ชีวิตนี้บอกให้รู้ว่า ….. จงมอบความเมตตาและการให้อภัย โดยไม่ต้องมีเหตุผล ข้อแม้ และเงื่อนไข ของผู้หญิงเก่ง ไข่มุก ชุติมา ดุรงค์เดช
เรื่อง: ชุติมา ดุรงค์เดช
ผู้อำนวยการสื่อสารและดูแลภาพลักษณ์องค์กร บริษัท มาซูม่า (ประเทศไทย) จำกัด
“จงมอบ ความเมตตา และ การให้อภัย กับทุกคน โดย ไม่ต้อง มีเหตุผล ไม่ต้องมีข้อแม้ และไม่ต้องมีเงื่อนไข”
นี่คือสิ่งที่ชีวิตนี้ได้บอกกับมุกค่ะ หรือถ้าจะบอกให้ชัดเจนขึ้นไปอีกนั่นก็คือสิ่งที่มุกได้เรียรรู้จากชีวิตนั้่นเอง เพราะ ถ้าเราสามารถมอบ ความเมตตา การให้อภัย กับทุกๆ คนที่ทำร้ายเรา รวมถึงทุกเหตุการณ์ที่ไม่ดีซึ่งเกิดขึ้นในชีวิตของเราได้นั้น จะทำให้ตัวเราไม่ต้องอยู่กับอารมณ์ลบหรือสะสมอารมณ์ที่ไม่ดีในใจของตัวเอง ซึ่งถ้าทำได้อารมณ์ในจิตใจก็จะมีแต่ความสงบและเบาสบาย สุดท้ายแล้วก็จะส่งผลดีต่อตัวเราเองโดยตรงค่ะ
และ ถ้าสามารถมอบความเมตตา การให้อภัย กับทุกๆ คนที่ทำร้ายเราและทุกเหตุการณ์ที่ไม่ดีในชีวิตเราได้นั้น
ก็เป็นการแสดงให้ตัวของเราเองได้เห็นว่า “เราเป็นผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่ เป็นคนที่ใจทรงพลัง เป็นคนที่ดีกว่าผู้ที่ทำร้ายเรา และตัวเราเองเป็นมนุษย์ที่มีระดับจิตใจดีกว่าคนที่ทำร้ายเราอีกด้วย
ทั้งนี้ การให้อภัยเวลาที่อยู่ในสถานะเป็นผู้ถูกกระทำนั้นเป็นสิ่งที่ยากมากๆ ยิ่งการให้อภัยกับคนที่ไม่คู่ควรกับการให้อภัย หรือการให้อภัยกับคนที่ไม่ได้สำนึกผิด หรือคิดจะกล่าวขอโทษเมื่อรู้ว่าผิดนั้น ยิ่งเป็นสิ่งที่ยากมากที่สุด
แต่…เป็นสิ่งที่สามารถทำได้และสร้างให้เกิดขึ้นได้ ด้วย “ความเข้าใจ“
เพราะ…ความเช้าใจนี่เองที่เป็นดั่งการสร้างอิสรภาพทางใจให้กับตัวเราเอง ซึ่งอิสรภาพทางใจนั้นเป็นของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่ดีที่สุด ที่สามารถสร้างได้ด้วยตัวเองให้กับตัวเราเอง
มุกชอบคำสอนของบาทหลวง ชาร์ลส์ อาร์. สวินโดลล์ (Charles R. Swindoll) ที่ท่านเคยกล่าวไว้ว่า
“Life is 10% what happens to you and 90% how you react to it. .”
“ชีวิตของคนเรา 10% คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเรา และอีก90%คือรูปแบบที่เราตอบสนองต่อคนอื่นและสถานการณ์นั้นนั้น”
และมุกชอบคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ท่านเคยกล่าวไว้ในโลณกสูตร, อังคุตตรนิกาย ติกนิกาย, เล่ม 34 หน้า 492 ใจความว่า
“อุปมาการสร้างบุญเสมือนน้ำจืด และการทำบาปอุปมาเสมือนน้ำเกลือ เมื่อเราทำบาป บาปนั้นก็ติดตัวเราไป ไม่สูญหายไปไหน ไม่มีใครไถ่แทนได้ ฉะนั้นจะต้องหมั่นสร้างบุญกุศลให้มาก เพื่อมาเจือจางบาปให้หมดฤทธิ์ลงไปให้ได้ อุปมาเหมือนเกลือกับน้ำในแม่น้ำ แม้เกลือจะยังมีอยู่ไม่ได้สูญหายไปไหน แต่ก็ไม่มีผล“
ดังนั้นไม่ว่าใครจะมาร้ายแค่ไหนหรือสถานการณ์จะเลวร้ายขนาดไหน ก็ไม่ควรเติมน้ำเกลือและไม่ควรสวนกลับเพียงแต่ก้าวออกห่างจากคนพาล ตรวจสอบศีล5ของเราว่าครบถ้วนไหม และใช้โอกาสนี้ สร้างบุญใหญ่คือการให้อภัย ใช้โอกาสนี้สร้างของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่ดีที่สุดให้กับตัวเราเอง
เพราะนั้่นคือสิ่งตัวเราเองสามารถสร้างได้ด้วยตัวเอง ให้กับตัวอง ซึ่งเป็นการหยุดให้คุณค่ากับคนหรือเหตุการณ์หรือสถานการณ์แย่ๆ อีกต่อไป
การให้อภัยด้วยความเข้าใจในสัจธรรม (เจอดีก็ย่อมต้องเจอชั่วเช่นกัน) และด้วยความรักในการสร้างอิสรภาพทางใจให้กับตัวเราเอง ทั้งหมดนี้ คือ สิ่งที่ชีวิตนี้บอกกับมุกค่ะ ว่า “การมอบความเมตตาและการให้อภัยกับทุกคน โดยไม่ต้องมีเหตุผล ไม่ต้องมีข้อแม้ และไม่ต้องมีเงื่อนไข ก็จะสามารถเกิดขึ้นได้แน่นอน“
สุดท้ายนี้มุกหวังว่าข้อความนี้จะสามารถสร้างความสงบในใจให้กับผู้อ่านได้นะคะ