อยากขึ้นยานแม่ต้องแวร์โพเอม!
เรื่อง : สุกฤษฏิ์ บูรณสรรค์
ปี 2019 ที่ผ่านมา วงการแฟชั่นบ้านเราคึกคัก โดยเฉพาะแฮชแท็ก #อยากขึ้นยานแม่ต้องแวร์โพเอม ที่ถูกจุดกระแสขึ้นผ่านช่องทางสื่อโซเชียลฯ และได้เหล่า Muse ของแบรนด์พูดประโยคเด็ดดังกล่าว ก่อนเปิดตัวคอลเลกชัน Autumn/Winter 2019 ที่มีชื่อว่า Eternity in an Hour
“มันเป็นเรื่องง่ายมากที่จะเริ่มต้นธุรกิจแฟชั่น แต่ยากมากที่คุณจะอยู่รอดให้พ้น 4 ปีแรก” ฌอน-ชวนล ไคสิริ ดีไซเนอร์และเจ้าของแบรนด์ POEM กล่าว
กว่าหนึ่งทศวรรษของโพเอมในโลกแฟชั่น นี่คือแบรนด์เสื้อผ้าสุดหรูของไทยที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2006 จนถึงวันนี้นับเป็นความสำเร็จที่น่าชื่นชม เพราะโพเอมไม่ได้ดังเฉพาะในเมืองไทย แต่ยังสร้างชื่อเสียงและมียอดขายเสื้อผ้าถล่มทลายไปทั่วโลก หลังจากพาแบรนด์ไปเปิดตลาดมาแล้วที่จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ และมาเลเซีย
ฌอนยังได้รับแรงบันดาลใจจากมุมมองของดีไซเนอร์คนดังมากมาย เช่น Christian Dior ผู้ที่มีแนวคิดเรื่องความแข็งแกร่งของหญิงสาวภายใต้เสื้อผ้า และจาก Gabrielle Chanel ที่ใช้แฟชั่นปลดปล่อยข้อจำกัดของผู้หญิง
เส้นทางของแบรนด์โพเอมอาจแตกต่างจากดีไซเนอร์ทั่วไป ที่แม้จะมีคุณแม่เป็นเจ้าของห้องเสื้อ ได้ซึมซับการทำเสื้อผ้ามาตั้งแต่เด็ก แต่ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยคิดจะเดินตามรอยคุณแม่แม้แต่น้อย ในทางกลับกัน เขาเติบโตมาพร้อมความฝันและความมุ่งมั่นที่จะเป็นสถาปนิก
“สมัยเด็ก ผมเคยไปออฟฟิศของญาติที่เป็นสถาปนิก ผมประทับใจสภาพแวดล้อมการทำงานที่นั่นมาก และวาดฝันว่าอยากทำอาชีพนี้ จึงเลือกสอบเข้าคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่ระหว่างเรียน ด้วยความที่บ้านผมเป็นห้องเสื้อ เวลาทำละครคณะ ผมเลยมักได้รับหน้าที่ให้ช่วยดูแลเสื้อผ้าของนักแสดงทุกปี จะว่าไปก็เหมือนโชคชะตา ที่สุดท้ายก็นำพาให้ผมต้องเข้ามาคลุกคลีกับโลกแฟชั่น การทำเสื้อผ้าอยู่ดี”
ช่วง 2 ปีแรกของการทำแบรนด์ถือเป็นช่วงเรียนรู้ ยังอยู่ในช่วงหาส่วนผสมที่ลงตัวของแบรนด์ให้เจอ โพเอมเองกว่าจะถึงวันนี้ก็เคยผ่านวิกฤติมาหลายครั้ง ที่หนักสุดคือตอนที่แบรนด์เข้าสู่ปีที่ 4 ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดวิกฤติการเมืองไทยพอดี
“ช่วงนั้นเราได้รับผลกระทบเยอะ เพราะเปิดร้านไปก็แทบขายไม่ได้ แถมตอนหลังพอเหตุการณ์หนักขึ้นก็ต้องปิดร้าน ช่วงนั้นแบรนด์เราเกือบไม่ได้ไปต่อ แต่ผมถือเอาคำสอนจากคุณแม่ที่บอกว่า ถ้าไม่มีรายได้ก็ห้ามมีรายจ่าย ด้วยคำสอนนี้ทำให้เราประคับประคองแบรนด์ผ่านวิกฤติมาได้
“พอมาปี 2012 แบรนด์เราเข้าสู่ปีที่ 6 ผมว่าเป็นช่วงที่แบรนด์เรามาถึงจุดที่ลงตัวที่สุด ดีเอ็นเอของแบรนด์ชัด ลูกค้าเริ่มคลิกกับเรา เริ่มขยายสาขา เริ่มทำประชาสัมพันธ์เพื่อให้ลูกค้ารู้จักแบรนด์ของเรามากขึ้น
“ทุกวันนี้โพเอมมีสินค้าที่ตอบโจทย์ลูกค้าสองกลุ่ม ได้แก่ สินค้าในกลุ่มเรดดี้ ทูแวร์ ที่เน้นการออกแบบอย่างพิถีพิถัน สามารถมาหาซื้อได้ที่หน้าร้านทุกสาขา สองคือ บริการ Private Poem Couture เราทำหน้าที่เหมือนช่างเสื้อส่วนตัวให้ลูกค้าที่มองหาเสื้อผ้าที่เข้ากับสรีระของตัวเองโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นชุดออกงาน หรือชุดเจ้าสาว
“ผมมีความสุขกับการสร้างแบรนด์ ผมได้นำความรู้ด้านสถาปัตย์มาปรับใช้ในการทำแบรนด์หลายอย่าง เพราะสถาปัตย์สอนให้ผมใช้เหตุผลในการคิดวิเคราะห์ ตัดสินใจทุกอย่างด้วยเหตุและผล”
อีกหนึ่งเคล็ดลับในการบริหารแบรนด์ให้สตรองตามสไตล์ฌอนคือ เมื่อเริ่มต้นธุรกิจแล้ว อย่าคิดยืมจมูกคนอื่นหายใจ กับต้องให้ความใส่ใจในรายละเอียด