fbpx

อ้างกลัวคอร์รัปชันจึงไม่กล้าทำหน้าที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เตือนนักการเมืองอย่าเอาแต่กินไปวันๆ

นโยบายกวาดล้างการคอร์รัปชันของ สี จิ้นผิง ทำให้มีเจ้าหน้าที่และนักการเมืองถูกลงโทษกว่า 1 ล้านคน ซึ่งผลที่ตามมาคือ ประเทศจีนมีประชากรยากไร้ลดลงถึง 12 ล้านคน! ปัจจุบันประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ ดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุดของจีนมานานกว่า 7 ปีแล้ว และการกุมอำนาจปกครองประเทศจีนด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ ที่หลายต่อหลายประเทศต่อต้าน ก็ดูเหมือนจะไม่ใช่ปัญหาร้ายแรงสำหรับจีนเสียเท่าไหร่ อาจด้วยความเอาจริงเอาจังของ สี จิ้นผิง ในเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อชาติ จนทำให้ประเทศจีนพัฒนาเทียบชั้นประเทศผู้นำโลกได้สำเร็จ

และครั้งนี้ก็เช่นกัน แม้จะไม่ใช่นโยบายเกี่ยวกับเศรษฐกิจหรือการผูกมิตรระหว่างประเทศ ทว่านโยบายต่อต้านคอร์รัปชันที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ให้ความสำคัญอย่างจริงจัง ก็ดูเหมือนจะส่งผลดีต่อจีนอย่างเกินคาด

ในการประชุมผู้นำเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวเตือนเจ้าหน้าที่และนักการเมืองว่า นักการเมืองทุกคนต้องไม่ใช้นโยบายต่อต้านคอร์รัปชันเป็นข้ออ้างในการละเลยหน้าที่ หรือหลีกเลี่ยงการตัดสินใจที่ยากลำบาก ก่อนเสริมอีกว่า “เจ้าหน้าที่ทุกคนควรสร้างมาตรฐานแก่การบริหารประเทศยุคใหม่ และตรวจสอบให้มั่นใจว่าไม่มีใครทำงานที่ไร้ประโยชน์ หรืออยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไรเลยนอกจากกินไปวันๆ หรือมีคนขี้เกียจไม่ตั้งใจทำงาน”

การกล่าวเตือนเช่นนี้เป็นไปได้ว่า มีนักการเมืองละเลยหน้าที่เนื่องจากกลัวการตัดสินใจผิดพลาด หรือเกิดการคอร์รัปชันจนกลัวว่าต้องมีส่วนในการรับผิดชอบ เนื่องจากนับตั้งแต่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ขึ้นดำรงตำแหน่ง ก็มีการกวาดล้างการคอร์รัปชันอย่างจริงจังไม่ว่าจะเป็นผู้มีอิทธิพลมากหรือน้อยแค่ไหนก็ตาม ทำให้มีเจ้าหน้าที่และนักการเมืองกว่า 1 ล้านคนที่ถูกลงโทษ ซึ่งผลกระทบที่ตามมาหลังปราบคอร์รัปชันก็คือ ภายในระยะเวลา 4 ปี ประเทศจีนมีประชากรยากไร้ลดลงถึง 12 ล้านคน!

“เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องทำการตัดสินใจแม้จะยากลำบาก โดยคงไว้ซึ่งความซื่อสัตย์ มีความรับผิดชอบ และทุ่มเทกับการทำงาน” ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวในที่ประชุม และเน้นย้ำอีกว่าอย่าใช้นโยบายต่อต้านคอร์รัปชันเป็นข้ออ้าง พวกคุณต้องกล้าหาญแม้จะเจองานหินก็ตาม

Digiqole ad

บทความที่น่าสนใจ