Recent News: สรุปข่าวประจำวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2024
“สัจจะพาลี” การแสดงโขนประกอบแสงสี ณ วัดไชยวัฒนาราม สุดยิ่งใหญ่ครั้งประวัติศาสตร์
สำนักการสังคีต กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับ มูลนิธิสุทธิรัตน์ อยู่วิทยา จัดการแสดงสุดยิ่งใหญ่ครั้งประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ผสานสองมรดกที่ขึ้นทะเบียนรับรองโดยองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) “โขน – มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้” และ “วัดไชยวัฒนาราม – โบราณสถานที่ตั้งอยู่ในเขตมรดกโลก” กับการแสดงโขนประกอบแสงสี เรื่องรามเกียรติ์ ชุด สัจจะพาลี ณ วัดไชยวัฒนาราม จ.พระนครศรีอยุธยา ในวันที่ 9-10 มีนาคม 2567 เพื่อสืบสานและเชิดชูวัฒนธรรมไทยอันทรงคุณค่า สอดคล้องกับปณิธานในการดำเนินงานของทั้งสองหน่วยงานที่มุ่งหมายในการอนุรักษ์และเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมของประเทศไทย รวมทั้งส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการสืบสานวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามของไทยให้เป็นที่ประจักษ์แก่ประชาชนชาวไทย รวมถึงในระดับนานาชาติ
นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า “เพื่อตอบสนองนโยบายซอฟท์พาวเวอร์ของรัฐบาล และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงศาสนาและศิลปวัฒนธรรม กรมศิลปากรได้ดำเนินโครงการ “ราตรีนี้ที่วัดไชยวัฒนาราม” ตั้งแต่พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมาและได้รับการตอบรับที่ดีจึงได้สานต่อโครงการไปถึงสิ้นเดือนเมษายน 2567 นี้ ภายใต้ชื่องาน “ยามค่ำอยุธยา ๒๕๖๗ – Ayutthaya Sundown 2024” เพื่อให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสความงดงามของโบราณสถานยามราตรี และร่วมกิจกรรมทางศิลปวัฒนธรรมต่าง ๆ โดยมีจุดเด่นคือการจัดแสดงโขนประกอบแสงสี โดยสำนักการสังคีต ร่วมกับมูลนิธิสุทธิรัตน์ อยู่วิทยา ที่ถือเป็นการแสดงครั้งประวัติศาสตร์ของประเทศไทย เราขอขอบคุณมูลนิธิสุทธิรัตน์ อยู่วิทยา ที่ตระหนักถึงคุณค่าของศิลปวัฒนธรรมไทย มีความตั้งใจสืบสานและอนุรักษ์มรดกอันล้ำค่าไว้ให้คนรุ่นต่อ ๆ ไป ที่นับเป็นตัวอย่างที่ดีของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนเพื่อขับเคลื่อนด้านวัฒนธรรมของชาติให้เป็นที่ประจักษ์ทั้งคนในประเทศ และนานาประเทศ จึงขอเชิญชวนให้มาร่วมชมการแสดงครั้งสำคัญนี้ด้วยกันครับ”
นายลสิต อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักการสังคีต กล่าวว่า “สำนักการสังคีต ให้ความสำคัญในการดำเนินงานโครงการจัดการแสดงนาฏศิลป์และดนตรีสัญจรไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศไทย เสมือนเรา “ยกโรงละครแห่งชาติออกไปหาประชาชน” โดยสร้างสรรค์และปรับองค์ประกอบการแสดง เล่าเรื่องให้กระชับและชวนติดตาม รวมทั้งผสานเทคโนโลยีอันทันสมัยมาเพิ่มอรรถรสในการชม ที่ไม่เพียงให้ถูกใจผู้ที่ติดตามการแสดงของเราเป็นประจำอยู่แล้ว แต่เรายังหวังให้คนรุ่นใหม่ รวมทั้งประชาชนนอกกรุงเทพฯ ได้มีโอกาสชมการแสดงที่มีคุณค่าแก่การอนุรักษ์ได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น การแสดงชุด “สัจจะพาลี” ที่จัดขึ้นที่วัดไชยวัฒนารามครั้งนี้ ถือเป็นอีกตอนที่มีความสำคัญของเรื่องรามเกียรติ์ ไม่เพียงมีเนื้อหาที่สนุกสนาน ยังเป็นตอนที่รวบรวมตัวละครเอกของเรื่องเอาไว้มากมาย รับรองได้ว่าผู้ชมจะได้รับชมอย่างมีความสุขแน่นอน”
นายสมคิด รุจีปกรณ์ กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิสุทธิรัตน์ อยู่วิทยา กล่าวว่า “มูลนิธิฯ ก่อตั้งมากว่า 20 ปี มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีอย่างยั่งยืนแก่คนในสังคมไทย หนึ่งในแนวทางหลักของการดำเนินงาน เราให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมเพราะเป็นสิ่งที่แสดงถึงอัตลักษณ์ที่ดีงามของชาติไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนรุ่นใหม่ที่เราอยากให้พวกเขาได้สัมผัส เรียนรู้ และร่วมสืบสานสิ่งอันมีค่าเหล่านี้ ที่ผ่านมามูลนิธิฯ ร่วมมือกับกรมศิลปากรเพื่อดำเนินการโครงการต่าง ๆ อาทิ โครงการพัฒนาศักยภาพทักษะด้านช่างเพื่อบูรณะจิตรกรรม ประติมากรรมไทย โครงการเรียนรู้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมในพื้นที่จริงนอกโรงเรียนให้กับคุณครู เพื่อใช้ในการออกแบบการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับหลักสูตร ผ่านเส้นทางทัศนศึกษาโบราณสถาน รวมถึงโครงการบูรณะโบราณสถานของไทย และครั้งนี้เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมจัดงานแสดงโขนซึ่งถือเป็นศิลปะการแสดงชั้นสูงของไทยที่รวมศิลปะ หลายแขนงเข้าไว้ด้วยกัน เราหวังว่านอกจากจะสร้างความประทับใจให้กับผู้ที่มีโอกาสได้มาชมแล้ว ยังถือเป็นการช่วยสืบสานวัฒนธรรมไทยที่เป็นมรดกอันล้ำค่าให้ดำรงสืบไปอย่างงดงาม”
การจัดแสดงโขนประกอบแสงสี เรื่องรามเกียรติ์ ชุด สัจจะพาลี เป็นการแสดงสุดตระการตาครั้งประวัติศาสตร์ ที่ผสมผสานสองสุดยอดแห่งศิลปะไทยซึ่งได้รับการยอมรับในระดับสากลอย่างการแสดงโขน ที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้จากองค์การยูเนสโก โดยมีฉากหลังเป็น วัดไชยวัฒนาราม จ.พระนครศรีอยุธยา หนึ่งในโบราณสถานแห่งสำคัญของไทย ที่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อันมีเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรม ศิลปกรรม และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกด้วยเช่นกัน ครั้งนี้นับเป็นโอกาสอันดีที่ประชาชนจะได้สัมผัสกับการแสดงสุดยิ่งใหญ่ พร้อมเทคนิกแสง สี เสียงอันทันสมัย รวมถึงการออกแบบเวทีการแสดงที่วิจิตรบรรจงและกลมกลืนกับสถานที่ในทุกมิติ นอกจากนี้ ยังมีการบรรเลงวงออร์เคสตรา โดยวงดุริยางค์สากล สำนักการสังคีต กรมศิลปากร จัดแสดงก่อนการแสดงโขนให้ผู้เข้าชมได้เพลิดเพลินและดื่มด่ำกับบรรยากาศยามอาทิตย์อัสดง ในสถานที่แห่งประวัติศาสตร์แห่งนี้อย่างเต็มอิ่มอีกด้วย
การแสดงโขนประกอบแสงสี เรื่องรามเกียรติ์ ชุด สัจจะพาลี จัดแสดงในวันที่ 9 – 10 มีนาคม 2567 เวลา 17:30 น. ณ วัดไชยวัฒนาราม จ.พระนครศรีอยุธยา สามารถเข้าชมได้ฟรี โดยผู้ชมเพียงชำระค่าเข้าโบราณสถานวัดไชยวัฒนารามเพียง 10 บาทต่อท่าน ซึ่งรายได้จากส่วนนี้ทางโบราณสถานจะนำไปบำรุงสถานที่ต่อไป
มิเนเร่ ชวน “Crush On You..มา Crush บิดบอกรักษ์ให้โลกรู้” เคล็ดลับดูแลโลก บิดขวดน้ำก่อนทิ้งลงถังรีไซเคิล เพื่อคืนชีวิตให้ขวดพลาสติกไม่รู้จบ
น้ำแร่ธรรมชาติมิเนเร่ สร้างปรากฏการณ์ “Crush On You..มา Crush บิดบอกรักษ์ให้โลกรู้” กับเสียงบอกรักษ์แบบใหม่ ต้อนรับเทศกาลแห่งความรัก สร้างการมีส่วนร่วมให้คนไทยหันมาจัดการพลาสติกแบบครบวงจร ส่งเสริมพฤติกรรมบิดขวดน้ำดื่มพลาสติก PET ก่อนทิ้งลงถังรีไซเคิล เพื่อลดขนาดขวดน้ำ เพิ่มพื้นที่การจัดเก็บได้มากขึ้นให้สามารถนำกลับสู่กระบวนการรีไซเคิล มาผลิตเป็นขวด rPET อย่างไม่รู้จบ
นายวิคเตอร์ เซียห์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เนสท์เล่ อินโดไชน่า เปิดเผยว่า
“ปี 2023 นับเป็นปีที่สำคัญของมิเนเร่ ในการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วยการเปิดตัวมิเนเร่ rPET ขวดรักษ์โลกที่ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล ซึ่งสะท้อนคำมั่นสัญญาของเนสท์เล่ระดับโลกในการลดการใช้พลาสติกผลิตใหม่หนึ่งในสามภายในปี 2025 และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero ภายในปี 2050 ในปีนี้ เราก้าวไปอีกขั้นด้วยการสนับสนุนให้ผู้บริโภคได้มีส่วนร่วมในการจัดการพลาสติกครบวงจร ด้วยการเปิดตัวโครงการ “Crush On You..มา Crush บิดบอกรักษ์ให้โลกรู้” เชิญชวนทุกคนมาร่วมบิดขวดน้ำดื่มก่อนทิ้ง เพื่อนำกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล”
นางสาวนาริฐา วิบูลยเสข ผู้อำนวยการบริหารหน่วยธุรกิจน้ำดื่ม บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “น้ำแร่มิเนเร่ยังคงเป็นแบรนด์น้ำดื่มเพียงแบรนด์เดียวในประเทศไทยที่ใช้ขวดรักษ์โลก rPET ซึ่งใสสะอาด ปลอดภัย และคงความแข็งแรงของขวด แม้เราเพิ่งวางจำหน่ายในตลาดไม่ถึงปี แต่ก็สร้างการรับรู้ในกลุ่มผู้บริโภคและเกิดทัศนคติที่ดีต่อการใช้ขวดรักษ์โลก rPET เพราะทุก ๆ ครั้งที่ผู้บริโภคเลือกดื่มน้ำมิเนเร่ สามารถช่วยลดการใช้พลาสติกใหม่ลงได้กว่า 50% ในปีนี้เราจึงต้องการสร้างมิติใหม่ของแคมเปญเพื่อความยั่งยืนในเทศกาลแห่งความรักกับการสร้างปรากฏการณ์ผ่านแคมเปญ “Crush On You..มา Crush บิดบอกรักษ์ให้โลกรู้” ส่งเสริมคนไทยให้ร่วมกันบอกรักษ์โลกผ่านการบิดขวดน้ำดื่มพลาสติก PET เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการขยะรีไซเคิล เพราะช่วยเพิ่มพื้นที่จัดเก็บได้มากขึ้นถึง 5 เท่า จึงสามารถนำพลาสติกกลับเข้ามาในกระบวนการรีไซเคิลได้มากขึ้น และยังป้องกันไม่ให้ขยะหลุดลอดไปปะปนกับขยะทั่วไป หรือหลุดลอดออกไปสู่สิ่งแวดล้อม
โดยเราตั้งเป้ารณรงค์ให้เกิดการบิดก่อนทิ้งครบ 1 ล้านขวดทั่วไทยในปีนี้ และผู้บริโภคยังสามารถบอกรักกันได้ผ่านแคมเปญการตลาดที่แสดงข้อความบอกรักกันผ่านจอบิลบอร์ดได้ทั่วเมือง” โดยในปี 2024 นี้ มีแผนที่จะลดการใช้พลาสติกผลิตใหม่ ด้วยการใช้พลาสติกรีไซเคิลกว่า 6,000 ตัน หรือเทียบเท่าน้ำหนักวาฬ 35,000 ตัว และสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 4,800 ตัน (CO2e) เทียบเท่าการปลูกต้นไม้ 800,000 ต้น ซึ่งผู้บริโภคสามารถมีส่วนร่วมรักษ์โลกไปกับแบรนด์มิเนเร่ในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและคืนอากาศบริสุทธิ์ให้โลกอีกด้วย