fbpx

แต่งหน้าเค้กวันเกิดซะสวยแล้วทำไมต้องปักเทียนเพื่อเป่า?

นั่นสิ ทั้งๆ ที่แต่งหน้าเค้กมาซะสวยงาม แต่ทำไมต้องเอาเทียนไปปักให้เป็นรู แม้จะยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าทำไม แต่ที่แน่ชัดคือ เราทำอย่างนี้มากว่าสามศตวรรษแล้ว แฮปปี้เบิร์ธเดย์ทูยู! สิ้นเสียงเพลงนี้ทีไร เจ้าของวันเกิดก็ต้องหลับตาอธิษฐานแล้วตามด้วยการเป่าเทียนที่ปักอยู่บนหน้าเค้ก (ทั้งที่แต่งหน้าเค้กมาซะสวยงาม) เหมือนเป็นสเต็ปสากลที่ครบรอบวันเกิดใครก็ต้องทำแบบนี้ แล้วเชื่อไหมว่าเราทำอย่างนี้มากว่าสามศตวรรษแล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่มีหลักฐานบ่งบอกที่แน่ชัดว่ามนุษย์เริ่มเป่าเทียนที่ปักอยู่บนหน้าเค้กวันเกิดกันตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่เรื่องของการปักเทียนบนเค้กนี้เชื่อว่ามาจากธรรมเนียมของชาวกรีกโบราณที่นำเค้กไปบูชาเทพีอาร์ทีมิส (Artemis) เทพีแห่งดวงจันทร์และการล่าสัตว์ ตามความเชื่อของชาวกรีกโบราณเทพีอาร์ทีมิสคือเทพีแห่งดวงจันทร์และการล่าสัตว์ ดังนั้น การตกแต่งหน้าเค้กให้สวยงามด้วยการปักเทียนให้สว่างไสวก่อนนำไปบูชานั้นก็เปรียบเสมือนแสงสว่างจากดวงจันทร์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเทพีอาร์ทีมิสนั่นเอง แล้วธรรมเนียมการปักเทียนบนหน้าเค้กให้เท่าอายุเจ้าของวันเกิดล่ะ มาจากไหน? เรื่องนี้มีหลักฐานปรากฏว่ามีจุดเริ่มต้นมาจาก นิโคลอส ซินเซนดอร์ฟ (Nicolaus Zinzendorf) นักปฏิรูปศาสนาและสังคมชาวเยอรมัน ที่มีชีวิตอยู่ในช่วงปี ค.ศ. 1700-1760 โดยในปี ค.ศ. 1746 นิโคลอสได้จัดงานเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันเกิดปีที่ 46 ของตัวเองอย่างยิ่งใหญ่ ภายในงานมีเค้กก้อนโตที่ว่ากันว่าใหญ่โตที่สุดเท่าที่จะหาเตามาอบได้ และมีการปักเทียนจำนวนเท่ากับอายุของเจ้าของวันเกิดเป็นครั้งแรก ส่วนธรรมเนียมการเป่าเทียนนั้นสอดคล้องกับความเชื่อเก่าแก่ที่พบเห็นในหลายวัฒนธรรม ที่เชื่อว่าควันสามารถนำพาให้คำอธิษฐานลอยไปถึงเทพเจ้าที่อยู่บนสวรรค์ได้ หลังจากอธิษฐานเสร็จจึงต้องเป่าเทียนเพื่อให้เกิดควันและพาคำอธิษฐานของเจ้าของวันเกิดไปบอกเทพเจ้าผู้อยู่เบื้องบนนั่นเอง แม้จะต่างที่มา ต่างความเชื่อ แต่เมื่อการเวลาผันผ่านสิ่งเหล่านี้ก็ถูกหล่อหลอมเข้าจนเป็นเนื้อเดียวกัน เกิดเป็นธรรมเนียมที่ได้รับการปฏิบัติสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบันRead More

‘2475 – 2562 ’87 ปีที่ประชาธิปไตยไทย กำลังดาวน์โหลด

บทสัมภาษณ์ ‘ผศ. ดร. ประจักษ์ ก้องกีรติ’ กับคำถามเกี่ยวกับประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ของคนไทยผ่านมุมมองทางการเมืองในเชิงประวัติศาสตร์และการวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองไทยที่กำลังร้อนระอุอยู่ในปัจจุบัน Reason to Read บทสัมภาษณ์ ‘ผศ. ดร. ประจักษ์ ก้องกีรติ’ รองคณบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่มาตอบคำถามเกี่ยวกับประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ของคนไทยผ่านมุมมองทางการเมืองในเชิงประวัติศาสตร์และการวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองไทยที่กำลังร้อนระอุอยู่ในปัจจุบัน ในยุคที่คนไทยส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้และเราก็กำลังจะได้สัมผัสอินเทอร์เน็ตความแรงระดับ 5G ในอนาคตอันใกล้นี้ ถ้าจะเปรียบเทียบให้เข้าใจอย่างชัดเจนว่าการรอคอย ‘ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์’ ของคนไทยนั้นยาวนาน น่าหงุดหงิดและบั่นทอนจิตใจมากแค่ไหน ก็ขอเทียบว่าเป็นการดาวน์โหลดผ่านอินเทอร์เน็ต (ความเร็วต่ำ) นี่แหละ ถ้าเหตุการณ์ปฏิวัติสยาม 2475 เป็นการคลิกปุ่มดาวน์โหลดประชาธิปไตยแบบของไทย แสดงว่าตอนนี้คนไทยก็นั่งรอมา 87 ปีแล้ว แต่ประชาธิปไตยก็ยังดาวน์โหลดได้ไม่เต็มใบเสียที แล้วเราต้องรอไปอีกนานแค่ไหน? ระหว่างทางเราผ่านอะไรมาบ้าง แล้วในอนาคตต้องเจอกับอะไร? GM Live พูดคุยกับ ‘ผศ. ดร. ประจักษ์ ก้องกีรติ’ รองคณบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่มาตอบคำถามดังกล่าวผ่านมุมมองทางการเมืองในเชิงประวัติศาสตร์และการวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองไทยที่กำลังร้อนระอุในปัจจุบัน GM Live : 24 มิถุนายนปีนี้ ครบรอบ […]Read More

ย้ายคูหาฯ ไปกาในห้างรัฐบาลนิวซีแลนด์ผุดไอเดียใหม่สำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้า

การเลือกตั้งครั้งหน้าของนิวซีแลนด์ รัฐบาลเอาใจประชาชน เพื่อแก้ปัญหาคนไม่มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ด้วยการย้ายคูหาฯ มาอยู่ในที่ที่ประชาชนไปเป็นประจำ อาทิ ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน โบสถ์ หรือกระทั่งที่ห้องประชุมรัฐสภา Reason to Read การเลือกตั้งครั้งหน้าของนิวซีแลนด์ รัฐบาลเอาใจประชาชน เพื่อแก้ปัญหาคนไม่มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ด้วยการย้ายคูหาฯ มาอยู่ในที่ที่ประชาชนไปเป็นประจำ อาทิ ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน โบสถ์ หรือกระทั่งที่ห้องประชุมรัฐสภา การเลือกตั้งครั้งใหม่ของประเทศนิวซีแลนด์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในปีหน้า มีการปรับเปลี่ยนกฎการเลือกตั้งใหม่ให้อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนมากขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากในการเลือกตั้งครั้งก่อนมีประชากรไม่มาใช้สิทธิเลือกตั้งมากถึง 20 เปอร์เซ็นต์ แต่จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม รัฐบาลนิวซีแลนด์ตัดสินใจแก้ระบบการเลือกตั้งใหม่ ด้วยการย้ายคูหาให้ใกล้ชิดกับประชาชนมากกว่าเดิม นางจาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรก และเป็นนายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดของประเทศนิวซีแลนด์ กำลังจะหมดวาระหน้าที่ในปี 2020 ที่จะถึงนี้ โดยนางจาซินดาเป็นหัวหน้าพรรคเลเบอร์ที่ชนะการเลือกตั้งเป็นอันดับที่ 2 ทว่ากลับได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เนื่องจากร่วมมือกันกับพรรคนิวซีแลนด์เฟิร์สและพรรคกรีน ทำให้ครองเสียงข้างมากในรัฐสภา และได้จัดตั้งรัฐบาลแบบผสมขึ้น ในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด เมื่อปี 2017 มีชาวนิวซีแลนด์ออกมาใช้สิทธิเพียง 80 เปอร์เซ็นต์ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด อาจฟังดูมาก ทว่าความจริงแล้วคือ ประชากรทุก 5 คน […]Read More

รู้หรือไม่?ธงชาติสหรัฐฯ ถูกออกแบบโดยเด็ก ม.5?

กว่าจะมาถึงธงชาติของสหรัฐอเมริกาเวอร์ชันที่เราเห็นอยู่ทุกวันนี้ ผ่านการเปลี่ยนแปลงมาหลายต่อหลายครั้งแต่สำคัญกว่านั้นคือ ผู้อยู่เบื้องหลังเวอร์ชันล่าสุดที่ใช้มาตั้งแต่ปี 1960 นี้เป็นเพียงเด็กมัธยมปลายคนหนึ่งเท่านั้น ธงชาติของสหรัฐอเมริกาเวอร์ชันที่เราเห็นอยู่ทุกวันนี้ที่มีลักษณะเป็นธงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ข้างในมีแถบสีแดง 7 แถบสลับแถบสีขาว 6 แถบ มุมบนด้านคันธงเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีน้ำเงิน ภายในมีรูปดาวห้าแฉกสีขาว 50 ดวงนั้น ผ่านการเปลี่ยนแปลงมาหลายต่อหลายครั้ง และรู้หรือไม่ว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังเวอร์ชันล่าสุดที่ใช้มาตั้งแต่ปี 1960 นี้เป็นเพียงเด็กมัธยมปลายคนหนึ่งเท่านั้น ย้อนกลับไปเมื่อปี 1958 ในห้องเรียนห้องหนึ่งของโรงเรียนมัธยมแลงคัสเตอร์ ในมลรัฐมิชิแกน ครูสแตนลีย์ แพรตต์ (Stanley Pratt) ได้สั่งให้นักเรียนออกแบบธงชาติสหรัฐอเมริกาเพื่อส่งเข้าประกวด เนื่องจากมีการเพิ่มรัฐใหม่เข้ามา โดยก่อนหน้านั้นเป็นยุคที่สหรัฐฯ เพิ่งได้รับเอกราชจากสหราชอาณาจักร และมีเพียง 13 รัฐ ดาวบนธงสหรัฐฯ จึงมีเพียง 13 ดวง โดยเรียงกันเป็นวงกลมบนพื้นสีน้ำเงินที่มุมบนด้านคันธง โรเบิร์ต จี เฮฟต์ (Robert G. Heft) ตอนนั้นอายุ 17 ปี หรือเทียบกับบ้านเราก็คือเด็ก ม.5 พอครูสั่งการบ้านเขาก็ก้มหน้าก้มตาออกแบบธง โดยได้คุณแม่มาช่วยเย็บธงจนออกมาเป็นผืนธงชาติสหรัฐที่มีดาว 50 ดวง เมื่อเขาเอาผลงานไปส่ง […]Read More

ข่าวร้ายของทุกชีวิตบนโลกเมื่อพืชสูญพันธุ์เร็วขึ้น 500 เท่า

พืช 571 สายพันธุ์ได้หายไปจากป่าอย่างสมบูรณ์นับตั้งแต่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม การสูญพันธุ์พืชกำลังเกิดขึ้นในอัตราที่เร็วขึ้นถึง 500 เท่า มากที่สุดในประวัติศาสตร์โลก นับตั้งแต่มีการแทรกแซงของมนุษย์ Reason to Read พืช 571 สายพันธุ์ได้หายไปจากป่าอย่างสมบูรณ์นับตั้งแต่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม การสูญพันธุ์พืชกำลังเกิดขึ้นในอัตราที่เร็วขึ้นถึง 500 เท่า มากที่สุดในประวัติศาสตร์โลก นับตั้งแต่มีการแทรกแซงของมนุษย์ พวกพันธุ์ไม้เนื้อแข็งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไม้ต้นและไม้พุ่มที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ขนาดเล็ก เช่น พืชที่อยู่บนเกาะเล็กๆ เป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มว่าจะสูญพันธุ์มากที่สุด การวิเคราะห์บันทึกการสูญพันธุ์ของพืชทั้งหมดจากทั่วโลกโดยนักวิทยาศาสตร์ที่ สวนพฤกษศาสตร์คิว การ์เดน (Royal Botanic Gardens, Kew) กรุงลอนดอน และมหาวิทยาลัยสตอกโฮล์ม ในสวีเดน พบว่าพืช 571 สายพันธุ์ซึ่งเป็นที่รู้จัก ได้หายไปจากป่าอย่างสมบูรณ์นับตั้งแต่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม นับเป็นจำนวนที่เยอะมากขนาดที่ว่าเอาจำนวนนกกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำที่สูญพันธุ์ไปในช่วงเวลาเดียวกันมารวมกันก็ยังน้อยกว่าจำนวนพืชที่เราจะไม่มีวันได้เห็นอีกถึงสองเท่า และน่าตกใจยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อพบว่าการสูญพันธุ์ของพืชกำลังเกิดขึ้นเร็วกว่าอัตราการสูญพันธุ์โดยทั่วไปในประวัติศาสตร์โลกก่อนการแทรกแซงของมนุษย์ถึง 500 เท่า ส่วนสัตว์นั้นแม้ว่าจะมีไม่กี่สายพันธุ์ที่สูญพันธุ์ไป แต่อัตราการลดลงของสัตว์เหล่านั้นก็เร็วขึ้น (เร็วกว่าอย่างน้อย 1,000 เท่าของอัตราการสูญพันธุ์ในประวัติศาสตร์) ซึ่งเป็นผลกระทบที่มนุษย์ทำให้เกิดขึ้นกับสิ่งมีชีวิตบนโลก ผู้รายงานผลการศึกษาซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Nature Ecology & Evolution ระบุว่า การสูญพันธุ์ของพืชเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตอื่นๆ รวมถึงระบบนิเวศน์และความเป็นอยู่ที่ดีของมนุษย์ และเราต้องทำความเข้าใจเพื่อการวางแผนการอนุรักษ์ที่มีประสิทธิภาพ […]Read More

รู้หรือไม่กลิ่นตัวผู้ชายช่วยคลายเครียดได้?

สาวๆ หลายคนเวลาเครียดอยากอยู่ใกล้คนรัก นั่นเพราะอยู่ด้วยแล้วความเครียดทุเลาลงได้เนื่องจาก ‘กลิ่นตัวของผู้ชายสามารถช่วยลดความเครียดได้’ เรื่องนี้จริงหรือไม่ เมื่อความเครียดเกิดขึ้น สาวๆ แต่ละคนก็จะมีวิธีการรับมือและจัดการกับความเครียดที่แตกต่างกัน เช่น บางคนอยากอยู่เงียบๆ คนเดียว บางคนชอบออกไปเจอเพื่อนฝูงผู้คนมากมาย ในขณะที่บางคนแค่อยู่กับคนรักก็ทำให้ความเครียดทุเลาลงได้แล้ว สอดคล้องกับงานวิจัยที่บอกว่า ‘กลิ่นตัวของผู้ชายสามารถช่วยลดความเครียดได้’ เรื่องจริงหรือไม่ เชื่อได้หรือเปล่า… คำตอบน่าเชื่อถือคือ… มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่เผยแพร่ในวารสารต่างประเทศชื่อว่า Journal of Personality and Social Psychology ซึ่งเป็นวารสารที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องบุคลิกภาพและจิตวิทยา เผยแพร่เมื่อเดือนมกราคมปีที่ผ่านมานี่เอง ได้ทำการศึกษาผู้หญิง 96 คน โดยให้ชายคู่คนรักและชายแปลกหน้าใส่เสื้อเชิ้ตตัวที่กำหนดให้ เป็นเวลานาน 24 ชั่วโมง แล้วแช่ช่องเย็นเพื่อเก็บกลิ่นเอาไว้ จากนั้นก็ให้ผู้หญิงเลือกดมกลิ่น 1 ใน 3 กลิ่น ซึ่งมีทั้งกลิ่นเสื้อจากชายคนรัก กลิ่นเสื้อจากชายแปลกหน้า และกลิ่นเสื้อที่ไม่มีใครสวมใส่ โดยไม่รู้ว่าเสื้อตัวไหนเป็นของใคร แล้วทดสอบเรื่องความเครียดและวัดฮอร์โมนเกี่ยวกับความเครียดจากน้ำลายต่อเนื่องกัน พบว่าผู้หญิงที่ได้กลิ่นชายคนรักความเครียดจะลดลง ในขณะที่ผู้หญิงที่ได้กลิ่นชายแปลกหน้าฮอร์โมนความเครียดหรือคอร์ติซอลจะเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาที่ระบุว่ากลิ่นมีผลกระทบต่อการคัดเลือกทางเพศ (Sexual Selection) และการตอบสนองต่อความเครียดของสัตว์มักเชื่อมโยงกับกลิ่นของคู่ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่าพลังที่เป็นเอกลักษณ์ของกลิ่นจากบุรุษเพศนั้นมาจากความแรงของกลิ่นและความไวต่อกลิ่นของผู้หญิง โดยมีนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบียและ Monell Chemical Senses […]Read More

รัฐนาวาประยุทธ์ 2เมื่อเจอ ‘ฤทธิ์’ นักการเมืองยังไม่ทันเริ่มก็จะเละเสียแล้ว

เมื่อ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ สมัยที่สอง ยังไม่ทันเริ่มดีก็มีท่าทีและสัญญาณบ่งบอกมากมายว่าไม่ง่าย และ เอ่อ… ดีไม่ดีอาจถึงขั้นเละ!! บทความ : พีรภัทร์ เกื้อวงศ์ Reason to Read รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ เมื่อ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่สอง ยังไม่ทันเริ่มดีก็มีท่าทีและสัญญาณบ่งบอกมากมายว่าไม่ง่าย และ เอ่อ… ดีไม่ดีอาจถึงขั้นเละ สัญญาณดังกล่าวได้แก่อะไรบ้าง ติดตามอ่านได้ในบทวิเคราะห์ชิ้นนี้กัน ในช่วง 5 ปีของ คสช. การทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผู้นำรัฐบาลประยุทธ์ 1 ถือได้ว่าเป็นช่วงที่การเมืองราบเรียบ เพราะการใช้อำนาจของ คสช. ที่ควบคุมความเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างเด็ดขาด ประกอบกับประชาชนก็เบื่อหน่ายกับภาวะความขัดแย้งที่ออกมาชุมนุมตามท้องถนนซึ่งเกิดต่อกันหลายรอบในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมานี้ และการทำงานอำนาจเต็มของ พล.อ. ประยุทธ์ก็เรียบร้อยด้วยการใช้อำนาจแบบทหาร ที่ต้องการอะไรก็สามารถสั่งการได้ทันที มีสภานิติบัญญัติที่มีท่าทีไปในทางเดียวกัน แต่ในครั้งนี้ เหตุการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้วเมื่อ พล.อ. ประยุทธ์เป็นนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้ง […]Read More

10 Highlights In Techsauce Global Summit 2019

10 Highlights ที่คุณจะได้พบใน Techsauce Global Summit 2019 วันที่ 19-20 มิถุนายนนี้ นอกเหนือจากโอกาสทางธุรกิจแล้ว สิ่งที่ทำให้ Techsauce Global Summit เป็นจุดหมายของผู้สนใจเทคโนโลยีและก้าวเป็น Tech Conference ชั้นนำของเอเชียนั้นหนีไม่พ้นทั้ง “เนื้อหา” ที่นำเสนอในงานอย่างเข้มข้น โดยปี 2019 เป็นปีที่เรายังคงเน้นเนื้อหาจากแหล่งความรู้ชั้นนำระดับโลกอัน “รวดเร็ว” ทันต่อทุกปรากฏการณ์ และ “ลึกซึ้ง” ละเอียดจนนำไปใช้ได้จริง แต่เราเชื่อว่าที่กล่าวมานี้คงน้อยเกินกว่าที่จะพิจารณาคัดลิ้นใจกดซื้อบัตรเป็นแน่ เราจึงรวบรวม Highlight ของ Techsauce Global Summit 2019 ที่ผู้เข้าร่วมทุกท่านจะได้รับประสบการณ์ตรงมาบอกเล่าให้ได้ทราบกัน! 1. Google for Startups in Asiaครั้งแรกในประเทศไทยกับการร่วมมือครั้งสำคัญระหว่าง Google for Startups ผู้นำด้านการสนับสนุน Startup ระดับโลก กับ Techsauce ในฐานะ Tech Startup Ecosystem Builder ระดับเอเชีย […]Read More

เกรตา ธันเบิร์ก เมืองไทยอ่านความคิดหญิงสาวผู้จัดกิจกรรม Climate Strike Thailand

Reasons to Read หากคุณรักดาวเคราะห์ดวงนี้ แต่รู้สึกท้อหมดหวังกับวิกฤตโลกร้อน มาเติมความหวัง และทำความรู้จักกับ ‘เกรตา ธันเบิร์ก เมืองไทย’ หญิงสาว ผู้ริเริ่มจัดกิจกรรม Climate Strike Thailand ชักชวนให้ผู้คนที่ใส่ใจปัญหาสิ่งแวดล้อม หยุดเรียน หยุดงาน กันออกมาเพื่อร่วมแสดงพลังรณรงค์วิกฤตโลกร้อน    แม้ทุกวันนี้จะมีข่าวชวนหดหู่เกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อมและสภาวะโลกร้อนที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่ในขณะเดียวกันสิ่งที่ทำให้เรายังไม่หมดหวังก็คือการปลุก ‘กระแสรักษ์โลก’ ที่แข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ เช่นกันในหมู่คนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ กิจกรรม #ClimateStrike #FridaysForFuture ที่เริ่มต้นโดย เกรตา ธันเบิร์ก นักกิจกรรมเยาวชน อายุเพียง 16 ปี ผู้จุดประกายให้คนรุ่นใหม่ทั่วโลก รวมพลังกันจัดกิจกรรม ‘โดดเรียนเพื่อโลก’ ประท้วงให้ทั้งรัฐบาล ภาคธุรกิจ ตลอดจนถึงคนทั่วไปได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของ ‘วิกฤตโลกร้อน’  และเรียกร้องให้เกิดความเปลี่ยนแปลง เช่นเดียวกับเมืองไทยของเรา ซึ่งไม่นานมานี้ได้มีการจัดกิจกรรมในลักษณะดังกล่าวขึ้นมาสองครั้งแล้วGM Live มีความภูมิใจที่จะแนะนำให้คุณรู้จักกับ ‘หลิง-นันทิชา โอเจริญชัย’หญิงสาววัย 21 ปี ผู้ริเริ่มจัดกิจกรรม Climate Strike Thailandชักชวนให้ผู้คนที่ใส่ใจปัญหาสิ่งแวดล้อม […]Read More

รู้หรือไม่?สัตว์บางชนิด ตัวเมียท้องได้โดยไม่ง้อตัวผู้?

ท้องไม่มีพ่อ! ไม่ได้หมายถึงไม่มีใครรับผิดชอบลูกในท้อง แต่ในกรณีนี้คือ ไม่มีตัวผู้ตัวไหนมาผสมพันธุ์กับงูตัวนี้ อ้าว!! แล้วท้องได้ไง?? เมื่อช่วงปลายเดือนที่ผ่านมามีเรื่องแปลกเกิดขึ้นในอควาเรียมนิวอิงแลนด์ ที่เมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา โดยเจ้าหน้าที่ประจำอควาเรียมดังกล่าวพบว่างูอนาคอนดาเขียวเพศเมียวัยแปดปีที่ประคบประหงมเลี้ยงดูมาตั้งแต่เป็นลูกงูนั้นได้ตั้งท้อง งูท้องทั่วไปก็คงไม่ต้องเป็นข่าวมาถึงไทย แต่ที่แปลกก็คือนางท้องไม่มีพ่อ ซึ่งไม่ได้หมายถึงงูตัวผู้ไม่รับผิดชอบลูกในท้องแต่อย่างใด แต่ที่ท้องไม่มีพ่อก็เพราะไม่มีตัวผู้ตัวไหนมาผสมพันธุ์กับงูตัวนี้เลย พูดง่ายๆ ก็คือนางท้องด้วยตัวของนางเอง เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ด้วยหรือ? คำตอบคือ… ได้!! แต่เกิดขึ้นได้ยากมาก ซึ่งการสืบพันธู์ลักษณะนี้เรียกว่า พาร์ธีโนเจเนซิส (Parthenogenesis) หรือการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ เชื่อว่าทุกคนน่าจะพอคุ้นหูคำๆ นี้จากวิชาชีววิทยามาบ้าง มันก็คือการตั้งท้องที่ตัวเมียสามารถตั้งท้องได้โดยไม่จำเป็นต้องผสมพันธุ์กับตัวผู้นั่นเอง การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ โดยทั่วไปจะพบในสัตว์ที่มีร่างกายไม่ซับซ้อน อย่างแมลงบางชนิด เช่น ตั๊กแตนกิ่งไม้ เพลี้ย ไรน้ำ ผึ้ง มด ต่อ แตน ฯลฯ และสัตว์ที่มีความสามารถในการงอกใหม่ เช่น พลานาเรีย ดาวทะเล ฟองน้ำ ไฮดรา ฯลฯ ความแปลกอีกอย่างคือในสภาวะปกติไข่ของสัตว์ที่เกิดจากการผสมพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศจะฟักออกมาเป็นตัวเมียเสมอ แต่ในสภาวะที่ไม่เหมาะสมกับการดำรงชีวิต เช่น แห้งแล้ง หนาวเย็น หรือขาดแคลนอาหาร ไข่ที่ฟักออกมาก็จะเป็นได้ทั้งตัวผู้และตัวเมีย เพื่อที่จะได้ผสมพันธุ์แล้วออกลูกออกหลานขยายพันธุ์กันต่อไป แม้ว่าการสืบพันธุ์พิศวงที่เกิดขึ้นกับงูตัวนี้จะถือเป็นเรื่องแปลก […]Read More