fbpx

Recent News: สรุปข่าวประจำวันที่ 7 กรกฏาคม 2023

สตาร์บัคส์ ประเทศไทยเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปี เรื่องราวกาแฟและสัมพันธภาพกับคนไทย

สตาร์บัคส์ ประเทศไทย เฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปีแห่งการสร้างสัมพันธภาพกับผู้คน การยกระดับชุมชนท้องถิ่น และการรังสรรค์กาแฟและเครื่องดื่มอย่างต่อเนื่อง ประกาศพลิกโฉมร้านสตาร์บัคส์ รีเสิร์ฟ เจ้าพระยา รีเวอร์ฟร้อนท์ ไอคอนสยาม ซึ่งเป็นร้านที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สู่การเป็นร้านกาแเพื่อชุมชนแห่งที่ 2 ของประเทศไทย สะท้อนความมุ่งมั่นและทุ่มเทของสตาร์บัคส์ที่มีต่อลูกค้าในประเทศไทย

การเดินทางกว่า 25 ปีของสตาร์บัคส์ ประเทศไทย ทำให้แบรนด์มีร้านสาขาทั่วประเทศถึง 465 สาขา มีพาร์ทเนอร์ (พนักงาน) กว่า 4,300 คนที่ร่วมกันส่งมอบ ประสบการณ์สตาร์บัคส์ ในทุกวัน  สตาร์บัคส์ ประเทศไทย ซึ่งให้บริการลูกค้ามากกว่า 800,000 คนในทุกสัปดาห์ ยังคงเดินหน้าในการสร้างและรักษาสัมพันธภาพกับลูกค้าและชุมชน พร้อมมองหาโอกาสในการสร้างสัมพันธภาพที่มากขึ้นผ่านแก้วกาแฟ โดยมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนร้านสาขาจนครบ 800 แห่ง พร้อมกับร้านกาแฟเพื่อชุมชนครบ 8 แห่งภายในปี พ.ศ. 2573 เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะเร่งการเติบโตในไทย ซึ่งเป็นตลาดที่มีพลวัตมากที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ควบคู่ไปกับการกระชับความสัมพันธ์กับชุมชนท้องถิ่นให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ในขณะเดียวกันพร้อมพลิกโฉม ไอคอนสยาม แฟล็กชิปสโตร์ เพื่อยกระดับสัมพันธภาพชุมชน : ร้านกาแฟ สตาร์บัคส์เพื่อชุมชน (Starbucks Community Store)  ได้รับการออกแบบมาเพื่อเป็นร้านสาขาที่สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้พาร์ทเนอร์ สามารถเป็นส่วนหนึ่งและมีส่วนร่วมกับชุมชนในรูปแบบเฉพาะซึ่งจะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละร้านสาขา สำหรับร้านกาแฟเพื่อชุมชนแห่งใหม่ที่ไอคอนสยาม ซึ่งเป็นร้านที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยนี้ จะสร้างผลกระทบเชิงบวกที่เปี่ยมไปด้วยคุณค่าให้กับชุมชนท้องถิ่น ผ่านรูปแบบการดำเนินธุรกิจแบบแบ่งปันรายได้ โดย 10 บาท จากการจำหน่ายกาแฟทุกแก้วจะได้รับการแบ่งปันอย่างเท่าเทียมกันให้แก่ 2 องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร ซึ่งได้แก่ มูลนิธิพัฒนาชาวเขาแบบผสมผสาน (Integrated Tribal Development Foundation – ITDF) และ มูลนิธิสโกลารส์ ออฟ ซัสทีแนนซ์ (Scholars of Sustenance – SOS) นอกจากนี้ ร้านกาแฟเพื่อชุมชนแห่งใหม่นี้ ยังสอดคล้องกับพันธกิจของสตาร์บัคส์ที่จะเปิดร้านกาแฟเพื่อชุมชนให้ได้ทั้งหมด 1,000 แห่งทั่วโลกภายในปี พ.ศ.2573

การเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการให้มากกว่าที่รับ : สตาร์บัคส์ ประเทศไทย มุ่งมั่นส่งต่ออนาคตที่ยั่งยืนผ่านการลดการปล่อยคาร์บอน น้ำเสีย และของเสีย โดยเริ่มจากการปฏิบัติตามแนวทาง ร้านกาแฟสีเขียว (Starbucks Greener Store) ในประเทศไทย ซึ่งแนวทางการดำเนินงานดังกล่าวนี้ สตาร์บัคส์ ได้พัฒนาร่วมกับ องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (World Wildlife Fund – WWF) ซึ่งประกอบด้วยชุดมาตรฐานที่อิงตามผลการปฏิบัติงาน 25 ชุดที่ครอบคลุมผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหลากหลายด้าน เช่น ประสิทธิภาพพลังงาน การดูแลน้ำ และการแยกของเสีย ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อเร่งการเปลี่ยนแปลงไปสู่ร้านสาขาที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยลง และสนับสนุนเป้าหมายปี พ.ศ. 2573  ของสตาร์บัคส์ ในการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ถูกปล่อยออกมาจากการผลิตหรือการให้บริการ (Carbon Footprint)  พร้อมลดการใช้น้ำและของเสียลง 50%

ณ ปัจจุบัน สตาร์บัคส์ ประเทศไทยได้รับรองร้านกาแฟสีเขียวทั้งหมด 3 แห่งที่ดำเนินการโดยใช้ไฟฟ้าที่มีความสามารถในการตรวจสอบพลังงานที่แม่นยำ เพื่อระบบการจัดการพลังงาน (Energy Management System – EMS) อย่างละเอียด ซึ่งจะรวบรวมข้อมูลการใช้พลังงานแบบเรียลไทม์เพื่อรักษาประสิทธิภาพและประสิทธิผลการใช้พลังงานในระดับสูง ระบบนี้จะช่วยให้ร้านค้าสามารถระบุจุดการใช้พลังงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ พร้อมช่วยควบคุมและอนุรักษ์การใช้พลังงานต่อไปในอนาคต

นอกจากนี้ สตาร์บัคส์ ประเทศไทย ยังสนับสนุนทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นให้กับลูกค้าผ่านโครงการต่างๆ เช่น โครงการบรรจุภัณฑ์สำหรับใช้ในร้าน (For-Here-Ware) และการรณรงค์การใช้ Reusable Cup โดยลูกค้าที่นำแก้วส่วนตัวมาซื้อเครื่องดื่มที่ร้านจะได้รับส่วนลด 10 บาท รวมถึง โครงการ Grounds for Your Garden ที่ลูกค้าสามารถรับถุงกากกาแฟไปบำรุงสวนที่บ้านได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

ทั้งนี้การเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปีและสินค้าคอลเลคชั่นพิเศษนั้นมีจำหน่ายสำหรับลูกค้าสมาชิก Starbucks® Rewards ระหว่างวันที่ 7-8 กรกฎาคม ณ สุราลัย ฮอลล์ ห้างสรรพสินค้าไอคอนสยาม ชั้น 7 โดยจะได้เพลิดเพลินไปกับกิจกรรมพิเศษต่างๆ  รวมถึงการชิมกาแฟสุดพิเศษ อย่าง กาแฟ พรินซี เบลนด์ (Princi™ Blend), กาแฟรีเสิร์ฟ กาลาปากอส ลา ตอร์ตูกา (Reserve Galapagos La Tortuga) และของสะสมพิเศษที่มีจำหน่ายเฉพาะในงานเท่านั้น อาทิ Bling Cold Cup ในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปี และสินค้าชุมชนท้องถิ่น ซึ่งประกอบไปด้วย คอลเลคชั่นเบญจรงค์ และกระเป๋าสานผักตบชวา สมาชิก Starbucks® Rewards ทุกท่านที่สนใจสามารถเข้าร่วมกิจกรรมโดยซื้อตั๋วเข้างานได้ที่ทางเข้างาน

อีวีโลโม เทคโนโลยีส์ ร่วมมือกับ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประเทศไทย ขยายพื้นที่อินฟราสตรัคเจอร์รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย

อีวีโลโม เทคโนโลยีส์ หนึ่งในระบบชาร์จสาธารณะของไทยที่ใหญ่ที่สุดและเติบโตอย่างรวดเร็ว มีความยินดีที่จะประกาศความร่วมมือกับ Schneider ผู้นำด้านการจัดการพลังงานและอัตโนมัติทั่วโลก เพื่อรับการเสริมสร้างอินฟราสตรัคเจอร์รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในประเทศ ภายใต้ความร่วมมือนี้ Schneider จะให้อุปกรณ์ชาร์จชั้นนำในอุตสาหกรรม โซลูชันการสร้างเครือข่าย และบริการที่กำหนดเอง พร้อมสนับสนุน EVLOMO ด้วยเครื่องชาร์จ EVlink ประสิทธิภาพสูงสำหรับรถไฟฟ้า

โครงการความร่วมมือนี้ประกอบด้วยการติดตั้งสถานีชาร์จใหม่ทั่วประเทศไทย การร่วมมือนี้จะทำให้ประเทศไทยมีจุดชาร์จความเร็วสูงเพิ่มขึ้นกว่า 100 จุดในทำเลที่ตั้งยุทธศาสตร์ ทำให้เจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าสามารถชาร์จได้อย่างสะดวกสบายทั่วประเทศ และในฐานะหนึ่งในผู้บุกเบิกในอุตสาหกรรมนี้ อีวีโลโม เทคโนโลยีส์ ยังคงมุ่งมั่นที่จะให้ประสบการณ์การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า โดย ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประเทศไทย และ อีวีโลโม เทคโนโลยีส์ มุ่งมั่นที่จะช่วยสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงสู่อนาคตที่ไร้มลพิษและตอบสนองต่อความต้องการเพิ่มขึ้นในการให้บริการระบบการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยการรวบรวมผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการจัดการพลังงานและเทคโนโลยีการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Schneider เพื่อให้เข้ากับเครือข่ายที่กว้างขวางของ EVLOMO ทำให้การร่วมมือนี้มีศักยภาพที่จะพลิกโฉมบริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศให้ก้าวหน้าได้อย่างก้าวกระโดด

Schneider และ EVLOMO มุ่งมั่นที่จะช่วยสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงสู่อนาคตที่ไร้มลพิษและตอบสนองต่อความต้องการเพิ่มขึ้นในการให้บริการของกระบวนการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยการรวมผู้ความเชี่ยวชาญในการจัดการพลังงานและเทคโนโลยีการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Schneider กับเครือข่ายที่กว้างขวางของ EVLOMO ทำให้การร่วมมือนี้มีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนแปลงทิศทางการให้บริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศให้ก้าวข้ามขีดจำกัดได้

Digiqole ad

บทความที่น่าสนใจ