Wendays ผ้าอนามัยย่อยสลายได้ นวัตกรรมเพื่อผู้หญิง เพื่อโลก
WENDAYS คือชื่อของผลิตภัณฑ์แผ่นอนามัยและผ้าอนามัยที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้หญิง มุ่งเน้นความอ่อนโยน กระชับรับสรีระร่างกาย ทำให้ผู้หญิงมั่นใจในการใช้ชีวิตมากขึ้น ความแตกต่างที่ครองใจลูกค้าคือการเป็นผลิตภัณฑ์รักษ์โลก เลือกใช้วัตถุดิบที่ปราศจากสารอันตรายและปราศจากการย้อมสี ตัวบรรจุภัณฑ์ที่ปลอดภัย และบางส่วนสามารถนำไปย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ เป็นนวัตกรรมที่คิดค้นโดย เหวิน-ชวิศา เฉิน ซึ่ง ณ วันนี้ต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ Wendays ProViotic อาหารเสริม ชนิดแคปซูลสำหรับช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน และปรับสมดุลภายในร่างกาย รวมทั้งแอปพลิเคชัน Talk to Peach ที่ปรึกษาเรื่องเพศออนไลน์ กับนักเพศวิทยา แบบไม่เปิดเผยตัวตน
“ก่อนหน้านี้คือไม่ได้คิดว่าจะมาเป็นสตาร์ทอัพ ไม่ใช่ความฝัน แค่รู้สึกว่าทุกอย่างถึงเวลาพอดี ก็ทำงานเหมือนคนอื่นๆ ทั่วไป เคยทำดิจิทัล เอเจนซี่ ทำในส่วนของดิจิทัล มาร์เกตติ้ง แล้วก็เริ่มมาเป็นผู้จัดการโครงการ มีโอกาสได้ทำงานกับพี่ๆ ที่เป็นเจ้าของสตาร์ทอัพ ทำให้เหวินได้เห็นคนที่ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง เราเห็นการต่อสู้ดิ้นรนของพวกเขา ว่ายากแค่ไหนพวกเขาก็ไปต่อ เหมือนแรงบันดาลใจที่ถูกส่งมาเรื่อยๆ เป็นเชื้อเพลิง เป็นพลังที่เราสั่งสมและซึมซับมาตลอด พอโควิด-19 ถึงจุดเปลี่ยน บริษัทที่เราทำงานปิดตัวลง เราต้องมาเลือกแล้วว่าเราจะไปทำงานที่ไหนดี ทำตามความฝันที่เรามีปัญหาเรื่องนี้ ที่เราอยากจะแก้ไขดี ก็เป็นจุดที่กระตุ้นเราว่า เธอต้องทำแล้วนะเหวิน ถ้าไม่ทำตอนนี้ทำตอนไหน ถ้าเรามัวแต่รอแล้วใครจะแก้ปัญหานี้ ถ้าเป็นเราเป็นคนแก้ได้ไหม”
แก้ปัญหาให้ตัวเองสู่การแก้ปัญหาให้ผู้อื่น
จากเรื่องส่วนตัวที่เกือบจะเป็นความลับหรือแม้กระทั่งสำหรับบางคนนี่คือเรื่องที่น่าอาย ชวิศา พลิกมุมมองนำปัญหาทั้งหมดมาค้นคว้า เจาะลึก แล้วหาวิธีแก้ไข จากวันนั้นถึงวันนี้การลงมือทำของเธอไม่ใช่แค่เพื่อตัวเองเท่านั้น แต่มีประโยชน์ต่อผู้หญิงและโลกใบนี้อย่างมหาศาล
“จุดเริ่มต้นคือ แพ้ผ้าอนามัยที่มีอยู่ในตลาด สุดท้ายต้องเข้าโรงพยาบาล คุณหมอก็บอกว่าน่าจะเป็นการแพ้ผ้าอนามัย แต่บอกไม่ได้ว่าแพ้สารตัวไหน หมอให้เราสังเกตตัวเอง เพราะคนเราแพ้ได้จากหลายอย่างมาก วัสดุที่เป็นท็อปชีต กาว น้ำหอม หรือสารเคมีอื่นๆ เช่น ความเย็น กลิ่น สมุนไพร
ประกอบกับเหวินโชคดีด้วยที่ได้ไปทำงานต่างประเทศ ก็เลยเริ่มไปสะสมผ้าอนามัยค่ะ เก็บมาเรื่อยๆ ห้าสิบ หกสิบแบรนด์ เพื่อที่จะมาดูว่าแบบไหนที่เราใส่แล้วเราไม่แพ้ สุดท้ายก็มาค้นพบว่า การที่เราใช้อะไรที่เป็นออร์แกนิค ที่มาจากธรรมชาติทำให้เราไม่มีการแพ้เลย หลังจากนั้นก็หาข้อมูลเพิ่มเติมเลยพบว่าจริงๆ แล้วคนอื่นก็แพ้ แต่สามารถแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม หนึ่ง แพ้แล้วอดทน เพราะว่าไม่รู้จะบอกใคร เป็นเรื่องที่เรามองว่าเป็นเรื่องน่าอาย สอง ไม่รู้ตัว เพราะไม่มีข้อมูล ไม่เคยมีใครมาบอกในเรื่องนี้ ทั้งหมดนี้ก็เลยทำให้เป็นจุดเริ่มต้นที่ได้มาทำผ้าอนามัยออร์แกนิคที่ย่อยสลายได้ เพราะว่าเราใช้วัสดุจากธรรมชาติที่อ่อนโยน สามารถย่อยสลายได้ภายใน 6-12 เดือน เมื่อเทียบกับผ้าอนามัยในตลาดก็จะ ประมาณ 500-800 ปี”
สร้างความมั่นใจด้วยข้อมูลที่น่าเชื่อถือ
แม้จะเริ่มต้นจากความไม่มั่นใจขนาดนั้น แต่จากการเก็บข้อมูล การสัมภาษณ์ทั้งบุคคลทั่วไปและหมอสูติเวช การโพสต์ตามกลุ่มต่างๆ ในเฟซบุ๊ก การค้นหาข้อมูลจากเว็บบอร์ดต่างๆ แล้วเข้าสู่กระบวนการขายด้วยการเปิดรับพรีออเดอร์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว ผลตอบรับจำนวนหลายร้อยคนเป็นกุญแจสำคัญที่สร้างความเชื่อมั่นให้ชวิศาว่าหนทางที่เธอเลือกคงไม่มืดมนนัก
“เหวินทำการบ้าน สัมภาษณ์คนจำนวนมาก คุยกับคุณหมอซึ่งทำให้ได้ข้อมูลที่น่าสนใจว่า ในทุกๆ วันมีคนมาหาเนื่องจากแพ้ผ้าอนามัยเยอะมากแต่ไม่รู้ว่าตัวเองแพ้ผ้าอนามัย อย่างน้อยหนึ่งถึงสองคนทุกวัน ซึ่งก็พิสูจน์ได้ว่า ผู้หญิงที่มีปัญหาเรื่องนี้ มีอีกเยอะ ตอนเริ่มต้นก็ไม่มั่นใจนักแต่พอไปโพสต์ในเฟซบุ๊กแล้วมีออเดอร์เข้ามานับร้อยก็ทำให้มั่นใจมากขึ้นว่าคนที่มีปัญหาเรื่องนี้น่าจะมีจำนวนเยอะพอสมควร
หลังจากตัดสินใจทำผ้าอนามัยออร์แกนิคแล้ว เหวินก็พยายามพัฒนาผลิตภัณฑ์อยู่เสมอ อย่างผ้าอนามัยก็ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับทุกคนอยู่แล้ว เพราะทุกคนสรีระไม่เหมือนกัน แต่ก็พยามจะออกแบบให้ครอบคลุมมากที่สุด ตอนนี้ก็เลยออกแบบกางเกงในอนามัยที่สามารถใส่คู่กับผ้าอนามัยได้ เพื่อป้องกันการซึมเปื้อนการเลอะ ผลิตภัณฑ์ต่อมาที่เราทำ คือ Probiotic เพื่อปรับสมดุลให้ช่องคลอด ไม่ให้ตกขาวมีกลิ่น รวมถึงสามารถช่วยลดอาการอักเสบต่างๆ ได้ ถ้ารับประทานในระยะยาว จะมีส่วนช่วยในการลดการป่วยประจำเดือน หรือว่าการปวดต่างๆ ในช่องคลอดหรือว่ามดลูก หลังจากนั้น ก็เริ่มมีลูกค้าทักมาถามเรื่องสุขภาพทางเพศเยอะมาก เรารู้สึกว่า เป็นความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่มาก พอถึงจุดนึงเหวินก็ต้องไปเรียนต่อไปหาความรู้เพิ่มเติม ตอนนี้ก็เลยต่อยอดออกมาเป็นอีกบริษัทหนึ่ง คือเป็นแอปที่รับปรึกษาปัญหาสุขภาพเพศโดยที่ไม่ต้องระบุตัวตน ชื่อว่า Talk to Peach แอปนี้ออกแบบมาเพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงนักเพศวิทยาและหมอได้มากยิ่งขึ้น”
Mindset ที่ไม่ยอมแพ้
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งมาอยู่ตรงจุดนี้ได้ นอกเหนือจากตัวเธอเองแล้วคือแรงผลักดันและแรงสนับสนุนจากคนรอบข้างที่แข็งแกร่งเป็นเหมือนฐานรากที่แน่นหนาทำให้เธอยืนหยัดต่อสู้ได้อย่างมีทิศทาง และการที่เธอรู้ลึกรู้จริงในสิ่งที่เธอทำ ไม่ใช่เพียงการทำตามกระแส หรือทำตามๆ ผู้อื่น นอกจากนั้นแล้ว เหนืออื่นใดทั้งหมดทั้งมวลที่เธอยังคงอยู่ในเส้นทางสตาร์ทอัพอันแสนยาวไกลนี้คือ ทัศนคติแบบบวกเท่านั้น
“ทั้งหมดนี้น่าจะเป็น Mind Set มากกว่า เหวินไม่ยอมแพ้ ถึงแม้จะเจอความท้าทายหรือปัญหา ก็พยายามจะหาทางไปต่อ ไม่ใช่ว่า ทุกวันมีปัญหาก็บอกตัวเองว่าไม่ทำแล้วดีกว่า หรือว่าพอแล้วดีกว่า แต่ เหวินพยายามจะมอง ว่าตรงไหนเหวินทำได้ ตรงไหนที่มีโอกาส มีตรงไหนที่ยังไม่ได้ถูกตอบโจทย์ การที่พยายามแล้วก็ไม่ยอมแพ้มากกว่า แต่ถามว่าสำเร็จไหมก็ยังไม่ถึงจุดที่เราอยากจะไป ทั้งหมดตอนนี้ไม่ใช่แก้เพื่อปัญหาตัวเอง แต่คือแก้เพื่อคนอื่น เพื่อสังคม จะได้อะไรดีๆ จากสิ่งที่เหวินทำ เหวินตอบตัวเองได้ว่าสิ่งที่เหวินทำจะดีต่อสังคม ต่อโลกนี้ยังไง
เจ้าของสตาร์ทอัพส่วนใหญ่มองถึงสิ่งที่ใหญ่กว่าตัวเอง เรามองถึงทีมงาน เรามองถึงสิ่งที่เรากำลังจะส่งมอบให้กับสังคมเราก็เลยรู้สึกว่า เราต้องลุกขึ้นมาทำ ความท้าทายเดียวของเหวินและผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพทุกคนที่คุยมา คือ ตัวเอง เราจะไปต่อไหม การที่เราอยากจะทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ถูกแล้วที่จะต้องยากมากๆ ไม่งั้นใครๆ ก็ทำแล้ว ไม่ต้องเป็นเราก็ได้”
รายละเอียดเพิ่มเติม :
https://www.facebook.com/wendays.co/
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งในโครงการ Startup Thailand Marketplace ของสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)