เที่ยวทับสะแกเอกเขนกรับลมชมทะเลที่ซันไชน์พาราไดซ์รีสอร์ท ตะลอนทัวร์คาเฟ่เที่ยวชุมชนบ้านทางสายชิมอาหารอร่อยสวนลุงบูรณ์สักการะเจดีย์ภักดีประกาศ
นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้แวะเวียนมาเที่ยวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมืองสามอ่าวซึ่งเปรียบเสมือนประตูสู่ภาคใต้ ที่มักจะกลายเป็นทางผ่านมากกว่าที่จะตั้งใจแวะเที่ยวแบบจริงจัง …แต่ครั้งนี้ GMLive ปักหมุดหมายปลายทางมุ่งเข้าสู่อำเภอทับสะแกหนึ่งในอำเภอของเมืองประจวบที่พร้อมสรรพไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามทางธรรมชาติ และที่มนุษย์จัดสรร แถมหลากหลายด้วยร้านคาเฟ่เก๋ๆ ที่สำคัญ ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort) ซึ่งเป็นที่พักของของเราที่ทั้ง สวย สงบ ร่มรื่น และเป็นส่วนตัวมากๆ ก็อยู่ที่อำเภอนี้ซะด้วย
ทันที่..ที่รถเลี้ยวเข้าจังหวัดประจวบฯ มื้อเที่ยงซึ่งเป็นมื้อแรกของกลุ่มก๊วนร่วมทริปคือร้านก๋วยเตี๋ยวและอาหารตามสั่งแบบง่ายที่ร้านป้าเอื้อม แล้วไปต่อขนมหวานกันที่ “ร้านจันทร์แรม” ร้านไอศครีมโฮมเมดในบรรยากาศชิโนโปรตุกิสที่ใครมาประจวบฯ ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง
เมื่อจัดการภาระกิจขนมหวานเรียบร้อย หมุดหมายต่อไปคือการมุ่งตรงสู่ที่พักทันที ….
เอกเขนกรับลม ชมทะเล ที่ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท
ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort) ตั้งอยู่บริเวณชายหาดร่ำร่า อำเภอทับสะแก ซึ่งห่างจากหาดบ้านกรูด สถานที่พักผ่อนขึ้นชื่อของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพียง 5 นาที โดยตัวรีสอร์ทแวดล้อมด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกมากมาย หากนับระยะทางแล้วประมาณ ราวๆ 360 กิโลเมตรจากกรุงเทพฯ มาถึงที่นี่ ซึ่งทิวทัศน์ที่งดงามของแนวชายหาดร่ำร่า เปรียบได้กับอัญมณีที่งดงาม เพราะน้ำทะเลใส แนวหาดสะอาด และไม่พลุกพล่าน จึงให้ความรู้สึกเหมือนหาดส่วนตัว
โดยคุณวรกร กอวัฒนะ หรือ คุณโตโร่ ผู้บริหาร ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท เล่าให้ฟังถึงที่มาที่ไปของรีสอร์ทแห่งนี้ว่า “ความตั้งใจแต่แรกเริิ่มของครอบครัวคือหาที่ดินริมทะเลเพื่อสร้างบ้านพักตากอากาศครับ แต่พอมาเจอที่ดินผืนนี้ซึ่งเจ้าเป็นทายาทสายตรงของชาวต่างชาติที่เข้ามาสร้างทางรถไฟในสมัยก่อน และมีพื้นที่ถึง 20 ไร่ แถมติดชายหาดที่สวยงาม เงียบสงบ จากที่คิดว่าจะสร้างแค่บ้านพักตากอากาศของครอบครัว จึงตัดสินใจสร้างเป็นรีสอร์ตริมทะเลแทนครับ”
“ซึ่งผมและครอบครัวนำความรู้และประสบการณ์จากการทำธุรกิจของครอบคือก่อสร้าง รวมกับความต้องการจากประสบการณ์ตรงเวลาไปพักโรงแรมหรือรีสอร์ทอื่นมาเป็นแนวทางในการออกแบบ-ตกแต่งครับ จะเห็นว่าทุกพื้นที่จะเน้นความสะดวกสบายและเชื่อมต่อถึงกัน โดยเฉพาะพื้นที่จอดรถซึ่งสามารถจอดบริเวณส่วนที่พักได้เลย ทำให้สะดวกในการขนสัมภาระต่างๆ อีกส่วนก็คือพื้นที่ในห้องน้ำซึ่งมีพื้นที่กว้างขวางครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครับ ”
สำหรับห้องพักซันไชน์ พาราไดซ์ รีสอร์ท มีหลากหลายให้เลือกพักภายใต้การตกแต่งในสไตล์ร่วมสมัย และสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน รองรับทั้ง คู่รัก ครอบครัว และกลุ่มเพื่อน ทั้งห้อง Standard room , Garden Cottage และ Beach front pool villa ที่มาพร้อมกับสระว่ายน้ำส่วนตัว เพื่อให้ผู้มาพักได้สัมผัสกับประสบการ์ณสุดพิเศษ
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมทางน้ำ เช่น การพายเรือคายัค รวมถึงพื้นที่ส่วนกลาง อย่างสนามเด็กเล่น สระว่ายน้ำ ร้านอาหาร ลานบาร์บีคิว และบาร์ ที่จะทำให้ผู้มาพักได้สนุกเพลิดเพลินตลอดช่วงเวลาของการพักผ่อน
และสิ่งที่ส้รางความประทับใจจนอดกล่าวถึงไม่ได้นั้น คือกิมมิคเล็กๆ ที่สร้างเสน่ห์และการจดจำให้กับผู้มาเยือนได้เป็นอย่างดี ทั้งไม่ว่าจะเป็น welcome drink น้ำมะพร้าวหอมหวานจากต้นมะพร้าวน้ำหอมพันธุ์สีทองที่ทางรีสอร์ทปลูกไว้ ตามมาด้วยบาร์บีคิว 1 ไม้ , ไอศครีมซอฟท์เสิร์ฟ และป็อปคอร์ซึ่งเสิร์ฟฟรีเป็นcomplimentary จากทางรีสอร์ตไว้คอยบริการในช่วงเย็น
และนี้คืออีกหนึ่งที่พักที่สัมผัสได้ทั้ง ความสวยงาม ความสงบรมย์รื่น ความสะดวกสบาย และความเป็นส่วนตัว
ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท ทับสะแก, ประจวบคีรีขันธ์ โทร. +66 81 829 813
อีเมล์ : [email protected] /https://www.facebook.com/sunshineparadise.thailand
Sunshine Paradise Resort รีสอร์ตริมทะเล กับการแก้เพนพอยท์ของบ้านพักตากอากาศ
ตะลอนทัวร์คาเฟ่
นอกจากที่พักสบายๆ แล้ว ทับสะแกยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลากหลายแห่งให้ไปเยือน โดยเฉพาะคาเฟ่เก๋ๆอย่าง Pisces cafe (ไพซีส คาเฟ่) คาเฟ่เล็กๆ แต่น่ารักริมทะเลบ้านกรูด ที่พอได้เข้าไปสัมผัสบรรยากาศแล้วเผลอคิดว่านั่งอยู่ในคาเฟ่ที่เกาหลีซะอย่างนั้น สายเกาต้องหลงรักแน่ๆ ที่นี่ไม่มีเนูแนะนำทั้งเครื่องดื่มและ เบเกอรี่ เพราะอร่อยทุกอย่างจริง
อีกหนึ่งคาเฟ่ที่ห้ามพลาด Ka-Num Home Cafe (ขนำ โฮม คาเฟ่) ร้านคาเฟ่ร้านลับที่เมื่อเดินเข้าไปแล้วต้องตะลึงกับวิวทะเลที่สวยงาม ผสานกับบรรยกาศภายในร้านที่ตกแต่งได้อย่างเรียบเท่ เรียกได้ว่าไม่มีใครขโมยซีนใคร ทำให้บรรยากาศโดยรวมดูมีเสน่ห์ ส่่วนเมนูเครื่องดื่มและเบเกอรี่ก็ไม่ธรรมดา อร่อยกลมกล่อมทุกเมนู
เที่ยวชุมชนบ้านทางสาย
ไม่ไกลจากที่พัก ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวภายใต้ชื่อ ชุมชนนวัตวิถีบ้านทางสาย” (ชายหาดบ้านทางสาย) ซึ่งเป็นชุมชนท่องเที่ยว OTOP เพื่อการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน โดยมีที่พักแนวโฮมสเตย์ริมทะเล ให้นักท่องเที่ยวเข้าพัก ในราคาคนละ 700 บาทต่อคืน โดยรวมอาหารเช้าและบุฟเฟต์ทะเลเผามื้อเย็น รวมถึงมีกิจกรรมที่จะทำให้ได้สัมผัสวิถีชีวิตในท้องถิ่นและเรียนรู้วัฒนธรรมชุมชนหลากหลายกิจกรรมด้วยกัน โดยชาวบ้านที่นี่จะเน้นเรื่องการลดขยะ เพื่อเป็นการสร้างวินัยให้ชุมชนในการรักษ์โลก หากสนใจชุมชนนวัตวิถีบ้านทางสาย สามารถติดต่อได้ที่ โทร : 0923940556 หรือ Facebook : ท่องเทียวชุมชน-นวัตวิถี บ้านทางสาย
ชิมอาหารอร่อยสวนลุงบูรณ์
ศูนย์เรียนรู้สวนมะพร้าวลุงบูรณ์ ทับสะแก” หรือที่เรียนกันว่า สวนลุงบูรณ์ ที่เริ่มต้นจากทำสวนในแบบเศรษฐกิจพอเพียงตามรอยในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่นี่นอกจากเป็นสวนและศูนย์การเรียนรู้การปลูกมะพร้าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งมะพร้าวพันธุ์ “นกคุ่ม” ซึ่งเป็นมะพร้าวพันธุ์พื้นเมืองของอำเภอทับสะแกแล้ว ยังเป็นร้านอาหารที่ลุงบูรณ์แสดงฝีมือเองอีกด้วย บอกเลยรสมือของลุงนั้นไม่ธรรมดา แถมก่อนออกจากร้านลุงบูรณ์ยังสวมวิญญาณช่างภาพด้วยกล้องระดับมือโปรถ่ายรูปลูกค้าเก็บไว้เป็นที่ระลึก ซึ่งลุงมาเฉลยที่หลังว่าอาชีพหลักของลุงก่อนผันตัวเองมาเป็นเกษตรกรคือช่างภาพนั่นเอง และหากต้องการลิ้มรสมือลุงต้องโทรจองล่วงหน้าที่เบอร์ โทร. 064 939 6524
สักการะเจดีย์ภักดีประกาศ
พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ ตั้งอยู่ในพื้นที่ของ วัดทางสาย โดยมีพระครูเมตตาปุญโญภาส (ไมตรี ฐิตปญฺโญ) เป็นเจ้าอาวาส ซึ่งตัววัดนั้นตั้งอยู่ริมทะเลบ้านกรูด เและเป็นที่ประดิษฐานพระสามแผ่นดิน ได้แก่ ไทย จีน และพม่า ส่วน พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ นั้นอยู่บนยอดเขาธงชัย ในอำเภอบางสะพาน ใกล้หาดบ้านกรูด โดยสร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวโรกาสที่พระองค์ทรงครองราชย์เป็นปีที่ 50 เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธกิติสิริชัยซึ่งเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปิดทองขนาดใหญ่ โดยมีสถาปัตยกรรมไทยแบบกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่ง ม.ร.ว.มิตรารุณ เกษมศรี นายช่างสถาปนิกประจำสำนักพระราชวังเป็นผู้ออกแบบ และพระมหาธาตุเจดีย์องค์นี้ยังเป็นต้นแบบของการออกแบบพระเมรุมาศในหลวงรัชกาลที่ 9 อีกด้วย
และถ้ามีเวลาอย่าลืมแวะไปถ่ายรูปกราฟฟิตี้ และสะพานเก่าแก่ ตรงหาดทับสะแกเป็นที่ระลึกกันด้วยนะ