fbpx

Rado Anatom ความพิถีพิถันตามหลักสรีรศาสตร์

เรือนเวลา

ในโลกของประวัติศาสตร์เรือนเวลา GM Live เชื่อว่าชื่อของแบรนด์ Rado คือหนึ่งในแบรนด์ที่คุ้นหูชินตากันเป็นอย่างดี และแม้ว่า Rado จะเป็นผู้ผลิตนาฬิกามาเกินกว่าศตวรรษแล้ว แต่ทุกวันนี้ทางแบรนด์ก็ยังคงพัฒนาด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างสรรค์นาฬิกาที่ดีที่สุดสำหรับคนทุกยุคสมัย  ซึ่ง Rado Anatom ความพิถีพิถันตามหลักสรีรศาสตร์ คอลเล็กชันล่าสุด คือเครื่องพิสูจน์ถึงความไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาเพื่อตอบโจทย์และมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับแฟนคลับและคนรักเรือนเวลาอย่างแท้จริง

สำหรับ Rado Anatom ได้รับพัฒนาต่อยอดจากรุ่มเดิม โดยนักออกแบบนาฬิกาซึ่งดีไซน์รูปแบบและเลือกใช้วัสดุที่สอดประสานเข้ากับการเคลื่อนไหวของข้อมือมนุษย์เมื่อยามสวมใส่อย่างเป็นธรรมชาติ ตอบโจทย์เรื่อง Ergonomics หรือการยศาสตร์ ซึ่งเป็นเรื่องศาสตร์แห่งการทำงาน เป็นการหาความสัมพันธ์ระหว่างงาน ผู้ปฎิบัติงาน และสภาพแวดล้อม เพื่อหาวิธีออกแบบการทำงานให้มีประสิทธิภาพ ที่คนในยุคนี้ให้ความสำคัญ    

โดยทั้ง 5 เรือนใหม่ล่าสุดนี้ อาจเรียกได้ว่าเป็นการชุบชีวิตนาฬิกา Anatom ต้นตำรับที่มีอายุกว่า 40 ปีให้กลับมาประสบมีชีวิตอีกครั้ง โดยยังคงใช้ขอบหน้าปัดไฮเทคเซรามิกสีดำ แต่เปลี่ยนจากสายยางปั๊มลายมาเป็นสายไฮเทคเซรามิกแบบขัดเงาเพื่อให้เชื่อมกับขอบหน้าปัดอย่างลงตัว

เบา เรียบเนียน และน่าหลงใหล

Rado Anatom เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปีค.ศ.1983 ในรูปแบบมินิมัลที่ถือเป็นการปฏิวัติวงการในสมัยนั้น ซึ่งนาฬิการุ่นล่าสุดนี้ก็ยังคงสานต่อจุดเด่นของงานดีไซน์รุ่นต้นตำรับไว้ ทั้งความมินิมัล ดีเทลการออกแบบต่างๆ อาทิ ลวดลายที่เป็นเส้นแนวนอนบนสายนาฬิกาและหน้าปัด ขณะเดียวกันก็ใช้เทคโนโลยีมาทำให้ Anatom สมบูรณ์แบบและน่าหลงใหลมากขึ้น สร้างสรรค์นาฬิกาที่ทั้งเบาและเรียบเนียน แถมตัวไฮเทค   เซรามิกในยุคนี้ยังสามารถปรับสภาพให้เข้ากับอุณหภูมิของผู้ใส่ได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้ใส่สบายจนรู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย ซึ่งนี่คือเป็นเป้าหมายสูงสุดของคอลเล็กชั่น Anatom มาตลอด 

อีกหนึ่งเอกลักษณ์ของนาฬิกาในตำนานเรือนนี้ คือการใช้คริสตัลแซฟไฟร์ทรงกระบอก ซึ่ง Rado เป็นผู้คิดค้นเทคนิคการผลิตคริสตัลแซฟไฟร์ให้มีรูปทรงนี้เอง และแน่นอนว่าทั้ง 5 เรือนล่าสุดก็ยังคงตัวตนเดิม โดยเพิ่มขอบมุมให้เอียงนิดๆ และลดขนาดตัวเรือนด้านบนกับด้านล่างลงนิดหน่อย เพื่อให้บรรจบกับสายนาฬิกาที่ก็ไล่ระดับความกว้างลงมาจนเหลือส่วนที่แคบสุดเพียง 20 มิลลิเมตร งานออกแบบทั้งหมดนี้ดูเนียนตา พลิ้วไหว ซึ่งแบรนด์คิดค้นมาเพื่อให้ Rado Anatom เป็นเรือนที่ใส่สบายอย่างแท้จริง

ส่วนภายในมีการเปลี่ยนจากระบบควอตซ์แบบดั้งเดิมมาใช้กลไกออโตเมติก Rado คาลิเบอร์ R766 สำรองพลังงานได้นานถึง 72 ชั่วโมง มีแฮร์สปริง Nivachron™ ช่วยป้องกันสนามแม่เหล็ก ให้ Rado Anatom ทำหน้าที่บอกเวลาได้อย่างแม่นยำในทุกสภาพแวดล้อม

แตกต่างอย่างสวยงาม

สิ่งที่เหมือนกันของนาฬิกา 5 รุ่นนี้ คือใส่สบาย เรียบเนียนเข้ากับข้อมือ ดีไซน์ตัวเรือนให้เป็นทรงสี่เหลี่ยม จตุรัสที่มีความโค้งมนนิดๆ ไม่มีมุมแหลม วัสดุหลักที่ใช้อย่างไฮเทคเซรามิกมีความเบามาก แต่ทนทาน

นอกจากนี้ยังใช้กลไกการเดินที่มีความแม่นยำแบบยุคดิจิทัล แสดงถึงความเป็นนาฬิกาสมัยใหม่แห่งศตวรรษที่ 21

แต่ในความเหมือนก็ยังมีรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไป เริ่มจาก 2 รุ่นแรกที่บริเวณขอบหน้าปัดกับสายนาฬิกาทำจากไฮเทคเซรามิกสีดำขัดเงา ตัวเม็ดมะยมสีดำ หน้าปัดก็เคลือบแลกเกอร์สีดำ ตกแต่งด้วยลายเส้นแนวนอนที่ตั้งใจเว้นช่องว่างให้ไม่สม่ำเสมอกัน ส่วนข้อต่อสายนาฬิกา เข็มนาฬิกา ขีดบอกเวลา และสัญลักษณ์รูปสมอเคลื่อนที่บนหน้าปัดมีให้เลือกระหว่างสีเงินกับสีทอง

รุ่นต่อมาจะเพรียวบางลง ขอบหน้าปัด สายนาฬิกา และเม็ดมะยมทำจากพลาสม่าไฮเทคเซรามิกขัดเงาทั้งหมด แมตช์กับหน้าปัดเคลือบแล็กเกอร์สีเทา ตกแต่งดีเทลต่างๆ ด้วยสีโรสโกลด์ ระยิบระยับ สะดุดตา

สำหรับ 2 รุ่นสุดท้ายเพิ่มความเรียบหรูและมีสไตล์ด้วยเพชร Jubilé ภาพรวมของทั้ง 2 เรือนนี้เหมือนกันตรงขอบหน้าปัด เม็ดมะยม และสายนาฬิกาที่ใช้ไฮเทคเซรามิกสีดำขัดเงา หน้าปัดเคลือบแลกเกอร์  สีดำ ประดับเพชรตรงตำแหน่งเลข 3 9 และ 12 ชวนให้นึกถึงดวงดาวระยิบระยับในค่ำคืนที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง ส่วนเข็มนาฬิกาใช้เป็นสีโรเดียมตัดกับหน้าปัด สำหรับ Anatom ประดับเพชร (R10204712) มีเฉพาะที่เชียงใหม่บูติคเท่านั้น

ส่วนดีเทลความต่างของ 2 รุ่นนี้อยู่ตรงที่เรือนหนึ่งดีไซน์มินิมัล เรียบหรู ไม่พิมพ์ขีดบอกเวลา ขณะที่อีกเรือนพิมพ์ขีดบอกเวลาเป็นสีดำแมตต์ โดยสายนาฬิกาก็จะต่างกัน เรือนหนึ่งตกแต่งบริเวณข้อต่อด้วยเพชร 124 เม็ด อีกเรือนใช้ข้อต่อสแตนเลสแบบขัดเงา 

งานดีไซน์ที่เหนือระดับกว่าเดิม

Rado Anatom ทั้ง 5 รุ่นนี้สะท้อนภาพความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุ และผู้ชำนาญงานออกแบบตามหลัก Ergonomics (การยศาสตร์) ของแบรนด์อย่างแท้จริง แถมยังแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของงานดีไซน์ ที่มีหลายรุ่น หลากรูปแบบ ซึ่งล้วนตอบโจทย์ความต้องการของคนรักนาฬิกาที่มีไลฟ์สไตล์ต่างๆ กัน เรียกได้ว่า Rado Anatom เป็นทั้งนาฬิกาในตำนาน และนาฬิกาที่ทันยุคทันสมัย และความไม่หยุดนิ่งของแบรนด์ทำให้ได้เห็น Rado Anatom ที่ยังคงดีงามและงดงามอย่างต่อเนื่อง

ทำไมต้องไฮเทคเซรามิก – เพราะไม่เหมือนวัสดุอื่นๆ

หากจะพูดถึงหัวใจสำคัญของไฮเทคเซรามิกของ Rado ก็ต้องใช้คำว่า “Feel it” คือต้องสัมผัสและทำความรู้จัก ถึงจะพบว่านี่คือสุดยอดวัสดุที่ไม่มีใครเหมือน จากจุดเริ่มต้นในอดีตที่ต้องการผลิตวัสดุที่มีความทนทานสูง ทำให้ Rado สร้างสรรค์ไฮเทคเซรามิกขึ้นมาได้สำเร็จ เป็นสารที่มีน้ำหนักเบา ทนทานต่อรอยขีดข่วนได้อย่างดีเยี่ยม

แต่ในความแข็งแกร่ง ทนทานของไฮเทคเซรามิก ยังมีอีกคุณสมบัติที่น่าหลงใหล นั่นคือความสบายผิว เมื่อสวมบนข้อมือแล้วจะสัมผัสได้ถึงความนุ่มเป็นมิตรกับผิว ทั้งตัวเรือนและสายนาฬิกา เป็นเสมือนสิ่งที่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อให้อยู่บนข้อมือโดยแท้ ทั้งยังเป็นสัมผัสที่ไม่ว่าใครก็จะไม่มีวันลืม

โดยRado เปิดตัวไฮเทคเซรามิกครั้งแรกเมื่อปีค.ศ.1986 วัสดุที่มีคุณสมบัติมากมาย ทั้งแข็งแรงทนทาน ป้องกันรอยขีดข่วนได้ น้ำหนักเบา และให้สัมผัสนุ่มนวล

Rado Anatom

 R10201152 และ R10200152

กลไกการเดิน :  Rado คาลิเบอร์ R766, ออโตเมติก, 21 จีเวล, 3 เข็มนาฬิกา, วันที่อยู่ในตำแหน่ง 6 นาฬิกา สำรองพลังงานได้นาน 72 ชั่วโมง, แฮร์สปริง NivachronTM ป้องกันสนามแม่เหล็ก ผ่านการทดสอบความแม่นยำที่ 3 ถึง 5 ตำแหน่ง

ตัวเรือน: ขอบหน้าปัดทำจากไฮเทคเซรามิกสีดำขัดเงา คริสตัลแซฟไฟร์รูปทรงกระบอก ส่วนมุมเคลือบโลหะสีดำและสารป้องกันแสงสะท้อนที่พื้นผิวด้านใน ชิ้นส่วน ตรงกลางทำจากสแตนเลสพ่นทรายเคลือบ PVD สีดำ เม็ดมะยมทำจากไฮเทคเซรามิก สีดำ ฝาหลังเป็นสแตนเลสพร้อมคริสตัลแซฟไฟร์แบบโปร่งใส

R10201152      ชิ้นส่วนที่เชื่อมต่อกับตัวเรือนทำจากสแตนเลสขัดเงา

R10200152      ชิ้นส่วนที่เชื่อมต่อกับตัวเรือนทำจากสแตนเลสชุบ PVD สีเหลืองทองขัดเงา กันน้ำได้ถึง 5 บาร์ (50 เมตร)

หน้าปัด:           สีดำขัดเงา เคลือบแลกเกอร์ ตกแต่งด้วยลายเส้นแนวนอนที่เว้นช่องว่างต่างกัน

R10201152      ขีดบอกเวลาสีโรเดียมเคลือบสารเรืองแสง Super-LumiNova® สีขาวสัญลักษณ์รูปสมอเรือเคลื่อนที่สีโรเดียม พื้นหลังสีดำ

R10200152      ขีดบอกเวลาสีเหลืองทองเคลือบสารเรืองแสง Super-LumiNova® สีขาวสัญลักษณ์รูปสมอเรือเคลื่อนที่สีเหลืองทอง พื้นหลังสีดำ พิมพ์โลโก้ Automatic และ Rado สีขาว


เข็มนาฬิกา:                 

R10201152      สีโรเดียมเคลือบสารเรืองแสง Super LumiNova® สีขาว

R10200152      สีเหลืองทองเคลือบสารเรืองแสง Super LumiNova® สีขาว

สายนาฬิกา:      ไล่ระดับความแคบลงถึง 20 มม.ไฮเทคเซรามิกสีดำขัดเงา

R10201152      ข้อต่อทำจากสแตนเลสขัดเงา บานพับล็อก 3 ทบทำจากสแตนเลสขัดเงา มาพร้อมปุ่มกดสแตนเลสขัดเงา

 R10200152     ข้อต่อทำจากสแตนเลสชุบ PVD สีเหลืองทองแบบขัดเงา บานพับล็อก 3 ทบทำจากสแตนเลสขัดเงา พร้อมปุ่มกดสแตนเลสสีเหลืองทองขัดเงา

ขนาด            32.5 x 46.3 x 11.3 มม. (กว้าง x ยาว x สูง)

 R10203102

กลไกการเดิน:   Rado คาลิเบอร์ R766, ออโตเมติก, 21 จีเวล, 3 เข็มนาฬิกา, วันที่อยู่ในตำแหน่ง 6 นาฬิกา สำรองพลังงานได้นาน 72 ชั่วโมง, แฮร์สปริง NivachronTM ป้องกันสนามแม่เหล็ก ผ่านการทดสอบความแม่นยำที่ 3 ถึง 5 ตำแหน่ง

ตัวเรือน:           ขอบหน้าปัดทำจากพลาสม่าไฮเทคเซรามิกขัดเงา คริสตัลแซฟไฟร์รูปทรงกระบอก ส่วนมุมเคลือบโลหะสีเทาและสารป้องกัน แสงสะท้อนที่พื้นผิวด้านใน ชิ้นส่วนตรงกลางทำจากสแตนเลสขัดเงาแนวนอน เม็ดมะยมทำจากพลาสม่าไฮเทคเซรามิกขัดเงา ฝาหลังเป็นสแตนเลสพร้อมคริสตัลแซฟไฟร์แบบโปร่งใส ชิ้นส่วนที่เชื่อมต่อกับตัวเรือนทำจากสแตนเลสชุบ PVD สีโรสโกลด์ขัดเงา กันน้ำได้ถึง 5 บาร์ (50 เมตร)

หน้าปัด:           สีเทา ขัดเงา เคลือบแลกเกอร์ ตกแต่งด้วยลายเส้นแนวนอนที่เว้นช่องว่างต่างกัน ขีดบอกเวลาสีโรสโกลด์เคลือบสารเรืองแสง Super-LumiNova® สีขาว สัญลักษณ์รูปสมอเรือเคลื่อนที่สีโรสโกลด์ พื้นหลังสีเทา พิมพ์โลโก้ Automatic และ Rado สีขาว

เข็มนาฬิกา:        สีโรสโกลด์เคลือบสารเรืองแสง Super LumiNova® สีขาว

สายนาฬิกา:       ไล่ระดับความแคบลงถึง 20 มม. พลาสม่าไฮเทคเซรามิกแบบขัดเงา ข้อต่อทำจากสแตนเลสชุบ PVD สีโรสโกลด์แบบขัดเงา บานพับล็อก 3 ทบทำจากสแตนเลสขัดเงา ปุ่มกดสแตนเลสชุบ PVD สีโรสโกลด์ขัดเงา

ขนาด            32.5 x 46.3 x 11.3 มม. (กว้าง x ยาว x สูง)

R10204712  และ R10201712

กลไกการเดิน:   Rado คาลิเบอร์ R766, ออโตเมติก, 21 จีเวล, 3 เข็มนาฬิกา, วันที่อยู่ในตำแหน่ง 6 นาฬิกา สำรองพลังงานได้นาน 72 ชั่วโมง, แฮร์สปริง NivachronTM ป้องกันสนามแม่เหล็ก ผ่านการทดสอบความแม่นยำที่ 3 ถึง 5 ตำแหน่ง

ตัวเรือน:           ขอบหน้าปัดทำจากไฮเทคเซรามิกสีดำขัดเงา คริสตัลแซฟไฟร์รูปทรงกระบอก ส่วนมุมเคลือบโลหะสีดำและสารป้องกันแสงสะท้อน ที่พื้นผิวด้านใน ชิ้นส่วนตรงกลางทำจากสแตนเลสพ่นทรายเคลือบ PVD สีดำ เม็ดมะยมทำจากไฮเทคเซรามิกสีดำ ฝาหลังเป็นสแตนเลสพร้อมคริสตัลแซฟไฟร์แบบโปร่งใส

R10204712      ชิ้นส่วนที่เชื่อมต่อกับตัวเรือนทำจากสแตนเลสขัดเงาประดับเพชร 38 เม็ด, 95/100, Top Weselton, VS-SI ฟูลคัท, 0.144 กะรัต

R10201712      ชิ้นส่วนที่เชื่อมต่อกับตัวเรือนทำจากสแตนเลสขัดเงา กันน้ำได้ถึง 5 บาร์ (50 เมตร)

หน้าปัด:           เคลือบแลกเกอร์สีดำ เพชร 3 เม็ด, 115/120, Top Wesselton, VS-SI, ฟูลคัท, 0.019 กะรัต

R10204712      ขีดบอกชั่วโมงพิมพ์สีดำแบบแมตต์ สัญลักษณ์รูปสมอเรือเคลื่อนที่สีโรเดียม พื้นหลังสีดำ พิมพ์โลโก้ Automatic, Rado และ Jubilé สีเงิน

เข็มนาฬิกา:      สีโรเดียมเคลือบสารเรืองแสง Super LumiNova® สีขาว

สายนาฬิกา:      ไล่ระดับความแคบลงถึง 20 มม. ไฮเทคเซรามิกสีดำขัดเงา

R10204712      ข้อต่อทำจากสแตนเลสขัดเงา ประดับเพชร 124 เม็ด, 95/100, Top Wesselton, VS-SI, ฟูลคัท, 0.471 กะรัต (มีขายเฉพาะที่เชียงใหม่บูติคเท่านั้น)

R10201712      ข้อต่อทำจากสแตนเลสแบบขัดเงา บานพับล็อก 3 ทบทำจากสแตนเลสขัดเงา มาพร้อมปุ่มกดสแตนเลสขัดเงา

ขนาด            32.5 x 46.3 x 11.3 มม. (กว้าง x ยาว x สูง)

Digiqole ad

บทความที่น่าสนใจ