fbpx

ซอฟท์พาวเวอร์… คู่จิ้นซีรีส์วาย

เรื่อง: Santichai Apornsri

(คอลัมน์ : Style  จาก GM Magazineเล่มที่ 516 เดือนธันวาคม2566)

GM Live ในส่วนของ GM Styleขอมาชวนคุยเรื่องซอฟท์พาวเวอร์ซึ่งเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันมาตลอด โดยเฉพาะเมื่อรัฐบาลที่ผ่านออกนโยบายซอฟท์พาวเวอร์ และมาพร้อมกับงบประมาณก้อนโต โดยงบประมาณซอฟท์พาวเวอร์ทั้ง 11 สาขา 54 โครงการ ในจำนวนนี้เป็นงบประมาณในสาขาแฟชั่น 268.9 ล้านบาท โดยมีอยู่ 5 โครงการด้วยกัน ซึ่งโครงการที่ใช้งบประมาณมากที่สุดก็คือ โครงการส่งเสริมภาพลักษณ์สินค้าแฟชั่นจากทุนทางวัฒนธรรมไทยสู่สากล เมื่อดูรายละเอียดของโครงการจะพบว่าเป็นการออกแบบสินค้าโดยใช้ผู้มีองค์ความรู้ทางด้านมวยไทยมาร่วมออกแบบผลิตภัณฑ์ทางแฟชั่นทีไ่ด้แรงบันดาลใจมาจากมวยไทย อันถือเป็นซอฟต์พาวเวอร์ของไทย โดยใช้งบประมาณถึง 130 ล้านบาท

ทั้งนี้ก็ต้องมาจับตามองกันว่าทิศทางในการสานต่อนโยบายซอฟท์พาวเวอร์ของรัฐบาลใหม่ชุดนี้จะไปในทิศทางใด

ว่าแต่อะไรบ้างที่ถือว่าเป็นซอฟท์พาวเวอร์

แต่หนึ่งในซอฟท์พาวเวอร์จากวัฒนธรรมปัจจุบันนี้ที่ทรงอิทธิพลอย่างมหาศาลก็คือ ซีรีส์วาย (Y series) มีการคาดการณ์กันว่า ซีรีส์วายเฉพาะการทำรายได้ภายในประเทศน่าจะเกิน 1,000 ล้านบาท ซึ่งส่วนมากมาในรูปแบบงานพรีเซนเตอร์ของคู่จิ้นในเรื่อง

สำหรับการส่งออกซีรีส์วายของไทยนอกจากการเข้าร่วมกับแพลตฟอร์มดูหนัง ซีรีส์ อย่าง WeTV และ Viu ที่ช่วยทำให้ซีรีส์ไทยเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมไปทั่วโลกแล้ว ในส่วนกิจกรรมอื่นๆ ส่วนมากแล้วจะเป็นการจัดการโดยกลุ่มแฟนคลับในแต่ละประเทศเสียมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นการขายสินค้าที่ระลึกที่พ่วงมากับซีรีส์เรื่องนั้นๆ หรือการจัดแฟนมีตติ้ง เช่นในกรณีที่เกิดขึ้นในประเทศจีน

และแม้ว่าประเทศจีนจะแบนซีรีส์วาย ไม่ว่าจะเป็นของจีนเองหรือจากต่างประเทศ แต่คนจีนก็ได้เสพซีรีส์วายจากต่างประเทศบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ อย่างในกรณีของซีรีส์วายไทย ก็มีกลุ่มชาวจีนที่ชื่นชอบละคร ซีรีส์ หรือเพลงไทย นำไปแปลภาษาและเผยแพร่จนตั้งขึ้นเป็นบริษัท Fun Thai Culture ซึ่งทำให้เกิดแฟนมีตติ้งซีรีส์วายในจีนเรื่อยมาตั้งแต่ปี 2559 ไม่ว่าจะเป็นจากเรื่อง Make it right the series รักออกเดิน, Sotus พี่ว้ากตัวร้ายกับนายปีหนึ่ง, Love sick the series รักวุ่น วัยรุ่นแสบ, 2Moons The Series เดือนเกี้ยวเดือน

ในปี 2563 ซีรีส์วายไทย เรื่อง เพราะเราคู่กัน (2gether) จาก GMMTV ถูกซื้อลิขสิทธิ์เข้าไปฉายในฟิลิปปินส์ จนก่อ

ให้เกิดปรากฏการณ์ซีรีส์วายไทยฟีเวอร์ในฟิลิปปินส์ หรือล่าสุดกับ เพราะเราคู่กัน (2gether The Movie) ในรูปแบบภาพยนตร์ที่ได้เข้าฉายที่ประเทศญี่ปุ่นก่อนใครเพื่อน ตามกระแสความฟีเวอร์ของคู่ไบรท์-วิน ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งส่งผลให้เกิดการนำเอาซีรีวายส์หลายเรื่องไปแปลเป็นภาษาญี่ปุ่นในรูปแบบมังงะอีกด้วย ทั้งเรื่องเพราะเราคู่กัน, โซตัส พี่ว้ากตัวร้ายกับนายปีหนึ่ง, นิทานพันดาว, พฤติกรรมที่ตาย และด้ายแดง

ซึ่งไม่เพียงแค่ตัวซีรีส์เท่านั้นที่เป็นซอฟท์พาวเวอร์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่คู่จิ้นจากซีรีส์วายของไทยก็ยังเป็นตัวสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมแฟชั่นระดับลักชัวรี่อีกด้วย จากรายงานของ Bloomberg บอกว่า ตลาดสินค้าลักชัวรี่ของประเทศไทยคาดว่าจะขยายตัวด้วยอัตราการเติบโตต่อปี (CAGR) ที่ร้อยละ 5.62 จากประมาณ 4.64 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้จนถึงปี 2571 ในขณะที่สิงคโปร์นั้นมีมูลค่า 4.06 พันล้านดอลลาร์ในปี 2566 และคาดว่าจะโตเพียง 3.49 เปอร์เซ็นต์ระหว่างปี 2566-2571

แต่ถึงอย่างนั้นตลาดสิงคโปร์กับไทยก็มีความแตกต่างกัน เพราะสิงคโปร์จะเด่นที่เครื่องประดับและนาฬิกาหรู และกำลังซื้อมาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่ของไทยนั้นมาจากกำลังซื้อภายในประเทศโดยเฉพาะเหล่า Gen Z ที่เป็นแฟนคลับของดาราซีรีส์วายซึ่งเป็นตัวแทนของแบรนด์หรูแต่ละแบรนด์ ที่ช่วยเพิ่มยอดขายจนทำให้แบรนด์ระดับโลกหันมามองประเทศไทยมากขึ้น

ก่อนหน้านี้ประเทศไทยมี พีพี กฤษฏ์  อำนวยเดชกร ซึ่งเป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับการแต่งตั้งจาก Balenciaga ให้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ และล่าสุดในปีที่ผ่านมา Dior ก็แต่งตั้งให้ มาย ภาคภูมิ ร่มไทรทอง’ และ อาโป        ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์ เป็น House Ambassador ประจำประเทศไทยอย่างเป็นทางการ หลังจากที่ก่อนหน้านั้น อาโป ณัฐวิญญ์ ไปร่วมงานแฟชั่นโชว์ของดิออร์ที่มุมไบ และสามารถสร้างมูลค่าทางสื่อได้ถึง 47 ล้านบาท และเมื่อทั้งสองคนได้รับการโปรโมทเป็น House Ambassador ประจำประเทศไทยแล้ว ล่าสุดทั้งคู่บินไปร่วมมงานแฟชั่นโชว์คอลเลกชั่น Spring-Summer 24 ของดิออร์ที่ปารีส และยังสามารถสร้างมูลค่าทางสื่อร่วมกันได้ถึง 628 ล้านบาทเลยทีเดียว

และไม่ใช่แค่มายกับอาโปเท่านั้นนะ อีกหนึ่งคู่จิ้นจากซีรีส์วายอย่าง วิน เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร ก็ยังเป็นนักแสดงไทยคนแรกที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของแบรนด์ Prada และสามารถสร้างยอดมูลค่าทางสื่อได้สุดสูงถึง 942 ล้านบาท เป็นอันดับ 1 ในช่วง Milan Men’s Fashion Week หรือหนุ่มไบร์ท วชิรวิชญ์ ชีวอารี คู่  จิ้นของวินจากเรื่อง 2gether ก็เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกตอนใต้คนแรกของ Burberry และในซีซั่นล่าสุด London Fashion Week Spring/Summer 2024 ก็สามารถสร้างมูลค่าทางสื่อได้ถึง 76 ล้านบาท จากการไปร่วมชมแฟชั่นโชว์ที่ลอนดอน

และนั่นเองคือเป็นสาเหตุที่ทำให้แบรนด์ลักชัวรี่ระดับโลกหันมามองตลาดในไทยและใช้ดาราคู่จิ้นซีรีส์วายไทยในการสร้างยอดขาย ซึ่งนอกจากคู่จิ้นที่กล่าวไปแล้วยังมี ‘เจมีไนน์  นรวิชญ์ ฐิติเจริญรักษ์ และ โฟร์ท ณัฐวรรธน์       จิโรชน์ธิกุล  ที่บินใปร่วมแฟชั่นโชว์ของ Zegna ที่มิลาน มิว ศุภศิษฏ์ จงชีวีวัฒน์ และ ตุลย์ ภากร ธนศรีวนิชชัย     ก็ไปร่วมงานนิวยอร์กแฟชั่นวีคในโชว์ของแบรนด์ Michael Kors นอกจากนี้ก็ยังมี เต ตะวัน วิหครัตน์ กับโชว์ของแบรนด์ Loewe หรือ ภูวินทร์ ตั้งศักดิ์ยืน ที่ไปคู่กับปอนด์ ณราวิชญ์ เลิศรัตน์โกสุมภ์ กับโชว์ของ Tommy Hilfiger ที่นิวยอร์กแฟชั่นวีคเช่นเดียวกัน

Digiqole ad

บทความที่น่าสนใจ