‘สงกรานต์กับเศรษฐกิจไทย ยังไปด้วยกันได้เหมือนเดิมหรือไม่’

ประเทศไทย กับ งานเทศกาล จัดได้ว่าเป็นสิ่งที่อยู่คู่กันมาอย่างแยกไม่ขาด เรามีหลากหลายเทศกาลเฉลิมฉลองรื่นเริงส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างหลากหลายตลอดทั้งปี และหนึ่งในเทศกาลยักษ์ใหญ่อย่าง ‘สงกรานต์’ นี้ ก็มีระดับความสำคัญอย่างมาก เพราะไม่ใช่แต่ชาวไทย แต่ยังรวมถึงชาวต่างชาติที่มุ่งหมายจะมาสาดน้ำรับความชุ่มฉ่ำแก้อากาศร้อนกันอย่างถ้วนทั่ว
กระนั้นแล้ว ‘มูลค่าทางเศรษฐกิจ’ ของสงกรานต์ ยังอยู่ในระดับที่มีนัยสำคัญหรือไม่ บางทีคำถามนี้อาจจะไม่จำเป็นต้องถาม หรือในอีกแง่หนึ่ง ก็อาจจะเหมาะสมเพียงพอที่จะมองให้ลึกลงไป เพื่อทำความเข้าใจถึงความสำคัญของเทศกาลนี้ให้ดียิ่งขึ้นอีกครั้ง ในเวลานี้
สงกรานต์ จัดได้ว่าเป็นเทศกาลช่วง ‘ไฮซีซัน’ ของภาคการท่องเที่ยว เพราะในระยะเวลาห้าถึงหกวัน ที่ทั่วประเทศจะมีการจัดเทศกาลสงกรานต์ เล่นน้ำกันอย่างต่อเนื่อง จำนวนนักท่องเที่ยวที่แพร่สะพัด จะช่วยกระตุ้นภาคเศรษฐกิจในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับบน ลงมาจนถึงระดับรากหญ้า เรียกว่าขอให้เป็นอะไรที่ใช้จ่ายได้ ที่พัก การขนส่ง จนถึงน้ำขวดและแป้งประ ทุกวินาที ถูกคำนวณออกมาเป็นเม็ดเงินที่ไหลเข้าสู่ระดับแทบทั้งสิ้น
ช่วงต้นปี ศูนย์วิจัยกสิกร ได้ประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้เอาไว้ ที่ตัวเลข 37.5 ล้านคน มูลค่าทางเศรษฐกิจที่คาดหวังเอาไว้อยู่ที่ 1.78 ล้านล้านบาท ซึ่งถ้ามาดูจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าประเทศในช่วงสามเดือนแรกนั้นจะพบว่า มีนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมแล้วถึง 9.5 ล้านคน โดยมีประเทศจีน เป็นลำดับที่หนึ่งในด้านปริมาณ รองลงมาคือรัสเซีย อินเดีย และเกาหลีใต้
ทั้งนี้ ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท ได้ประเมินรายได้ที่จะเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์เอาไว้ที่ 2.6 หมื่นล้าน จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น 470,000 คน และรายได้กว่า 7000 ล้านบาท
เป็นการประเมินสถานการณ์ที่มองโลกในแง่บวก แต่ถ้าพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ว่า นักท่องเที่ยวจีนสะสมในช่วงสามเดือนแรกนั้น ลดลงกว่า 430,000 คน เทียบกับจำนวนนักท่องเที่ยวจีนในปีที่แล้ว จะพบว่า ลดลงไปกว่า 24.2%
ส่วนหนึ่งที่เป็นสาเหตุให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลง ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า เกิดจากภาพลักษณ์ด้านความปลอดภัยของประเทศไทยที่ยังน่ากังขา ทั้งปัญหาแก๊งส์คอลเซ็นเตอร์ ไปจนถึงปัญหาด้านเศรษฐกิจของโลกในระดับมหภาค ล้วนแล้วแต่ส่งผลต่อการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้แทบทั้งสิ้น
กระนั้นแล้ว บรรยากาศในช่วงสองวันแรกของเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ก็ยังคงคึกคักสนุกสนาน และได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชน เพราะจะมากจะน้อยนั้น เทศกาลสงกรานต์ คือหนึ่งในเทศกาลไฮซีซันที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศครั้งใหญ่ในแต่ละปี ความพยายามในการจัดสรรงบประมาณเพื่อภาคการท่องเที่ยว ก็ยังอยู่ในลำดับที่สูง เมื่อพิจารณาว่า ภาคการท่องเที่ยว คือหัวใจหลักเศรษฐกิจแขนงหนึ่งของประเทศไทย ภาพรวมของปีนี้ อาจจะต้องรอคอยการสรุปจากนักวิเคราะห์ต่อไปหลังเสร็จสิ้นเทศกาลไปแล้ว และสำหรับใครที่เดินทางกลับต่างจังหวัด GM Live ก็ขอให้คุณเดินทางอย่างปลอดภัย หรือไปเล่นน้ำด้วยความสนุกสนานปลอดภัยกันทุกคน
