Recent News: สรุปข่าวประจำวันที่ 5 เมษายน 2024
โฮม่า มุ่งกำหนดนิยามการอยู่อาศัยแบบยั่งยืน : ลดค่าใช้จ่ายกว่า 4 ล้านบาท และตัดการปล่อย CO2 สูงถึง 950 ตันในปี 2566
โฮม่า (HOMA) คอมมิวนิตี้อพาร์ตเมนต์ ผู้นําที่อยู่อาศัยภายใต้แนวคิดการอยู่อาศัยแบบชุมชนในราคาที่เอื้อมถึงได้ สร้างสถิติใหม่ด้วยการประหยัดเงินทุนประมาณ 4 ล้านบาท และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 950 เมตริกตันในปี 2566 ภายใต้วิสัยทัศน์สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม นำร่องนวัตกรรมการก่อสร้างอาคารและการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน
ทั้งยังนำพาอาคารสิ่งปลูกสร้างไปสู่มิติใหม่แห่งการขับเคลื่อนเชิงสิ่งแวดล้อม โดยการบูรณาการมาตรฐานการรับรองอาคารที่ยั่งยืนระดับโลก ยกระดับความรับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) รวมทั้งการตลาดแบบ ‘สีเขียว’ เพื่อตอบสนองความต้องการและการเติบโตอย่างรวดเร็วของสาธารณชนต่อผลิตภัณฑ์และบริการที่ยั่งยืน
โดยในปี 2566 โฮม่าสาขาภูเก็ตทาว์น เปิดตัวเป็นสาขาแรกในจังหวัดภูเก็ต พร้อมกับโครงการสิ่งแวดล้อม เช่น การรีไซเคิลและการจัดการขยะอย่างครอบคลุม นำเสนอนวัตกรรมการอนุรักษ์น้ำระบบอัจฉริยะ พลังงานหมุนเวียนจากแผงโซลาร์เซลล์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดพลังงาน ซึ่งต่อมาที่โฮม่าสาขาที่สองในจังหวัดภูเก็ตที่สาขาเชิงทะเลเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยคาดการณ์การประหยัดเงินสูงถึง 2.5 ล้านบาทในปี 2567
ลูก้า ดอตติ ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ HOMA กล่าวว่า “ในการพัฒนาโฮม่าเชิงทะเล เราได้นำกลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จจากสาขาภูเก็ตทาว์นมาปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ประกอบด้วยการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศสำหรับคุณภาพอากาศที่ดียิ่งขึ้น และฉนวนกันเสียงที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น มอบสภาพแวดล้อมที่ดีที่สุดให้กับผู้เข้าพัก ความมุ่งมั่นนี้ไม่เพียงช่วยเสริมสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกบ้านและลูกค้าเท่านั้น แต่ยังแสดงถึงการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งและการเรียนรู้จากประสบการณ์สำหรับความเชี่ยวชาญที่ยั่งยืน”
3 เสาหลักกลยุทธ์ความยั่งยืนของโฮม่า ได้แก่ การบูรณาการจัดหาเงินทุนที่เป็นไปตามหลัก ESG ซึ่งเน้นการพัฒนาที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ความรับผิดชอบต่อสังคม และการบริหารจัดการที่มีธรรมาภิบาล รวมไปถึงการทำการตลาด ‘สีเขียว’ และการใช้โซลูชันที่เป็นรูปธรรม โครงการอพาร์ตเมนต์ของโฮม่าทุกแห่งได้รับการรับรองมาตรฐานอาคารสีเขียวระดับสากล LEED และ EDGE โดยความมุ่งมั่นนี้เสริมสร้างความยั่งยืนและเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้โฮม่าได้รับการสนับสนุนจากธนาคารอย่างต่อเนื่อง
“การเป็นธุรกิจที่ได้รับมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนแสดงถึงความมุ่งมั่นในการอนุรักษ์ อีกทั้งยังเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือและการยอมรับในกลุ่มลูกค้า หุ้นส่วน และแหล่งเงินทุน ถือเป็นข้อได้เปรียบที่ทำให้โฮม่าเป็นผู้เล่นที่โดดเด่นในอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูง” ลูก้า กล่าวเสริม
การเงินเพื่อความยั่งยืน: ปัจจัยใหม่ในการดึงดูดหุ้นส่วนการพัฒนา
โฮม่า ฉลองความสำเร็จของสินเชื่อสีเขียว หรือสินเชื่อเพื่อโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมมูลค่า 675 ล้านบาท ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เอเชีย นับเป็นก้าวย่างสำคัญจากการสนับสนุนของ UOB Real Estate Sustainable Finance Framework ในการร่วมมือครั้งแรกกับธนาคารในสิงคโปร์ ซึ่งปูทางให้โฮม่าโดดเด่นในเวทีการลงทุนด้วยการดำเนินการแบบ ‘สีเขียว’ ที่นำมาซึ่งการเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินและการลดต้นทุนการดำเนินงาน นับเป็นการยืนยันถึงการลงทุนที่มีความยั่งยืนและเป็นกลยุทธ์ระยะยาวสำหรับนักลงทุนที่มองเห็นความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
ผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจธุรกิจสีเขียว: แนวโน้มใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยม
ผู้บริโภคให้ความสำคัญต่อการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดย 80% ของผู้บริโภครุ่นใหม่หันมา สนับสนุนผลิตภัณฑ์และบริการที่ยั่งยืน แม้ความยั่งยืนอาจไม่ใช่ปัจจัยหลักในการเลือกที่อยู่อาศัย แต่โฮม่าค้นพบว่า การนำแนวปฏิบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความภักดี และเป็นเหตุผลที่ดีในการแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับโฮม่า ซึ่งช่วยรักษาและดึงดูดลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ความยั่งยืนที่ปฏิบัติได้จริง
โฮม่า นำร่องเป็นที่อยู่อาศัยหลายครอบครัวแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองทั้ง LEED และ EDGE ควบคู่ไปกับการสนับสนุนทางการเงินจาก UOB ทำให้โฮม่าสาขาภูเก็ตทาวน์ได้มีการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์กว่า 240 kWp บนหลังคาและลานจอดรถ แนวคิดความยั่งยืนถูกประยุกต์ใช้ทุกมุมด้วยตู้กดน้ำบนทุกชั้นอาคาร การเก็บน้ำฝนและการนำน้ำสีเทากลับมาใช้ รวมถึงก๊อกน้ำและสุขภัณฑ์ประหยัดน้ำ ห้องพักติดตั้งเครื่องซักผ้า Energy Star ใช้ไฟ LED และกระจกประหยัดพลังงาน นอกจากนี้ อาคารยังได้รับการออกแบบให้ระบายอากาศตามธรรมชาติ พร้อมมีหม้อต้มน้ำแบบอินเวอร์เตอร์และหน่วย AC ที่ประหยัดไฟ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับผู้อยู่อาศัย ในขณะที่ยกระดับความสะดวกสบายและสนับสนุนวิถีชีวิตที่ยั่งยืนต่อโลก
โฮม่า ขับเคลื่อนชุมชนสู่ความยั่งยืน นำชาวบ้านและผู้อยู่อาศัยร่วมมือทำความสะอาดชายหาดเดือนละครั้ง เพื่อชายหาดที่สะอาดและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งกิจกรรมนี้ยังถือเป็นโอกาสให้ทุกคนในชุมชนได้มาพูดคุยและสร้างความสัมพันธ์กัน โครงการนี้แสดงถึงความพยายามของโฮม่าในการทำงานร่วมกับชุมชนและธุรกิจใกล้เคียง เพื่อให้บริเวณรอบ ๆ สะอาด และยังช่วยรวมเงินบริจาคให้กับองค์กรการกุศลในท้องถิ่น สร้างความสามัคคีและสนับสนุนจิตวิญญาณชุมชนไปพร้อมกัน
“การมุ่งเน้นความยั่งยืนในโครงการต่าง ๆ ช่วยให้เราลดต้นทุนการดำเนินงานได้อย่างชัดเจน ซึ่งเพิ่มกำไรและทำให้ที่อยู่อาศัยของเรามีคุณภาพสูงยิ่งขึ้น การดำเนินงานของเรายังส่งผลให้เกิดชุมชนที่แข็งแกร่งและมีส่วนร่วมมากขึ้น การเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนที่เราดำเนินงานอยู่นั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อเห็นผู้คนมารวมตัวกันเพื่อแสดงความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน เรามีความดีใจและตื่นเต้นอย่างยิ่งที่ได้เห็นความร่วมมือนี้จากทุกฝ่าย” คุณลูก้า กล่าว
“นิปปอนเพนต์” แต้มสี เติมความสดใสให้น้องๆ “อนุบาลสุขสวัสดิ์” ผ่านโครงการ “สีสร้างสุข”
นิปปอนเพนต์ ลงพื้นที่ปรับภูมิทัศน์ให้แก่โรงเรียน “อนุบาลสุขสวัสดิ์” อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ สานต่อโครงการ “สีสร้างสุข” ประจำปี 2567 อีกหนึ่งกิจกรรมเพื่อสังคมภายใต้โครงการ We Care We Share by Nippon Paint ที่ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พันธกิจหลักของโครงการฯ คือการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในชุมชนให้ดีขึ้น ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้ได้ความรับความร่วมมืออันดีจากหลายฝ่าย ได้แก่ พนักงานนิปปอนเพนต์ บุคลากรโรงเรียนอนุบาลสุขสวัสดิ์ และเจ้าหน้าที่เทศบาลลัดหลวง กว่า 50 ชีวิต ที่พากันร่วมพัฒนาพื้นที่ของโรงเรียนกันด้วยบรรยากาศคึกคักและอิ่มเอมใจ ช่วยกันคนละไม้คนละมือในการปรับภูมิทัศน์ให้สวยงาม น่าเรียน เพิ่มความปลอดภัย และส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้แก่นักเรียนและบุคลากรของโรงเรียน
“นิปปอนเพนต์ ประเทศไทย ในฐานะผู้ผลิตสีรายใหญ่อันดับ 1 ของเอเชีย และอันดับ 4 ของโลก จากประเทศญี่ปุ่น เรามุ่งมั่นคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมสีทาอาคารที่ใส่ใจความต้องการของผู้บริโภคอยู่เสมอ เราให้ความสำคัญต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนและสังคมรอบข้างให้ดีขึ้น หนึ่งในพันธกิจของนิปปอนเพนต์ คือ การเดินหน้าพัฒนาสู่ความยั่งยืน (Sustainable Development Goals) โดยยึด หลักการ 3 ประการ ได้แก่ การส่งเสริมด้านการศึกษา (Education) การสร้างการมีส่วนร่วมของคนในสังคม (Engagement) และการสร้างการเปลี่ยนแปลงในวงกว้าง (Empowerment) เพื่อส่งเสริมความยั่งยืนพร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของผู้คน นิปปอนเพนต์พร้อมสนับสนุนและส่งเสริมให้คนในชุมชนมีสุขภาพกายและใจที่ดี และอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข” นายวัชระ ศิริฤทธิชัย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท นิปปอนเพนต์ เดคโคเรทีฟ โคทติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
สำหรับโครงการ “สีสร้างสุข” ในปีนี้เป็นการลงพื้นที่โรงเรียน “อนุบาลสุขสวัสดิ์” ที่มีจำนวนนักเรียนและบุคลากรกว่า 600 คน ซึ่งเป็นโรงเรียนระดับอนุบาลจนถึงประถมศึกษา ด้วยการปรับภูมิทัศน์ของโรงเรียน อาทิ รั้วโรงเรียน สนามแชร์บอล ที่จอดรถ และทางเดิน รวมถึงทางม้าลาย โดยใช้นวัตกรรมสีและผลิตภัณฑ์จากนิปปอนเพนต์ ภายใต้ความร่วมมือของหน่วยงานราชการส่วนท้องถิ่น เทศบาลตำบลลัดหลวง รวมทั้งพนักงานนิปปอนเพนต์ที่อาสามาร่วมแปลงโฉมโรงเรียน ให้สวยงาม มีชีวิตชีวา น่ามอง เพื่อส่งต่อความห่วงใย สร้างความสุขและรอยยิ้มให้กับน้องๆ นักเรียนอนุบาลสุขสวัสดิ์ สอดคล้องกับแนวคิดสำคัญของโครงการ “สีสร้างสุข” คือ “สุขใจที่ได้ให้ สุขภาวะคนในชุมชน สุขสภาพแวดล้อม เพราะความสุขที่ยั่งยืน คือความสุขที่ทุกคนมีร่วมกัน”
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Fanpage: We Care We Share by Nippon Paint