Recent News: สรุปข่าวประจำวันที่ 3 เมษายน 2023
Heineken® Silver ชูกลยุทธ์มิวสิคมาร์เก็ตติ้งแบบไม่ซ้ำใคร ดึง 3 ค่ายเพลงคนรุ่นใหม่ ร่วมออกแบบประสบการณ์ใน Music Activation ตอกย้ำแนวคิด “Unexpectedly Smooth”
ไฮเนเก้น ซิลเวอร์ โดยกลุ่มบริษัท ทีเอพี ตอกย้ำภาพลักษณ์ของเครื่องดื่มพรีเมียมที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ปลุกกระแสช่องทางการจำหน่าย On-trade ดันกลยุทธ์ทางการตลาดรูปแบบ Music Marketing ตอกย้ำการสื่อสารทางการตลาดภายใต้แนวคิด “Unexpectedly Smooth” ที่พร้อมสร้างประสบการณ์ให้กลุ่มผู้บริโภคให้ได้สนุกกันแบบสมูทกันได้เกินคาด โดยจับมือกับ 3 ค่ายเพลงดังอย่าง Warner Music Thailand, YUPP! และ What The Duck มาร่วมจัดกิจกรรมทางดนตรี (Music Activation) ที่นอกเหนือจากความพิเศษของศิลปินที่แตกต่าง แนวเพลงและไอเดียของการนำเสนอรูปแบบของแต่ละค่าย ยังออกแบบมาให้ตรงกับกลุ่มผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ที่มีความต้องการที่หลากหลายทางด้านดนตรี โดยจะทยอยจัดกิจกรรมตลอดทั้งปีที่เอาท์เล็ทชั้นนำรวมกว่า 100 แห่ง หวังดันแบรนด์ให้เป็นที่จดจำและเป็น Top-of-Mind ของกลุ่มเซนเนียล (Zennials) ในประเทศไทย
คุณภัททภาณี เอกะหิตานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กลุ่มบริษัททีเอพี กล่าวว่า “ไฮเนเก้นในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ เราเน้นสร้างประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครให้กับคนรุ่นใหม่ ผ่านการจัดกิจกรรมการตลาดในรูปแบบต่างๆ เพื่อที่จะเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายและทำให้แบรนด์ของเรายังคงเป็น Top-of-Mind สำหรับผู้บริโภคในตลาดเครื่องดื่มพรีเมี่ยม โดยในปีนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีในการบุกตลาด On-trade ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ซึ่งตลาด On-trade นอกจากจะเป็นช่องทางหลักของไฮเนเก้นแล้ว ยังเป็นช่องทางที่ทำให้เราสามารถเข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี เราจึงได้แบ่งงบประมาณส่วนหนึ่งมาสร้างแผนการตลาด ด้วยการชูสินค้าใหม่อย่างไฮเนเก้น ซิลเวอร์ ที่จะมาเป็น Game Changer ในตลาด และการทำ Music Activation กับร้านคู่ค้า ซึ่งเรามองถึงเป้าหมายยอดการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ที่ 65% โดยเน้นกลุ่มคนรุ่นใหม่เพื่อขยายส่วนแบ่งทางการตลาดของแบรนด์ไฮเนเก้น
ซึ่งการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่ หรือ กลุ่มเซนเนียลที่มีอายุระหว่าง 20 – 34 ปี การใช้การตลาดในรูปแบบ Music Marketing จึงเป็นสิ่งที่ลงตัวกับการสื่อสารในครั้งนี้ เราตั้งใจที่จะส่งต่อประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ภายใต้แนวคิด “Unexpectedly Smooth” สมูทกันได้เกินคาด ผ่านการจัด Music Activation ที่จะเกิดขึ้นในเอาท์เล็ทรวมกว่า 100 แห่ง ทั่วประเทศไทย โดยร่วมมือกับ 3 ค่ายเพลงดังที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นอาทิ ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง “Warner Music Thailand” ค่ายเพลง HipHop ของคนรุ่นใหม่ที่ทุกคนจับตามอง “YUPP!” และหนึ่งในค่ายเพลงที่มาแรงที่สุดในยุคนี้ “What The Duck” ที่จะมาเป็นพาร์ทเนอร์สำคัญในการเติมเต็มประสบการณ์แบบสมูทกันได้เกินคาดให้กับชาวเซนเนียล ตลอดทั้งปี 2023 นี้”
คุณราฟิค ริซวัน ผู้บริหารฝ่ายการตลาดภายในประเทศ วอร์นเนอร์ มิวสิค (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ทางวอร์นเนอร์ มิวสิค ประเทศไทย มีความยินดีเป็นอย่างมากที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์กิจกรรมทางดนตรีและมอบประสบการณ์ที่แตกต่างให้กับคนรุ่นใหม่ โดยเราได้ออกแบบโชว์ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Shuffle’ ซึ่งจะเป็นการมอบประสบการณ์สุดเซอร์ไพรซ์ทางดนตรีจากศิลปินผ่านโชว์สุดสมูท เชื่อว่าโชว์ที่เราจัดเตรียมไว้จะสามารถตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการเซอร์ไพรซ์ได้อย่างสมูทแน่นอน”
คุณพลกฤต ศรีสมุทร กรรมการผู้จัดการ ค่าย YUPP! ENTERTAINMENT กล่าวว่า “YUPP! เป็นค่ายเพลงของศิลปินรุ่นใหม่ที่ต้องการเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่เช่นเดียวกัน เรามากับคอนเซ็ปต์ ‘สมูทกันให้ยับ’ ที่จะสร้างความสนุก สมูทสะใจ ไปกับปาร์ตี้จากค่าย YUPP! พร้อมมอบประสบการณ์พรีเมียมสุดแปลกใหม่และคาดไม่ถึง โดยแนวเพลงของศิลปินในค่ายส่วนใหญ่จะเป็นแนวฮิปฮอป ที่ถือเป็นแนวเพลงที่กลุ่มคนรุ่นใหม่นิยมกันมากขึ้นในยุคนี้ เราเชื่อว่าการร่วมมือกันสร้างประสบการณ์ครั้งนี้จะต้องจัดเต็มไปด้วยความสมูทและความมันส์อย่างแน่นอน”
คุณสามขวัญ ตันสมพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอท เดอะ ดัก จำกัด กล่าวว่า “ศิลปินในค่าย What The Duck ทุกคนจะมีตัวตนและเอกลักษณ์ของตัวเองที่ชัดเจน ซึ่งการสร้างโชว์ครั้งยิ่งใหญ่นี้ เราได้นำเอาแนวคิดของไฮเนเก้น ซิลเวอร์ Unexpectedly Smooth ผสานกับชื่อค่ายของเรา ออกมาเป็นคอนเซ็ปต์ ‘Unexpedted’ โดยจะเป็นการสร้างสรรค์เพลงใหม่ขึ้นมาที่รับรองว่าแตกต่างไม่เหมือนใคร พร้อมมอบประสบการณ์ให้กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบความหลากหลายทางด้านดนตรีแบบสมูทกันได้เกินคาดทั่วไทย”
เตรียมพบกับกิจกรรมทางดนตรีที่แตกต่างไม่เหมือนใครสไตล์ Heineken® Silver พร้อมโชว์จากศิลปินชั้นนำมากมายจาก 3 ค่ายเพลงดัง ที่จะทยอยมอบประสบการณ์แบบสมูทกันได้เกินคาด ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเพจเฟสบุ๊ก HEINEKEN
ซีเล็คทูน่า ไม่แผ่วดึง “ยิปซี คีรติ” ขึ้นแท่นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรก ปลุกความฮอตตลาดทูน่ากระป๋อง ดันแคมเปญเด็ด “ซีเล็คสิ่งดีดี ซีเล็คทูน่า”
แบรนด์ ซีเล็ค (SEALECT) ทูน่ากระป๋องยอดขายอันดับ 1 ของประเทศไทย ภายใต้บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตอาหารทะเลระดับโลก เดินหน้าปรับลุคปลุกตลาดทูน่ากระป๋องในไทย เสิร์ฟแคมเปญ “ซีเล็คสิ่งดีดี ซีเล็คทูน่า” เจาะกลุ่มคนรักสุขภาพ พร้อมส่ง “ยิปซี คีรติ” นักแสดงและยูทูบเบอร์สายเฮลธ์ตี้ รั้งตำแหน่งแบรนด์แอมบาสเดอร์ ซีเล็คทูน่า ดีเดย์ปูพรมเปิดโฆษณาตัวใหม่ผ่านช่องทางออนไลน์ 1 เมษายนนี้ทั่วประเทศ
นายศรัณย์ รัตนรุ่งเรืองชัย ผู้จัดการทั่วไป บริหารกลุ่มตลาดเกิดใหม่ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันผู้บริโภคมีแนวโน้มหันมาใส่ใจสุขภาพผ่านการเลือกรับประทานอาหารที่ดีและได้คุณค่าทางโภชนาการและออกกำลังกายควบคู่กันไปมากขึ้น นับเป็นโอกาสของธุรกิจปลาทูน่ากระป๋องที่จะเติบโตได้มากขึ้น ขณะนี้ตลาดทูน่ากระป๋องในประเทศไทย มีมูลค่าตลาดราว 700 ล้านบาท ซึ่งซีเล็คทูน่าเป็นผู้นำตลาดอันดับ 1 มีส่วนแบ่งการตลาดถึง 59% ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา โดยซีเล็คทูน่ามีเป้าหมายในการเติบโต 10 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ผ่านกิจกรรมทางการตลาด โฆษณา โปรโมชั่น และการเลือกใช้แบรนด์แอมบาสเดอร์มาช่วยประชาสัมพันธ์
นอกจากนี้ เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์พรีเมี่ยมของกลุ่มสินค้าทูน่าเยลโล่ฟิน อย่างซีเล็คทูน่าในน้ำมันมะกอกนำเข้าจากยุโรป ซีเล็คทูน่าพลัสคอลลาเจน 2,000 ม.ก. และสินค้าใหม่ในอนาคต บริษัทฯ จึงได้เปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรกในรอบ 30 ปีของซีเล็คทูน่า คือ “ยิปซี คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์” นักแสดงและยูทูบเบอร์ชื่อดัง ที่มีความโดดเด่นทั้งพรีเมี่ยมไลฟ์สไตล์ บุคลิกภาพ และมีคาแรคเตอร์เป็นของตัวเองทั้งในด้านรูปร่าง ความมั่นใจ ความสดใส ความทันสมัย และที่สำคัญคือเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีทัศนคติเกี่ยวกับความสวยที่มีได้หลากหลายรูปแบบและต้องทำควบคู่กันไปทั้งการมีวินัยในการเลือกรับประทานอาหารและออกกำลังกาย สามารถเข้าถึงได้ถึงทั้งผู้บริโภคกลุ่มผู้หญิงและผู้ชาย ตอบโจทย์แบรนด์ ซีเล็คทูน่า
“นอกจากเราใช้กลยุทธแบรนด์แอมบาสเดอร์เป็นยิปซีแล้ว เพื่อต่อยอดให้แบรนด์แข็งแกร่งและตอบโจทย์เทรนด์ปัจจุบันได้ดียิ่งขึ้น บริษัทฯ ยังออกแคมเปญใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ซีเล็คสิ่งดีดี ซีเล็คทูน่า” ที่พูดถึงประโยชน์และโภชนาการที่ดีจากปลาทูน่าให้คนเข้าใจและหันมาทานปลาทูน่าในหลากหลายเมนูมากขึ้น พร้อมตั้งงบการตลาดราว 15 ล้านบาท เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายผ่านงานโฆษณามากกว่า 10 เวอร์ชั่น เผยแพร่ในช่องทางออนไลน์อย่างครบวงจร เช่น Facebook, Youtube, Instagram, Tiktok รวมถึง Billboard เป็นต้น โดยจะเริ่มออนแอร์เวอร์ชั่นแรกพร้อมกันในทุกช่องทางวันที่ 1 เมษายนนี้ และจะทยอยออกโปรโมชั่นและทำสินค้าพรีเมี่ยมผ่านดิสทริบิวเตอร์ต่าง ๆ แบบต่อเนื่อง คาดว่าปี 2566 ซีเล็คทูน่า จะสามารถเติบโตได้ไม่น้อยกว่า 10 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อน” นายศรัณย์ กล่าว
ทั้งนี้ ปัจจุบันซีเล็คทูน่า มีผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่ายหลากประเภท ได้แก่ 1.กลุ่มสินค้าพรีเมี่ยมทูน่าเยลโล่ฟิน เช่น ซีเล็คทูน่าในน้ำมันมะกอกนำเข้าจากยุโรป, ซีเล็คทูน่า พลัสคอลลาเจน 2,000 ม.ก. และอื่น ๆ 2.กลุ่มเพื่อสุขภาพ เช่น ซีเล็คฟิตต์ในน้ำแร่ธรรมชาติ น้ำเกลือ และน้ำมันถั่วเหลือง 3. กลุ่มน้ำพริก เช่น น้ำพริกผัดทูน่า, น้ำพริกนรก, น้ำพริกทูน่ากรอบ และ 4.กลุ่มพร้อมทาน (Read to eat ; RTD) เช่น มัสมั่น, พะแนง และแกงเขียวหวาน เป็นต้น
สามารถติดตามข่าวสารและกิจกรรมดี ๆ จากแบรนด์ซีเล็คทูน่าได้ที่ Facebook.com/SEALECTbrand และ LINE Official Account : @SEALECT
พานาโซนิค ประกาศเดินหน้าผนึกกำลังกลุ่มบริษัทขายในไทย ดึงพานาโซนิค เอ.พี. เซลส์ เข้าร่วมทัพ ตามแนวคิด One Panasonic
พานาโซนิค เดินหน้าสู่ผู้นำ Professional Service Provider ประกาศโอนธุรกิจ บริษัท พานาโซนิค เอ.พี. เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เข้ารวมกับ บริษัท พานาโซนิค โซลูชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ PSTH รุกคืบการรวมทีมขาย และบริการไว้หนึ่งเดียวตามภายใต้แนวคิด One Panasonic & One Team
มร. ฮิเดคาสึ อิโตะ ซีอีโอ กลุ่มบริษัทพานาโซนิค ในประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่กลุ่มบริษัทพานาโซนิคในประเทศไทย ได้มีการปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับนโยบายของ บริษัท พานาโซนิค คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น จึงได้มีการโอนธุรกิจของหลายบริษัทในกลุ่มฯ เข้าร่วมกับ บริษัท พานาโซนิค โซลูชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2565 ที่ผ่านมา เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เกิดศักยภาพในการแข่งขัน สร้างโอกาสทางธุรกิจด้วยความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และบริการ รวมถึงประสิทธิภาพในการดำเนินงานต่างๆ ในประเทศไทยได้ดียิ่งขึ้น ในปีนี้จึงได้มีการโอนธุรกิจของ บริษัท พานาโซนิค เอ.พี. เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เข้าร่วมกับ บริษัท พานาโซนิค โซลูชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2566 เป็นต้นไป
โดยนับตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2566 เป็นต้นไป ผลิตภัณฑ์และบริการของ บริษัท พานาโซนิค เอ.พี. เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน (Home Appliances) อาทิ เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า ตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องครัว และผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม เป็นต้น รวมถึงงานบริการหลังการขายจะยังคงดำเนินการต่อเนื่อง ภายใต้ บริษัท พานาโซนิค โซลูชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด
“การโอนธุรกิจ บริษัท พานาโซนิค เอ.พี. เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เข้าร่วมกับ บริษัท พานาโซนิค โซลูชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด จะทำให้การดำเนินงานทั้งในด้านการขายและการบริการ รวมเป็นหนึ่งเดียว ภายใต้แนวคิด One Panasonic & One Team สามารถตอบโจทย์ความต้องการด้านโซลูชั่นส์ของลูกค้าได้ครบวงจรมากขึ้น และจะสามารถขับเคลื่อนให้พานาโซนิคก้าวสู่ความเป็นผู้นำด้าน Professional Service Providerอย่างแท้จริง” มร.อิโตะ กล่าว