Recent News: สรุปข่าวประจำวันที่ 22 มีนาคม 2023
“เบทาโกร” เปิดตัวโรงงานอาหารสัตว์หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา ยกระดับซัพพลายเชนก้าวสู่ Smart Factory โรงงานอัจฉริยะเต็มรูปแบบ
บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ “BTG” บริษัทอาหารชั้นนำระดับสากล (World-Class Branded Food Company) ยกระดับซัพพลายเชนกลุ่มธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม เปิดตัว ‘โรงงานอาหารสัตว์เบทาโกร หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา’ โรงงานอัจฉริยะเต็มรูปแบบแห่งแรก ที่ขับเคลื่อนเทคโนโลยีกระบวนการผลิตอาหารสัตว์และบริหารทรัพยากรด้วยการเชื่อมต่อ IoT และระบบอัตโนมัติ พร้อมคำนึงถึง ESG เพิ่มกำลังการผลิตอาหารสัตว์กว่า 600,000 ตันต่อปี หรือเพิ่มขึ้น 18% ทำให้เบทาโกรมีกำลังการผลิตรวมแล้วกว่า 4 ล้านตันต่อปี ติดสปีดเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน ตอบรับความต้องการอาหารสัตว์ที่เพิ่มขึ้นอย่างยั่งยืน
นายวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG เปิดเผยว่า “นโยบายของบริษัทฯ มีความมุ่งมั่นยกระดับระบบซัพพลายเชนของเบทาโกร ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ภายใต้แนวคิด ‘PROACTIVE SUSTAINABILITY’ เบทาโกรสร้างสรรค์นวัตกรรมแห่งความยั่งยืนให้เกิดขึ้นจริง โดยเดินหน้าลงทุนกว่า 1,400 ล้านบาท นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่มาขับเคลื่อนรากฐานการผลิตก้าวสู่โรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตและการจัดการทรัพยากร ล่าสุดได้เปิดตัวโรงงานอาหารสัตว์เบทาโกร หนองบุญมาก นำร่องแห่งแรกที่เป็นโรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) เต็มรูปแบบ และจะเป็นโมเดลต้นแบบการขยายไปสู่โรงงานของเบทาโกรอื่น ๆ ต่อไป
โรงงานอาหารสัตว์เบทาโกร หนองบุญมาก นับว่าเป็นโรงงานขนาดใหญ่อันดับ 3 ของบริษัทฯ ผลิตอาหารสัตว์หลากหลายชนิด อาทิ สุกร ไก่ไข่ ไก่เนื้อ โดยนำเทคโนโลยี IoT (Internet of Things) และระบบอัตโนมัติมาใช้ภายในโรงงานซึ่งช่วยยกระดับคุณภาพการผลิตอาหารที่มีความแม่นยำ (Smart Production) ยิ่งขึ้น ปัจจุบันโรงงานอาหารสัตว์เบทาโกร หนองบุญมาก มีอัตราการเดินเครื่องอยู่ที่ 48% ของการผลิตรวม และจะผลิตเต็มกำลัง 100% ภายในสิันปีนี้ ส่งผลให้เบทาโกรมีกำลังการผลิตอาหารสัตว์เพิ่มขึ้นอีกกว่า 600,000 ตันต่อปี หรือเพิ่มขึ้น 18% รวมเป็นกว่า 4 ล้านตันต่อปี เพื่อรองรับตลาดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางและ สปป.ลาว อีกทั้งภายในโรงงานยังได้นำระบบบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์มาเพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ได้อย่างรวดเร็วตรงเวลา พร้อมช่วยวางแผนการทำงานที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ภายในโรงงานยังได้นำเทคโนโลยีอันทันสมัยมายกระดับจัดการหลากหลายมิติ ได้แก่ ระบบการบริหารจัดการโรงงาน (Smart Dashboard) ระบบการเก็บตัวอย่างและตรวจสอบคุณภาพ (Smart Sampling) ระบบการจัดเก็บวัตถุดิบที่ควบคุมแบบอัตโนมัติ (Smart Silo) รวมถึงระบบการจัดเก็บและลำเลียงวัตถุดิบอัตโนมัติ (Smart Bulk) และการใช้หุ่นยนต์ในการบรรจุและลำเลียง (Auto packing & Robot) โดยการลงทุนโรงงานอาหารสัตว์เบทาโกร หนองบุญมาก จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอาหารสัตว์ที่มีคุณภาพและปลอดภัย ตลอดจนช่วยลดการสูญเสีย ซึ่งเป็นความเสี่ยงในการกระบวนผลิตและระบบขนส่ง ทั้งยังสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันอีกด้วย
เบทาโกร ยังให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน ด้วยการดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG (Environment, Social, Governance) ครอบคลุมด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล โดยโรงงานอัจฉริยะแห่งนี้ร่วมสร้างรากฐานสังคมเข้มแข็ง ด้วยการสร้างโอกาสให้กับเกษตรกรร่วมเติบโตไปด้วยกัน รวมถึงสร้างงานให้คนในชุมชน ยกระดับทักษะทางด้านเทคโนโลยีให้กับคนในพื้นที่ ทั้งยังส่งเสริมให้มีการใช้พลังงานสะอาดเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ ระบบผลิตไอน้ำแบบประหยัดพลังงาน (Smart Boiler) จากเชื้อเพลิงชีวมวล (Bio-Mass Fuel) การใช้พลังงานทดแทนจากพลังงานแสงอาทิตย์ 20% โดยติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อป (Solar Rooftop) ขณะนี้มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 2.8 เมกะวัตต์ ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ราว 1,900 ตันต่อปี
“แนวโน้มอุตสาหกรรมผลิตอาหารสัตว์ในปี 2566 มีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากข้อมูลของสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย คาดว่าจะเพิ่มเป็น 19.99 ล้านตัน หรือ 4.8% จากปี 2565 ซึ่งอยู่ที่ 19.08 ล้านตัน เนื่องจากมีความต้องการในการผลิตสุกร ไก่เนื้อ และไก่ไข่เพิ่มขึ้น สำหรับการก้าวสู่โรงงานอัจฉริยะด้วย IoT ผสานกับระบบอัตโนมัติที่สมบูรณ์แบบในโรงงานอาหารสัตว์เบทาโกร หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา จะเป็นห่วงโซ่คุณค่าต้นน้ำในด้านฐานการผลิตที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง และจะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเบทาโกรสู่การเป็น World-Class Branded Food Company ที่เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน” นายวสิษฐ กล่าว
เพิ่มเติมข่าวสารที่ Facebook Betagro Group, LinkedIn Betagro Group, YouTube Betagro Group และ www.betagro.com
เอสบี ดีไซน์สแควร์ จับมือ แสนสิริ ผสานไอเดียเปิดประสบการณ์ใหม่ เนรมิตการตกแต่งบ้านพร้อมอยู่ในสไตล์ ‘ปารีเซียง’ ด้วยชุดเฟอร์ฯ สุดเอกซ์คลูซีฟจาก ELLE DECOR
เอสบี ดีไซน์สแควร์ และ แสนสิริ เผยโฉมบ้านตัวอย่างที่ออกแบบและตกแต่งแบบพร้อมอยู่ ด้วยเฟอร์นิเจอร์คอลเลคชันพิเศษภายใต้คอนเซปต์ “A Parisian State of Mind” ที่ออกแบบรองรับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างถึง 6 สไตล์ อินสไปร์การใช้ชีวิตสุดชิคในแบบ “ปารีเซียง” นำร่องโครงการแรกที่บ้านสราญสิริ ศรีวารี
นายพิเดช ชวาลดิฐ กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท เอสบี เฟอร์นิเจอร์ กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า นับเป็นความสำเร็จอีกขั้นในฐานะผู้นำด้าน Home Design Solutions ที่ได้นำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่สั่งสม มาพัฒนาสินค้าและบริการด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย เพื่อให้มั่นใจได้ว่าสามารถตอบความต้องการได้อย่างครบวงจร โดยความร่วมมือกับแสนสิริ นอกจากจะทำให้ลูกค้าได้รับบ้านที่มีคุณภาพตามมาตรฐานของแสนสิริแล้ว ยังได้สร้างประสบการณ์ในการอยู่อาศัยรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน ภายใต้แนวคิด “A Parisian State of Mind” นำสัมผัสแห่งแรงบันดาลใจในสไตล์ปารีเซียงมาถ่ายทอดสู่งานดีไซน์ให้เหมือนได้ใช้ชีวิตอยู่ใจกลางมหานครปารีสในทุกวัน โดยการออกแบบงานเฟอร์นิเจอร์และงานตกแต่งนี้ จะสอดคล้องไปกับแนวคิดของแต่ละโครงการของแสนสิริ และ 6 คอลเลคชันสุดเอกซ์คลูซีฟนี้ จะเปิดตัวที่บ้านตัวอย่างของแสนสิริเป็นที่แรก
“กระแสตอบรับที่ดีจากการลอนซ์สินค้าไลฟ์สไตล์เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ทำให้เรามองเห็นโอกาสที่จะพัฒนาสินค้าให้มีเอกลักษณ์เฉพาะยิ่งขึ้น โดยล่าสุดได้ร่วมกับแสนสิริออกแบบและพัฒนาเฟอร์นิเจอร์เอกซ์คลูซีฟ คอลเลคชันขึ้น โดยอาศัยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่ทำให้ เอสบี ดีไซน์สแควร์ สามารถสร้างสรรค์เฟอร์นิเจอร์ที่มีดีไซน์อันโดดเด่น เพียบพร้อมไปด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ ในครั้งนี้ได้นำลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ของ ELLE DECOR มาผสมผสานลงไปในชิ้นงานเฟอร์นิเจอร์ของเรา เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสสุนทรียะด้านงานดีไซน์ของแฟชั่นเฟอร์นิเจอร์ระดับแถวหน้าของโลกที่สามารถสร้างอัตตลักษณ์เฉพาะ สะท้อนถึงตัวตนและไลฟ์สไตล์ของเจ้าของบ้านได้ในแบบที่แตกต่างกันไป” นายพิเดช ชวาลดิฐ กล่าวเสริม
ด้านนายอาณัติ กิตติกุลเมธี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสฝ่ายพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีนี้แสนสิริยังคงเดินหน้าต่อยอดแนวคิด YOU Are Made For Life โดยให้ความสำคัญกับ YOU ที่หมายความถึงลูกค้า คอมมูนิตี้ และสังคม เป็นศูนย์กลางและแรงบันดาลใจในการพัฒนาสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่อง โดยจะเห็นได้จากการออกแบบโครงการของแสนสิริ ที่มีความหลากหลายมากขึ้นรวมทั้งรายละเอียดที่ถูกคิดและพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับความโดดเด่นในการพัฒนาโปรดักส์จาก 3 แบรนด์ชั้นนำ คือ แสนสิริ เอสบี และ ELLE DECOR ซึ่งเชื่อมั่นว่าความร่วมมือจาก เอสบี เฟอร์นิเจอร์ ผู้นำด้านเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน และ ELLE DECOR ผู้นำด้านไลฟ์สไตล์แฟชั่นจากฝรั่งเศส รวมกับ แสนสิริ ผู้นำการพัฒนาโครงการแนวราบที่ครอบคลุมทุกโปรดักส์ รองรับทุกเซกเมนต์ความต้องการ ที่มีแนวคิดการพัฒนาโครงการที่คิดมาจากความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะในด้านดีไซน์และฟังก์ชันใหม่ของโครงการแนวราบที่แตกต่างจากคู่แข่ง จะสร้างประสบการณ์อยู่อาศัยรูปแบบใหม่ให้กับกลุ่มลูกค้าแสนสิริ และได้รับการตอบรับที่ดีในในการเปิดตัวบ้านพร้อมอยู่สไตล์ ‘ปารีเซียง’ ด้วยชุดเฟอร์ฯ สุดเอกซ์คลูซีฟจาก ELLE DECOR อย่างแน่นอน
ขณะที่นางสาวปรียรัติ สุทธาพัฒน์ธานนท์ ผู้จัดการทั่วไป ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท ลาร์กาแดร์ แอคทีฟ เอ็น เตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดูแลลิขสิทธิ์ของแบรนด์ ELLE DECOR ในประเทศไทย กล่าวว่า คอลเลคชันพิเศษสำหรับแต่ละโครงการของแสนสิรินี้ ได้ผสมผสานลายพริ้นท์ ELLE Signature และ Parisian Touch ซึ่งสะท้อน DNA ของแบรนด์ในความเป็นผู้นำด้านแฟชั่นมาลงอยู่ในคอลเลคชันนี้ โดยได้นำความโดดเด่นสุดเอกซ์คลูซีฟ คือ ELLE Signature ที่เน้นลาย Signature Monogram สุดคลาสสิค รวมไปถึง The Parisian Journey ทำให้ภาพรวมการออกแบบตกแต่งดูมีชีวิตชีวา ดั่งได้ใช้ชีวิตอยู่ในกลางมหานครปารีสอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ การพัฒนาและออกแบบเฟอร์นิเจอร์ให้กับโครงการแสนสิริครั้งนี้ เอสบี ดีไซน์สแควร์ มุ่งเน้นถ่ายทอดความงดงามทางแฟชั่นกับศิลปะในการออกแบบและผลิตเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงการเลือกใช้วัสดุที่นำเข้าจากทั่วโลกผ่านเทคโนโลยีการผลิตสุดทันสมัยได้อย่างไม่จำกัด ซึ่งทั้งหมดนี้ได้ถูกหล่อหลอมผ่านมุมมองสร้างสรรค์ให้กลายเป็นคอลเลคชันพิเศษ ที่มีดีไซน์ทันสมัยและรายละเอียดการผลิตสุดปราณีต มีเสน่ห์โดดเด่นเรียบหรูอย่างมีสไตล์ ที่สำคัญยังผสานสอดคล้องกับคอนเซปต์ในการพัฒนาของโครงการของแสนสิริด้วย ทำให้แต่ละคอลเลคชันมีความพิเศษ โดดเด่น เหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันไป โดยความร่วมมือในการออกแบบครั้งนี้ จะเกิดขึ้นในส่วนบ้านตัวอย่าง 6 โครงการ ประกอบด้วย โครงการสราญสิริ ศรีวารี, โครงการสราญสิริ พระราม2, โครงการ บุราสิริ ปัญญาอินทรา,โครงการ สราญสิริ ประชาอุทิศ, โครงการบุราสิริ พระราม 2 และ โครงการ อณาสิริ สรงประภา โดยแต่ละโครงการมีรายละเอียดดังนี้
ENJOUE’ Collection ที่จะทำให้ให้คุณ ENJOY การใช้ชีวิต ..มอบความสนุกสนานมีชีวิตชีวา พร้อมเชื่อมโยงทุกพื้นที่เข้าด้วยกัน ความพิเศษในคอลเลคชันนี้ได้ผสมผสานลวดลายของ ELLE DECOR ลงไปในชิ้นงานเฟอร์นิเจอร์ โดยชูความโดดเด่นของ ELLE’s Signature ที่เน้นลาย Signature Monogram ที่มาในโทนสีดำสุดคลาสสิค สร้างมิติอารมณ์ Contrast กับโทนสีส้มอย่างลงตัว ที่โครงการ สราญสิริ ศรีวารี
‘CREER’ Collection สวยสะกดพร้อมให้ออกแบบสเปซหรูได้ตามใจ เนรมิตบ้านสวยสร้างช่วงเวลาดีๆ จุดเริ่มต้นของความรักที่สมบูรณ์แบบจุดหมายที่ชีวิตของทุกคนต้องการ ความพิเศษในคอลเลคชันนี้ คืองานดีไซน์ที่ดูหรูหราด้วยลูกเล่นลอนคลื่นโค้งเว้า สุดชิคด้วยวัสดุมือจับอะคริลิคใสและโลหะสีทอง เพิ่มกิมมิคผสมผสานลวดลายของ ELLE DECOR ลงไปในชิ้นงานเฟอร์นิเจอร์ ด้วยดีเทลจากลาย ELLE’s Signature Tiles โทนสีครีม ที่โครงการ สราญสิริ พระราม 2
‘MILLESIME’ Collection ทุกรายละเอียดพร้อมถ่ายทอดอารมณ์อบอุ่นย้อนวันวาน ด้วยงานไม้จริงดีไซน์ปราณีต รังสรรค์บรรยากาศสุดคลาสสิค พร้อมดีเทลที่ปลุกเร้าความมีสเน่ห์ฉบับ Fashionista ด้วยลูกเล่น Textured และลายผ้า Inspired by Haute Couture Fashion เพิ่มกิมมิคผสมผสานลวดลายของ ELLE DECOR ลงไปในชิ้นงานเฟอร์นิเจอร์ ด้วยดีเทลจากลาย ELLE’s Signature Tiles, Monogram, Camo ที่โครงการ บุราสิริ ปัญญาอินทรา เร็วๆนี้
‘SOURI’ Collection ความพิเศษในคอลเลคชันนี้ได้ผสมผสานลวดลายของ ELLE DECOR ลงไปในชิ้นงานเฟอร์นิเจอร์ โดยชูความโดดเด่นของ ELLE’s Signature ที่เน้นลาย Signature Monogram สุดคลาสสิค สร้างมิติอารมณ์ผสาน Sense of Maximal – Fashionista – Luxurious ออกมาได้อย่างลงตัว ที่โครงการ สราญสิริ ประชาอุทิศ 90
‘LA VIE’ Collection with New Season Pattern: Spring/Summer 2023 ลายซีซั่นใหม่ล่าสุดจาก ELLE DECOR ที่ได้แรงบันดาลใจจาก Sustainable Trend โดยดีไซน์ลวดลายจากธรรมชาติ ป่าต้นไม้ สายน้ำ อากาศ และผืนดิน ให้สอดรับกับสิ่งแวดล้อมที่รายล้อมอยู่ร่วมกันไปอย่างยั่งยืน ที่โครงการ บุราสิริ พระราม 2
‘LE JAPON MODERNE’ Collection ดีไซน์คอนเซปต์ในการออกแบบคอลเลคชันนี้ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากปัจจุบันทุกคนต่างเร่งรีบในการใช้ชีวิต ทำทุกอย่างด้วยความรวดเร็วจนทำให้เราหลงลืมตัวตนและความต้องการที่แท้จริงไป การกลับมาของสุนทรียะแห่งการพักผ่อนที่แท้จริงด้วยการนำเสนอ mood & Tone ของลวดลายเน้นไปที่สีโทนเย็น สื่อถึงความสงบและลวดลายธรรมชาติที่สะท้อน ความเป็น Modern Japandi ผสานกับวัสดุอย่างไม้สีอ่อนและเส้นสายของเฟอร์นิเจอร์ต้องดูเรียบร้อย เกลี้ยงเกลา ทำให้รู้สึกสบายและผ่อนคลาย ที่โครงการ อณาสิริ สรงประภา เร็วๆ นี้
รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.sbdesignsquare.com/blog/sansirixsbdesignsquarecollection หรือ http://siri.ly/AxrZng3