อลังการงานสร้าง, ประโยคที่วิ่งวนๆ อยู่ในหัวสมอง ทันทีที่รถยนต์กำลังเลี้ยวตัวเข้าสู่อาณาจักรแห่งนี้บนพื้นที่กว่า 15 ไร่ที่เรายืนอยู่ในขณะนี้ ตึกที่ตั้งตระหง่าน ถูกจัดแบ่งเป็นฐานบัญชาการของ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) แต่รายรอบที่มองเห็นไม่ไกล กำลังถูกล้อมรั้วเอาไว้ ปรากฏป้ายชื่อโครงการที่จะแล้วเสร็จในอนาคตอันใกล้ว่า River King Village คะเนพื้นที่กว้างขวางนั้นจากสายตา น่าจะกินความใหญ่โตพอๆ กับห้างสรรพสินค้าขนาดย่อม นี่ยังไม่นับปั๊มน้ำมันที่อยู่ติดกันนั่นอีก ทั้งหมดที่ว่านี้ เป็นของสุภาพสตรีที่เรามีนัดกับเธอ แอน-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ เมื่อปลายปีก่อน สุภาพสตรีคนนี้เพิ่งได้รับรางวัล Asia Media Woman of the Year 2019 สาขา Media Award หรือ รางวัลสตรีข้ามเพศที่ทรงอิทธิพลที่สุดในอุตสาหกรรมคอนเทนต์เอเชีย จากงาน Content Asia ประเทศสิงคโปร์ นอกจากนี้นิตยสาร Forbes Thailand ยังจัดอันดับให้เธอเป็นสตรีข้ามเพศที่รวยที่สุดในเอเชีย และเป็นอันดับ 3 ของโลก CEO หญิงคนนี้ยังถูกขนานนามอีกว่าเป็น […]Read More
เคยสงสัยไหมว่า ถ้าเป็นคนรวยมากๆ ระดับท็อป 0.001% ของโลกพวกเขาทำอย่างไรกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 เหล่า ‘ซูเปอร์อีลิท’ พวกนี้ มีวิธีหลบหลีกโรคร้ายที่แปลกแตกต่างไปจากคนทั่วไปหรือเปล่าคำตอบก็คือใช่ คนในระดับซูเปอร์อีลิทของโลก เตรียมพร้อมรับมือกับภัยร้ายเอาไว้แล้ว ด้วย ‘หลุมหลบภัย’ หรือ Bunker ที่รับมือได้ตั้งแต่โรคระบาดจนถึงอุกกาบาตยักษ์บริษัทสำคัญบริษัทหนึ่งที่ทำงานในการสร้างหลุมหลบภัยระดับไฮเอนด์ให้กับเศรษฐีมหาเศรษฐีทั่วโลก คือบริษัทชื่อ Vivos Group บริษัทนี้เป็นของแคลิฟอร์เนีย ก่อตั้งโดย โรเบิร์ต วินซิโน (Robert Vincino) โดยหลุมหลบภัยนี้มีขนาดถึงราวหนึ่งพันตารางเมตร เป็นหลุมหลบภัยใต้ดิน สามารถรองรับคนได้ 80 คน เป็นเวลานานหนึ่งปี โดยไม่ใช่ว่าใครก็สามารถเข้าไปอยู่ในหลุมหลบภัยนี้ได้แต่ประการใด คุณต้องสมัครเป็นสมาชิกเสียก่อนถึงจะได้ หลุมหลบภัยนี้มีคนสมัครสมาชิกแล้วมากกว่า 25,000 คน (แน่นอน – เศรษฐีทั้งนั้น!) แต่ในบรรดาเศรษฐีเหล่านี้ ก็ยังต้องแย่งกันจ่ายเงินกันเพิ่มเติมอีก เพื่อให้ได้ ‘สิทธิ’ ที่จะไปอยู่ในพื้นที่ว่างในหลุมหลบภัย ซึ่งในตอนนี้ก็มีคนจ่ายเงินกันแล้วถึง 1,000 คน แต่ว่าทั้งหมดนั้นมีที่เพียง 80 ที่เท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีบริษัทใหม่ๆ อื่นๆ ขึ้นอีกหลายแห่ง เช่น […]Read More
ที่จริงวันนี้ 27 มีนาคม ผมต้องอยู่ที่บ้านโคราช วาระที่แม่มีอายุ 70 ปี ผมกับน้องสาวคุยกันว่าจะจัดงานนิดๆ หน่อยๆ หาเหตุให้คนในครอบครัวมาเจอกันพร้อมหน้า ชวนเพื่อนสนิทสามสี่คนมาเที่ยว มาล้อมวงกินข้าวกินเหล้าเพื่อนหนุ่ม ธีร์ อันมัย รับปากจะถือกีตาร์ขึ้นรถทัวร์มาจากอุบลฯ เขาสนับสนุนการจัดงานเต็มที่ และยินดีมาช่วยร้องเพลงลูกทุ่งให้แม่ฟัง เพราะรู้ดีว่าตั้งแต่เดินได้ ลูกชายบ้านนี้ก็แทบไม่เคยเดินย้อนกลับภูมิลำเนาเราเลือกเย็นวันที่ 28 มีนาคม เป็นวันงาน น้องสาวต่อเติมบ้านสวน เคลียร์สถานที่ไว้พร้อมต้อนรับ เพื่อนศิลปินเขียนพอร์เทรตแม่ เตรียมมอบให้เป็นของขวัญมันน่าจะเป็นวันที่ดี ทุกคนรอคอยวันนี้ โดยเฉพาะแม่ น้องสาวส่งข่าวมาเป็นระยะว่าแม่ดีใจอย่างออกนอกหน้า ถามถึงเพื่อนคนนั้นคนนี้ของผม ถามถึงหลานสาวคนเดียวที่อยู่กรุงเทพฯ ฟังว่าเธอน่าจะมางานนี้ด้วย ถาม และนับวันรอโควิด-19 ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างประเมินสถานการณ์แล้ว ผมบอกทุกคนว่ายกเลิก อย่างน้อยก็เลื่อนออกไปก่อน ยามนี้เราทำได้เท่านี้จริงๆไม่มีใครสักคนคัดค้าน คะยั้นคะยอ หรือดื้อรั้นให้เดินหน้า มันเป็นภาวะที่เราต้องหยุดและยอมอย่างแท้จริงบินหลา สันกาลาคีรี ส่งเสียงเศร้าๆ บอกว่าเข้าใจ ขอให้ทุกคนแข็งแรง ปลอดภัยนอกจากแม่ผม เขาน่าจะอกหักที่สุด เพราะตามแพลน จบงานที่โคราชแล้วรุ่งขึ้นเราจะขับรถล่องใต้ เป็นทริปยาวราวหนึ่งสัปดาห์ เป้าหมายอยู่ที่ชายทะเลสงขลา บ้านของนักเขียน ‘เจ้าหงิญ’ แพลนพัง สิ่งที่คิดคาดหวัง […]Read More
วิกฤติวัยกลางคน หรือ Midlife Crisis ที่กำลังเกิดขึ้นกับผม ทำให้ผมเริ่มรู้สึกถึงเวลาที่เหลือน้อยลงบนโลกใบนี้ เริ่มรู้สึกถึงสุขภาพที่เสื่อมถอยลงไปตามวัย เริ่มกังวลใจกับเป้าหมายหรือความสำเร็จในชีวิตที่มีเวลาเหลือให้ไล่ล่าน้อยลงท่ามกลางคู่แข่งคลื่นลูกใหม่ใน Generation หลังที่เต็มไปด้วยพลังและฮอร์โมนที่เข้าใจเทคโนโลยีโดยสายเลือด อย่างไรก็ตาม โชคดีที่คนเกิด Gen X อย่างผมเป็นกลุ่มคนที่อยู่ตรงรอยต่อระหว่างโลกใบเก่าแห่งความลำบาก กับโลกใบใหม่แห่งความสะดวกสบายภายใต้เทคโนโลยี คุ้นเคยกับการฟังเพลงผ่านเทปคาสเซต แต่ขณะเดียวกันก็พร้อมเปลี่ยนแปลงตัวเองตะเกียกตะกายมาฟังเพลงผ่าน MP3 และแอปฯ ฟังเพลงอย่าง Joox หรือ Spotify วิกฤติวัยกลางคนนี้ทำให้ผมต้องลุกขึ้นมาริเริ่มทำสิ่งใหม่ เปลี่ยนแปลงตัวเองให้รู้เท่าทันโลกในยุคปัจจุบัน เพื่อทำให้ชีวิตยังสามารถเดินทางไปต่อได้ในรอบนักษัตรสุดท้ายของการทำงาน คนคุ้นเคย hi5 อย่างผมที่ครั้งหนึ่งต้องมาเรียนรู้ Facebook เพื่อพร่ำเพ้อพรรณนาเวิ่นเว้อเรื่องราวในชีวิตของตนเองให้ใครต่อใครในโลกนี้ร่วมรับฟังเป็นหน้าๆ วันนี้ก็ต้องมาเรียนรู้ว่าผู้คนในยุคที่มีข้อมูลข่าวสารไหลผ่านรอบตัวเป็นจำนวนมากย่อมมีความสนใจรับฟังเรื่องราวต่างๆ ในเวลาสั้นลง แพลตฟอร์มการติดต่อสื่อสารของเด็กวัยรุ่นทุกวันนี้จึงมีข้อจำกัดในการเรียกร้องความสนใจด้วยความยาวของข้อความเพียงแค่ 15 วินาที ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอสั้นใน Snapchat หรือ TikTok เพราะยังไม่อยากตกยุค ยังไม่อยากรู้สึกแปลกแยกแตกต่างกับเด็กวัยรุ่นในยุคปัจจุบัน ลุงอย่างผมที่ยังไม่อยากเป็นมนุษย์ลุงจึงต้องพยายามเรียนรู้วิถีชีวิตของวัยรุ่นในยุคนี้คงไม่มีวิธีไหนที่จะเข้าใจเด็กรุ่นใหม่ได้ง่ายเท่ากับการค้นว่าวัยรุ่นยุคปัจจุบันนิยมใช้ Social Media ช่องทางไหนบ้าง และนั่นเองที่ทำให้ผมตระหนักในความจริงที่ซ่อนไว้อีกด้านว่า ท่ามกลางสมรภูมิการแข่งขันที่เข้มข้นก็ยังมีโอกาสใหม่ๆ เสมอ จากที่ใครหลายๆ คนที่อยู่ในวัยเดียวกันกับผมอาจไม่เคยคิดว่าจะมี Social Media รายใหม่ใดเข้ามาเบียดแทรก […]Read More
มาถึงวันนี้ ดูเหมือนว่าการรักษาระยะห่างทางสังคมหรือ Social Distancing จะกลายเป็นสิ่งที่กลายเป็นความคุ้นชินของผู้คนในสังคมไปเสียแล้ว… รักษาระยะห่าง เว้นว่างทางสังคม งดเว้นกิจกรรมในที่แจ้ง และหยุดพักสถานบริการร้านค้า เป็นอันสภาวะที่เกิดจากวิกฤติโรคระบาด COVID-19 ที่ทำให้เราต้องกลับมาพึ่งพาตนเองมากยิ่งขึ้น แน่นอนว่าหมายรวมถึงการปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันที่ลดน้อยลงตามไปด้วย … ระยะที่ถูกเว้นว่าง การเยี่ยมเยียนที่ไม่อาจทำได้อย่างที่เคยเป็นในสภาวะปกติ เป็นภาวะแปลกใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในสังคมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ช่วงวาระแห่งสงกรานต์ ที่ที่ผู้คนจากกรุงเทพฯ จะไหลบ่าออกจากตัวเมือง กลับไปบ้านเกิด เยี่ยมเยียนญาติและผู้หลักผู้ใหญ่ ใช้เวลาพักผ่อนและดูแลซึ่งกันและกัน มีหลายส่วนเลือกที่จะกลับไป (อาจจะด้วยความจำเป็นทางด้านเศรษฐกิจเป็นตัวบังคับ และค่าครองชีพในเมืองหลวงก็สูงเกินกว่าที่จะเลือกอยู่เฉยๆ โดยไม่ทำอะไร) แต่ก็มีไม่น้อย ที่เลือกจะไม่นำพาความเสี่ยงกลับไปสู่จังหวัดบ้านเกิด มันเป็นสภาวะแปลกใหม่ เมื่อพิจารณาว่า สังคมไทย ยังเชื่อมโยงและผูกพันกับความเป็นเครือญาติ การไปมาหาสู่ซึ่งกันและกัน และการมีปฏิสัมพันธ์กันตามช่วงเวลาและฤดูกาลมานับตั้งแต่ยุคสมัยโบราณนานมา เรามีประเพณีที่ส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในครอบครัวอยู่มากมาย เรามีวัฒนธรรมที่ต้องพึงกระทำกันเป็นหมู่คณะอยู่หลากหลาย เช่นนั้น เราคงไม่อาจปฏิเสธได้ ถึงการ ‘รวมหมู่’ ที่ต้องอยู่ร่วมกันของสังคมไทย แต่การมาถึงของ COVID-19 นั้น ทำให้หลายอย่างต้องเปลี่ยนแปลงไป และการรวมหมู่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ อันเนื่องจากปัจจัยและความจำเป็นดังที่กล่าวมา อย่างไรก็ดี เทคโนโลยีและความก้าวหน้าทางด้านการสื่อสารที่รุดหน้า ก็ช่วงให้ช่องว่างระหว่างกันนั้น ลดน้อยลงไปได้บ้าง แม้ตัวจะอยู่ห่างไกล แต่ก็ยังสามารถมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันได้ผ่านช่องทางต่างๆ […]Read More
ในช่วงเวลาที่งานอีเวนต์ ประชุม สัมมนา ถูกยกเลิกหรือเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด เพราะสถานการณ์ COVID-19 ที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการรวมตัวกันนั้น ทำให้เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการจัดงาน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ Live Streaming หรือการประชุมออนไลน์ผ่านซอฟต์แวร์ต่างๆ ทุกกิจกรรมสามารถทำผ่านออนไลน์ได้ แต่ปัญหาคือระบบต่างๆ ที่ว่ามานั้น ขาดการเชื่อมต่อของระบบ ไม่สามารถทราบข้อมูลและพฤติกรรมของผู้ใช้งานได้ อีกทั้งยังมีปัญหาเรื่องความปลอดภัย การนำข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาติ แถมยังไม่มีพื้นที่ให้แบรนด์ได้ใช้ประโยชน์ในการประชาสัมพันธ์และเป็นที่จดจำ จึงเป็นที่มาให้ Happenn ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีระบบการจัดการงานอีเวนต์ ขยับตัวเข้ามาแก้ปัญหาต่างๆ ด้วย การพัฒนาเทคโนโลยีการจัดงานอีเวนต์ออนไลน์หรืออีเวนต์เสมือนจริง (Virtual Event) โดยใช้ชื่อเรียกว่า Happenn Virtual โดยคุณอภิรดี ศิริสมบูรณ์ ประธานบริหารบริษัทได้กล่าวว่า “ ทีมงานตั้งใจทำ Happenn Virtual เพื่อตอบสนองความต้องการให้คนสามารถเข้าร่วมงานได้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนบนโลก พร้อมยังไม่ลืมเสน่ห์ของงานอีเวนต์คือการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน การสร้างสังคมของคนที่มีความสนใจเหมือนกัน ด้วยการพัฒนาเครื่องมือในการสื่อสาร การเล่มเกมส์ การถามตอบ และอีกมากมายในอนาคตที่ตามมา เพื่อจุดประสงค์ในการให้เชื่อมโยงคนเข้าหากันเสมือนไปงานอีเวนต์จริงๆ” เนื่องจาก Happenn เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีงานอีเวนต์อยู่แล้ว ทำให้ระบบ Happenn Virtual เกิดขึ้นมาได้ไม่ยาก เพราะระบบเดิมที่มีอยู่ก็เน้นความเป็นออนไลน์เป็นทุนเดิม […]Read More
เราได้เก็บข้อมูลที่น่าสนใจจาก ZOCIAL EYE ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา มาฝากกัน ซึ่งเป็นข้อมูลระหว่างวันที่ 25 ม.ค.- 15 เม.ย. 63 โดยเหตุการณ์ที่มียอดเอ็นเกจเมนต์สูงสุดคือ วันที่ 16 มี.ค 63 ซึ่งเป็นวันที่รัฐบาลประกาศว่าสงกรานต์นี้ (13-15 เม.ย.) ไม่ใช่วันหยุด ถือว่าเป็นปีแรกที่คนไทยไม่ได้หยุดยาวในวันสงกรานต์ ต้องลุกไปทำงานแบบวันปกติ มีเอนเกจเมนต์สูงสูดถึง 38,530,866 เอนเกจเมนต์ ส่วนเอ็นเกจเมนต์ที่รองลงมาคือ วันที่ 13 เม.ย. 63 ซึ่งตรงกับวันสงกรานต์พอดี ประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นในวันนี้คือ ผู้มีชื่อเสียง ดารา นำรูปถ่ายเก่ามาโพสต์ในเทศกาลสงกรานต์ และ มี #สงกรานต์ทิพย์2020 เกิดขึ้น อาจเป็นเพราะว่าปีนี้สงกรานต์ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ผู้คนไม่สามารถออกมาทำกิจกรรมข้างนอกได้ เพราะต้อง #อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ แต่ชาวโซเชียลน่าจะต้องมีกิจกรรมต่างๆ ที่จะสนุกสนานไปกับประเพณีสงกรานต์อย่างแน่นอน ทำให้ทีมงานสนใจที่จะหาอินไซท์จากประเด็นนี้ โดยดึงข้อมูลจาก ZOCIAL EYE ระหว่างวันที่ 13-15 เม.ย. ซึ่งตรงกับช่วงสงกรานต์ของทุกปีพบว่า ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงก็ได้พบกับเทรนด์ใหม่ของชาวโซเชียลเกิดเป็น #สงกรานทิพย์2020 […]Read More
ขอขอบคุณภาพจาก : Internet สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 นั้น อย่างที่เราทราบกันดี ว่าส่งผลกระทบรอบด้านต่อทุกภาคส่วนอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง นั่นรวมไปถึงการค้าขายและการตลาดที่รูปแบบเก่าๆ ไม่สามารถประยุกต์ใช้ได้ ตามสภาวการณ์ที่เปลี่ยนไปและยังไม่มีความแน่นอนชัดเจนว่าปลายทางนั้นจะไปสิ้นสุดลงที่ไหน และเมื่อใด หลายธุรกิจที่ปรับตัวไม่ทัน ต่างต้องล้มหายตายจากไปในชั่วข้ามคืน ธุรกิจขนาดกลางถึงขนาดเล็กที่สายป่านยาวไม่เพียงพอ ยังรอการช่วยเหลือจากภาครัฐท่ามกลางเข็มที่นับถอยหลังลงไปทุกขณะ ไปจนถึงธุรกิจขนาดใหญ่เช่นห้างสรรพสินค้าที่ต้องปิดตัวลงสนองต่อนโยบาย Social Distancing ที่มีรายจ่ายออกไปในทุกวัน (ท่ามกลางรายรับที่เกือบจะติดศูนย์) เหล่านี้ เป็นสถานการณ์จำเพาะที่ทุกภาคส่วนจะต้องปรับตัว รับมือ และทำความเข้าใจต่อ Insight ของผู้บริโภคที่จะเปลี่ยนแปลงไป ไม่ใช่แค่ในสถานการณ์ COVID-19 หากแต่เป็นภาพรวม แม้วิกฤติดังกล่าวนี้จะผ่านพ้นไปแล้ว (เพราะขึ้นชื่อว่า ‘พฤติกรรม’ นั้น เมื่อมันเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็ยากนักที่จะย้อนกลับไปสู่วงจรและความคุ้นชินแบบเดิมๆ อีก…) ในด้านธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กนั้น จากเดิมที่ผู้บริโภคนิยมการเลือกซื้อสินค้าหน้าร้านแบบจับต้องได้ ก็เริ่มหันไปสู่การซื้อและขายผ่านช่องทางออนไลน์และแพลทฟอร์มเฉพาะ ตั้งแต่สินค้าอุปโภคบริโภคและสินค้าฟุ่มเฟือยบางชนิด ดังที่เราจะเห็นได้จากการเติบโตของบรรดาบริการรับส่งเช่น Grab และ Food Panda ที่ผู้คนต่างเก็บตัวอยู่ในบ้าน และใช้บริการดังกล่าวมากขึ้นตามเวลาที่ผันผ่านไป รวมไปถึงปัจจัยด้าน ‘ปริมาณ’ ที่มากขึ้นต่อหนึ่งการซื้อ เพื่อความคุ้มค่าทั้งรายจ่ายและเวลาที่ต้องเสียไป สำหรับสินค้าขนาดใหญ่ และสินค้าที่ยังไม่มีความจำเป็นมากนักเช่นรถยนต์หรือโทรศัพท์มือถือ รูปแบบการซื้อนั้นมีแนวโน้มที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัดในระหว่างสถานการณ์ […]Read More
ดังที่เราพอจะทราบกันดี ว่าวลี ‘น้ำผึ้งหยดเดียว’ นั้น มีความหมายถึงเรื่องอันไม่เป็นสาระ ที่ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์ลามปามไปจนกลายเป็นความขัดแย้ง ที่มักจะพบเห็นกันอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะกับโลกไซเบอร์ยุคปัจจุบัน ที่ดูเหมือนว่าเราจะไม่เคยขาด ‘โหลน้ำผึ้ง’ ที่พร้อมหยอดลงสู่สถานการณ์จนกลายเป็นข้อพิพาทไม่เว้นแต่ละวัน แต่ละสัปดาห์ และประเด็น #nnevvy ก็ดูจะเป็นอีกหนึ่งความขัดแย้งอันแสนแปลกประหลาด ขบขัน และนำไปสู่ผลลัพธ์อันแสนจะพิสดารเสียยิ่งกว่าครั้งใดๆ ที่เคยมีมา เราขอไม่เจาะลงไปในรายละเอียด แต่จากความไม่พอใจของชาวจีนที่มีต่อนักแสดงไทยในซีรีส์วัฒนธรรมชายรักชาย ในเรื่องของพรมแดนประเทศ นำไปสู่การตอบโต้ การตั้งรับ และการสร้างพันธมิตรไซเบอร์แบบ ‘งงๆ’ ที่เริ่มจะลุกลามกลายเป็นปัญหาระดับประเทศเข้าไปทุกที ไม่… เราไม่ขอเจาะลงไปในประเด็นและรายละเอียดที่นำไปสู่แฮชแท็กดังกล่าว แต่เรากลับสนใจ ‘ปฏิกิริยาตอบสนอง’ ของชาวไทยในสื่อ Twitter ที่มีต่อข้อพิพาทเหล่านั้น ซึ่งเมื่อมองให้ลึกไปกว่าความขำขัน มันกลับเป็นตลกร้ายที่สะท้อนถึงสภาวะสังคมของเราอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ นี่อาจจะเป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้ง ที่ชาวไซเบอร์ไทยมีชัยเหนือพญามังกรจีน ทั้งที่ตกเป็นรองในด้านปริมาณอย่างเห็นได้ชัด เพราะไม่ว่าชาวจีนจะยกประเด็นใดขึ้นมาก่นด่า สาปแช่ง เหยียดหยาม หรือลามปามไปในทุกภาคส่วน แต่ดูเหมือนชาวไทยกลับไม่สะทกสะท้าน และตอบโต้กลับได้อย่างถึงพริกถึงขิง กรีดเป็นแผลให้ได้เห็นเลือดซิบๆ ไปตามๆ กัน ซ้ำยังพ่วงด้วยชาวไซเบอร์ฮ่องกงและไต้หวัน อีกสองคู่ขั้วขัดแย้งของจีน ให้มารวมเป็น ‘พันธมิตรชานม’ เป็นการชั่วคราว อีกทั้งเรื่องราวลุกลามไปจนถึงระดับของการส่งสาส์นอย่างเป็นทางการจากภาคการทูตของจีน จากประเด็นเพียงเล็กน้อยอันดูไม่เป็นสาระเหล่านี้เพียงแค่เรื่องเดียว อะไรทำให้คนไทยมีภูมิต้านทานในสถานการณ์ดังกล่าว ชนิดที่เรียกว่าตีเท่าไรก็ไม่เจ็บ กรีดเท่าไรก็ไม่เห็นเลือด? […]Read More
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เดินหน้ารณรงค์ขับขี่ปลอดภัยช่วงปีใหม่ ภายใต้โครงการโตโยต้าถนนสีขาว พร้อมส่งมอบความสุขในทุกการเดินทาง ภายใต้แนวคิดการเว้นระยะห่างทั้งคน ทั้งรถ ผ่านข้อความสื่อสาร “เว้นระยะอีกนิด ชีวิตปลอดภัย” เพื่อลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุในการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ พร้อมส่งมอบความมั่นใจทั้งก่อนและหลังการเดินทางให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนทุกท่าน ด้วยการให้บริการตรวจเช็กสภาพรถยนต์ฟรี 24 รายการ ที่ศูนย์บริการ ผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ และเพื่อส่งมอบความสุขและความปลอดภัยในระหว่างการเดินทาง โตโยต้า ยังมีการให้บริการจุดพักรถ ณ บริเวณทางหลวงขาออก ไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ นอกจากนี้ โตโยต้ายังได้ร่วมกับ แอปพลิเคชัน “วงใน” (Wongnai) มอบส่วนลดสุดพิเศษจากร้านอาหารชื่อดังกว่า 40 แห่งทั่วประเทศ ให้ผู้เดินทางท่องเที่ยวมีความสุขตลอดการเดินทาง ในปีนี้ ภายหลังจากมาตรการผ่อนปรนในสถานการณ์โควิด 19 ที่ผ่านมา ทางบริษัทฯ มีความตั้งใจ รณรงค์ให้มีการนำวิถีชีวิตแบบใหม่ (New Normal) มาปรับใช้ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยการมุ่งเน้นให้มีการเตรียมตัวก่อนการเดินทางท่องเที่ยว เพื่อความปลอดภัยทั้งคนทั้งรถ รวมไปถึงการรณรงค์การขับขี่แบบเว้นระยะจากรถคันหน้า ไม่ขับกระชั้นชิด เพื่อลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนในช่วงการเดินทางท่องเที่ยว ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้การเดินทางท่องเที่ยวเป็นไปอย่างปลอดภัยตลอดเส้นทาง บริษัทฯ พร้อมด้วยผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ […]Read More