fbpx

Recent News: สรุปข่าวประจำวันที่ 28 มีนาคม 2023

SPACE-F เปิดตัว Global FoodTech Incubator and Accelerator รุ่นที่ 4 มุ่งผลักดันอาเซียนเป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรมอาหารระดับโลก

สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) (NIA) ร่วมกับ บริษัท ไทยยูเนี่ยนกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) มหาวิทยาลัยมหิดล บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ จำกัด เปิดตัว 20 สตาร์ทอัพ ภายใต้โครงการ SPACE-F รุ่นที่ 4 ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อการบ่มเพาะและเร่งการเติบโตทางธุรกิจเทคโนโลยีอาหารระดับโลกแห่งแรกของประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

โครงการ SPACE-F นั้น มุ่งเน้นให้สตาร์ทอัพในธุรกิจเทคโนโลยีอาหารได้พัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรม รองรับกับความท้าทายในปัจจุบันและอนาคตที่ต้องเผชิญในอุตสาหกรรม สตาร์ทอัพที่เข้าร่วมจะได้รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ โอกาสในการเข้าถึงเครือข่ายและแหล่งเงินทุน เพื่อการเติบโตของธุรกิจ

นอกจากนี้ สตาร์ทอัพทุกทีมที่เข้าร่วมโครงการยังมีโอกาสเข้าใช้สถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกที่คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล รวมถึงโอกาสในการสร้างผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาดร่วมกับ Thai Union Group PCL หนึ่งในผู้ผลิตอาหารทะเลชั้นนำที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ในปีนี้มีสตาร์ทอัพเข้าร่วมโครงการ SPACE-F รุ่นที่ 4 ทั้งสิ้น 20 ราย แบ่งออกเป็น 10 ราย จาก 3 ประเทศ เข้าร่วมโครงการบ่มเพาะ (Incubator program) และ 10 ราย จาก 6 ประเทศ เข้าร่วมโครงการเร่งการเติบโต (Accelerator program)

ดร. ธัญญวัฒน์ เกษมสุวรรณ Group Director, Global Innovation บริษัท ไทยยูเนี่ยนกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวในงานเปิดตัวโครงการว่า ประเทศไทย เป็นหนึ่งในผู้ส่งออกอาหารรายใหญ่ที่สุดโลก จนได้รับการขนานนามว่า “ครัวของโลก” แต่หากมองในมุมการสร้างและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางด้านอาหาร หรือสตาร์ทอัพที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้ ก็จะพบว่าประเทศไทยเมื่อ 5 ปีที่แล้วไม่ได้มีความโดดเด่นทางด้านนี้เลย ด้วยเหตุนี้เอง จึงเป็นจุดเริ่มที่ทำให้ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จึงจับมือกับ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) (NIA) และมหาวิทยาลัยมหิดล สร้างแพลตฟอร์มที่ดึงดูดสตาร์ทอัพที่พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางด้านอาหาร ที่น่าสนใจมาบ่มเพาะ และเร่งการเติบโตของสตาร์ทอัพในประเทศไทยผ่าน SPACE-F Global FoodTech Incubator and Accelerator ที่มีการเตรียมการระบบนิเวศ และความเชี่ยวชาญให้เพรียบพร้อม เพื่อผลักดันให้สตาร์ทอัพเติบโตและประสบผลสำเร็จได้เร็ว สร้างอิมแพคให้อุตสาหกรรมได้ ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา แพลตฟอร์มของเราได้มีการสนับสนุนสตาร์ทอัพที่เข้าร่วมอย่างเต็มที่ โดยวันนี้เรามีสตาร์ทอัพกว่า 90% ที่ยังคงมีการเติบโตทางธุรกิจ และสร้างคุณค่าต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ด้วยวิสัยทัศน์และความร่วมมือของภาครัฐและเอกชน เราเชื่อว่าประเทศไทยจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางด้านอาหารของโลก เป็นศูนย์กลางเพื่อสร้าง บ่มเพาะ เร่งการเติบโตเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางด้านอาหารระดับโลก”

FoodTech startups 10 ราย เข้าร่วม Incubator program

  1. ImpacFat (Singapore): Enhancing nutrition and taste of alternative meats with fish cell-based fat
  2. Marina Biosciences (Singapore): cultivate seafood delicacies to make exquisite foods more exquisite, whilst saving the lives of animals
  3. Mycovation (Singapore): Transforming Mycelium into novel ingredients using fermentation technology
  4. Nutricious (Thailand): Egg White Protein-Rich Beverage
  5. Plant Origin (Thailand): Egg Alternative from Rice Bran Protein
  6. PROBICIENT (Singapore): the world’s first probiotics beer
  7. Rak THAIs by Angkaew Lab (Thailand): Fermented espresso cold brew coffee
  8. The Kawa Project (United States): sustainable alternative to cocoa powder
  9. Trumpkin (Thailand): non-dairy cheese from pumpkin seed
  10. Zima Sensors (Singapore): Package Leak Detection, made seamless

FoodTech startups 10 ราย เข้าร่วม Accelerator program

  1. Genesea (Israel): Seaweed food tech company, producing alternative protein extraction & ingredients from macro-algae
  2. Lypid (United States): Alternative fat solutions
  3. NovoNutrients (United States): The low-cost, globally scalable solution for making alternative protein by capturing carbon
  4. TeOra (Singapore): Building the future of sustainable food for 10 billion humans
  5. AlgaHealth (Israel): We put healthy into food!
  6. Seadling (Malaysia): Seaweed Functional Nutrition
  7. MOA (Spain): healthy food for a sustainable future
  8. Pullulo (Singapore): ACHIEVING A SUSTAINABLE FUTURE WITH MICROBIAL PROTEIN
  9. The Leaf Protein Co. (Australia): Unlocking Earth’s most abundant source of protein
  10. AmbrosiaBio (Israel): Enabling a healthy lifestyle without compromising the product’s taste

บริษัท อาร์.อาร์.ดี ออโต้โมทีฟ (ประเทศไทย) จำกัด  คว้ารางวัล Safety Riding Awards

คุณพรรณี ซาเอกิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อาร์.อาร์.ดี ออโต้โมทีฟ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ครบวงจรให้กับแบรนด์รถยนต์และรถจักรยานยนต์ระดับท็อปไฟว์ของโลก รับมอบรางวัล Safety Riding Awards ในฐานะบริษัทฯ ที่มีผลงานดีเด่นด้านการรณรงค์และส่งเสริมการขับขี่ปลอดภัยให้กับพนักงานภายในองค์กร ภายใต้การดำเนินการตามมาตรฐานและแนวทางที่ไทยฮอนด้าได้กำหนด โดยรับมอบรางวัลจาก มร. ชิเกโตะ คิมูระ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด เมื่อเร็วๆ นี้ ณ ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า กรุงเทพฯ

บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด โดยมี มร. ชิเกโตะ คิมูระ ประธานกรรมการบริหาร ได้เล็งเห็น ถึงความปลอดภัย ในผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ จึงได้รณรงค์ในหลายภาคส่วน หนึ่งในนั้นคือ การมีส่วนร่วมของกลุ่มผลิตชิ้นส่วน ของ ไทยฮอนด้า โดย คุณพรรณี ซาเอกิ ประธานกรรมการบริหาร และ คุณโทชิฮิโกะ ซาเอกิ ที่ปรึกษาบริหาร จากบริษัท  อาร์.อาร์.ดี ออโต้โมทีฟ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ครบวงจรแก่ค่ายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ระดับ Top 5 ของโลก ได้เล็งเห็นถึง นโยบาย ดังกล่าวเช่นกัน จึงร่วมผลักดัน อย่างจริงจังจนนำไปสู่ความร่วมมือ ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า ส่งผลให้ พนักงาน ได้รับ โอกาส ในการเรียนรู้ การขับขี่ อย่างปลอดภัยและ มีใบขับขี่ 100% ด้วยความมุ่งมั่นดังกล่าว ทำให้  บริษัท อาร์.อาร์.ดี ออโต้โมทีฟ (ประเทศไทย) จำกัด ผ่านเกณฑ์การประเมิน มาตรฐาน และได้รับคัดเลือกให้ รับรางวัล Safety Riding Awards ในปี 2565

โดยรางวัล Safety Riding Awards เป็นรางวัลเพื่อส่งเสริมการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย เพื่อยกระดับทักษะขับขี่ที่ถูกต้อง ลดอุบัติเหตุให้เป็นศูนย์  ทั้งนี้คุณพรรณี ซาเอกิ ตั้งเป้าหมายนำพาองค์กรก้าวขึ้นเป็นอันดับ 1 ในด้าน QCD เดินหน้าผนึกเสริมทัพบุคลากร Safety Advisor ร่วมทีมครูฝึกขับขี่ปลอดภัย มุ่งสู่การให้ความรู้เชิงรุก เพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึงทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ พร้อมฝึกการคาดการณ์และลดความเสี่ยง ต่อยอดความสำเร็จจากต้นแบบความปลอดภัย Zero Accident Society  ให้กับองค์กรและขยายไปสู่สังคมรอบข้าง

Digiqole ad

บทความที่น่าสนใจ