – 52mm (PAM00603) นำต้นตำนานของนาฬิกาโครโนกราฟที่สร้างสรรค์ขึ้นสำหรับเจ้าหน้าที่เดินรือของราชนาวีอิตาลีกลับมารังสรรค์ใหม่ เป็นผลงานรุ่นพิเศษที่ผลิตขึ้นจำนวนจำกัดเพียง 150 เรือน และตั้งชื่อให้ว่า “มาเร นอสทรัม” หรือ “Our Sea” ตามฉายาของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในยุคโรมันโบราณ ความพิเศษของเจ้าแห่งท้องทะเลนี้คือตัวเรือนขนาดใหญ่ 52.0 มิลลิเมตร ทำจากไทเทเนียมขัดด้าน ด้วยคุณสมบัติเด่นด้านความแข็งแกร่งและทนทานทางโครงสร้างต่อแรงกดอากาศสูง รวมถึงความกดดันจากสิ่งแวดล้อมภายนอก และการสึกกร่อน ผสานด้วยขอบตัวเรือนเรียบแบนกว้าง ฝาหลังติดสกรู และเม็ดมะยมไขลานแกะสลักด้วยคำว่า “Mare Nostrum” ซึ่งทั้งหมดทำจากไทเทเนียมขัดด้าน ขับเคลื่อนด้วยสมรรถนะกลไกไขลานด้วยมือ Panerai OP XXV Calibre บรรจุฟังก์ชั่นโครโนกราฟ ควบคุมผ่านปุ่มกดคลาสสิค ปกป้องหน้าปัดสีน้ำตาลโทแบคโคสไตล์วินเทจ ตัวเลขอารบิคและเครื่องหมายบอกเวลาเรืองแสงด้วยกระจกคริสตัลแซพไฟร์เคลือบสารกันแสงสะท้อน คู่สายหนังสีน้ำตาล กันน้ำได้ลึกราว 30 เมตร 2.BLANCPAINFifty Fathoms Bathyscaphe Flyback Chronograph Ocean Commitment เรือนเวลาแรกภายใต้คอนเซ็ปต์ของ โอเชียน คอมมิตเมนท์ (Ocean […]Read More

รีวิว SAMSUNG harman/kardon : HW-N850

ไม่ใช่แค่เพียงใช้ทรัพยากรจากฮาร์แมนฯ แต่ซัมซุงยังได้ยกย่องให้ชื่อของ harman/kardon แบรนด์ในเครือของบริษัท ฮาร์แมน อินเตอร์ฯ มาอยู่เคียงคู่กับชื่อของ SAMSUNG กลายเป็นยี่ห้อ “SAMSUNG harman/kardon” การเข้าควบรวมกิจการของบริษัท ฮาร์แมน อินเตอร์ฯ ของบริษัทซัมซุงฯ ผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่จากประเทศเกาหลีนอกจากจะเป็นใบเบิกทางให้ซัมซุงสามารถขยับขยายเข้าสู่อุตสาหกรรมจอภาพในโรงภาพยนตร์ได้แล้ว ในอีกมุมหนึ่งซัมซุงยังได้นำองค์ความรู้จากฮาร์แมนฯ มาช่วยพัฒนาสินค้าในกลุ่มเครื่องเสียงของตัวเองด้วย ไม่ใช่แค่เพียงใช้ทรัพยากรจากฮาร์แมนฯ แต่ซัมซุงยังได้ยกย่องให้ชื่อของ harman/kardon แบรนด์ในเครือของบริษัท ฮาร์แมน อินเตอร์ฯ มาอยู่เคียงคู่กับชื่อของ SAMSUNG กลายเป็นยี่ห้อ “SAMSUNG harman/kardon” ตีตรามาในสินค้าซาวด์บาร์รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเร็ว ๆ นี้จำนวน 2 รุ่นได้แก่ HW-N950 และ HW-N850 จุดเด่นของลำโพงซาวด์บาร์ทั้ง 2 รุ่นคือมันรองรับระบบเสียง Dolby Atmos และมีวงจรอัปสเกลเสียงเป็น 32bit เพื่อขยายช่วงไดมานิกเรนจ์ของเสียงให้เสียงสามารถสวิงหนักเบาได้อย่างเป็นอิสระมากยิ่งขึ้นไปอีก หลังจากที่ได้เปิดตัวและวางจำหน่ายในต่างประเทศตั้งแต่ช่วงกลางเดือนสิงหาคม ทางซัมซุงก็ได้นำรุ่น HW-N850 มาให้ทาง GM2000 ได้ทดลองใช้งาน ได้ทดลองฟังเสียงกัน คุณสมบัติและการออกแบบจากข่าวการเปิดตัวไลน์สินค้าใหม่ของยี่ห้อ “SAMSUNG harman/kardon” ที่ออกมาก่อนหน้านี้ จะเห็นว่า […]Read More

ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร China 5.0 การเมือง/เศรษฐกิจ/เทคโนโลยี ภายใต้นิยาม ‘จีนยุคใหม่’

เวลาที่เรานึกถึงประเทศจีน สิ่งแรกที่หลายคนนึกถึงคือขนาดความใหญ่ของประเทศ และความมากของจำนวนประชากร แล้วพอแบ่งจีนออกเป็นยุคๆ ถ้าไล่ตามความคุ้นเคยของคนส่วนใหญ่ที่เคยท่องโลกไปกับยุทธภพกำลังภายใน ก็จะสัมผัสได้ถึงจีนยุคโบราณตั้งแต่ ราชวงศ์ฮั่น, ชิง หรือแม้แต่แมนจู ซึ่งเป็นภาพของลักษณะการปกครองแบบรวมศูนย์ แต่ก็มีภาพของความรุ่งเรืองทางศิลปวัฒนธรรมต่างๆ ก่อนจะมาถึงการเปลี่ยนผ่านประเทศครั้งใหญ่จาก เหมา เจ๋อตง และก่อให้เกิดยุคเผด็จการคอมมิวนิสต์ หรือยุคสาธารณรัฐประชาชนจีนในปัจจุบัน พอยุคต่อมา โดยเฉพาะช่วงที่เป็น เติ้ง เสี่ยวผิง ก็จะนึกถึงจีนในมุมของการเป็นแหล่งก็อบปี้ของสินค้าราคาถูก เป็นแหล่งผลิตสินค้าชื่อดังของโลกที่ผลิตสินค้าทุกรูปแบบได้ในราคาไม่แพง และนี่ก็เหมือนกับเป็นก้าวย่างสำคัญที่ผลักให้จีนค่อยๆ ออกมารู้จักกับโลกภายนอกมากขึ้น แต่พอยุคปัจจุบันนี้ อาจจะเริ่มรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงแบบพลิกสุดขั้ว เพราะไม่ว่าจะเรื่องของนโยบายทางการเมืองเอย หรือว่าเรื่องของเศรษฐกิจเอย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของเทคโนโลยีจากประเทศจีนนั้น เริ่มมีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศให้ทั่วทั้งโลกได้ประจักษ์ชัด ในถ้อยแถลงที่มีต่อที่ประชุมสมัชชาผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนทั่วประเทศ ครั้งที่ 19 หรือ “สมัชชาฯ 19” ที่มีขึ้นที่กรุงปักกิ่งเมื่อปลายปีก่อน ประธานาธิบดี “สี จิ้นผิง” ผู้นำคนปัจจุบัน ได้ประกาศชัดถึงยุทธศาสตร์ใหม่ของจีน ที่แบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ปี 2020-2035 ที่มุ่งพัฒนาจีนสู่การเป็นเศรษฐกิจสังคมนิยมที่ทันสมัย และช่วง 15 ปีถัดไป (2035-2550) หรือ กลางทศวรรษที่ […]Read More

เสน่ห์ของกายกรรมจีน ! สัมภาษณ์ Xu Juan ผกก. โชว์กายกรรมกวางเจาชุด ‘เดชคัมภีร์เทวดา’

กลับมาเยือนประเทศไทยอีกครั้งของสุดยอด​คณะกายกรรมจากกวางเจา“กวางเจา อะโครบาติก อาร์ท เธียเตอร์ (Guangzhou Acrobatic Arts Theater)” ซึ่งงานนี้พวกเค้ามาพร้อมกับโชว์ชุดใหม่ล่าสุด “เดชคัมภีร์เทวดา” (The Legendary Swordsman) โดยเป็นการถ่ายทอดเรื่องราวจากนวนิยายกำลังภายในสุดคลาสสิค เดชคัมภีร์เทวดา ผลงานจากบทประพันธ์ของนักเขียนนิยายกำลังภายในระดับปรมาจารย์ “กิมย้ง” โดยพวกเค้ามีคิวมาเปิดการแสดงในไทย ตั้งแต่วันที่ 5-14 ตุลาคมนี้ ที่ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี เดชคัมภีร์เทวดา ถือเป็นผลงานชิ้นเอกของ กิมย้ง ซึ่งมีเนื้อหาเชิงเสียดสีการเมืองในช่วงปฏิวัติทางวัฒนธรรมของจีน ซึ่งเป็นการต่อสู้ภายในเพื่อแย่งชิงอำนาจของพรรคคอมมิวนิสต์ ด้วยเนื้อเรื่องที่ชวนให้ขบคิดว่าอะไรคือความดีงามและความเลวทรามที่แท้ นิยายเรื่องนี้ถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์และซีรี่ส์มากมายหลายภาคจากหลายประเทศทั่วโลก วันนี้เราได้มีโอกาสไปสัมภาษณ์ผู้อยู่เบื้องหลังสำคัญของโชว์นี้ “สูจวน (Xu Juan)” ผู้กำกับหญิงของโชว์นี้ GM Live : ทำไมถึงเลือก เดชคัมภีร์เทวดาของกิมย้ง มานำเสนอ สูจวน : เป็นเพราะเดชคัมภีร์เทวดาของกิมย้งเป็นเรื่องที่เข้าได้กับทุกยุคทุกสมัยแล้วก็มีเนื้อหาครบทุกรสชาติมีความตื่นเต้นมีความสนุกสนานแล้วก็คือเรื่องนี้เหมาะกับการที่จะเอามาทำกายกรรม เพราะเอื้อต่อการผสมผสานเนื้อเรื่องออกมาเข้ากันได้ดีเป๊ะไปด้วยกันได้ GM Live : อะไรคือจุดเด่นของโชว์นี้ สูจวน : จุดเด่นของโชว์นี้ก็คือในทุกๆ ฉากจะผสมผสานสอดแทรกความพิเศษของวัฒนธรรมจีนเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าแสงสี แสงสีตระการตา การจัดฉากเองก็เรียกได้ว่าค่อนข้างจะอลังการและมีฉากที่แบบ surprise เยอะมาก นอกจากนี้จะมีความพิเศษของกายกรรมแต่ละอย่างที่คนไทยไม่เคยเห็น ที่ต้องอาศัยความสามารถเฉพาะตัวมาโชว์ให้คนไทย ทั้งด้านการใช้ทักษะพิเศษเช่นการยืดตัวความอ่อนช้อย ทุกคนจะได้เห็นว่ามนุษย์เราสามารถทำไรพิเศษได้บ้าง GM Live […]Read More