Recent News รวมข่าวความเคลื่อนไหวในแวดวงต่างๆ ที่น่าสนใจประจำวันที่ 8 ธันวาคม 2022
The 3rd International Thai Silk Fashion Week 2022 แฟชั่นวีค ผ้าไหมไทย นานาชาติ ครั้งที่ 3
สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมกับ สมาคมส่งเสริมผ้าไหมและวัฒนธรรมไทย จัดงาน แฟชั่นวีค ผ้าไหมไทย นานาชาติ ครั้งที่ 3 เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงพระชนมพรรษา 90 พรรษา ในปีนี้
ซึ่งการจัดงานครั้งนี้มีดีไซน์เนอร์ชั้นนำจากนานาประเทศกว่า 60 ประเทศเข้าร่วม เพื่อทำการออกแบบและตัดเย็บชุดประจำชาติหรือชุดร่วมสมัยโดยใช้ผ้าไหมไทยทั้งหมด สำหรับในส่วนของประเทศไทยได้มีการนำชุดผ้าไหมของนิสิต นักศึกษา ที่ชนะเลิศการประกวดโครงการ The Next Big Silk Designer Contest ครั้งที่ 4 เข้าร่วมงานด้วยเช่นกัน
โดยในปีนี้นับเป็นการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ ที่ได้ จิมมี่ ชู ผู้ออกแบบรองเท้าชื่อดังจากประเทศอังกฤษ รวมถึง โรคอล บาโรคอล ห้องเสื้ออันดับ 1 จากประเทศอิตาลี และคิม ดันฮา ผู้ออกแบบชุดเสื้อผ้าให้แก่นักร้องวง Black pink ในเพลง How You Like That ที่ผ่านการคัดเลือกจากสถานทูตที่เข้าร่วมโครงการ โดยได้มีการจัดส่งผ้าไหมไปต่างประเทศรวมแล้วกว่า 7,000 เมตร อีกด้วย
สำหรับภายในงานนี้จะมีการเดินแฟชั่นโชว์ วันละ 5 รอบโชว์ โดยแบ่งเป็น 2 ประเภท
1. Full Show ซึ่งดีไซน์เนอร์จะออกแบบตัดชุดผ้าไหมเป็นคอลเลคชั่น จำนวน 12 ชุด
2. Combine Show ดีไซน์เนอร์จะออกแบบและตัดเย็บชุดผ้าไหม จำนวน 6 ชุด และร่วมแสดงผลงานกับดีไซน์เนอร์ที่มาจากภูมิภาคเดียวกัน
พร้อมกันนี้ภายในงานนี้ยังมีการจัดการประกวด The 1st International Thai Silk Design Contest เพื่อเปิดโอกาสให้ดีไซน์เนอร์ต่างชาติออกแบบชุดผ้าไหมร่วมสมัย ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสานสัมพันธไมตรีและความร่วมมือทางการทูตผ่านผ้าไหมไทย ทั้งยังเป็นการอวดโฉมความสวยงามของผ้าไหมไทยที่มีความเป็นอัตลักษณ์ว่าสามารถใช้ได้กับทุกเชื้อชาติ ทุกวัฒนธรรมทั่วโลก โดยจะประกาศผลการประกวดในวันที่ 11 ธันวาคม 2565 ในงานพิธีปิด ทั้งนี้ กำหนดจัดงานจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 7 – 11 ธันวาคม 2565 ณ รอยัล พารากอนฮอล์ล ศูนย์การค้าสยามพารากอน สอบถามเพิ่มเติมข้อมูลได้ที่ โทร090- 240-8117 หรือ www.association-thaisilk-promotions.org
แสนสิริ ย้ำเบอร์หนึ่ง เจ้าตลาดอสังหาฯซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ไทย เขย่าตลาด ปี’66
เศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เผยว่า “แสนสิริ ยืนหยัดในการเป็นเจ้าตลาดอสังหาฯซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ไทยทั้งบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียม ที่เหนือกว่าคู่แข่งรายอื่นๆในวงการอสังหาฯไทยกับจุดแข็งที่ไม่มีใครสามารถเทียบได้ บทพิสูจน์ที่ย้ำความเป็นผู้นำของแสนสิริในฐานะตัวจริงอันดับหนึ่งของผู้พัฒนาอสังหาฯ ซูเปอร์แฟล็กชิพลักซ์ชัวรี่ไทย มาจากความเชื่อมั่นและการยอมรับจากลูกค้าระดับบน ทั้งในแบรนด์และคุณภาพของโครงการแสนสิริ รวมถึงความเข้าใจในตัวตนและรสนิยมการอยู่อาศัยที่แท้จริง ซึ่งล่าสุดประกาศความสำเร็จกับ 3 ปรากฏการณ์สำคัญ ตั้งแต่ นาราสิริ กรุงเทพกรีฑา ราคา 50—95 ลบ. ปิดการขายทันทีใน 1 เดือน แม้ยังไม่เปิดให้เข้าชม บูก้าน โยธินพัฒนา ราคา 40-80 ลบ. ปิดการขายใน 4 เดือน คุณ บาย ยู 1st Design-Branded Residence หนึ่งเดียวในไทย ที่ปิดการขายเพ้นท์เฮาส์ทุกยูนิต ตร.ม.ละเกือบ 6 แสนบาท สูงสุดในย่านทองหล่อ นอกจากนี้ เรามีลูกค้าบางกลุ่ม ที่สะสมโครงการในพอร์ต Sansiri Luxury Collection เป็นคอลเลคชั่นทรัพย์สินอสังหาริมทรัพย์ส่วนตัว รวมถึงที่ต้องการส่งต่อเป็นมรดกให้กับ next-generation ต่อไปได้”
ปัจจุบัน แสนสิริ ประสบความสำเร็จจากการปิดการขายอย่างรวดเร็วภายใต้ Sansiri Luxury collection โครงการแฟล็กชิพซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่และลักซ์ชัวรี่ รวมจำนวนทั้งสิ้น 5 โครงการ รวมมูลค่าโครงการเกือบ 30,000 ล้านบาท ประกอบด้วย 2 โครงการใหม่ล่าสุดที่เพิ่งปิดการขาย NARASIRI KRUNGTHEP KREETHA (นาราสิริ กรุงเทพกรีฑา) โครงการบ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี่ บนกรุงเทพกรีฑา คอมมูนิตี้ The Best Location ในย่านกรุงเทพกรีฑา มูลค่าโครงการ 6,000 ล้านบาท บูก้าน โยธินพัฒนา (BuGaan Yothinpattana) เอ็กซ์คลูซีฟ โมเดิร์น เรสสิเดนท์ 14 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 600 ล้านบาท 98Wireless (ไนน์ตี้เอท ไวร์เลส) แฟล็กชิพซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่คอนโดมิเนียม มูลค่ากว่า 8,500 ล้านบาท ที่ยืนหนึ่ง ทุบสถิติราคาขายต่อตารางเมตรที่พุ่งแรงสูงสุดในประเทศไทยนับตั้งแต่เปิดตัว บ้านแสนสิริ พัฒนาการ โครงการแฟล็กชิพบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ย่านพัฒนาการ มูลค่าโครงการกว่า 3,000 ล้านบาท เดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อ คอนโดมิเนียมลักซ์ชัวรี่ใจกลางทองหล่อ มูลค่าโครงการกว่า 6,500 ล้านบาท และล่าสุดกับ คุณ บาย ยู อินสไปร์ บาย สตาร์ค (KHUN by YOO inspired by Starck) ภายใต้ร่วมทุนกับ บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ 1st Design-Branded Residence หนึ่งเดียวในไทย ที่เพิ่งปิดการขเพ้นท์เฮาส์ทุกยูนิต ตร.ม. ละเกือบ 6 แสนบาท สูงสุดในตลาดทองหล่อ มูลค่าโครงการ 4,400 ล้านบาท
AIS ผนึกกำลัง อย. ส่งต่อข้อมูลความรู้ ผลิตภัณฑ์สุขภาพผ่านแอปพลิเคชัน อสม.ออนไลน์ เพื่อให้ประชาชนบริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีมาตรฐานและปลอดภัย
AIS ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. ด้วยการเพิ่มข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพจากอย. ผ่านแอปพลิเคชัน อสม.ออนไลน์ เพื่อเสริมสร้างข้อมูลความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องให้ อสม. นำไปเผยแพร่แก่ประชาชนในการบริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีมาตรฐานและผ่านการรับรองจาก อย. พร้อมย้ำเตือนประชาชนไม่ให้หลงเชื่อโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพและเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคจนถึงขั้นเสียชีวิตได้
นางสายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าฝ่ายงานประชาสัมพันธ์ เอไอเอส กล่าวว่า “เอไอเอส ในฐานะผู้ให้บริการดิจิทัล ตามวิสัยทัศน์องค์กรโทรคมนาคมอัจฉริยะ ยังมีภารกิจสำคัญในการนำศักยภาพขององค์กรมาสร้างประโยชน์และคุณค่าให้กับสังคมและประเทศชาติเพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านสาธารณสุข เอไอเอส ได้พัฒนาแอปพลิเคชัน อสม.ออนไลน์ให้เป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์เฉพาะกลุ่มในการทำงานสาธารณสุขชุมชนเชิงรุก ทำให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) สามารถเข้าถึงข้อมูลด้านสุขภาพของประชาชนได้อย่างรวดเร็วและครอบคลุม รวมทั้งยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างการเรียนรู้ ความเข้าใจและทักษะเรื่องการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อส่งเสริมให้ อสม. มีความรอบรู้ด้านสุขภาพ และสามารถถ่ายทอดความรู้สู่ประชาชนให้เกิดความรอบรู้ด้านสุขภาพของชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยในครั้งนี้ เอไอเอส ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา นำข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพมาไว้บนฟีดข่าวบนแอปพลิเคชัน อสม.ออนไลน์ เพื่อให้ อสม.ในฐานะที่มีบทบาทสำคัญในการเฝ้าระวังด้านสุขภาพและทำงานด้านคุ้มครองผู้บริโภค สามารถเข้าถึงข้อมูลและมีความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพได้ครอบคลุมมากขึ้น เพื่อนำไปเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารและทำความเข้าใจกับประชาชนในการเลือกซื้อ เลือกใช้และบริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีมาตรฐานและได้รับการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องจาก อย. พร้อมย้ำเตือนประชาชนให้รู้เท่าทันไม่ตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อโฆษณาที่กล่าวอ้างสรรพคุณเกินจริง เพื่อเฝ้าระวังป้องกันไม่ให้ประชาชนบริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพและเป็นอันตรายจนถึงขั้นเสียชีวิตได้
เภสัชกรหญิงวารีรัตน์ เลิศนที ผู้อำนวยการกองพัฒนาศักยภาพผู้บริโภค สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โดยกองพัฒนาศักยภาพผู้บริโภค มีภารกิจสำคัญในการเสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับการบริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพอย่างถูกต้องให้แก่ประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการเผยแพร่ความรู้ผ่านช่องทางต่าง ๆ ทั้งสื่อมวลชน สื่อออนไลน์ เช่น Facebook, Line, Twitter, Youtube และ Instagram ภายใต้ชื่อ FDAThai และผ่านเครือข่ายต่าง ๆ เช่น อย.น้อย, บวร.ร รวมถึงเครือข่ายอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) สำหรับ อสม. นับเป็นเครือข่ายที่มีบทบาทสำคัญในฐานะผู้นำการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมด้านสุขภาพอนามัยและการสื่อสารข้อมูลความรู้ด้านสาธารณสุขให้แก่ผู้บริโภคในชุมชน ซึ่งในการประชุมระดับโลก ต่างชาติให้การยอมรับว่า อสม. เป็นกลไกที่ทำให้ระบบสาธารณสุขสามารถเดินหน้าได้อย่างเข้มแข็ง ด้วยเหตุนี้ อย. จึงเห็นความสำคัญและยินดีร่วมดำเนินงานส่งต่อความรู้ด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพผ่านแอปพลิเคชัน อสม. ออนไลน์ ซึ่งเป็นเครื่องมือช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานด้านสุขภาพในชุมชน รวมทั้งยังเป็นช่องทางในการส่งเสริมและพัฒนาให้ผู้บริโภคมีความรอบรู้ด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ (Smart Consumer) ด้วย”
ความร่วมมือครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานส่งเสริมสุขภาพชุมชน ที่เอไอเอสตั้งใจพัฒนาขึ้นด้วยแนวคิดการให้บริการเพื่อสังคมที่ต้องการส่งเสริมให้ชุมชนพื้นฐานของสังคมมีโอกาสได้เข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัยได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม
สยามเซ็นเตอร์ มอบยอดรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย จากกิจกรรม SNEAKERS KILLER และ “Siam Center x JAY B ‘Be Yourself’ The First Exhibition in Bangkok” แก่มูลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าฯ
ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม กับโปรเจค SNEAKERS KILLER โปรเจคสำหรับคนรักสนีกเกอร์ยิ่งใหญ่ประจำปีของสยามเซ็นเตอร์ กับนิทรรศการและโชว์เคสศิลปะสตรีทสไตล์เอาใจคอมมูนิตี้คนรักสนีกเกอร์ และผลงานสร้างสรรค์สนีกเกอร์โดยศิลปินสายสตรีทชื่อดังนำโดย POORBOY หรือ ต้น-เกษมวิทย์ ชวีวัฒน์ โดยรายได้จากการจำหน่ายผลงานออกแบบสนีกเกอร์จากศิลปิน 5 ท่าน และอีกกิจกรรมที่เป็นไฮไลต์ของงานนี้ คือนิทรรศการ “Siam Center x JAY B ‘Be Yourself’ The First Exhibition in Bangkok” ที่ศิลปินชื่อดังอย่าง JAYB จาก GOT7 บินลัดฟ้ามาร่วมสร้างสรรค์นิทรรศการเพื่อให้แฟนได้ใกล้ชิดและสัมผัสแง่มุมการทำงานและไลฟ์สไตล์ โดยมี SIAM CENTER x JAY B Merchandise ชอปที่รวบรวมของที่ระลึกจัดจำหน่าย สรุปรวมรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายของทั้งสองกิจกรรมทั้งสิ้นจำนวน 706,155 บาท
ทั้งนี้รายได้ทั้งหมดจากแคมเปญ SNEKERS KILLER และ นิทรรศการ “Siam Center x JAY B ‘Be Yourself’ The First Exhibition in Bangkok” ได้นำไปร่วมสมทบทุนส่งมอบให้กับโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โครงการแขน-ขาเทียม มูลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าในพระราชูปถัมภ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย JAYB ร่วมด้วยเอกวิทย์ ชัยวรานุรักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารหน่วยธุรกิจ สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ ได้เป็นตัวแทนในการส่งมอบยอดจากกิจกรรมให้แก่ตัวแทนจากมูลนิธิ พลตรี รชต ลำกูล ผู้ช่วยเลขาธิการมูลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าในพระราชูปถัมภ์ฯ
นับเป็นอีกโครงการดีๆที่สนับสนุนทั้งศิลปินและช่วยเหลือสังคม ส่งต่อคุณค่าและวิสัยทัศน์ในการสนับสนุนพื้นที่สร้างสรรค์และเปิดกว้างต่อความหลากหลาย ต่อยอดสู่คอมมูนิตี้และสังคมที่มีคุณภาพ ซึ่งเป็นนโยบายของกลุ่มสยามพิวรรธน์ ดังจะเห็นได้จากกิจกรรมและโปรเจคต่างๆที่ได้ริเริ่มมาโดยตลอด
airasia ride เปิดตัวแอปเรียกรถถูกกฏหมาย ชูกลยุทธ์ ราคาโดนใจ มอบประสบการณ์เดินทางแบบครบวงจรสำหรับคนไทยและนักท่องเที่ยว
airasia Super App แพลตฟอร์มด้านการท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ที่มีบริการหลากหลายและเติบโตเร็วที่สุดในอาเซียน เปิดตัวบริการเรียกรถยนต์รับจ้างผ่านแอปถูกกฏหมายในไทย ชูกลยุทธ์ ราคาโดนใจที่มาพร้อมเปิดตัวบริการรถยนต์ใน 3 รูปแบบ รถ Economy ขนาดเล็ก 4 ที่นั่ง (ไซส์ S) รถคอมแพ็ค ขนาด 4 ที่นั่ง (ไซส์ M) รถพรีเมียม และ SUV ขนาด 6 ที่นั่ง (ไซส์ L) พร้อมประกาศรับสมัครพาร์ทเนอร์คนขับในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล และกำลังจะเปิดตัว 3 ฟีเจอร์ระบุคนขับเพื่อตอบโจทย์ผู้โดยสารเร็วๆนี้
นางสาวณัฏฐิณี ตะวันชุลี ผู้อำนวยการใหญ่ airasia Super App ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “airasia ride ให้บริการเรียกรถแท็กซี่รับส่งคนกรุงเทพและปริมณฑลในไทยตั้งแต่พฤษภาคม 2565 วันนี้เพิ่มการให้บริการเรียกรถยนต์รับจ้างผ่านแอปพลิเคชันได้อย่างถูกกฎหมาย เป็นทางเลือกที่พร้อมสร้างความสะดวกสบายในการเดินทางสำหรับคนกรุงเทพฯและปริมณฑล ด้วยราคาที่เหมาะสมและบริการที่คำนึงถึงความต้องการของผู้โดยสารเป็นหลัก ข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติปี 2562 ชี้ว่าคนกรุงหมดค่าใช้จ่ายด้านการเดินทางมาเป็นอันดับ 3 รองจากค่าอาหารและที่อยู่อาศัย ด้วยเหตุนี้เชื่อว่าการกำหนดราคาแบบสมเหตุสมผลจะช่วยให้ทั้งคนกรุงเทพฯและปริมณฑลสามารถเข้าถึงและวางแผนการเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย ราบรื่นไร้รอยต่อและลดภาระค่าครองชีพได้ เพิ่มเติมเกี่ยวกับ airasia Super App, AirAsia ที่ [email protected]