ฝุ่น PM 2.5 ภัยร้ายใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม กับความจำเป็นของ ‘เครื่องฟอกอากาศ’

มาถึงตอนนี้ แม้จะเป็นเรื่องที่แจ่มชัดแล้วว่า อันตรายของฝุ่น PM 2.5 นั้น รุนแรงและสร้างความเสียหายในระยะยาวให้กับสุขภาพร่างกายมากแค่ไหน แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีแนวโน้มว่าจะลดลงหรือเป็นไปในทางที่ดีขึ้น และเราก็อาจจะต้องใช้ชีวิตอยู่คู่กับมันต่อไปอีกระยะเวลาใหญ่ๆ พร้อมการเตรียมตัวให้ดีที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ และในตอนนี้ เราก็อยากจะมาเน้นย้ำถึงความหมาย อันตราย และวิธีป้องกัน ในการใช้ชีวิตที่ต้องอยู่คู่กับ PM 2.5 นี้กันอีกสักครั้ง
อะไรคือ PM 2.5

เราได้ยินกันจนเคยชินมาแล้วกับคำว่า ‘ฝุ่น PM 2.5’ แต่ความหมายที่แท้จริงของมันคืออะไร? จากการนิยามตามมาตรฐานสากลนั้น ค่าฝุ่นละอองจะวัดขนาดด้วยหลักไมครอน (Micron) และ PM ก็ย่อมาจากคำว่า Particle Matters หรือขนาดฝุ่นละออง และตัวเลข 2.5 นั้น ถ้าให้เห็นภาพ ก็จะมีขนาดเท่ากับ 1 ใน 25 ของเส้นผ่านศูนย์กลางเส้นผม ซึ่งถือว่ามีขนาดที่เล็กมากๆ ดักจับได้ยาก และสามารถลอยร่วมกับทุกอณุภาคเข้าสู่ลมหายใจและกระแสเลือดได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังสามารถนำเอาสารพิษอื่นๆ รวมเข้ามาได้อีกด้วย
สาเหตุของฝุ่น PM 2.5

ฝุ่น PM 2.5 สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะด้วยการเผาขยะ การเผาเพื่อทำการเกษตร ควันจากอุตสาหกรรมหนัก ควันจากโรงงานผลิตไฟฟ้าแบบเก่า จนถึงกิจวัตรต่างๆ ของคนทั่วไปเช่นการสูบบุหรี่ จุดธูปเทียน เผากระดาษ แต่จากข้อมูลของกรมมลพิษ ระบุว่าฝุ่น PM 2.5 กว่า 60% เกิดจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ดีเซล ที่เป็นเครื่องยนต์แบบเก่าที่การเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ ทำให้เกิดฝุ่นควัน ซึ่งถือเป็นตัวการสำคัญหลักเลยก็ว่าได้
ช่วงไหนของปีที่ควรระวัง

ถ้าให้ตอบคำถามนี้แบบกำปั้นทุบดิน ก็คงต้องบอกว่า ทุกช่วงฤดูกาลที่เราใช้ชีวิต คือความเสี่ยงที่จะต้องเจอกับฝุ่น PM 2.5 อยู่แล้ว มากน้อยแตกต่างกัน (โดยเฉพาะในปัจจุบัน ที่ค่า AQI หรือ Air Quality Index นั้น สูงจนอยู่ในระดับที่ไม่เหมาะจะใช้ชีวิตไปแล้ว…) แต่ถ้าให้เจาะจงลงไป หน้าหนาวจะเป็นช่วงที่ความรุนแรงของฝุ่น PM 2.5 นั้นอันตรายที่สุด เพราะความกดอากาศสูงเคลื่อนตัวปกคลุมทุกพื้นที่ พื้นดินจึงคายความร้อนออกมาอย่างรวดเร็ว ก่อให้เกิดสภาวะที่ไม่มีช่องว่างให้อากาศและฝุ่นได้เคลื่อนตัวฝ่าย สะสมอยู่ในบรรยากาศรอบๆ ตัว เรียกกันว่า ‘สภาพอากาศปิด’ และถ้าตรวจสอบด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ จะพบค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ที่สูงกว่าปกติอย่างเห็นได้ชัด
อันตรายจากฝุ่น PM 2.5

ฝุ่น PM 2.5 นั้น แม้ไม่ก่อให้เกิดอันตรายในทันที แต่ถ้าสะสมในร่างกายในปริมาณที่มาก และติดต่อกัน อาจจะก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกายได้ในระยะยาว เช่น โรคภูมิแพ้ หอบหืด อาการแสบร้อนที่ผิวหนัง เซลล์ผิวอ่อนแอเหี่ยวย่นง่าย และถ้ามากจนถึงระดับ อาจจะก่อให้เกิดโรคอันตรายเช่น มะเร็งปอด หัวใจขาดเลือด ปอดอักเสบ ซึ่งอันตรายถึงชีวิต รวมถึงผู้ที่ตั้งครรภ์ การได้รับฝุ่น PM 2.5 ก็จะส่งผลต่อทารกในครรภ์ ซึ่งข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกได้สำรวจพบว่า มีประชากรที่เสียชีวิตเนื่องด้วยมลพิษทางอากาศ มากถึง 6 ล้านคนในแต่ละปี และในจำนวนนี้ เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบถึง 600000 คน
อยู่อย่างไรให้ไกลจาก PM 2.5
การหลีกเลี่ยงการใช้ชีวิตประจำวันให้ห่างไกลจากฝุ่น PM 2.5 นั้น อาจจะเป็นเรื่องยาก (แม้แต่คนที่ไม่ได้ออกเดินทางไปไหนก็ตาม) แต่ถ้าจะต้องป้องกันให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด ก็สามารถทำได้ ทั้งการปิดประตูหน้าต่างป้องกันฝุ่น หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่เต็มไปด้วยฝุ่นควัน ดื่มน้ำสะอาดเพื่อชะล้างร่างกาย งดสูบบุหรี่ จนถึงการสวมหน้ากากอนามัยซึ่งกลายเป็นสิ่งจำเป็นแล้วในห้วงเวลานี้ และอีกหนึ่งทางเลือกที่พอจะสามารถช่วยได้นั่นคือ ‘เครื่องฟอกอากาศ’

‘เครื่องฟอกอากาศ’ อีกหนึ่งทางเลือกเพื่ออากาศที่ดีภายในบ้าน
แม้จะเคยถูกมองว่าเป็นสิ่งที่เกินความจำเป็น แต่ ‘เครื่องฟอกอากาศ’ ก็มีการพัฒนาและมีราคาที่สามารถเอื้อมถึง สามารถหาซื้อมาใช้งานได้อย่างสะดวก ติดตั้งง่าย และสามารถการคัดกรองอากาศให้มีคุณสมบัติที่เหมาะสมภายในพื้นที่การทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และแบรนด์ Kiyoi ก็เป็นอีกหนึ่งผู้พัฒนาเครื่องฟอกอากาศระดับคุณภาพ ที่ได้เปิดตัวรุ่นใหม่ล่าสุด KI-AP1125 ที่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะซื้อหามาใช้งานในครัวเรือน
ด้วยขนาดที่กะทัดรัด ดีไซน์เรียบหรู เหมาะแก่การติดตั้งในพื้นที่ต่างๆ ภายในบ้านหรือสำนักงาน KI-AP1125 ยังมาพร้อมคุณสมบัติในการฟอกอากาศที่น่าสนใจหลายประการ
-ระบบฟอกอากาศ 5 ขั้นตอน (Pre-Filter, Carbon Filter, True HEPA, UVC, PCO)
-แผ่นกรองฝุ่น HEPA ดักจับฝุ่นละอองต่างๆ ที่เล็กถึงระดับ 0.3 ไมครอน ได้ถึง 90%
-ระบบกรองฝุ่นและฆ่าเชื้อด้วย UVC, UV Light Wavelength และ UV Lamp Life ที่กำจัดเชื้อได้แม้แต่ชนิดที่เล็กที่สุด
-ทำงานร่วมกับ Carbon Filter+PCO ช่วยลดกลิ่น และมลพิษ ให้อากาศภายในพื้นที่สดชื่น
-ปรับระดับการทำงานได้ถึงสามระดับ ตามการใช้งาน
-ตั้งเวลาปิดเปิด เพื่อการประหยัดพลังงานสูงสุด
-น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย

ในสภาวะปัจจุบันที่เราอาจจะต้องอยู่กับฝุ่น PM 2.5 นี้กันไปอีกพักใหญ่ๆ (ที่ไม่มีวี่แววว่าจะลดความรุนแรงลงไป…) การป้องกัน คือสิ่งที่จำเป็น และแม้เครื่องฟอกอากาศจะเคยถูกมองว่าเป็นสิ่งที่เกินกว่าจะเอื้อมถึง แต่อย่างน้อยที่สุด แบรนด์ Kiyoi ก็พร้อมตอบสนองทั้งในด้านราคา ขนาด การติดตั้ง และประสิทธิภาพ ที่น่าสนใจ และน่าทบทวนให้ลองหามาใช้กันสักครั้ง
***ผู้สนใจ สามารถดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์ได้ที่เว็บไซต์ www.kiyoiair.com***
