fbpx

ดราม่า 5,000 สะท้อนสังคมไทย…ทำไมคนไทยชอบขี้โกง?

อะไรที่ทำให้เราคิดว่าตัวเองเป็นคนดี?เราเลือกที่จะขโมยของเพื่อช่วยพ่อแม่ที่กำลังป่วยอยู่หรือไม่ ?เราเลือกที่จะเลือกจ่ายเงินช่วยลูกให้พ้นความผิดหรือเปล่า ? ความดีกับคนดีแตกต่างกันยังไง ?ทำไมคนไทยมีสถิติบริจาคเงินสูงเป็นอันดับ 5 ของโลก แต่กลับไม่ชอบเป็นอาสาสมัคร ?ทำไมสถิติการจ่ายค่าแป๊ะเจี๊ยะในประเทศไทยสูงขึ้น 16 เท่า ?และทำไมตอนนี้ การลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยา 5,000 บาท ในช่วงที่คนไทยหลายคนที่ลำบากและกำลังรอคอยเงินส่วนนี้ จึงไปตกอยู่กับคนที่ไม่สมควรได้รับ? ในอดีต อาจจะมีหลายคนเคยได้ยินเรื่องที่มีฝรั่งหลายชาติชอบนินทาคนไทยว่าเป็นพวก ‘ขี้เกียจ และขี้โกง’ ข้อกล่าวหาดังกล่าว อาจจะทำให้หลายคนยากที่จะยอมรับ เพราะมีคนจำนวนไม่น้อยที่ขยัน ทำมาหากินด้วยความซื่อสัตย์  ทำไมต่างชาติในอดีตจึงมองเราเช่นนั้น? คำกล่าวหานี้มาทุกยุคทุกสมัย โดยจากบทคัดลอกหนึ่งเกี่ยวกับเรื่อง ‘จุดอ่อนคนไทยในสายต่างชาติ’ ได้บักทึกไว้ว่า เมื่อ 500 ปีที่แล้ว ฝรั่งโปรตุเกสเริ่มเข้ามาเมืองไทยในรัชกาลสมเด็จพระไชยราชาธิราช และได้มองไทยในลักษณะนี้ เมื่อ 400 ปีที่แล้วมีชาวฮอลันดาเข้ามาตั้งห้างค้าขาย ก็กล่าวเช่นเดียวกัน  เมื่อ 200 ปีที่แล้วเป็นรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ชาวอังกฤษก็โจมตีชาวไทยอย่างหนัก  และในรัชกาลที่ 4 รัชกาลที่ 5 ชาวเยอรมัน ฝรั่งเศส และอังกฤษ ก็ยืนยันว่า ‘ขี้เกียจ ขี้ขลาด และขี้โกง’ ทัศนะดังกล่าวเป็นของฝรั่งชาติต่างๆ จำนวนหนึ่ง ได้แก่ […]Read More

วันนี้ จะเกิดวิกฤตโควิด-19 หรือไม่ ….กสิกรไทยก็ถึงเวลามีซีอีโอใหม่

เ รื่ อ ง  :  Moon Noon คุณบัณฑูร ล่ำซำ ไลฟ์สดฉายเดี่ยวกับสื่อมวลชนรวมถึงพนักงานในเครือกสิกรไทย  ผ่านช่องทางออนไลน์เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา เพื่ออำลาอาชีพนายธนาคารที่ทำมานาน 40 ปี พร้อมสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้ธนาคารกสิกรไทย จากการแต่งตั้งซีอีโอใหม่ครั้งแรกที่เป็นทั้งผู้หญิงและไม่ได้มาจากนามสกุลล่ำซำ    เรื่องนี้สะท้อนแนวคิดการบริหารธนาคารกสิกรไทยในรูปแบบใหม่ ซึ่งไม่ได้ยึดติดอยู่กับรูปเดิม ๆ ของธนาคารไทย ที่การบริหารขึ้นอยู่กับนามสกุลและความเป็นเจ้าของเดิม แต่พร้อมที่ปรับเปลี่ยนไปตามความเหมาะสมของการแข่งขันในเศรษฐกิจโลกยุคใหม่ ซึ่งต้องการความพร้อมของทีมและผู้นำที่เหมาะสมอย่างแท้จริง   บางคนอาจจะมองว่า ท่ามกลางสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้  การเปลี่ยนผู้นำในช่วงนี้เหมาะสมแล้วหรือ แต่คุณบัณฑูร ยืนยันว่า นี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุด เพราะยิ่งมีวิกฤต นั่นก็เท่ากับเป็นการพิสูจน์ทีมผู้บริหารใหม่ไปในตัวได้อย่างดี หากผู้นำบริหารผ่านวิกฤตนี้ไปได้ ต่อไปก็คงจะรับมือเรื่องต่าง ๆ ได้ดีเช่นกัน ในอีกมุมหนึ่งยังสะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมของธนาคาร ที่ยังสามารถดำเนินงานต่างๆ ไปได้ตามเป้าหมาย โดยไม่ให้วิกฤตซึ่งดูหนักหนาสาหัสในระดับโลกมามีผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เพราะนั่นจะยิ่งส่งผลผลต่อความน่าเชื่อถือ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งของธุรกิจธนาคารอีกด้วย  บัณฑูร ล่ำซำ ลาออกล่วงหน้ามาแล้วครึ่งปี   จริง ๆ แล้วการลาออกล่วงหน้าของคุณบัณฑูร ล่ำซำ […]Read More

10 หนัง-ซีรีส์ ที่ทำให้การกักตัวของคุณกลายเป็นเรื่องชิลล์ๆ

ในช่วงเวลาที่ทุกคนกักตัว เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิท-19  หลายคนอาจจะเกิดอาการเบื่อ เซ็ง แต่ขอให้ทุกคนอดทน  เพราะหากนี่คือสถานการณ์ที่คุณคิดว่าเอือมกันสุดๆ แล้ว  ขอแนะนำภาพยนตร์-ซีรีส์ ที่จะทำให้รู้ซึ้งว่า พวกเรากักตัวในระดับไฮโซกันพอสมควร เมื่อเทียบกับหลายๆ ฉากกักตัวและความโดดเดี่ยวที่ตัวละครเหล่านี้ต้องเผชิญบนแผ่นฟิล์ม งานนี้คัดลิสต์มาให้ดูแก้เซ็งกันหลากหลายรสชาติ เพื่อให้ได้ทั้งข้อคิดและความสนุกหรรษาไปพร้อมๆ กัน  1.Cast Away (2000) แนว : ดราม่า  เรื่องแรกที่ต้องอยู่ลิสต์เลย คือ Cast Away หนังติดเกาะเบอร์ต้นๆ ที่ทำให้นักแสดงดังอย่าง ทอม แฮงค์ส ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่ 73 ในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม กับบทพนักงาน FedEx ผู้ทุ่มเทที่ประสบเหตุเครื่องบินตก จนไปติดบนเกาะร้างเพียงลำพัง ในเรื่องจะได้เห็นฉากการเอาตัวรอด ที่ไหนจะต้องดิ้นรนหาอาหารมาประทังชีวิตอันแสนยากลำบาก ไปจนถึงการต่อสู้กับความโดดเดี่ยว เพราะต้องอยู่คนเดียวในเวลาหลายสิบปี จนต้องมโนเป็นเพื่อนกับลูกวอลเลย์บอล ตั้งชื่อว่า วิลสัน   บอกเลยว่าเรื่องนี้ต้องดูเอง บรรยากาศไม่ได้หดหู่อย่างที่คิด มีประเด็นให้ติดตามที่มาพร้อมกับฝีมือการแสดงขั้นเทพของ ทอม แฮงค์ส ที่สามารถตรึงคนดูไว้ได้ตลอดทั้งเรื่อง เรียกว่าทำเอาการกักตัวแบบคนเมืองอย่างเราๆ กลายเป็นเรื่องเด็กๆ ไปเลย ภาพ : […]Read More

มีดบินหลา

วรพจน์ พันธุ์พงศ์ ในวงข้าว ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ขณะบทสนทนากำลังออกรส ไหลลื่น เป็นคืนที่ดีคืนหนึ่ง โดยมิทันที่ใครจะคาดเดา จู่ๆ บินหลาก็คว้ากระเป๋าสะพายมาวางบนโต๊ะ แล้วล้วงเอามีดออกมาแจกขนาดไม่เท่ากัน แต่ได้รับของขวัญครบคน รู้สึกเขาจะบอกเล่าขนบอะไรสักอย่าง ทำนองว่า–ปกติคนไทยไม่ให้มีดกันหรอก แต่ผมไม่ถือเรื่องพวกนี้ ผมอยากให้พวกคุณผมนึกออกแล้ว มันเป็นคล้ายวันเลี้ยงส่ง เป็นคืนอำลา ตอนบินหลาจะวางมือ ส่งไม้ต่อให้ อุทิศ เหมะมูล รับช่วงบรรณาธิการ จึงชวนน้องๆ ทีมงานนิตยสาร WRITER มาเลี้ยง เลี้ยง และแจกมีดคนละเล่มทุกคนยิ้ม และลูบๆ คลำๆ สมบัติใหม่ของตน ยิ้มในอารมณ์ที่ผสมกันอยู่ ทั้งดีใจ แปลกใจ และตามใจ–ถ้าผู้ให้จะเอาแบบนี้ ก็โอเคสำหรับชายชื่อบินหลา คำว่าธรรมดาไม่มีหรอก ธรรมดามันธรรมดาไป จืด แห้งแล้ง ไร้สีสัน ไม่สนุก ผมได้มีดเล่มใหญ่สุด ความยาวราวสักหนึ่งฟุต ด้ามทำจากเขากวาง จับเหมาะมือ สัมผัสดี เรียกว่าจ้างช่างตีมาเป็นกรณีพิเศษผมชอบนะ แม้ว่านึกไม่ออกหรอกว่าจะเอาไปใช้อะไร “อยู่น่าน คุณน่าจะได้ใช้” บินหลามองมีดในมือผม เขาแฮปปี้เสมอ เวลาได้ทำอะไรให้ใคร […]Read More

อุกฤษ อุณหเลขกะ X เทคโนโลยี คือโอกาสแห่งคุณภาพชีวิต

เรื่อง : ตติยา แก้วจันทร์ ภาพ : พิชญุตม์ คชารักษ์ “คอมพิวเตอร์ที่อยู่ในจรวด ยังสู้คอมพิวเตอร์ในสมาร์ทโฟนสมัยนี้ไม่ได้เลย แสดงว่าอุปกรณ์ที่เรามีอยู่ในมือต้องทรงพลัง และมีประโยชน์มากๆ” คำพูดของชายหนุ่มแววตามุ่งมั่นตรงหน้าทำให้เราฟังแล้วต้องเหลือบมองเจ้าสมาร์ทโฟนหน้าจอสี่เหลี่ยมที่กลายเป็นปัจจัยที่ 5 ในชีวิตประจำวันของคนยุคนี้ นอกจากใช้เพื่อติดต่อสื่อสารและเสพความบันเทิงผ่านการดูหนัง ฟังเพลง และเล่นเกมแล้ว มันยังมีประสิทธิภาพในระดับที่ส่งคนไปดวงจันทร์ได้เลยหรือนี่! “ทำไมเราไม่ลองเปลี่ยน ‘เครื่องมือถือ’ เป็นเครื่องทำมาหากินแทนล่ะ” อุกฤษ อุณหเลขกะ หนุ่มรุ่นใหม่วัย 30 นิดๆ พูดขึ้นพร้อมกับเว้นจังหวะเงียบให้เราครุ่นคิด ก่อนจะพูดต่อว่า “นั่นคือมุมมองที่ทำให้ผมเริ่มต้นทำ Ricult” อุกฤษ อุณหเลขกะ ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง ‘Ricult’ (รีคัลท์) สตาร์ทอัพด้านเกษตรที่นำเทคโนโลยีสมัยใหม่ ภาพถ่ายดาวเทียม และ AI มาช่วยเกษตรกรในการวางแผนเพาะปลูกเพื่อลดความเสี่ยงจากสภาพอากาศ หวังให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มมากขึ้น ซีอีโอหนุ่มคนนี้โด่งดังบนโลกออนไลน์ในรอบปีที่ผ่านมา หลังเปิดเผยว่ายอมทิ้งเงินเดือนหลายแสนบาทในต่างแดน กลับมาเพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันในการช่วยเหลือเกษตรกรไทยในบ้านเกิด เขาเติบโตมาในครอบครัวทำธุรกิจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมเกษตรที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ชีวิตจึงคลุกคลีกับเกษตรกรในต่างจังหวัดตั้งแต่วัยเด็ก ศึกษาระดับปริญญาตรีที่สหรัฐอเมริกา และจบปริญญาโทด้านบริหารจากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเบอร์หนึ่งของโลก ก่อนจะทำงานเป็นที่ปรึกษาธุรกิจให้บริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งในสหรัฐอเมริกา “ตอนนั้นผมอยู่ในยุคที่ซิลิคอนแวลลีย์กำลังบูม เป็นยุค Digital Disruption […]Read More

ขายแบบไม่ขาย X ชนินทร์ เมธีวีรวงศ์

เรื่อง: ชัชฎาพร จุ้ยจั่น ภาพ: พิชญุตม์ คชารักษ์ ‘อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง’ เชื่อว่าประโยคนี้คงอยู่ในความคิดของคนทำงานประจำตั้งแต่ยุคแอนะล็อก มาถึงยุคดิจิทัลยิ่งทำให้ความต้องการที่จะเป็นเจ้าของกิจการมีมากขึ้น รวมไปถึงธุรกิจหรืองานที่สามารถทำให้คนเรามีอิสระในการใช้จ่าย สมัยก่อนเราเคยได้ยินคนเจ๋งๆ ตั้งเป้าเกษียณอายุตอน 50 ในอีกมุมหนึ่ง สมัยนี้เด็กรุ่นใหม่ก้าวมาเป็นเจ้าของกิจการโดยที่อายุไม่ถึง 20 ปี ไม่ต้องถามฝ่ายหลังว่าจะเกษียณอายุตอนอายุเท่าไร… 35 ปีหรือ? เพราะสมัยนี้การทำงานโดยนำระบบดิจิทัลเข้ามามีส่วนนั้น พวกเขาสามารถทำงานได้อย่างไร้ขีดจำกัดและอยากหยุดพักเมื่อไรก็ได้ สังเกตได้ว่าทุกวันนี้ คนเข้ามาทำธุรกิจออนไลน์มากขึ้น ไม่ใช่แค่การ Live ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียเท่านั้น แต่ยังนำเอาความรวดเร็ว และทันสมัยมามีส่วนช่วยในการทำธุรกิจค้าขายแบบออฟไลน์อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าที่เกิดจากออนไลน์ ก็ยังให้ความสำคัญกับระบบหน้าร้าน เพื่อให้ผู้บริโภคมีโอกาสได้สัมผัสของจริง ซึ่งการค้าขายทั้ง 2 แพลตฟอร์ม ย่อมต้องใช้กลยุทธ์ในการขายเพื่อความน่าเชื่อถือ แรงจูงใจให้อยากซื้อ จึงทำให้เมื่อไม่นานมานี้ GM สะดุดหูกับคำว่า ‘การขายแบบไม่ขาย’ กลยุทธ์เด็ดใจลูกค้าจาก ‘ชาญ-ชนินทร์ เมธีวีรวงศ์’ นักธุรกิจยุคดิจิทัล ผู้สร้างยูนิเวิลด์ดิจิทัลแพลตฟอร์ม อีกทั้งยังเป็นเจ้าของเพจ Chan Mete ที่ให้ความรู้และสร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้ที่อยากลงสู่สนามการตลาด โดยสร้างความเชื่อมั่น ดึงความชำนาญและศักยภาพของคุณออกมา “สมัยก่อนเราจะเจอนักขายพุ่งตรงเข้ามาแนะนำสินค้า โดยที่ลูกค้าไม่มีข้อมูลในหัว หรือเขารับรู้เกี่ยวกับสินค้านั้นน้อยมากจากป้ายโฆษณาหรือทางทีวี […]Read More

บูลด็อก Best Friend บนเรือนเวลา

. เพื่อนใกล้ตัวและเพื่อนคู่ใจใครหลายๆ คน อย่าง สุนัขบูลด็อก กลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้กับนาฬิการุ่นใหม่ของ MB&F ใน HM10 Bulldog  . จากความสัมพันธ์ระหว่างคนกับนาฬิกา ที่ดูๆ ไปแล้วก็คล้ายกับความสัมพันธ์ระหว่างคนและสุนัข ที่เรียกได้เลยว่าเป็น Man’s Best Friend วันนี้ MB&F จึงจับสองความสัมพันธ์สุดใกล้ชิดนี้มาใส่ไว้ในผลงานรุ่นล่าสุด อย่าง Horological Machine No.10 ‘Bulldog’ หรือ HM10 Bulldog ที่แน่นอนว่าทั้งหน้าตาและบุคลิกของนาฬิกาเรือนนี้สามารถถ่ายทอดความเป็น ‘Best Friend’ ได้ดีทีเดียว  .  มาเริ่มกันที่รูปร่างก่อน ที่รุ่นนี้เผยโฉมมากับรูปทรงตัวเรือนที่มีความกลมมน กะทัดรัด แบบสุนัขสายพันธุ์เล็ก แต่คล่องแคล่ว โดยทำมาจากไทเทเนียมหรือเรดโกลด์ จับคู่ด้วยส่วนที่เป็นคริสตัลแซฟไฟร์ พร้อมทั้งความเด่นของคู่ดวงตานูนทำจากอลูมิเนียมสำหรับแสดงเวลา เหมือนกับดวงตาที่กลอกไปมาและจ้องมองเราของเจ้าบูลด็อก ส่วนบนปลอกคอที่ยื่นออกมาทั้งสองด้านทำหน้าทีเสมือนเม็ดมะยมสำหรับไขลานเมนสปริงหรือปรับตั้งเวลา บวกด้วยการออกแบบหูเชื่อมสาย หรือ ‘ขา’ ของเจ้าบูลด็อกที่แม้จะดูอ้วนล่ำ แต่ก็ยืดหยุ่น ช่วยให้สายหนังวัวของรุ่นนี้สามารถโอบรับไปกับข้อมือได้อย่างสบายและคล่องตัว โดยสรุปแล้ว ส่วนสัดของเจ้า HM10 Bulldog เรือนนี้เท่ากับ […]Read More

ความปลอดภัยต้องมาก่อน!!! Family Mart จำกัดลูกค้าเข้าร้านครั้งละไม่เกิน 10 คน

ร้านสะดวกซื้อใกล้บ้านเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับลูกค้าที่ต้องการหลีกเลี่ยงการเดินทาง แฟมิลี่มาร์ท เปิดปฏิบัติการความพร้อมขั้นสุดเพื่อให้ลูกค้าทุกคนมั่นใจ แฟมิลี่มาร์ท คือ ร้านสะดวกซื้อปลอดภัยตลอดเวลาที่มาใช้บริการ โดยให้ความสำคัญกับวิธีปฏิบัติตามหลัก Social distancing เพื่อรักษาระยะห่างความปลอดภัยระหว่างลูกค้า รวมถึงการให้บริการแบบลดการสัมผัส แฟมิลี่มาร์ทจึงได้เพิ่มมาตรการใหม่ปกป้องลูกค้าและพนักงาน ดังนี้ จำกัดจำนวนลูกค้าที่เข้าใช้บริการครั้งละไม่เกิน 10 คน เพิ่มชั่วโมงทำความสะอาดพิเศษ ปิดร้านวันละ 1 ช.ม. ในเวลา 03.00-04.00 น. สำหรับสาขาที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง เพื่อทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรค นอกเหนือจากการทำความสะอาดตามปกติ แคชเชียร์ใช้ถาดขนาดเล็กสำหรับรับ -ส่งเงินกับลูกค้า และ ลูกค้าแจ้งหมายเลขสมาชิกเดอะวัน หรือแสดง QR Code จากแอปพลิเคชั่นเดอะวัน หรือ LINE @FamilyMartThailand แทนการกดปุ่มตัวเลขสะสมคะแนน  เพื่อสนับสนุนให้ลูกค้าช้อปปิ้งแบบไม่สัมผัส ขอความร่วมมือลูกค้าทั่วไป ให้ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และสตรีมีครรภ์ ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้ง่าย ชำระค่าสินค้าก่อน  ลูกค้าจะต้องสวมหน้ากากอนามัยก่อนเข้าร้านและตลอดเวลาที่ใช้บริการ การยกระดับปฏิบัติการด้านความปลอดภัยขั้นสุดของแฟมิลี่มาร์ท เพื่อร่วมมือกันยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อาจจะทำให้ลูกค้าไม่ได้รับความสะดวกสบายเหมือนในเวลาปกติ แต่ทั้งหมดคือสิ่งจำเป็นและจะต้องได้รับความร่วมมือจากลูกค้าที่มาใช้บริการ เราเชื่อว่าลูกค้าทุกท่านจะเข้าใจและให้ความร่วมมืออย่างเคร่งครัด เพราะมาตรการทั้งหมดเพื่อปกป้องลูกค้าทุกคนที่มาซื้อสินค้า ตลอดจนพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่ ให้ทุกคนช้อปปลอดภัยตลอดเวลาที่ร้านสะดวกซื้อแฟมิลี่มาร์ท นอกจากมาตรการเพิ่มเติมที่ได้ประกาศ แฟมิลี่มาร์ทให้ความสำคัญกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทุกสาขาทั่วประเทศและปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง พนักงานของแฟมิลี่มาร์ททุกคน ต้องตรวจวัดอุณหภูมิทุกวัน, สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาขณะปฏิบัติงาน และพนักงานที่ให้บริการลูกค้าบริเวณพื้นที่ขายให้สวมหน้ากากป้องกันสารคัดหลั่ง (Face Shield) มาตรฐานร้านแฟมิลี่มาร์ท สะดวกซื้อปลอดภัย ปลอดโควิด-19 จัดเตรียมเจลแอลกอฮอลล์ล้างมือที่บริเวณทางเข้า (ด้านในร้าน) และจุดแคชเชียร์, เพิ่มความถี่ทำความสะอาดทุกพื้นที่ด้วยแอลกอฮอล์ความเข้มข้นที่พื้นผิวอุปกรณ์ อาทิ ตู้ ATM, เครื่องชั่งน้ำหนัก, ตู้เติมเงินออนไลน์, ทำความสะอาดพื้นที่ภายในร้าน – หน้าร้าน และ สต็อคสินค้าด้วยน้ำยาทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค, ทำความสะอาดอุปกรณ์ภายในสาขาด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค อาทิ […]Read More

สื่อสารมวลชน…สื่อสารอะไร 5 ภาพยนตร์ปลุกพลังคนทำสื่อ

เรื่อง : ตติยา แก้วจันทร์ ก่อนอื่นขอพาคุณย้อนกลับไปในศตวรรษที่ 18 สมัยที่ยุโรปยังมีการแบ่งฐานันดรศักดิ์ในสังคมออกเป็น 3 ชนชั้น ประกอบด้วย ฐานันดรที่ 1 ใช้เรียกกษัตริย์ ผู้ปกครอง และขุนนาง ฐานันดรที่ 2 ใช้เรียกนักบวช ส่วนฐานันดรที่ 3 ใช้เรียกประชาชนทั่วไป โดยระหว่างการประชุมรัฐสภาวาระหนึ่ง มีนักการเมืองนาม ‘เอ็ดมันด์ เบอร์ค’ (Edmund Burke) ได้ลุกขึ้นเพื่ออภิปราย และชี้นิ้วไปทางกลุ่มนักหนังสือพิมพ์ที่กำลังร่วมนั่งฟังการประชุมอยู่ว่า “ในขณะที่พวกเราซึ่งกำลังประชุมกันอยู่ในรัฐสภาแห่งนี้ ล้วนเป็นหนึ่งในบรรดา 3 ฐานันดร บัดนี้ได้มีฐานันดรที่ 4 กำเนิดขึ้นแล้ว ซึ่งพวกเขากำลังนั่งฟังการประชุมอยู่ด้วย” นับจากนั้นเป็นต้นมา นักหนังสือพิมพ์จึงกลายเป็นฐานันดรที่ 4 หรือ The Fourth Estate โดยเป็นกลุ่มฐานันดรพิเศษที่มีสิทธิและเสรีภาพในการนำเสนอประเด็นทางสังคมและการเมืองต่อสาธารณะ ได้รับอภิสิทธิ์ในการเข้าไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อเก็บบันทึกข้อมูลและ นำสิ่งที่เกิดขึ้นไปถ่ายทอดให้ประชาชนได้รับรู้ ในปัจจุบันฐานันดรที่ 4 ไม่ได้หมายถึงนักหนังสือพิมพ์เพียงเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงบุคลากรอื่นๆ ในแวดวงสื่อสารมวลชน หรือที่เรียกรวมๆ ว่า […]Read More

ลิสบอน : ความทรงจำสีทองและการยึดครองโลก

เรื่อง : โตมร ศุขปรีชา 1 โรงแรมทิโวลีสีทอง ถนนที่ปูลาดด้วยหินบะซอลต์สีดำและหินปูนสีขาว โปสเตอร์เทศกาลปลาซาร์ดีนสีแดง รถรางขึ้นเขาสีทึม ดอกศรีตรังสีม่วง สนามกอล์ฟสีเขียว ฟองคลื่นแอตแลนติกสีขาว เป็นหลากสีละลานตาที่ฝังแน่นในความทรงจำเสมอ – เมื่อนึกถึงเมืองลิสบอน – เมืองหลวงของโปรตุเกส ใช่…เป็นลิสบอน – เมืองที่ว่ากันว่าฮิปที่สุดในปีที่ผ่านมา เจ้าของตำรับขนมสีส้มจัดราวทองคำที่ทำจากไข่แดงอย่างทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง และทาร์ตไข่ที่หลายคนคิดว่าเป็นของมาเก๊า เมืองของโปรตุเกส ประเทศที่เคยยึดครองครึ่งโลกร่วมกับสเปน โปรตุเกสที่เคยส่งทหารมาร่วมรบกับไทยตั้งแต่สมัยอยุธยา โปรตุเกสที่เคร่งศาสนาจนแม่พระมาประจักษ์ที่ฟาติมา และโปรตุเกสที่ว่ากันว่าเป็นเจ้าของรากของถ้อยคำมากมายในหลายภาษาทั่วโลก แท้จริงแล้ว ผมไม่ได้มาลิสบอนเพื่อสิ่งอื่นใด นอกจากมาขับรถเลาะเลียบไปตามถนนสายเล็กริมแอตแลนติก ลัดเลาะเข้าไปในหมู่บ้านเล็กๆ ตามชายฝั่งและที่แขวนตัวเองอยู่บนหน้าผาพร้อมกับดอกไม้ดอกจิ๋วหลากสีสันตัดกับสีครามเข้มของผืนน้ำโปรตุเกสและลิสบอน เส้นทางแสนสวยที่เต็มไปด้วยขนมแสนอร่อย ที่ฝังศพของวาสโกดากามา – นักเดินเรือผู้ยิ่งใหญ่ รถรางที่แล่นลัดขึ้นไปบนภูเขา และแม้แต่ความทรุดโทรมของบ้านเมืองที่เริ่มปรากฏเนื่องเพราะพิษเศรษฐกิจ แต่กระนั้นก็ยังหยิ่งทะนงด้วยประวัติศาสตร์เก่าแก่ที่กระซิบว่า,ครั้งหนึ่ง – เราเคยยึดครองโลก… 2 “ต้องการ ‘กาแฟ’ ไหม?” เขาถามเป็นภาษาอังกฤษ แต่ออกเสียง ‘กาแฟ’ ชัดเจนเป็น ‘กาแฟ’ ไม่ใช่ Coffee นี่คือมรดกแรกที่ได้รับรู้ มันคือมรดกทางภาษาที่โปรตุเกสถ่ายทอดไปทั่วโลก […]Read More