‘กบฏอินเซล’ ภยันตรายของผู้ชายไร้เซ็กซ์
Incel (Involuntary Celibacy) คือคำจำกัดความของกลุ่มคนซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพศชาย ที่ครองพรหมจรรย์อย่างไม่สมัครใจ เนื่องจากรู้สึกกันไปเองว่าไม่มีใครสนใจ ไม่มีใครพิศวาส รวมตัวขึ้นเป็นชุมชนผ่านช่องทางออนไลน์
Reasons to Read
- Incel (Involuntary Celibacy) คือคำจำกัดความของกลุ่มคนซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพศชาย ที่ครองพรหมจรรย์อย่างไม่สมัครใจ เนื่องจากรู้สึกกันไปเองว่าไม่มีใครสนใจ ไม่มีใครพิศวาส รวมตัวขึ้นเป็นชุมชนผ่านช่องทางออนไลน์
- อินเซลมีแนวคิดต่อต้าน เป็นปฏิปักษ์ต่อสังคม ‘ปกติ’ จนถึงขนาดมีความคิดที่จะโค่นทำลาย
“ผู้หญิงแสดงความเสน่หา ความรัก หรือแม้กระทั่งมีเซ็กซ์กับผู้ชายคนอื่นๆ แต่ไม่เคยมีกับผม ผมอายุยี่สิบสองปี ยังโสดและพรหมจรรย์ ผมไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมพวกเธอถึงไม่รู้สึกอะไรกับผม แต่พวกเธอจะได้รับการลงโทษอย่างสาสม”
นั่นคือคำแถลงของ เอลเลียต ร็อดเจอร์ (Elliot Rodger) ที่บันทึกไว้และโพสต์ลงในยูทูบ คล้ายกันกับแถลงการณ์กว่า 100 หน้าใน Twisted World – โลกที่บิดเบี้ยวของเขา ก่อนที่เขาจะลงมือสังหารผู้คนในอิสลา วิสตา บริเวณใกล้มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2014 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 คน บาดเจ็บอีก 14 คน และสุดท้ายหลังจากยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เขาก็เลือกจบชีวิตด้วยกระสุนปืนของตนเอง
หรือกรณีคล้ายกันซึ่งเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว อเล็ก มินาสเซียน (Alek Minassian) โพสต์ความในใจลงในเฟซบุ๊กเป็นข้อความสั้นๆ ไม่เกินสี่บรรทัด ก่อนขับรถแวนเข้าไปบนถนนสายพลุกพล่านของโทรอนโต พุ่งชนผู้คนที่กำลังเดินขวักไขว่ เสียชีวิต 10 คน และบาดเจ็บอีก 13 คน
ก่อนหน้านั้นมินาสเซียน ในฐานะ ‘ทหาร’ เคยโพสต์ถึง ‘ผู้บัญชาการ’ ในกระดานข้อความของ 4chan ว่า‘กบฏอินเซล ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว’
Incel (Involuntary Celibacy) เป็นชุมชนในเว็บบอร์ด 4chan และในเว็บไซต์ต่างๆ อย่างเช่น reddit.com มันเป็นคำจำกัดความของกลุ่มคนซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพศชาย ที่ครองพรหมจรรย์อย่างไม่สมัครใจ เนื่องจากรู้สึกกันไปเองว่าไม่มีใครสนใจ ไม่มีใครพิศวาส อาจเพราะรูปลักษณ์ที่ไม่ต้องตา ตัวอ้วน ดำ ซีด หรือเตี้ย พวกเขาเข้าไประบายความในใจในสังคมออนไลน์ กระทั่งได้แนวร่วมรวมตัวขึ้นเป็นชุมชน ก่อนที่ reddit จะปิดพื้นที่แสดงความเห็นของพวกเขา ตามรายงานข่าวแจ้งว่ามีสมาชิกกลุ่มอินเซลอยู่ราว 40,000 คน
อินเซลมีแนวคิดต่อต้านสังคม ‘ปกติ’ (ที่พวกเขาเรียกว่า Normies) ศัตรูของพวกเขามีชื่อเรียกชัดเจน คือ ‘สเตซี’ (Stacy) ผู้หญิงที่อินเซลไม่ได้แอ้ม และ ‘แชด’ (Chad) ผู้ชายที่พรากผู้หญิงไปจากพวกเขา อินเซลรู้สึกเป็นปฏิปักษ์ต่อสังคมปกติจนถึงขนาดมีความคิดที่จะโค่นทำลาย อย่างที่ อเล็ก มินาสเซียน เคยโพสต์บอกในเฟซบุ๊กของเขา ‘We will overthrow all the Chads and Stacys!’ (เราจะล้มล้างพวกแชดและสเตซีให้สิ้นซาก)
ต้นกำเนิดของความเชื่อเหล่านี้เชื่อมโยงกับ วงโคจรของมหาวิทยาลัยในอเมริกา มันเคยถูกบอกเล่าผ่านหนังหรือซีรีส์นับครั้งไม่ถ้วน บ่อยครั้งเป็นภาพเด็กเนิร์ดในไฮสกูล ไม่มีใครคบ ผู้หญิงไม่สนใจ เก็บตัว เก็บกดอยู่คนเดียว และพร้อมที่จะระเบิดอารมณ์ความชั่วร้ายในตัวออกมาทุกขณะ ถึงกระนั้นก็มีเด็กเนิร์ดบางคนที่สามารถเปลี่ยนตัวเองกลายเป็นผู้นำสังคมได้ อย่าง มาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก หรือ เจฟฟ์ เบซอส
สังคมมหาวิทยาลัยเปรียบเสมือนตลาดเนื้อคู่ ที่ไม่เพียงแต่เปิดโอกาสให้เจอคู่ครองในอนาคตเท่านั้น หากยังรวมถึงประสบการณ์ทางเพศที่ใครๆ สามารถเรียนรู้ แต่สำหรับบรรดาเนิร์ดแล้ว พวกเขาแทบไม่มีพื้นที่หรือมีส่วนร่วมในตลาดเสรีนั้น ทำให้พวกเขารู้สึกด้อยค่า และไม่มีความสุขที่จะอยู่ร่วมกับสังคมที่เรียกว่า ‘ปกติ’
ความช่วยเหลือ การเยียวยาด้านจิตใจที่พวกเขาเหล่านี้ต้องการ แม้แต่ในชุมชนอินเซล-ที่พวกเขาเป็นส่วนหนึ่ง-กลับไม่มี อินเซลใช้พื้นที่สาธารณะเพียงเพื่อระบายความในใจส่วนตัว หรือไม่ก็ชื่นชมบุคคลที่ล้มล้างสังคมปกติได้สำเร็จ
และ เอลเลียต ร็อดเจอร์ ก็เป็นหนึ่งที่สังคมอินเซลยกย่องเป็น ‘วีรบุรุษ’
วันที่ 23 พฤษภาคม 2014 เอลเลียต ร็อดเจอร์ หนุ่มวัย 22 ปีจากซานตา บาร์บารา บันทึกวิดีโอตนเอง เขาวางกล้องไว้บนคอนโซลหน้ารถ BMW ของเขา และนั่งที่หลังพวงมาลัย
“นี่เป็นการบันทึกวิดีโอครั้งสุดท้ายของผม พรุ่งนี้จะเป็นวันแห่งการตอบแทน วันที่ผมจะได้ลิ้มรสกับการลงโทษมนุษยชาติ ชีวิตของผมตลอดแปดปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ผมเริ่มโตเป็นหนุ่ม ผมต้องทนกับการถูกบีบบังคับให้จมอยู่กับความโดดเดี่ยว ต้องพบเจอกับการถูกปฏิเสธและความปรารถนาที่ไม่บรรลุผล ทั้งหมดเพียงเพราะพวกผู้หญิงไม่สนใจ ไม่เสน่หาในตัวผม ตลอดหลายปีที่ผ่านมาผมรู้สึกแย่กับความโดดเดี่ยว…”
บางคราวจะเห็นร็อดเจอร์ยิ้มหัวให้กับกล้อง เขาเป็นคนหนุ่มหน้าตาไม่ขี้เหร่ ผมหยักศกสีดำ ฟันสีขาว มองผ่านกระจกหน้าต่างรถออกไปยังเห็นแถวทิวของต้นปาล์มที่ด้านนอก
ไม่นานหลังจากนั้น ร็อดเจอร์ก็ฆ่าเพื่อนนักศึกษาสามคนในที่พัก ก่อนหยิบอาวุธปืน Sig Sauer P226 และ Glock 34 ออกมาติดตัว ขับรถมุ่งหน้าไปยังอิสลา วิสตา จอดรถแล้วเดินลงไปเคาะประตูหอพักหญิง ไม่มีใครเปิดรับ เขาเดินต่อไปและยิงนักศึกษาหญิงสองคนระหว่างทาง จนไปถึงซุ้มอาหารริมถนน เขาก็ยิงลูกค้าที่หน้าร้านอีกหนึ่งคน จากนั้นก้าวขึ้นรถ ขับไปบนถนนผ่านเมือง ลั่นไกปืนใส่ผู้คนริมถนน ทำให้มีผู้บาดเจ็บอีก 13 ราย
หลังจาก เอลเลียต ร็อดเจอร์ เสียชีวิต มีคนพบบันทึก 137 หน้าของเขา ในนั้นมีบางประโยคเขียนบอกว่า “ผู้หญิงเป็นเหมือนกาฬโรค เป็นเหมือนสัตว์ที่ถูกควบคุมโดยความรู้สึกดั้งเดิม และสัญชาตญาณที่เสื่อมโทรมอย่างสมบูรณ์”
