รีวิว TCL : LED55P6US
ปีที่แล้วการแข่งขันของตลาดทีวีสูงก็จริง คนซื้อหลาย ๆ คนเริ่มหันมามอง 4K TV เป็นหลัก แต่ดูเหมือนในบ้านเราคนขายแต่ละเจ้าจะทุ่มไปที่ทีวีรุ่นท้อป ๆ ซึ่งต้องยอมรับว่าคงสุดเอื้อมสำหรับใครหลายคน P ซีรี่ย์จึงเป็นหนึ่งในซีรี่ย์ที่ขายดีที่สุดของ TCL ก็ไม่แปลก เพราะเมื่อเทียบไปเทียบคุณภาพของการใช้งานที่ไม่น้อยหน้าคู่แข่ง กับราคาที่พอกระตุ้นให้มันออกมาจากกระเป๋าได้ มันจึงเป็นที่จับตามองเป็นมันของหลาย ๆ คน มาปีนี้ TCL จึงคงอยากตอกตะปูปิดประตูไม่ให้ใครเข้ามาแย่งตลาด 4k TV ในระดับราคาประมาณ 3 หมื่น อย่างไรนะเหรอครับ ก็ด้วย P Series ตัวใหม่ที่ใช้ชื่อว่า 55P6US ตัวนี้ไง
เรื่องราคาผมไม่เอะใจเลย TCL ไม่เคยทำให้ผิดหวัง แต่อย่าลืมเขาไม่ได้ขายทีวีอยู่ซีรี่ย์เดียวจึงต้องมีบางอย่างเหลือเอาไว้ให้แบ่งออกแต่ละเซกเม้นต์ เพื่อมันจะได้แตกต่างกับรุ่นอื่น ๆ บ้าง
แล้วเจ้า P6 ตัวใหม่ตัวนี้มันเจ๋งยังไงล่ะ? ใจเย็น ๆ ครับมาดูที่มาของมันสักหน่อยกันก่อน กว่าจะมาเป็นทีวีตัวนี้ TCL เขาเริ่มศึกษาจากพฤติกรรมของการใช้งานทีวีระดับราคานี้เพื่อให้ทราบว่าผู้บริโภคทั่วไปนำทีวีไปใช้ยังไง หรือต้องการฟังก์ชั่นอะไรบ้าง แน่นอนครับสมัยนี้ถ้าใครที่ไม่ซื้อสมาร์ททีวีก็คงแปลกแล้ว แต่ถ้าบอกว่าสำหรับความถี่ของการที่ได้ใช้ฟังก์ชั่นนี้ มากน้อยต่างกันนี่ไม่แปลกบางคนเข้าอินเทอร์เน็ตด้วยทีวีเยอะกว่าดูดิจิตอลทีวีปกติมากกว่าด้วยซ้ำ หรือบางทีก็ 50:50 แต่รู้แค่นี้ยังไม่พอครับ
เขาเจาะลึกลงไปอีกว่าเข้าอินเทอร์เน็ตเพื่อดูคอนเท้นต์จากไหน?
สำหรับแนวความคิดของ TCL พิสูจน์ออกมาด้วย P6US ตัวนี้ว่าคนไทยเข้าอินเทอร์เน็ตเพื่อดู Youtube และ Netflix สองเวปดังเป็นหลัก ดังนั้นเข้าจึงมุ่งเน้นกับสองแอปฟลิเคชั่นนี้ แบบ Certified ไปเลย คือได้รับการรับรองจากเจ้าของคอนเท้นต์ว่าใช้งานได้ครบสมบูรณ์แบบทุกฟังก์ชั่น
ซึ่งก็…..จบ ครับ ไม่ต้องยุ่งวุ่นวายกับระบบปฏิบัติกง ปฏิบัติการอื่น ก็เราใช้งานอยู่สองอย่าง เน้นมาที่ 2 แอปฯ
แต่จริงมันก็มีระบบปฏิบัติการทำงานเป็นพ่อบ้านอยู่เบื้องหลังนะครับ แต่ P6US ไม่ได้เน้น เป็นระบบเดิมที่ TCL พัฒนากันมา เลือกลงแอปฯ อื่น ๆ อีกบางตัวที่คิดว่าคนที่เอาไปใช้จะใช้ประโยชน์นอกจากสองแอปฯ ที่ว่า กลายเป็นว่านอกจากทีวีคู่แข่งที่เป็นสมาร์ททีวีจากแดนกิมจิที่มีทั้งสองแอปฯ นี้ และสมาร์ททีวีที่ใช้ Andoird TV ของ Google แล้ว จากนี้คงต้องใส่ชื่อ P6US ไปอีกตัวแล้วล่ะครับ
เรียบเนียนไร้รอยต่อ
ตั้งแต่ P Series ตัวก่อนหน้านี้ TCL ก็เน้นเรื่องงานประกอบให้เข้าตาผู้บริโภคบ้านเรามาแล้ว ด้วยฝาหลังที่เป็นโลหะ มาคราวนี้ต้องเรียกว่าเปลี่ยนมุมมองใหม่ของทีวีราคาช่วงระดับนี้เลย เพราะไม่เพียงแต่ด้านหลังที่เป็นฝาโลหะเขายังทำให้มันเป็นชิ้นเดียวเลยออกมาเป็นขอบด้านข้างทีวี ไม่ต้องมีน็อต มีตะปูมาให้สะดุดตา เรียบสนิท เห็นเขาบอกว่าเป็นโลหะเกรดเดียวกับที่ใช้ในโทรศัพท์มือถือรุ่นแพง ๆในบ้านเรา บรรจงทำสีออกมาแบบคมเข้มมีผสมเมทาลิคให้ดูสะท้อนแสงนิด ๆ มองด้านข้างจึงบางแค่ 9.9 ซม. เท่านั้น
มีคนบอกว่าด้านหลังของทีวี นี่คนใช้คงไม่ค่อยได้ใส่ใจกับมันมากเพราะมันอยู่ข้างหลัง ถ้างั้นมาดูด้านหน้าบ้าง P6 ตัวนี้ถือว่าเป็นทีวีที่มีขอบจอเล็กมาก ๆ ขอบจอของมันมีความกว้างเพียงแค่ 4.8 mm ทำให้ส่วนที่เป็นขอบของมันไม่มีผลกับแสงของจอน้อยมากเวลาต้องปิดไฟดู ส่วนพื้นที่ด้านล่างที่เป็นโลโก้ TCL ก็จะหนากว่าด้านอื่นนิดนึง
ด้านขวาจะมีปุ่มกลม ๆ ที่มีไฟเรืองแสงบอกให้รู้สถานะของการทำงานซึ่งมันเป็นตั้งแต่รุ่นที่แล้วที่เวลาทำงานมันจะดับแต่เวลาปิดเครื่องมันจะแสดงสถานะว่าสแตนบายคือสว่างแบบค้างเอาไว้ หรือจะเปลี่ยนให้มันสว่างขึ้นมาช้า ๆ สลับไป-มา ก็ได้ ตัวที่รับรีโมทคอนโทรลอยู่ใต้โลโก้ TCL นะครับไม่ใช่อยู่ที่ตรงปุ่มวงกลมนี้
ส่วนของขาตั้งก็จะเป็นขาทรงกิ่งไม้ที่เป็นโลหะซึ่งก็จะว่าไปแล้วการออกแบบทีวีที่เป็นรูปทรงแบบนี้ก็จะใช้ขาตั้งประเภทนี้ถือว่าสามารถรองรับน้ำหนักได้มั่นคงพอประมาณ ลำโพงจะยิงลงด้านล่างซึ่งจูนเสียงได้นิดหน่อยตามหลักการคือวางบนโต๊ะ หรือแขวนผนัง โดยทีวีตัวนี้มีภาคถอดรหัส Dolby Digital มาด้วยซึ่งแสดงว่าคุณสามารถดูหนังจาก Streaming service ที่เข้ารหัสมาเป็นดอลบี้ดิจิตอลได้เลยจากลำโพงสองตัวนี้
ทีวีตัวนี้ต้องบอกว่าสำหรับคนที่ไม่ได้เน้นการเชื่อมต่ออะไรมากมายก็ต้องถือว่า “ครบ” แบบที่ไม่ต้องไปยุ่งวุ่นวายอะไรมาก เป็น HDMI 3 สามช่อง หนึ่งในนั้นเป็น (ARC) กับ USB ให้สองช่อง เป็นช่องเซอร์วิธที่เพียงสามารถใช้ประโยชน์แค่ให้ไฟเลี้ยงพวกเสาอากาศภายในซะหนึ่งช่อง ดังนั้นเราจึงเหลือ USB 2.0 ให้ใช้อีกแค่ช่องเดียว Rj45/ SPDIF/ AV in/ช่องต่อเสาอากาศ และช่องต่อหูฟัง เรียงกันอยู่ตรงนี้ทั้งหมด โดยแยกขั้วต่อไฟ AC ที่เป็นแบบ 2 ขาไปไว้อีกด้านหนึ่งของจอไม่มากวนกันกับแผงรับสัญญานด้านนี้
ถือว่าเป็นการออกแบบที่จำกัดจำเขี่ยไปนิดนึงโดยเฉพาะขั้วต่อ USB ที่ให้มาใช้งานเพียงแค่ช่องเดียวแต่ก็นั่นล่ะครับคนที่ใช้ทีวีตัวนี้ส่วนใหญ่ก็คงจะเป็นประเภทที่ไม่ได้ซุกซนอะไรมาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าช่อง USB ที่ให้มาเพียงช่องเดียวนี่มันจะใช้ประโยชน์ได้น้อยลง มันให้ประโยชน์กับได้เยอะเลยเพียงแต่ต้องใช้มันเป็นเท่านั้น