ตามรอยพระพุทธเจ้าอีกครั้ง ในสารคดีทรงคุณค่า ไตรปิฎกคำสอนมีชีวิต
‘ชนินทร์ ชมะโชติ’ ซีอีโอบริษัท Documania ผู้ผลิตงานสารคดีมานานกว่า 35 ปี เกี่ยวกับสารคดีชุดล่าสุด ‘ตามรอยพระพุทธเจ้า 2 ไตรปิฎกคำสอนมีชีวิต’ ที่จะพาเราไปเปิดโลกของศาสนาพุทธใน 15 ประเทศ พร้อมชวนตั้งคำถามกับตัวเองว่า เรารู้จักศาสนาพุทธดีแค่ไหน?
Reasons to Read
- สมัยหนึ่งพระเจ้าอโศกมาปกครองแคว้นมคธ เป็นยุคที่ศาสนาพุทธแพร่กระจายไปทั่วชมพูทวีป ความอยากรู้ว่าพระเจ้าอโศกเผยแผ่ศาสนาพุทธไป 9 สายนั้นไปไหนและเป็นอย่างไรบ้าง เป็นจุดเริ่มต้นของสารคดี ‘ตามรอยพระพุทธเจ้า 2 ไตรปิฎกคำสอนมีชีวิต’
- บทสัมภาษณ์ ‘ชนินทร์ ชมะโชติ’ ซีอีโอบริษัท Documania ผู้ผลิตงานสารคดีมานานกว่า 35 ปี เกี่ยวกับสารคดีชุดล่าสุด ‘ตามรอยพระพุทธเจ้า 2 ไตรปิฎกคำสอนมีชีวิต’ ที่จะพาเราไปเปิดโลกของศาสนาพุทธใน 15 ประเทศ พร้อมชวนตั้งคำถามกับตัวเองว่า เรารู้จักศาสนาพุทธดีแค่ไหน?
คุณเข้าวัดเพื่ออะไร? เชื่อว่าการเข้าวัดของคนไทยจำนวนไม่น้อยถูกผูกติดเข้ากับการทำบุญ และที่เราทำบุญไปก็เพื่อหวังความเป็นสิริมงคล หวังว่าชีวิตจะดีขึ้นจากการทำบุญ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่ออย่างแรงกล้าที่เรามีต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่จับต้องไม่ได้และขัดกับแก่นแท้ของศาสนาพุทธ
GM Live ได้พูดคุยกับ ‘ชนินทร์ ชมะโชติ’ CEO บริษัท Documania ผู้ผลิตงานสารคดีมานานกว่า 35 ปี เกี่ยวกับสารคดีชุดล่าสุด ‘ตามรอยพระพุทธเจ้า 2 ไตรปิฏกคำสอนมีชีวิต’ ที่จะพาเราไปเปิดโลกของศาสนาพุทธใน 15 ประเทศ ให้เราได้เห็นถึงวิถีพุทธที่มีอยู่ทั่วทุกมุมโลก พร้อมชวนตั้งคำถามกับตัวเองว่า เรารู้จักศาสนาพุทธดีแค่ไหน? เราเป็นชาวพุทธแบบไหน?
GM Live : ความเป็นมาของสารคดี ตามรอยพระพุทธเจ้า 2 หลังจากสารคดีภาคแรกออกฉายเมื่อ 13 ปีที่แล้ว
ชนินทร์: เมื่อ 13 ปีก่อน เราผลิตรายการสารคดี ตามรอยพระพุทธเจ้า ภาคแรก โดยพูดถึงศาสนาพุทธในอินเดียเป็นหลัก มาภาค 2 เราจะจับประเด็นหลังจากที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว สมัยหนึ่งพระเจ้าอโศกมหาราชปกครองแคว้นมคธ เป็นยุคที่ศาสนาพุทธแพร่กระจายไปทั่วชมพูทวีป ก็อยากรู้ว่าที่พระเจ้าอโศกเผยแผ่ศาสนาพุทธไป 9 สายนั้นไปไหนบ้าง เป็นจุดเริ่มต้นของการทำสารคดีตามรอยพระพุทธเจ้าภาค 2 ชื่อว่า ‘ไตรปิฎกคำสอนมีชีวิต’ ซึ่งจะเป็นเรื่องราวของคำสอนของพระพุทธเจ้าที่มีอายุกว่า 2,500 ปี ว่าเมื่อไปอยู่ในแต่ละประเทศ ชาวพุทธของแต่ละประเทศเขาเอาแก่นธรรมอะไรของพระพุทธเจ้า ไปใช้ในการดำรงชีวิตบ้าง สารคดีชุดนี้ใช้งบประมาณทั้งหมด 30 ล้านบาท โชคดีที่ คุณปกรณ์ พงศ์วราภา แห่ง GM Multimedia Group มาเป็นผู้ร่วมลงทุนด้วย ก็เลยทำให้สารคดีชุดนี้เดินหน้าต่อไปได้ สารคดีชุดนี้เราใช้โปรดิวเซอร์ทั้งหมด 8 คน ช่างภาพอีก 4 ทีม ถ่ายทำใน 15 ประเทศ ใช้เวลาถ่ายทำทั้งหมด 3 ปีเต็ม
พุทธศาสนาทุกแห่งแม้จะแตกต่างกัน แต่ก็มีแก่นธรรมเดียวกันคือทำความดีละเว้นความชั่ว
GM Live: ชื่อสารคดีในภาคต่อนี้คือ ‘ไตรปิฎกคำสอนมีชีวิต’ มีความหมายว่าอย่างไร?
ชนินทร์: เวลาพูดถึงพระไตรปิฎก คนส่วนใหญ่มักจะเรียกว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์ เป็นคัมภีร์ที่อยู่ในตู้ เป็นเรื่องราวที่แตะต้องไม่ได้ แต่จริงๆ แล้วพระไตรปิฎกก็คือคำสอนของพระพุทธเจ้าล้วนๆ ไม่ใช่คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ เป็นเรื่องของธรรมชาติที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบแล้วก็รวบรวมมาสอนมนุษยชาติในการปฏิบัติตน หลักก็มีแค่ว่าให้กระทำความดีไม่กระทำความชั่ว ทำจิตใจให้ผ่องใส มีศีล สมาธิ ปัญญา เรายังพบเห็นว่าทุกประเทศก็ยังใช้คำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นหลักในการดำเนินชีวิตอยู่ เหมือนกับนำคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ยังมีชีวิตมาใช้อยู่เลย เราก็เลยใช้เป็นประเด็นของเรื่องว่า เป็นคำสอนที่มีชีวิตเพราะทุกคนยังใช้กันอยู่ ถึงแม้จะผ่านมา 2,500 ปีแล้วก็ตาม
GM Live: ยกตัวอย่างประเทศที่คุณประทับใจในเรื่องราวเป็นพิเศษจากสถานที่ถ่ายทำทั้ง 15 ประเทศ
ชนินทร์: ยกตัวอย่างภูฏานซึ่งเป็นประเทศที่คนไทยอยากไปเที่ยวมาก คนภูฏานจะให้ความสำคัญของชีวิตเท่ากัน ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ สิ่งของ พืชพรรณธัญญาหาร สิ่งแวดล้อม พวกเขาจะอยู่ด้วยความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เคารพธรรมชาติ เขาจึงเป็นประเทศที่มีสิ่งแวดล้อมที่ดีมากแห่งหนึ่งเพราะใช้หลักของพระพุทธเจ้าตัวนี้แหละเข้าไปจับในการดำเนินชีวิต
หรืออย่างศรีลังกา เขายึดมั่นอยู่ 2 อย่างก็คือ หลักธรรมคำสอนและสิ่งที่เป็นตัวแทนพระพุทธเจ้าคือพระสงฆ์ เขาจะไม่มีเรื่องราวของเครื่องรางของขลัง หรือเรื่องเหนือธรรมชาติเลย เขายึดมั่นในหลักธรรมคำสั่งสอนล้วนๆ หรืออย่างคนทิเบตก็จะถือว่ามีชีวิตอยู่เพื่อเตรียมตัวตาย นั่นคือหลักของพระพุทธเจ้าที่ว่าอยู่ด้วยความไม่ประมาท หรือเมียนมาซึ่งเราใช้ตอนว่าลมหายใจแห่งพระพุทธศาสนา เพราะว่าลมหายใจเข้าออกของเขาคือศาสนาพุทธ ที่จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น หรือเกาหลี นั่นก็เป็นสายมหายาน สายเซน เน้นในเรื่องของการปล่อยวาง การทำสมาธิ การอยู่เพื่อบรรลุธรรมขั้นสูง ทุกแห่งก็จะแตกต่างกัน แต่ก็มีแก่นธรรมเดียวกันคือทำความดีละเว้นความชั่ว
การปฏิบัติธรรมไม่จำเป็นต้องอยู่ในวัด ปฏิบัติธรรมเมื่อไหร่ก็ได้ ทุกอย่างมันคือการปฏิบัติธรรมได้ ถ้าเราเข้าใจแก่นแท้ของพุทธ
GM Live: ในฐานะผู้กำกับ คิดว่าคนดูจะได้อะไรจากการดูสารคดีชุดนี้ทั้งสองภาค
ชนินทร์: ตอนทำภาคแรกมีความรู้สึกแค่ว่าเราอยากให้คนไทยได้เห็นจริงๆ ว่าพระพุทธเจ้าไม่ใช่ผู้วิเศษ เราอยากให้คนดูเห็นว่าพระพุทธเจ้าเป็นคนธรรมดานี่แหละ แต่ค้นพบหลักความจริงของธรรมชาติที่เป็นเหตุเป็นผล พอมาในชุดที่ 2 เราก็อยากจะให้เห็นว่าเรื่องราวคำสอนของพระพุทธเจ้ามันยังคงอยู่ ยังใช้อยู่ในประเทศทุกประเทศในโลก ต้องการคนดูได้เห็นว่าจริงๆ แล้ว แก่นธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าคืออะไร เมื่อเราดูเรื่องนี้ทั้งหมด 13 ตอน จะเห็นเลยว่า เฮ้ย เรานับถือพุทธไปทางไหน เพราะว่าในหลายๆ ประเทศเขาไม่ได้เน้นในเรื่องหวังพึ่งกับโชคชะตาที่จับต้องไม่ได้ ไม่ได้หวังพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพราะศาสนาพุทธคือศาสนาที่สอนให้คนพัฒนาตัวเอง สอนให้คนพึ่งตนเอง
แต่ประเทศไทยรับพุทธเข้ามาแล้วก็เปิดรับทุกลัทธิเข้ามามากเหมือนกัน เพราะฉะนั้น จะเห็นว่าศาสนาพุทธเรามีทั้งฮินดู ทั้งพราหมณ์ ทั้งความเชื่อเรื่องภูตผีเข้ามาผสมปนเปกันจนแยกไม่ออก เราอยากจะให้คนดูไทยได้เห็นว่า สุดท้ายจริงๆ แล้วเรายึดมั่นคำสอนของพระพุทธเจ้าแค่ไหน เรายึดความเป็นธรรมชาติแค่ไหน เราเป็นวิทยาศาสตร์แค่ไหน
GM Live: คิดอย่างไรกับการที่เด็กยุคใหม่จำนวนมากห่างไกลศาสนา?
ชนินทร์: ในอดีตเราทำให้ศาสนาพุทธเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจ มันเต็มไปด้วยคำทางภาษาบาลี บางทีเราไปยึดติดตรงนั้นมากเกินไปทำให้เด็กรู้สึกว่ามันไม่ใช่ตัวตนของเขา ซึ่งความจริงไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนั้น คือทำอย่างไรก็ได้ให้ศาสนาพุทธมันเป็นศาสนาที่ดูง่ายที่สุด เราเปลี่ยนใหม่เป็นภาษาง่ายๆ ไหม ว่าพระพุทธเจ้าสอนอะไร ทุกวันนี้พ่อแม่ก็สอนให้เด็กทำดีอยู่แล้วนั่นคือธรรมะ สมมติเราทำงาน เราโฟกัสอะไรอยู่ตรงหน้า เรามีสติรู้ตัวว่าทำอะไรอยู่ เรามีสมาธิ แก้ปัญหาด้วยปัญญา นี่คือการปฏิบัติธรรมแล้ว การปฏิบัติธรรมไม่จำเป็นต้องอยู่ในวัด ปฏิบัติธรรมเมื่อไหร่ก็ได้ ทุกอย่างมันคือการปฏิบัติธรรมได้ ถ้าเราเข้าใจแก่นแท้ของพุทธ
GM Live: สิ่งที่ได้จากการลงมือทำสารคดีชุดนี้เป็นเวลานานถึง 3 ปีเต็ม?
ชนินทร์: จากวันที่เราเริ่มคิดที่จะทำสารคดีชุดนี้ จากปี 2557 เรารู้สึกว่าเราผูกพันกับสิ่งเหล่านี้ ยิ่งเราทำมากเรายิ่งเห็นว่าศาสนาพุทธบ้านเราห่างไกลแก่นธรรมออกไปทุกที เราก็ภูมิใจที่เราได้ทำให้คนกลับมามองใหม่ว่าจริงๆ แล้ว สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบและสั่งสอนให้เรายึดถือปฏิบัติมามันมีจริง แล้วมันแก้ปัญหาได้จริงๆ แล้วก็ภูมิใจว่าคนดูจำนวนมากหันกลับเข้ามาในพุทธแบบดั้งเดิมที่เป็นเถรวาทที่เราเคยเป็นอยู่ เราภูมิใจที่คนจำนวนมากหันมายึดมั่นคำสอนของพระพุทธเจ้าที่เป็นแก่นแท้จริงๆ มากขึ้น แล้วก็เลิกหวังลมๆ แล้งๆ กับสิ่งที่จับต้องไม่ได้ หันมามองเรื่องของการพัฒนาตัวเองมากขึ้น นี่คือสิ่งที่เราภูมิใจ
GM Live: สามารถติดตามชมสารคดีชุด ‘ตามรอยพระพุทธเจ้า 2 ไตรปิฎกคำสอนมีชีวิต’ ได้ทางไหนบ้าง?
ชนินทร์: ตอนนี้ยังออกอากาศอยู่ทางช่องไทยพีบีเอส ตอนสุดท้ายวันที่ 3 สิงหาคมนี้ จากนั้นถ้าสนใจ เรากำลังเตรียมการทำเป็น Box Set อยู่ เมื่อเสร็จแล้วก็สมควรจะเป็นสมบัติที่ควรจะเก็บรักษา เพราะมันหาไม่ได้อีกแล้วในรอบ 100 ปี สารคดีขนาดนี้คงไม่มีใครทำอีกแล้ว มันใช้พลังมากเลย แล้วก็เป็นการรวบรวมความคิดความศรัทธาของคนพุทธใน 15 ประเทศ อยู่ในที่เดียวกัน แล้วในบ็อกซ์เซตตัวนี้มันมีทั้งดีวีดีและธัมบ์ไดรฟ์สำหรับคนที่ไม่ใช้ดีวีดีแล้ว และที่เด่นที่สุดก็คือมีพระไตรปิฎกฉบับที่บันทึกเป็นเสียง เป็นงานวิจัยค้นคว้าของคณะทำงานของมูลนิธิพระไตรปิฎกสากลที่ค้นคว้ากว่า 18 ปี แล้วพบว่าเสียงที่ออกในสมัยพระพุทธกาลไม่ใช่แบบปัจจุบัน เพราะฉะนั้น เขาก็เลยทำพระไตรปิฎกฉบับเสียงขึ้นมาเพื่อใช้เป็นหลักในการออกเสียงให้ถูกต้องต่อไป