หญิงไทยแกร่ง ให้แพทย์ทำคลอด-ศึกษาการตั้งครรภ์เพื่อวิจัย 33 ชม. แม้เสียลูกจากอาการหายาก
ประสบการณ์อุ้มบุตรในท้องนาน 9 เดือนอาจเป็นช่วงเวลาที่ทั้งเจ็บปวด และเติมเต็มชีวิตและจิตใจไปในขณะเดียวกัน แต่ประสบการณ์ของคุณแม่ชาวไทยรายหนึ่งที่ต้องสูญเสียลูกไปจากภาวะผิดปกติที่หายาก และเธอยอมทนความเจ็บปวดทั้งทางกายและจิตใจเพื่อให้แพทย์และนักศึกษาได้ศึกษาอาการของเธอยาวนานเกือบ 30 ชั่วโมงกลายเป็นประสบการณ์ที่ทำให้คนทั่วไปชื่นชมในแนวคิดของพ่อแม่คู่นี้แม้ว่าจะต้องผ่านช่วงเวลายากลำบากก็ตาม สัปดาห์ที่ผ่านมา สื่อสังคมออนไลน์ส่งต่อโพสต์เรื่องราวของคู่ผู้ปกครองที่ฝ่ายชายเป็นชาวสิงคโปร์ ขณะที่ฝ่ายหญิงเป็นชาวไทย โพสต์นี้เผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวของฝ่ายชายที่ใช้ชื่อว่า Eugene Wee ซึ่งเล่าเรื่องราวการเสียสละของคู่รักของเขาเอง เมื่อคุณกนกรัตน์ (Kanokrat) ภรรยาของหนุ่มรายนี้ได้รับแจ้งจากแพทย์ว่าลูกที่เธอตั้งครรภ์มานาน 5 เดือนป่วยเป็นอาการ Trisomy 18 หรือที่รู้จักกันในชื่อ “เอ็ดเวิร์ดซินโดรม” กลุ่มอาการทางพันธุกรรมที่หายากชนิดหนึ่ง
อัตราส่วนของทารกที่มีอาการ Trisomy 18 อยู่ที่ 1 ใน 6,000-8,000 ราย ซึ่งทารกที่มีความผิดปกติทางพันธุกรรมนี้มักเสียชีวิตในเวลาไม่นาน หรือมักทำให้ทารกเสียชีวิตในครรภ์
หญิงไทยที่พบว่าทารกในครรภ์มีอาการนี้อาจถือว่าได้รับข่าวเศร้ามากพอแล้ว อย่างไรก็ตาม ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ขออนุญาตให้ทีมแพทย์ศึกษาลักษณะอาการนี้เป็นกรณีศึกษา ซึ่งเธอตอบตกลงโดยสามีของเธอเล่าว่า พวกเขาตั้งใจให้สิ่งที่เกิดขึ้นครั้งนี้ช่วยให้ข้อมูลที่จะนำไปสู่การรักษาหรือป้องกันอาการที่หายากในอนาคต
โพสต์ของคุณ Eugene Wee เล่าว่า ภรรยาของเธอยอมให้แพทย์บรรยายรายละเอียดอาการของเธอต่อนักศึกษาแพทย์กินเวลายาวนานเกือบ 4 ชั่วโมง ซึ่งสามีชาวสิงคโปร์ ระบุว่า “ถือเป็นความเจ็บปวดอย่างมากจากที่ได้ยินผู้เกี่ยวข้องพูดคุยเกี่ยวกับภาวะสมองของทารก หัวใจที่ขยายขนาดขึ้น ความผิดปกติของร่างกายทารกในส่วนแขน, ใบหน้า และอวัยวะภายใน”
นอกเหนือจากการบรรยายแล้ว เจ้าหน้าที่ยังขออนุญาตให้มหาวิทยาลัยเก็บร่างของทารกไว้เพื่อการศึกษาทางวิทยาศาสตร์
“หากลูกของเราต้องเสียชีวิตไป อย่างนั้นการจากไปครั้งนี้ไม่ควรเสียเปล่า” สามีเขียนระบุในโพสต์เล่าประสบการณ์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว
กระบวนการทั้งหมดใช้เวลารวมแล้วประมาณ 33 ชั่วโมง จากการแสกนตรวจสอบอาการ และบรรยายเพื่อการศึกษาไปจนถึงการคลอดบุตรที่ต้องใช้ความระมัดระวังเพื่อรักษาสภาพทารกให้อยู่ในสถานะดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ คุณ Eugene เล่าว่า ภรรยาของเธอร้องขอยาระงับปวดเพิ่มเติมเพื่อช่วยให้ผ่านชั่วโมงที่ยากลำบากไปได้
“ในหลายช่วงของการคลอด เธอเจ็บปวดมาก ผมบอกเธอว่า จะยกเลิกเรื่องบริจาคร่างทารกและเลือกผ่าตัดก็ได้ วิธีนี้อาจสูญเสียทารกแต่จะช่วยลดความเจ็บปวดได้ เธอปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า เธอเลือกรับความเจ็บปวด เพื่อให้มั่นใจว่าทารกออกมาสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ หลัง 33 ชั่วโมงผ่านไป ทารกคลอดออกมา ทั้งห้องเงียบสนิท ทารกถูกนำออกไปเพื่อรับการดูแลทางการแพทย์อย่างรวดเร็ว
ฝากสำหรับนักเรียนแพทย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ถ้าพวกคุณกำลังอ่านโพสต์นี้อยู่ นี่คือเรื่องราวเบื้องหลังทารกที่มีอาการ trisomy 18
เรื่องราวของศรัทธา, ความรัก และการเสียสละ การอยู่เคียงข้าง ด้วยความหวังให้มนุษยชาติได้ดีขึ้น…”
หลังจากผ่านช่วงเวลาเจ็บปวด คุณ Eugene โพสต์เล่าเหตุการณ์ต่อมาว่า ภรรยาของเขาเลือดไหลจากแผลต่อเนื่อง และต้องเข้ารับการผ่าตัดรอบสอง ขณะนี้อยู่ระหว่างพักฟื้น
ทีมงานติดต่อคุณ Eugene เพื่อยืนยันข้อมูล สามีชาวสิงคโปร์เล่าว่า ภรรยาคลอดที่โรงพยาบาลแม็คคอร์มิค จังหวัดเชียงใหม่ ขณะที่คณะแพทย์และอาจารย์ที่เข้ามาบรรยายและศึกษาข้อมูลของภรรยามีหลายท่าน ส่วนใหญ่ได้รับแนะนำว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญแถวหน้าด้านนรีเวชศาสตร์ในไทย
