Recent News: สรุปข่าวประจำวันที่ 23 สิงหาคม 2023
สัมมากร เดินเกมรุกลุยตลาดบ้านลักซ์ชัวรีกลางเมืองที่เข้าใจ Insight คนไทยมากที่สุด
เปิดกลยุทธ์ 5 จุดแข็ง ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคกลุ่มครอบครัวในยุคปัจจุบัน เดินหน้าสานต่อความสำเร็จด้วยโครงการ “พาร์ค เฮอริเทจ พัฒนาการ” พร้อมเปิดตัวหนังโฆษณาสุดสร้างสรรค์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “The Book of the UNKNOWN”
หลังเปิดเกมลุยตลาดบ้านหรูไปเมื่อปลายปี 2564 กับโครงการโพรวิเดนซ์ เลน เอกมัย-รามอินทรา ซึ่งได้ผลตอบรับดีเกินคาดและปิดโครงการไปเป็นที่เรียบร้อย สำหรับดีเวลล็อปเปอร์รายใหญ่ที่อยู่มานานกว่า 53 ปี อย่าง “สัมมากร” โดยขณะนี้ได้เดินหน้าพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี “พาร์ค เฮอริเทจ พัฒนาการ” และประกาศตั้งเป้าปิดโครงการกลางปี 2567 โดยล่าสุด “สัมมากร” ได้เปิดตัวหนังโฆษณาสุดสร้างสรรค์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “The Book of the UNKNOWN”
ณพน เจนธรรมนุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ปัจจุบันคนส่วนใหญ่เริ่มมองหาบ้านที่สามารถตอบโจทย์การอยู่อาศัยแบบครอบครัวใหญ่ได้ เราจึงอยากใช้ประสบการณ์กว่า 53 ปี ในการเป็นดีเวลล็อปเปอร์เข้ามาพัฒนาตรงนี้ด้วยจุดแข็งของแบรนด์ที่สร้างบ้านจากความเข้าใจในวิถีชีวิตของคนไทยอย่างแท้จริงที่ผสมผสานความโมเดิร์นเข้าไปในงานดีไซน์เพื่อการอยู่อาศัยในระยะยาว โดยจากพฤติกรรมการเลือกซื้อบ้านของผู้บริโภคในปัจจุบันนี้จะคำนึงถึงอนาคตมากขึ้นเเละให้ความสำคัญกับเรื่องทำเล รวมถึงการจัดสรรพื้นที่ภายในบ้านให้ตอบโจทย์กับการอยู่อาศัยมากขึ้น อย่างโครงการ พาร์ค เฮอริเทจ พัฒนาการ ที่กำลังพัฒนาอยู่ตอนนี้เป็นโครงการบ้านเดี่ยวที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ และอยู่ใจกลางเมืองใกล้ย่านเอกมัย ทองหล่อ ซึ่งหาได้ค่อนข้างยากในตอนนี้”
จากจุดแข็งของ “สัมมากร” ที่เข้าใจในพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนไทย จึงพัฒนาการออกแบบบ้านให้เหมาะกับความต้องการใช้งานของทุกคน แม้ว่าผู้อยู่อาศัยจะมีไลฟ์สไตล์และกิจกรรมที่แตกต่างกัน ผ่านการใช้ 5 กลยุทธ์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ได้แก่ บ้านคุณภาพที่ไว้วางใจได้ จากการคัดเลือกวัสดุ ความแข็งแรง ตลอดจนระบบสาธารณูปโภค ให้บ้านเป็นพื้นที่ของทุกคนในครอบครัว จากกลุ่มลูกค้าหลักที่เป็นวัยทำงาน และอยู่อาศัยเป็นครอบครัว สัมมากรจึงมีการออกแบบฟังก์ชั่นการอยู่อาศัยให้ตอบโจทย์คนทุกเจเนอเรชั่น บ้านที่ดีมาพร้อมกับสังคมที่ดี จากการสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมที่ดี ไม่ว่าจะเป็น ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง ไปจนถึงการดูแลระเบียบกฎเกณฑ์การอยู่อาศัยร่วมกันภายในหมู่บ้าน เติมเต็มบ้านให้มีชีวิตด้วยพื้นที่สีเขียว ทุกโครงการของสัมมากร ถูกออกแบบให้ผู้อยู่อาศัยได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ โดยจัดสรรให้มีพื้นที่สีเขียวมากกว่าที่กฎหมายกำหนด ทำเลทองด้วยไลฟ์สไตล์อันลงตัว ที่ตอบโจทย์เรื่องความสะดวกสบายในการเดินทาง เชื่อมต่อกับทางด่วน หรือใกล้โครงการรถไฟฟ้า เพื่อให้บ้านสอดคล้องกับวิถีชีวิตของผู้อยู่อาศัยได้อย่างลงตัว
สำหรับโครงการ “พาร์ค เฮอริเทจ พัฒนาการ” เมกะโปรเจ็คที่กำลังพัฒนาอยู่ตอนนี้ “สัมมากร” ต้องการมุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าระดับ Upper-class ในกลุ่ม Young Successor ที่มีครอบครัว เป็นคนรุ่นใหม่ และกำลังมองหาบ้านในทำเลใกล้เมือง ที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตได้ ด้วยการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรีสไตล์โมเดิร์นคลาสสิก 3 ชั้น ที่อยู่อาศัยท่ามกลางธรรมชาติ ในบรรยากาศเงียบสงบเเละมีความเป็นส่วนตัว บนทำเลศักยภาพสุดยอดมาสเตอร์พีซในซอยพัฒนาการ 20 ที่
สามารถเชื่อมต่อใจกลางเมืองเพียง 4 กิโลเมตรถึงทองหล่อ และ 1.7 กิโลเมตรถึงทางด่วนฉลองรัชฯ เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยเป็นครอบครัวหรือลงทุนในระยะยาว จากการออกแบบโดยสถาบันอาศรมศิลป์ที่ผสมผสานแรงบันดาลใจจากธรรมชาติเข้ากับการออกแบบสถาปัตยกรรมและภูมิสถาปัตยกรรมสไตล์โมเดิร์นคลาสสิก เพื่อตอบโจทย์รูปแบบการใช้ชีวิตของครอบครัวที่ต้องการวางแผนอนาคตให้ลูกหลาน เอกสิทธิ์เฉพาะ 32 ครอบครัวเท่านั้น พร้อมลิฟต์และสระว่ายน้ำส่วนตัว และการวางผังบ้านแบบเรียงเป็นแนวเดี่ยว แบ่งเป็นคลัสเตอร์ โซน (Cluster Zone) ที่แต่ละโซนมีจำนวนเพียงไม่กี่หลัง และหลังบ้านไม่ชนกับบ้านอื่น เพื่อความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย รวมถึงอุโมงค์ต้นไม้ที่ปกคลุมทอดยาวไปกับถนนหลักและสวนส่วนกลาง The Heritage Garden พื้นที่สีเขียวภายในโครงการเปรียบเสมือนแหล่งโอเอซิสใจกลางเมือง พร้อมคลับเฮ้าส์ขนาดใหญ่และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็น สระว่ายน้ำขนาดใหญ่, สระว่ายน้ำเด็ก, ฟิตเนส, Golf simulator และ Business lounge และรายล้อมไปด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์ระดับไฮเอนด์ที่พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการการใช้ชีวิตสำหรับคนเมือง โดย “พาร์ค เฮอริเทจ พัฒนาการ” ราคาเริ่มต้นที่ 59 ล้านบาท – 98 ล้านบาท
โดยล่าสุด “สัมมากร” ได้เปิดตัวแคมเปญหนังโฆษณาที่มุ่งสื่อสารไปยังกลุ่มผู้บริโภคเพื่อสร้างอารมณ์ความรู้สึกให้ผู้บริโภคได้เข้าใจถึงแบรนด์ “พาร์ค เฮอริเทจ” และความพิถีพิถันในการสร้างบ้านของสัมมากรอย่างแท้จริง ในคอนเซ็ปต์ “The Book of the UNKNOWN” หนังสือที่รวบรวมสิ่งต่างๆ จากไลฟ์สไตล์ที่ลุ่มลึก โดยใช้ชื่อว่า “32” Thirty two undeniable objects, Ideals for Living. โดยหนังจะถูกเล่าผ่านของใช้ ของสะสม ที่มีความพิเศษและสร้างสุนทรียภาพให้คุณค่าทางจิตใจ ผ่านมุมต่างๆ ของบ้าน จำนวน 32 ชิ้น อาทิ รองเท้าระดับตำนาน German Army Trainer, นิยามแห่งความหรูหราอย่างสลิปเปอร์ Charvet Slippers, กางเกงยีนส์รุ่นคลาสสิก Levi’s 501, นาฬิกา Rolex 1016 Explorer เรือนเวลาในอุดมคติของเจมส์ บอนด์, Mies van der Rohe’s MR 10 Chair เก้าอี้ที่เปรียบเสมือนชิ้นงานศิลปะอันน่าหลงใหล และอีกมากมาย ที่สามารถสะท้อนให้เห็นถึงความพิถีพิถันและคุณค่าของการสะสม เฉกเช่นเดียวกันกับบ้านของ “พาร์ค เฮอริเทจ” ที่จะสามารถส่งต่อไปยังรุ่นสู่รุ่นได้ https://www.youtube.com/watch?v=887Mqclplf8
นอกจากนี้ “สัมมากร” ยังเผยว่าในอนาคตจะมีแผนพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรีเพิ่มขึ้นอีกแน่นอน สำหรับ “พาร์ค เฮอริเทจ พัฒนาการ” สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมทางhttps://bit.ly/3Dx277z หรือโทร.1427 และติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ https://www.sammakorn.co.th/ พร้อมพบกับโปรโมชันส่วนลดพิเศษสูงสุด 2,000,000 บาท และสิทธิพิเศษแพ็กเกจสุขภาพจากโรงพยาบาลสมิติเวชมูลค่ากว่า 200,000 บาท
ดร.สมภพ APM รวมพลัง 4 ส. ลุยโรดโชว์ หุ้น IPOน้องใหม่ JPARK 8 จังหวัดทั่วไทย
น่าจับตาดูทีเดียวกับ IPO น้องใหม่ที่ยกทัพ 4ส. พบนักลงทุน ซึ่ง 4ส.ที่ว่าก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ส. ดร.สมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ และ ส. สมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สองแม่ทัพมือพระกาฬแห่งแอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ หรือ APM ที่ปรึกษาทางการเงินที่คล้องแขน ส. สันติพล เจนวัฒนไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บิ๊กบอสคนเก่งของบริษัท เจนก้องไกล จำกัด (มหาชน) หรือ JPARK พร้อมด้วย ส. สมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ ฟินันเซีย ไซรัส แกนนำขายหุ้น IPO เดินหน้าลุยโรดโชว์ 8 จังหวัดทั่วประเทศ ประเดิมที่แรก จ.ชลบุรี จ.นครราชสีมา จ.ขอนแก่น จ.เชียงใหม่ จ.นครสวรรค์ จ.สุราษฎร์ธานี อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และปิดท้ายที่กรุงเทพมหานคร ด้วยพื้นฐานธุรกิจ JPARK ที่แข็งแกร่ง และทีมงานที่ปรึกษาทางการเงินมากประสบการณ์ พร้อมด้วยแกนนำขายหุ้นมือทอง รับรองได้ว่าข้อมูลอัดแน่น เนื้อหาจัดเต็ม เน้นทุกจังหวัดเพื่อนักลงทุน
วัน แบงค็อก ประกาศแต่งตั้งประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายรีเทล “พลินี คงชาญศิริ” นำทัพความแข็งแกร่งด้านรีเทล
วัน แบงค็อก โครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ที่ครบครันใจกลางกรุงเทพฯ ประกาศแต่งตั้ง “พลินี คงชาญศิริ” ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายรีเทล (Chief Retail Officer) นำทัพขับเคลื่อนความแข็งแกร่งด้านการบริหารศูนย์การค้า เพื่อมอบประสบการณ์รีเทลไลฟ์สไตล์ที่เหนือระดับ ก้าวสู่การเป็นหมุดหมายปลายทางระดับเวิร์ดคลาสของนักช้อป
คุณพลินี คงชาญศิริ สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีด้านการเงิน และระดับปริญญาโทด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ จากมหาวิทยาลัยซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา (San Francisco State University, United States) มีประสบการณ์ทำงานในวงการค้าปลีกของไทยมากกว่า 20 ปี โดยก่อนที่จะมาร่วมงานกับ วัน แบงค็อก ในดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของศูนย์การค้าเมกาบางนา (Megabangna) รับผิดชอบทางด้านการบริหารพื้นที่เช่า การตลาด ฝ่ายบริหารศูนย์การค้า รวมไปถึงควบคุมดูแลฝ่ายวิศวกรรมของโครงการฯ ซึ่งก่อนหน้าเคยดำรงตำแหน่ง Head of Luxury Retail ของ Gaysorn Village ดูแลด้านการขายพื้นที่รีเทล และงานด้านการตลาด นอกจากนี้ยังเคยดำรงตำแหน่ง Property Manager ของ JLL บริษัทที่ปรึกษาและบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำระดับโลก ทำให้มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจรีเทลที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งตลาดสินค้าระดับลักซ์ชัวรีไลฟ์สไตล์ ไปจนถึงสินค้ากลุ่มอื่นๆ ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนในเมือง ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายรีเทลของโครงการวัน แบงค็อก ดูแลรับผิดชอบด้านการวางแผนการบริหารเชิงกลยุทธ์ การคัดสรรผู้เช่าและพันธมิตรทางธุรกิจที่หลากหลาย กลยุทธ์ทางการตลาด และการวางแผนการปฏิบัติการ เป็นต้น
พลินี คงชาญศิริ กล่าวถึงความรู้สึกที่ได้เข้ามาเป็นผู้บริหารหลักสำคัญในการขับเคลื่อน วัน แบงค็อก “ดิฉันมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนา โครงการ วัน แบงค็อก ซึ่งถือเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ใจกลางเมืองที่มีการออกแบบมาสเตอร์แพลนมาอย่างครบครัน นับเป็นโครงการฯ ที่จะนำความภาคภูมิใจมาสู่ประเทศ และด้วยประสบการณ์การทำงานด้านรีเทลมากว่า 20 ปี ดิฉันจึงมีความมุ่งมั่นและมั่นใจในการนำความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์มาใช้ในการบริหารงานเพื่อผลักดันให้ศูนย์การค้าใน วัน แบงค็อก สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างไร้ขีดจำกัด ตลอดจนเป็นศูนย์กลางการช้อปปิ้งรูปแบบใหม่ระดับโลกที่จะสามารถครองความเป็นที่หนึ่งในใจของนักช้อปทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจากทั่วทุกมุมโลก”