Recent News: สรุปข่าวประจำวันที่ 14 มิถุนายน 2023
สตาร์บัคส์ ประเทศไทย ประกาศเปิดตัวร้านกาแฟสีเขียว ตามมาตรฐาน Greener Store สนับสนุนเป้าหมายของบริษัทในการลดคาร์บอน ของเสีย และการปล่อยของเสียลดลง 50% ภายในปี 2573

ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมกิจกรรมสนับสนุนความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง พร้อมนำแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนมาใช้ในร้านสตาร์บัคส์ และในปีนี้ สตาร์บัคส์ ประเทศไทย ได้เปิดตัวร้านกาแฟสีเขียว ซึ่งเป็นร้านที่มีองค์ประกอบเชิงนวัตกรรมและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมผ่านการรับรองตามมาตรฐาน Greener Store ทั้งหมด 3 สาขา ได้แก่ สตาร์บัคส์ ท็อปส์ มาร์เก็ต สาธุประดิษฐ์ สตาร์บัคส์ โรบินสัน ปราจีนบุรี และ สตาร์บัคส์ สถานีบริการน้ำมันเชลล์ นครชัยศรี

Greener Stores คือการกำหนดเกณฑ์มาตรฐานใหม่สำหรับร้านสตาร์บัคส์ ให้ตอบสนองการรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น โดยกรอบการดำเนินของ Greener Stores ได้รับการพัฒนาร่วมกับกองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF) เพื่อกำหนดมาตรฐาน หลักเกณฑ์ประสิทธิภาพ 25 ข้อ เช่น ประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน การดูแลน้ำ และการแยกของเสีย ซึ่งออกแบบมาเพื่อเร่งการเปลี่ยนแปลงไปสู่การเป็นร้านสตาร์บัคส์ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต่ำ และเพื่อสนับสนุนเป้าหมายของสตาร์บัคส์ในการลดการปล่อยคาร์บอน การใช้น้ำ และของเสียลง 50% ภายในปี 2573 โดยร้านกาแฟสีเขียว แต่ละแห่งจะมีคุณสมบัติด้านความยั่งยืนที่แตกต่างกัน และจะได้รับการรับรองผ่านผ่านองค์กรภายนอกเพื่อมาตรฐาน โดยผลการดำเนินงานของ Greener Store แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการประหยัดน้ำและพลังงานได้มากถึง 30% ในปัจจุบัน ร้านสตาร์บัคส์มากกว่า 3,500 แห่ง ใน 20 ประเทศทั่วโลก ได้รับการรับรองว่าเป็น “ร้านกาแฟสีเขียว”

สำหรับสตาร์บัคส์ ประเทศไทย มีร้านกาแฟสีเขียว ทั้งหมด 3 สาขา ได้แก่ สตาร์บัคส์ ท็อปส์ มาร์เก็ต สาธุประดิษฐ์ สตาร์บัคส์ โรบินสัน ปราจีนบุรี และ สตาร์บัคส์ สถานีบริการน้ำมันเชลล์ นครชัยศรี โดยทั้ง 3 สาขาได้ยื่นพิจารณาร้านกาแฟสีเขียวหรือ Greener Store ของประเทศไทย

สตาร์บัคส์มุ่งมั่นเป็นผู้นำในธุรกิจกาแฟที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั่วโลก โดยมีเป้าหมาย ที่จะทำให้ร้าน สตาร์บัคส์ทุกแห่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนลง 50% ภายในปี 2573 ลูกค้าทุกท่านสามารถรับชมการดำเนินงานตลอด 25 ปีในด้านความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมและการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม ได้ที่นี่ (ลิ้งค์วิดีโอ) และมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการทำสิ่งเล็กๆ ที่สร้างผลกระทบเชิงบวกที่ยิ่งใหญ่ไปพร้อมกับเราได้ที่สตาร์บัคส์ทุกสาขา ทั่วประเทศ
พาณิชย์ชวนชมพลังสร้างสรรค์งานออกแบบไทยในนิทรรศการ DEmark Show 2023 อวดโฉมงานดีไซน์จากทั่วประเทศที่สมัครรางวัลการออกแบบยอดเยี่ยมปี 2566 พร้อมดันสู่สากล

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เดินหน้าส่งเสริมผลงานออกแบบไทยสู่สากล ต่อเนื่องเป็นปีที่ 16 จัดประกวดรางวัลการออกแบบยอดเยี่ยมDesign Excellence Award (DEmark) ภายใต้แนวคิด “Brave The Wave of Creation คลื่นพลังสร้างสรรค์งานดีไซน์ไทย” ล่าสุดจัดนิทรรศการ “DEmark Show 2023” ณ เจริญนคร ฮอลล์ชั้น M ไอคอนสยาม ระหว่างวันที่ 12- 18 มิถุนายน 2566 เพื่อแสดงผลงานการออกแบบจากผู้สมัครทั่วประเทศกว่า 572 ผลงาน ประกาศศักยภาพการออกแบบไทยในเวทีโลกด้วยการออกแบบขับเคลื่อนเศรษฐกิจชาติด้วยความคิดสร้างสรรค์ตอบโจทย์เมกะเทรนด์โลก พร้อมเปิดตัวสาขาการประกวดใหม่ กลุ่มผลงานออกแบบระบบ บริการและแพลตฟอร์มดิจิทัล เพื่อให้สอดรับกับเทรนด์ของธุรกิจยุคใหม่ที่มีการสร้างสรรค์เป็นนวัตกรรมบริการดิจิทัลที่ช่วยแก้ปัญหาให้แก่ผู้ใช้งานและสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้แก่ธุรกิจ พร้อมต่อยอดผลงานเข้าสู่เวทีประกวดระดับโลกต่อไป

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า “ตามที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ มีนโยบายส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้า โดยใช้ยุทธศาสตร์ “ตลาดนำการผลิต” นำความต้องการในยุควิถีใหม่มาเป็นแนวทางการพัฒนาธุรกิจ เพื่อสร้างภาพลักษณ์เชิงบวก และความเชื่อมั่นต่อแบรนด์ของไทยด้านการออกแบบและสร้างสรรค์ให้เป็นที่ยอมรับในสากล รวมทั้งสร้างโอกาสในการขยายช่องทางการตลาดสินค้า และบริการของไทยให้เติบโตในตลาดต่างประเทศได้
รางวัลการออกแบบยอดเยี่ยม หรือ รางวัล DEmark ถือเป็นอีกหนึ่งการดำเนินการสำคัญของกรมฯ ดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 16 เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ หรือ Creative Industry ให้เป็นอุตสาหกรรมสำคัญในการยกระดับเศรษฐกิจของประเทศ สร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน รองรับสถานการณ์เศรษฐกิจการค้าในปัจจุบัน และการเปลี่ยนแปลงในอนาคต เพื่อให้ธุรกิจของไทยสามารถยืนอยู่ในเวทีโลกได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน”
โดยทุกปี รางวัล DEmark จะมีการเฟ้นหาสินค้าที่มีการออกแบบที่โดดเด่น ส่งต่อไปสู่รางวัล Good Design Award หรือ G-mark รางวัลการออกแบบแห่งประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย
ในระดับสากล จัดโดย Japan Institute of Design Promotion (JDP) พันธมิตรที่ให้ความร่วมมืออย่างดีมาโดยตลอด โดยผลการดำเนินโครงการตั้งแต่ปี 2008 – 2022 รวมระยะเวลา 15 ปี มีบริษัทที่ได้รับรางวัล DEmark รวม 1,081 รางวัล (783 บริษัท/ราย) และบริษัทที่ ได้รับรางวัล G-mark รวม 503 รางวัล (368 บริษัท/ราย)

นางสาวประอรนุช ประนุช ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมนวัตกรรมและสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อการค้า กล่าวว่า “รางวัลการออกแบบยอดเยี่ยม หรือ Design Excellence Award (DEmark) ได้ริเริ่มขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมการออกแบบสินค้าของไทย โดยใช้ตราสัญลักษณ์ DEmark เป็นเครื่องหมายรับรองผลงานที่โดดเด่นด้านการออกแบบ ยกระดับสินค้าที่มีการออกแบบดีให้เป็นที่ยอมรับแพร่หลายในตลาดโลก
สร้างความแตกต่างและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าไทย โดยให้ความสำคัญกับการออกแบบสินค้า ที่มีความสวยงาม ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ประโยชน์ใช้สอย มีความเป็นนวัตกรรม และคำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น อีกทั้งเป็นแบบอย่างในการพัฒนาด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ของอุตสาหกรรมในประเทศต่อไป”

รางวัล DEmark 2023 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Brave The Wave of Creation คลื่นพลังสร้างสรรค์ งานดีไซน์ไทย” เปิดรับสมัครนักออกแบบ ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ผู้ส่งออก ส่งผลงานเข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม ถึงวันที่ 19 พฤษภาคม 2566 โดยในปีนี้ได้รับการตอบรับอย่างดียิ่งจากนักออกแบบไทยและผู้ประกอบการ มีผลงานออกแบบของผู้ประกอบการ และนักสร้างสรรค์ทั่วประเทศส่งเข้าร่วมโครงการถึง
686 รายการ ผ่านการคัดกรองเบื้องต้นเข้าร่วมจัดนิทรรศการ DEmark Show 2023 ระหว่างวันที่ 12 – 18 มิถุนายน 2566 ณ ไอคอนสยาม 572 รายการ ครอบคลุม 7 ประเภทอุตสาหกรรมที่ประเทศไทยมีศักยภาพสูงในเวทีโลก
ผู้สนใจสามารถเข้าเยี่ยมชม นิทรรศการ “DEmark Show 2023” ได้ตั้งแต่ วันที่ 12 – 18 มิถุนายน 2566 ณ ไอคอนสยาม โดยแบ่งพื้นที่จัดแสดงออกเป็น 4 โซน ดังนี้
ชั้น M โซน Charoennakorn Hall จัดแสดงผลงาน Furniture Interior Design
ชั้น 1 โซน Rassada Hall จัดแสดงผลงาน Graphic Design, Industrial & Digital Appliances
ชั้น 3 โซน Wattana Hall จัดแสดงผลงาน Lifestyle & Fashion, Packaging, System , Service and Digital Platform
ชั้น 4 โซน ICONCRAFT จัดแสดงผลงาน Lifestyle & Fashion
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th สายด่วนการค้าระหว่างประเทศ โทร 1169 หรือ ผ่านทาง Facebook page: DEmark Thailand เว็บไซต์ www.demarkaward.net หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักส่งเสริมนวัตกรรม และสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อการค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โทร 061- 032 6594, 082-954 5965 หรือ 02-507 8278 Email: [email protected]
