fbpx

Trendy Accessory

โดดเด่นไปกับเทรนด์เอสเซสเซอร์รีสุดปังจากคอลเลคชั่นสุดฮอตในอดีตที่นำกลับมาปรับลุคด้วยการเติมแต่งนวตกรรมใหม่ๆ กลายเป็นไอเท็มอินเทรนด์ที่คุ้มค่าในการจับจองเป็นเจ้าของ

Swatch NEON

สำหรับ Swatch NEON  คือ คอลเลกชั่นใหม่ล่าสุดจาก Swatch (สวอท์ช) ที่มาพร้อมเฉดสีนีออนสดใสดีไซน์สุดคูลทั้ง 6 เรือน โดยดึงเสน่ห์และความสุขจากยุค 80 และ 90 พร้อมกับดีเทลสุดโดดเด่น สัมผัสได้ถึงความสุขทุกครั้งที่สวมใส่ ทั้งยังเข้าได้กับทุกสไตล์ โดยได้แรงบันดาลใจมาจากนาฬิกา Swatch 6 รุ่นฮิต ที่นำมาปัดฝุ่นใหม่ด้วย พร้อมเพิ่มเติมความพิเศษด้วยรุ่น SwatchPAY! เพียงแค่พลิกข้อมือ ก็สามารถชำระเงินแบบไร้สัมผัสได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย

SWATCH NEON RIDER

นาฬิกาสไตล์เรโทรรุ่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากนาฬิกา Swatch รุ่นไอคอนิกจากปี 1989 อย่าง NEO RIDER ด้วยหน้าปัดนีออนหลากสี โดยมีสีดำ เขียวและส้มที่ทำให้ตัวนาฬิกามีความโดดเด่นด้วยสีสันสะดุดตาและให้ลุคที่ดูขี้เล่น ตัดกับเข็มชั่วโมงและเข็มนาทีสีดำ เสริมลูกเล่นด้วยเข็มวินาทีสีฟ้าบนตัวเรือน BIOSOURCED สีเขียวโปร่งใสแบบแมตต์ สายนาฬิกาสีดำพิมพ์ลายนีออนหลากสี เข้ากันกับลูปสีส้มและตัวล็อกสายสีเขียว พร้อมกับหน้าปัดขนาด 41 มิลลิเมตร

SWATCH NEON WAVE

นาฬิกาโครโนกราฟสีนีออนรุ่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากนาฬิกา Swatch CHRONO จากยุค 90 และได้ผสานเข้ากับฟังก์ชันจับเวลา (Tachymeter) ตอบโจทย์การใช้งานมากขึ้นและเพิ่มความสนุกขึ้นเป็นสองเท่าด้วยหน้าปัดหลากสีพร้อมเข็มชั่วโมงและเข็มนาทีสีดำที่เรืองแสงได้ในที่มืดและเข็มวินาทีสีส้ม เสริมด้วยหน้าต่างแสดงวันที่ตรงตำแหน่ง 3 นาฬิกา มาพร้อมตัวเรือนสีเหลืองแบบแมตต์โปร่งใสและขอบหน้าปัดที่เข้ากัน สายนาฬิกาสีเทอร์ควอยซ์โดดเด่นขึ้นด้วยลูปสีเหลืองและส้มที่ตัดกันกับตัวล็อกสายสีฟ้าแบบแมตต์โปร่งใส  พร้อมกับหน้าปัดขนาด 42 มิลลิเมตร

SWATCH NEON PINK PODIUM & SWATCH NEON PINK PODIUM PAY!

นาฬิกาสไตล์เรโทรรุ่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากนาฬิกา Swatch สุดไอคอนิกจากปี 1990 อย่าง PINK PODIUM โดยนาฬิกาตระกูล Swatch GENT จะเข้ากับผู้ใส่ที่มีข้อมือเล็ก ดีไซน์หน้าปัดสีเหลืองและม่วงสื่อถึงการเชื้อเชิญให้คุณเริ่มทำอะไรใหม่ ๆ มาพร้อมเข็มชั่วโมงสีเหลือง เข็มนาทีสีฟ้า และเข็มวินาทีสีชมพู เข้ากันกับตัวเรือน BIOSOURCED เนื้อแมตต์โปร่งใส สายนาฬิกาสีชมพูโดดเด่นด้วยลูปเนื้อแมตต์และตัวล็อกสายแบบโปร่งแสงสีฟ้า  

อีกทั้งเรือนนี้ยังมีเวอร์ชั่นพิเศษที่รองรับ SwatchPAY!  ซึ่งทำให้การชำระเงินเป็นเรื่องง่าย เพียงแค่พลิกข้อมือ  พร้อมกับหน้าปัดขนาด 34 มิลลิเมตร

SWATCH NEON JELLY & SWATCH NEON JELLY PAY!

นาฬิกาทรงโอเวอร์ไซส์สไตล์เรโทรรุ่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากนาฬิกา Swatch CHRONO รุ่น JELLY STAG จากปี 1993 ตัวเรือนและสายนาฬิกาโปร่งใสพร้อมลูปเนื้อแมตต์และตัวล็อกสายแบบครึ่งตัวสีเหลือง รับกันกับเข็มชั่วโมงและเข็มนาทีสีส้ม และเข็มวินาทีสีเหลืองที่สามารถเรืองแสงได้ในที่มืด ด้วยหน้าปัดหลากสีดีไซน์เก๋และปุ่มกดโครโนกราฟสีเหลืองและส้มที่เข้ากัน  เสริมด้วยฟังก์ชันจับเวลา (Tachymeter) ทำให้นาฬิการุ่นนี้มีสไตล์ที่โดดเด่น น่าจับตาและตอบโจทย์ทุกการใช้งาน

อีกทั้งเรือนนี้ยังมีเวอร์ชั่นพิเศษ ที่รองรับ SwatchPAY!  ซึ่งทำให้การชำระเงินเป็นเรื่องง่าย เพียงแค่พลิกข้อมือ  พร้อมกับหน้าปัดขนาด 47 มิลลิเมตร

SWATCH NEON HOT RACER

นาฬิกาสไตล์เรโทรรุ่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากนาฬิกา Swatch GENT HOT RACER ในปี 1989 ซึ่งได้อัปเกรดไปอีกระดับด้วยตัวเรือน SKIN CLASSIC ที่เพียวบางเป็นพิเศษ หน้าปัดหลากสีสดใสมาพร้อมเข็มชั่วโมงและเข็มนาทีสีเขียวในตัวเรือน BIOSOURCED โปร่งใสแวววาว พร้อมสายนาฬิกาด้านล่างสีเขียวแบบแมตต์และสายนาฬิกาสีฟ้าด้านบนพิมพ์ลายเข้ากับลูปสีส้มและตัวล็อกสายสีเขียว เป็นการผสมผสานสีสันและลวดลายกราฟิกกับดีไซน์มินิมอลที่นิยมในปัจจุบันได้อย่างน่าสนใจ  พร้อมกับหน้าปัดขนาด 34 มิลลิเมตร

SWATCH NEON FLASH ARROW

นาฬิกาโครโนกราฟสีนีออนรุ่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากนาฬิกา Swatch CHRONO จากยุค 90 อย่าง FLASH ARROW หน้าปัดหลากสีพร้อมมาตรวัดความเร็ว ตัวเข็มชั่วโมงและเข็มนาทีสีดำที่เรืองแสงได้ เข็มวินาทีสีเหลืองและหน้าต่างบอกวันตรงตำแหน่ง 3 นาฬิกา มาพร้อมตัวเรือนสีเขียวแบบแมตต์โปร่งใสและขอบหน้าปัดที่เข้ากัน สายนาฬิกาสีชมพูโดดเด่นด้วยลูปสีเหลืองและน้ำเงินแบบแมตต์ที่ตัดกันและตัวล็อกสายสีเขียวแบบแมตต์โปร่งใส  พร้อมกับหน้าปัดขนาด 42 มิลลิเมตร

จับจองเป็นเจ้าของได้แล้วที่ร้าน Swatch ทุกสาขา หรือบนเว็บไซต์ Swatch.com

METASPEED™ SKY PARIS และ METASPEED™ EDGE PARIS

ASICS (เอสิคซ์) เปิดตัวรองเท้า 2 รุ่นใหม่จากซีรีส์เรือธงหลัก METASPEED™  ที่ได้ผสานเทคโนโลยีขั้นสูงจาก ASICS โดยตัวรองเท้ามีน้ำหนักเบาลง มอบสัมผัสที่นุ่มสบายและเด้งกว่าเดิม พร้อมปรับปรุงในส่วนของแผ่นคาร์บอนโดยออกแบบให้เต็มความยาวของเท้า เพื่อซัพพอร์ตสไตล์การวิ่งของ นักวิ่งสายสไตรด์ (STRIDE) ที่มีท่าทางการวิ่งแบบก้าวยาว และ สายเคเดนซ์ (CADENCE) ที่นักวิ่งสายนี้จะเพิ่มความเร็วโดยการขยายระยะในการก้าวขาและเพิ่มจำนวนการก้าวเท้าต่อนาที (รอบขา) ให้มากขึ้น

รองเท้ารุ่นใหม่ทั้ง 2 คู่นี้ ได้รับการปรับให้เหมาะสำหรับแต่ละสไตล์การวิ่ง โดย METASPEED™ SKY PARIS เหมาะกับนักวิ่งสายสไตรด์ (STRIDE) และ METASPEED™ EDGE PARIS เหมาะกับนักวิ่งสายเคเดนซ์ (CADENCE)  โดยได้รับการปรับปรุงใน 3 ด้านสำคัญ ได้แก่

ด้านที่ 1 ทำให้ตัวรองเท้ามีน้ำหนักเบาลงประมาณ 22 กรัม ความแตกต่างของน้ำหนักที่ลดลงอย่างชัดเจนนี้ ช่วยให้นักวิ่งรู้สึกเบาสบายและดีดตัวได้ดีในวันแข่งขัน ส่วนหนึ่งจากความสำเร็จนี้เกิดจากการผสมผสานของ MOTION WRAP™ UPPER 2.0 รุ่นใหม่ ซึ่งทำให้ส่วนบนของรองเท้าเบาลงและระบายอากาศได้มากขึ้นถึง 8% รวมทั้งการเพิ่มโฟม FF TURBO PLUS ที่พื้นรองเท้าชั้นกลางอีกด้วย

ด้านที่ 2 คือการใช้โฟม FF TURBO PLUS ที่พื้นรองเท้าชั้นกลาง ซึ่งมีน้ำหนักเบาลง ให้ความนุ่มสบายและเด้งมากขึ้นกว่ารุ่นก่อน ๆ อีกทั้งโฟมรองรับแรงกระแทกที่เพิ่มเข้ามานี้ช่วยซัพพอร์ตนักกีฬาสำหรับการวิ่งระยะไกลทั้งในการฝึกซ้อมและการแข่งขัน เพื่อให้พวกเขาสามารถเก็บแรงไว้ใช้ในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด

ด้านที่ 3ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ได้รับการปรับปรุงใน METASPEED SKY PARIS คือการขยายคาร์บอนเต็มแผ่นให้กว้างขึ้นในบริเวณส่วนหน้าของรองเท้า ซึ่งเป็นกลยุทธ์การวางตำแหน่งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดีดตัวของโฟมขณะออกตัววิ่ง และสำหรับ METASPEED EDGE PARIS ได้มีการวางตำแหน่งแผ่นคาร์บอนไว้ให้เหมาะสำหรับนักวิ่งสายเคเดนซ์ (CADENCE) และได้ปรับปรุงให้มีดีไซน์เรียบง่ายเพื่อความสะดวกในการสวมใส่และน้ำหนักที่เบาขึ้น ส่วนหน้าเท้ายังได้รับการออกแบบใหม่ล่าสุดโดยอาศัยการวิเคราะห์จากทีมพัฒนาของ ASICS เพื่อการซัพพอร์ตส่วนโค้งของเท้าที่ดีขึ้น มอบสัมผัสที่มั่นคงให้คุณสปีดฝีเท้าได้อย่างมั่นใจ

สัมผัสรองเท้า METASPEED™ SKY PARIS และ METASPEED™ EDGE PARIS ได้ที่ ASICS Store สาขาเซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลลาดพร้าว, เซ็นทรัลปิ่นเกล้า, Supersports, ARI, Run2Paradise และ Banana Run รวมถึงทางออนไลน์ที่ ASICS.COM

MAJOR V และ MINOR IV

Marshall (มาร์แชล)  เผยโฉม MAJOR V (มาร์แชล เมเจอร์ ไฟว์) และ MINOR IV (มาร์แชล ไมเนอร์ โฟร์) ซีรีส์ใหม่ล่าสุดของหูฟังไร้สายรุ่นไอคอนิก อัพเกรดฟีเจอร์เอาใจแฟน ๆ ทั้งแบตเตอรี่ที่อึดทน ดีไซน์ภายในใหม่สวมใส่สบาย และคุณภาพเสียงที่ดีขึ้นกว่าเดิม เพื่อส่งมอบอรรถรสในการฟังเพลง พร้อมทั้งประสบการณ์ของการใช้หูฟังที่ดีที่สุดกว่าที่เคยเป็น

Marshall MAJOR V (มาร์แชล เมเจอร์ ไฟว์)

หูฟัง Headphones ไร้สาย คลาสสิกเหนือการเวลา ที่มอบอรรถรสในการฟังเพลง ได้ดีที่สุดและยาวนานที่สุด มาพร้อมฟังก์ชัน การปรับแต่งคุณภาพเสียงเพื่อลดความผิดเพี้ยนในระบบเสียง (Distortion) ทำให้ได้เนื้อเสียงที่ใสและชัดเจนมากขึ้น ดีไซน์ทนทาน สวมใส่ได้สบายตลอดทั้งวัน สามารถพับเก็บ และพกพาไปได้ทุกที่ พร้อมทั้งรองรับระบบการชาร์จแบบไร้สาย เชื่อมต่อด้วยเทคโนโลยี Bluetooth LE Audio เพื่อคุณภาพเสียง การเชื่อมต่อที่รวดเร็วและเสถียรดียิ่งขึ้น เพิ่มฟังก์ชั่นของ ปุ่ม M (M-button) เพื่อให้เข้าถึงฟังก์ชั่นตามความต้องการของผู้ใช้งานได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึง Spotify, ระบบสั่งการด้วยเสียง (Voice assistant) หรือการปรับ EQ preset ได้อย่างง่ายดาย และเพื่อให้การใช้งานนั้นเต็มประสิทธิภาพ สามารถใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชัน Marshall Bluetooth ได้อีกด้วย และอีกหนึ่งความสามารถที่น่าทึ่งซึ่งถูกใส่เข้ามาในหูฟัง MAJOR V ซีรีส์นี้คือระยะเวลาการใช้งานของหูฟัง รองรับได้มากกว่า 100+ ชั่วโมง

Marshall MINOR IV (มาร์แชล ไมเนอร์ โฟร์)

หูฟัง In-Ear ไร้สาย ที่มอบประสบการณ์แห่งเสียง ชัดเจนทุกท่วงทำนอง มาพร้อมกับคุณภาพเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของ Marshall ซึ่งในซีรีส์ใหม่นี้มีการปรับแต่งตัวหูฟังให้กระชับพอดีมากยิ่งขึ้น รองรับทุกสรีระของผู้ใช้งาน ทำให้ได้เสียงคุณภาพดี สวมใส่ได้อย่างเบาสบายตลอดทั้งวัน มีคุณสมบัติในการกันน้ำ ให้คุณฟังเพลงโปรดอย่างต่อเนื่องแม้ฝนจะตก และยังทำให้การจัดการเสียงเพลงและสายเรียกเข้าเป็นเรื่องง่าย ด้วยฟีเจอร์ในการเชื่อมต่อหลายอุปกรณ์พร้อมกันผ่านแอปพลิเคชัน Marshall Bluetooth และยังมาพร้อมกับระบบที่รองรับเทคโนโลยี Bluetooth LE Audio

เพิ่มเติมข้อมูล ที่ https://shop.ash-asia.com/, Marshall Official Store  ( Shopee, Lazada )

Facebook: – ASH Asia Thailand (https://www.facebook.com/AshAsiaThailandASH Asia International (https://www.facebook.com/AshAsiaInternational)
Instagram: ashasia_thailand (https://www.instagram.com/ashasia_thailand/)
TikTok: @ashasia_th (https://www.tiktok.com/@ashasia_th)
LINE OA: ASH Asia

59FIFTY

New Era (นิวอีร่า) แบรนด์หมวกและแฟชั่นสตรีทจากอเมริกา ที่ประวัติยาวนานกว่า 104 ปีตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง ชวน F.HERO แรปเปอร์เจ้าพ่อคอลแลปจากเมืองไทย ร่วมออกแบบคอคเลคชั่น หมวก 59FIFTY ซึ่งเป็นรุ่นที่มีมากว่า 70 ปี  ซึ่งเกิดกระแสจากแรปเปอร์ทั่วโลกนิยมใส่หมวกรุ่นนี้ จนกลายเป็นไอเท็มสุดปัง เสริมลุคสตรีทให้คูล  โดยมีแรงบันดาลใจในการออกแบบจากการทำงานเพลง ด้วยการเขียนเนื้อร้องและอัดเสียงลงเทป Cassette เพื่อเป็นเทป Demo ก่อนที่เขาจะใช้เทปม้วนนี้เป็นตั๋วใบเบิกทางเข้าวงการ โดยยื่นเทปให้กับ Joey Boy จนได้ Debut อัลบั้มแรก  คอลเลคชั่นนี้ถือเป็นคอลเลคชั่นพิเศษที่ฉลองครบรอบ 22 ปี ในวงการเพลงฮิปฮอปของ F.HERO 

รายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางFacebook: High Cloud Entertainment / New Era Thailand

Instagram: highcloudent / newerathailand

YouTube: High Cloud Movement

TikTok: @highcloudent  Twitter: @highcloudent

Digiqole ad

บทความที่น่าสนใจ