fbpx

รีวิว Honor 10 Lite“น้องเล็กสเปคฯ เกินตัว กล้องดี จอใหญ่ ดีไซน์หรู”

หลังจากเปิดตัวแบรนด์ ‘Honor’ ในเมืองไทยมาเกือบครบ 1 ปี ชื่อของออเนอร์ก็ได้ปักธงสร้างภาพลักษณ์ของสมาร์ทโฟนราคาคุ้มค่ามาอย่างต่อเนื่อง

ในเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว หลังจากที่ได้รีวิวสมาร์ทโฟน Honor 10 ดีไซน์และสมรรถนะของมันทำให้ผมรู้สึกประทับใจไม่น้อยเลยทีเดียวครับ พอทราบข่าวว่าทางออเนอร์เขาเตรียมจะส่งน้องเล็กอย่าง Honor 10 Lite ออกมาเจาะตลาดสมาร์ทโฟนราคาย่อมเยาด้วย ผมจึงไม่รอช้าที่จะเคลียร์คิวมารีวิวเจ้าน้องเล็กรุ่นนี้ด้วย

แค่ unboxing ก็ปิ๊งในดีไซน์
ใน Honor 10 ผมได้เห็นความพยายามในการลดขนาดของ notch หรือรอยบากบนหน้าจอเพื่อเพิ่มอัตราส่วนหน้าจอต่อขนาดเครื่อง (screen to body ratio) หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ การเพิ่มพื้นที่แสดงผลให้ภาพใหญ่เต็มตามากที่สุดโดยที่ไม่ต้องเพิ่มขนาดเครื่องจนเกินจำเป็น

มาในรุ่น Honor 10 Lite ความพยายามนั้นก็ยังไม่ได้ถูกละเลยไปโดยการลดขนาดของรอยเว้าแหว่งบนหน้าจอให้เหลือเพียงแค่ติ่งกลมเล็ก ๆ ที่ทางออเนอร์เรียกว่า ‘หยดน้ำ’ เท่านั้น ซึ่งดีไซน์นี้ทางออเนอร์เขาเคลมว่าเป็นรายแรกที่นำมาใช้กับสมาร์ทโฟนราคาย่อมเยา หรือถ้าไม่อยากเห็นรอยเว้าแหว่งบนหน้าจอเลยก็สามารถกดซ่อนให้หน้าจอด้านบนเป็นแถบดำได้ด้วยเช่นกัน

ทำให้จอทัชสกรีน IPS LCD ขนาด 6.21 นิ้ว อัตราส่วน 19.5:9 Full-View HD ความ 1,080 x 2,340 พิกเซลของ Honor 10 Lite ดูสวยเต็มตาโดดเด่นใช้ได้เลยครับ มีการใช้เทคโนโลยี Chip on Film (COF) และเสาอากาศดีไซน์พิเศษทำให้ขอบตัวเครื่องมีความบางเพียง 4.7 มิลลิเมตร จะจับถือใช้งาน หรือพกพาในกระเป๋ากางเกงก็ไม่ได้รู้สึกว่าใหญ่โตเทอะทะแต่อย่างใด

ลำโพงสนทนาขนาดเล็กออกแบบให้ฝังอยู่ที่ขอบตัวเครื่องด้านบน แล้วย้ายไฟเตือนสถานะจุดเล็ก ๆ มาไว้ที่ด้านล่างของตัวเครื่อง ส่วนเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือก็ออกแบบให้อยู่ที่ฝาหลัง เป็นการออกแบบที่สามารถบริหารพื้นที่บนหน้าจอได้อย่างชาญฉลาด

นอกจากหน้าจอแล้ว ที่ออกแบบมาดูดีไม่แพ้กันก็คือตัวเครื่องโดยรวม โดยเฉพาะฝาหลังที่ได้รับการถ่ายทอด DNA ของรุ่นพี่อย่าง Honor 10 มาแบบสำเนาถูกต้อง ด้วยดีไซน์ออกแนวสปอร์ตโฉบเฉี่ยวนำแฟชัน ปิดด้วยแผ่นกระจกแบบ 3D ที่มีขอบโค้งมนจับแล้วเข้ามือดีเหลือเกิน (ตรงนี้ดูหรูกว่า Honor 10 ซะอีก)

ฝาหลังของ Honor 10 Lite ยังโชว์ความมันวาวสะท้อนเฉดสีที่แตกต่างกันในแต่ละมุมมอง ด้วยเทคนิคการเคลือบสีฝาหลังแบบไล่เฉดสี 8 ชั้น (ข้อมูลทางเทคนิคจากออเนอร์) โดยได้รับแรงบันดาลใจการดีไซน์มาจากความสวยงามและการไล่เฉดสีของท้องฟ้า โดยมีทั้งหมด 3 เฉดสี ได้แก่ สีฟ้าสกายบลู (Sky blue), น้ำเงินเข้ม (Sapphire blue) และสีดำ (Midnight black)

ความสวยตรงนี้อาจไม่เกี่ยวกับเรื่องของสมรรถนะโดยตรง แต่ในแง่ของการใช้งานผมว่ามันเท่ดีครับ โดยเฉพาะคนที่ไม่ใส่เคสหรือใส่เคสแบบใส แม้แต่ตัวเครื่องสีดำ (Midnight black) ที่ได้รับมาทดลองใช้งานในครั้งนี้ก็ยังสะท้อนความมันวาวดังกล่าวออกมาได้

ยิ่งถ้าเป็นตัวเครื่องเฉดสีฟ้าของเวอร์ชันสี Sky Blue ที่เขาว่าทำสีแบบไล่เฉดสีจากบนลงล่าง เรียกว่าวัยรุ่นเห็นแล้วต้อง ‘ว้าว’ แน่นอนครับ ออเนอร์เขาคุยว่าแบบนี้ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อนซะด้วย!

รุ่นเล็กแต่แอบแรง ฟีเจอร์แพงเกินค่าตัว
Honor 10 Lite เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จากออเนอร์ที่วางกลุ่มเป้าหมายไว้ชัดเจนว่าเป็นกลุ่มผู้ใช้ที่มองหามือถือในราคาย่อมเยาแต่มีประสิทธิภาพที่ไม่ได้ย่อมเยาไปตามราคา

ดังนั้นการที่เขากล้าใส่ชิปประมวลผลที่มีเทคโนโลยี AI และ GPU Turbo มาด้วยในตัวอย่าง ‘Kirin 710’ ก็ต้องถือว่าใจป้ำพอสมควร เพราะโดยสมรรถนะและทางเทคนิคแล้ว Kirin 710 นี่ก็คือภาคย่อส่วนชิปเซ็ตของสมาร์ทโฟนระดับเรือธงดี ๆ นี่เองครับ เป็นชิปประมวลผลสมัยใหม่ที่พัฒนาให้แรงแล้วยังใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในเวลาเดียวกัน

ยิ่งเมื่อได้ทำงานร่วมกับระบบฏิบัติการรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง EMUI 9.0 (Android Pie) ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ล้ำ ๆ มากมาย ก็ยิ่งส่งเสริมให้สมาร์ทโฟนราคา (ที่คาดว่าจะ) ย่อมเยารุ่นนี้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นไปอีก เพราะทางผู้ผลิตเขาเคลมว่ามันจะเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับตัวเครื่องถึง 30% และลดเวลาในการเปิดใช้งานแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ได้ถึง 12.9%

สำหรับหน่วยจำ RAM ที่ให้มา 3GB และความจุข้อมูลในตัวเครื่องที่ให้มาแค่ 32GB ต้องบอกว่าน้อยไปนิดสำหรับยุคนี้ แต่ก็เข้าใจได้ว่านี่ไม่ใช่สมาร์ทโฟนระดับบน และความจุข้อมูลก็สามารถเพิ่มได้จากช่องใส่ microSD card (สูงสุด 512GB)

Honor 10 Lite มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 3,400mAh และหัวชาร์จแบบ 5V 2A ที่รองรับระบบชาร์จเร็วแบบ Fast Charge ขณะที่ขั้วต่อข้อมูล/ชาร์จไฟ ยังคงเป็น Micro USB ไม่ใช่ USB Type-C ซึ่งปัจจุบันพบเห็นได้ในสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ๆ โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนในระดับกลางถึงระดับบน ใกล้ ๆ กับขั้วต่อ Micro USB เป็นลำโพงและช่องเสียบหูฟัง 3.5mm

ในส่วนของระบบกล้องใน Honor 10 Lite ก็ถือว่าเปิดตัวมาได้น่าสนใจ เพราะกล้องเซลฟี่หรือกล้องหน้าที่มีแค่เลนส์เดียวนั้นมีความละเอียดถึง 24MP แถมยังทำงานผสานกับระบบ AI ทำให้มันมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ดูเกินตัวไปอีก

อย่างเช่น การถ่ายเซลฟี่ในโหมด Portrait ที่เล่นกับระยะชัดตื้น-ชัดลึก การถ่ายโหมดบิวตี้ที่ดูเป็นธรรมชาติ หรือการถ่ายในโหมด 3D Portrait Lighting ที่เล่นกับการปรับแสง ทั้งหมดนี้สามารถทำได้แม้ว่า Honor 10 Liteนั้นมีกล้องหน้าแค่ตัวเดียว

ส่วนกล้องหลังนั้นเป็นเทคโนโลยีกล้องเลนส์คู่ 13MP + 2MP ที่มาพร้อมกับรูรับแสงขนาด f/1.8 และ f/2.4 ซึ่งทำงานผสานกับเทคโนโลยี AI เช่นกัน เมื่อมาพร้อมกับ EMUI 9.0 จึงเป็นที่มาของฟีเจอร์ล้ำ ๆ

อย่างเช่น การสแกนประเภทของวัตถุที่จะถ่าย การสแกนปริมาณแคลอรี่ของอาหาร หรือการถ่ายในโหมดกลางคืนที่มีเทคโนโลยีกันสั่นแบบ AIS (AI Image Stabilization) เหมือนในมือถือระดับเรือธง

ลองใช้งาน
ก่อนอื่นต้องขอชมว่าทางออเนอร์คิดถูกอย่างมากที่เลือกระบบปฎิบัติการ EMUI 9.0 มาใช้กับสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ตั้งแต่ออกจากโรงงาน เมื่อทำงานร่วมชิปประมวลผลยุคใหม่ที่มี AI อย่าง Kirin 710 สิ่งที่รับรู้ได้ชัดเจจนตลอดการใช้งานก็คือ ความลื่นไหลของ UI หรือการเรียกใช้งานแอปฯ ต่าง ๆ

โดยเฉพาะการเปิด-ปิด รวมทั้งการปลดล็อคหน้าจอด้วยการสแกนลายนิ้วมือถือว่าทำได้รวดเร็วฉับไวแทบไม่ต่างจากมือถือระดับไฮเอนด์ ไร้ซึ่งอาการหน่วง ๆ หนืด ๆ แบบที่เคยพบเจอในมือถือราคาย่อมเยาเมื่อ 1-2 ปีที่ผ่านมา

ผมได้ลองเล่นเกมที่ปัจจุบันเทคโนโลยี GPU Turbo รองรับอย่างเช่น PUBG เบื้องต้นสามารถเล่นได้ลื่นไหลดี เกมที่ผมคุ้นเคยอย่าง Real Racing 3 หรือ PES 2019 ก็ยังสามารถเล่นได้ลื่นไหลไม่ติดขัด จอแสดงผลของ Honor 10 Lite ในภาพรวมถือว่าทำได้ดีทั้งเรื่องของความสว่างสดใส หรือมุมมองภาพ ด้านความใหญ่เต็มตาถือว่าคุ้มมากสำหรับมือถือระดับนี้ใครที่ชอบดูคลิปวิดีโอหรือเล่นเกมรับรองว่าถูกใจแน่นอนครับ

ในส่วนของคุณภพการแสดงผล ด้านสีสันจอของ Honor 10 Lite ถูกปรับแต่งมาแบบเน้นให้เน้นความสดใสเป็นหลัก (over-saturate นิด ๆ) แต่ก็ยังคงมีความเป็นธรรมชาติอยู่ ด้านคอนทราสต์ของภาพในที่กลางแจ้งอาจเป็นรองจอแสดงผลประเภท OLED อยู่พอสมควร แต่ในสถานที่ปิดทั่วไปก็ถือว่าทำได้ดีชนิดที่ไม่มีอะไรให้ต้องตำหนิกัน

ด้านคุณภาพของกล้องถ่ายรูปสำหรับกล้องหลังคู่เรียกได้ว่าถอดแบบคุณภาพมาจากรุ่นพี่อย่าง Honor 10 กันเลยทีเดียว กล้องหลังคู่ที่ให้มาถือว่าใช้ถ่ายรูปได้สนุกพอสมควร

คนที่คุ้นเคยกับกล้องคู่ของค่ายนี้สามารถครีเอทภาพตามที่ต้องการได้ไม่ยาก จัดได้ว่าเป็นกล้องในสมาร์ทโฟนที่มีมาตรฐานคุณภาพสูงเกินตัวไป ตินิดเดียวตรงระบบออโตโฟกัสเวลาทำงานในที่แสงน้อยยังทำได้ไม่ดีเท่ารุ่นพี่ ทั้งเรื่องความเร็วและความแม่นยำในการโฟกัส

ความเห็นโดยสรุปและข้อสังเกต
นอกจากความสวยของตัวเครื่องที่ดูเหมือนจะสวยกว่ารุ่นพี่อย่าง Honor 10 แล้ว สิ่งที่ผมชมเชยอย่างมากสำหรับ Honor 10 Lite ก็คือคุณภาพของกล้องโดยเฉพาะกล้องเซลฟี่

อีกเรื่องที่ค่อนข้างประทับใจคือความลื่นไหลในการใช้งานทั่วไป บางครั้งผมรู้สึกว่ามันยังลื่นไหลกว่าสมาร์ทโฟนบางรุ่นในระดับมิดเอนด์เสียอีก

ระบบชาร์จไฟแม้ว่าไม่มีระบบ SuperCharge เหมือนรุ่นพี่ แต่ก็แลกมาด้วยแบตที่อึดทนทานพอสมควร แล้วก็ยังดีที่มีอะแดปเตอร์ Fast Charge มาให้ในกล่อง และถ้าหากเปลี่ยนจากขั้วต่อ Micro USB เป็น USB Type-C ด้วยล่ะก็ ส่วนนี้ผมจะไม่หักคะแนนจิตพิสัยเลย

นอกจากนั้นผมยังพบว่าการเชื่อมต่อสัญญาณ Wi-Fi ของเครื่องที่รีวิว มันไม่รองรับ Wi-Fi 5 (802.11ac) ความถี่ 5GHz แต่ที่ดูจากสเปคฯ ของเครื่องที่วางจำหน่ายแล้วในต่างประเทศบางแห่ง พบว่ามันรองรับ Wi-Fi 5 ทั้ง 2.4GHz + 5GHz ด้วยครับ ดังนั้นใครที่ให้ความสำคัญกับจุดนี้เป็นพิเศษถึงเวลาที่เครื่องรุ่นนี้ออกวางจำหน่ายจริงก็อย่าลืมพิจารณากันก่อนนะครับ


ช่องทางการจัดจำหน่ายและราคา
สมาร์ทโฟน Honor 10 Lite จะเริ่มให้ Pre Order กันวันแรกวันที่ 26 มกราคม – 1 กุมภาพันธ์ 2562 ในช่องทาง Lazada (https://bit.ly/2ThKsbw), CSC, AIS online และ Honor Brand shop โดยมีจำหน่าย 3 สีด้วยกันคือ สีฟ้าสกายบลู (Sky blue), น้ำเงินเข้ม (Sapphire blue) และสีดำ (Midnight black)

และจะเริ่มวางจำหน่ายทั่วไปในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ ในราคา 6,490 บาท โดยมีช่องทางการจัดจำหน่ายคือ Lazada, CSC, AIS Shop และ Honor Brand shop

Digiqole ad

บทความที่น่าสนใจ