fbpx

Orient ฉลองครบรอบ 75 ปี  ด้วยคอลเลคชั่นคลาสสิคพิเศษ! ในตำนาน

เรือนเวลา

GM Live บอกได้เลยว่าเป็นอีกหนึ่งแบรนด์นาฬิกาดังจากประเทศญี่ปุ่น ที่คนรักเรือนเวลาชื่นชอบมาอย่างยาวนาน และปีนี้  Orient ฉลองครบรอบ 75 ปี  ด้วยคอลเลคชั่นคลาสสิคพิเศษ! ในตำนาน ให้นักสะสมและผู้ที่รักในแบรนด์นี้ได้ครอบครองกัน ซึ่งความเป็นตำนานเริ่มตั้งแต่ในปี 1950 เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ที่ทางOrient ได้เริ่มต้นส่งมอบนาฬิกาคุณภาพสูงที่ผู้คนเข้าถึงได้ง่าย เรื่อยมาจนถึงปัจจุบันนี้ ปี 2025

และจากรากฐานแห่งความเชี่ยวชาญของช่างฝีมือชาวญี่ปุ่น ผสมผสานกับความเป็นผู้นำด้านการผลิตกลไกและการออกแบบที่เป็นนวัตกรรม ภายใต้โรงงานของแบรนด์ Orient เองในประเทศญี่ปุ่น นาฬิกาทุกเรือนจึงผ่านการทดสอบทางด้านความแม่นยำและความสวยงามอย่างมีคุณภาพ ที่พร้อมส่งมอบคุณค่าอันน่าประทับใจทั้งในประเทศญี่ปุ่น และต่างประเทศกว่า 70 ประเทศทั่วโลก

โดยในวาระครบรอบ 75 ปีนี้  Orientถือเป็นก้าวสำคัญต่อการมุ่งสู่อนาคตด้วยการเปลี่ยนแปลงจาก “Made in Japan” มาสู่ “Made in Thailand” นั้นเพราะแบรนด์ ORIENT ได้ย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทยอย่างเต็มรูปแต่ยังคงอยู่ภายใต้มาตรฐานคุณภาพของญี่ปุ่นเหมือนที่เป็นมา

Orient Classic and Simple Style 75th Anniversary

สำหรับเรือนเวลา Classic Collection เป็นดั่งตัวแทนในสไตล์ดั้งเดิมของ Orient อย่างซีรีส์ คลาสสิค แอนด์ ซิมเพิล สไตล์  ที่เป็นดังเสมือนตัวแทนของทุกสิ่งที่เป็น Orient โดยความโดดเด่นของซีรีส์นี้ได้แฝงอยู่ในทุกส่วนของนาฬิกาไม่ว่าจะเป็นหน้าปัดโค้งแบบคลาสสิกดั้งเดิม กระจกทรงโดมที่ให้ความรู้สึกย้อนยุค และดีไซน์ตัวเรือนที่ละเอียดอ่อนพร้อมขาตัวเรือนที่เรียวบาง

ซึ่งความพิเศษเนื่องจากเป็นลิมิเต็ดอิดิชั่นที่ออกมาฉลอง 75 ปี ทางแบรนด์ได้นำเสนอทั้งหมด 3 รุ่นได้แก่

Bambino Classic & Simple (Ref.RA-AC0027S)

รุ่นนี้ผลิตออกมา 9,500 เรือน ในรูปแบบคลาสสิคด้วยหลักบอกเวลาแบบเลขโรมัน บนขนาดตัวเรือน 40.5 มม.

Bambino Sun & Moon (Ref.RA-AK0808S)

ผลิตออกมา 5,500 เรือน โดยมาพร้อมหน้าปัดแสดงเวลากลางวันและกลางคืน ผ่านสัญลักษณ์พระอาทิตย์และพระจันทร์ บนขนาดตัวเรือน 41.5 มม. 

ซึ่งทั้ง 2 รุ่น Bambino Classic & Simple และ  Bambino Sun & Moon  ทำงานโดยบอกเวลาผ่านเครื่องอัตโนมัติ in-house ที่ผลิตภายในโรงงานของ Orient เอง สามารถสำรองพลังงานได้ถึง 40 ชั่วโมง

Bambino Classic & Simple Solar Power (Ref.RA-WK0006S)

นับเป็นครั้งแรกของการนำเครื่องระบบโซล่าร์ พาวเวอร์ มาใช้กับนาฬิกาสไตล์คลาสสิค ซึ่งผลิตเพียง 750 เรือนเท่านั้น ด้วยขนาดตัวเรือน 38 มม. ทั้งยังสามารถสะสมพลังงานไว้ได้นานถึง 6 เดือนในกรณีที่แบตเตอรี่เต็ม จึงทำให้สะดวกต่อการใช้งานในทุกๆ วัน

นาฬิกาทั้งสามรุ่นนี้มีรูปลักษณ์ในสไตล์วินเทจ โดดเด่นด้วยโลโก้ “Orient” ที่เป็นตัวเขียนลายมือของยุค 1950 บนหน้าปัดสีขาว เข็มนาฬิกาสีน้ำเงินตัดกับหลักบอกเวลาสีทองชมพู และสายหนังนูบัคสีเบจ สไตล์เรโทร โดยรุ่นกลไกอัตโนมัติจะมาในแบบฝาหลังใสเผยให้เห็นกลไก ส่วนรุ่นโซล่าร์ พาวเวอร์จะมาในแบบฝาหลังทึบ

และทั้งสามรุ่นจะมีตรา Orient Since 1950 75th Anniversary” ที่ฝาหลังนาฬิกาทุกเรือน และระบุหมายเลขประจำตัวเรือนพร้อมกับคำว่า Limited Editon” โดยทั้งหมดนี้จะมาในแบบ Box Set 75th Anniversary พร้อมกับสายหนังลูกวัวที่สามารถเลือกเปลี่ยนเองได้ตามความชื่นชอบ ทั้งยังช่วยสร้างความรู้สึกถึงการเฉลิมฉลองครบรอบ 75 ปีได้มากยิ่งขึ้น

Orient & Peanuts Collaboration 75th Anniversary

เรือนสุดพิเศษอีกหนึ่งเรือน สำหรับการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 75 ปี ในปี 2025 นี้   โดยที่ทางแบรนด์ Peanuts เองได้เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 1950 เช่นกันด้วยการเป็นการ์ตูนภาพที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์อเมริกัน ถึงวันนี้  Orient และ Peanutsทั้งสองแบรนด์ได้จับมือกันรังสรรค์เรือนเวลารุ่นพิเศษ! ขึ้นมา ด้วยการนำนาฬิกาจากสามซีรีส์ยอดฮิตของ Orient มาผลิตในรูปแบบลิมิเต็ดอิดิชั่น ซึ่งประกอบไปด้วยรุ่น Classic & Simple Style 38 สองเฉดสี, รุ่น Semi Skeleton และ รุ่น Diver Design 40 โดยใส่ดีไซน์ลงบนหน้าปัดให้เก๋ไก๋ด้วยตัวคาแรคเตอร์ วู๊ดสต๊อคและสนู้ปปี้ เพื่อให้ผู้ที่ชื่นชอบในแบรนด์ Orient หรือแฟนคลับของ Peanuts ได้สะสมกัน   

ทั้งนี้หน้าปัดนาฬิกาของรุ่นนี้จะประทับตราโลโก้ Orient ในแบบดีไซน์ลายมือเขียนที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา และในตำแหน่ง 6 นาฬิกานั้นได้รับการดีไซน์ให้มีรูปตัวคาแลคเตอร์ “สนู้ปปี้นอนหลับ” อันเป็นภาพคลาสสิคประจำตัวโดยมี เจ้าวู้ดสต๊อคสวมมงกุฎสีทองบินอยู่ข้างๆ ซึ่งมงกุฎนี้มาจากมงกุฎของโลโก้ Orient ที่มีสิงโตสองตัวหันหน้าเข้าหากัน  

เริ่มต้นกันที่รุ่น Classic & Simple Style 38 เรือนนี้จะเป็นนาฬิการะบบกลไกที่มีขนาดตัวเรือนกะทัดรัดโดยมีให้เลือกทั้งหมดสองสี ได้แก่ในรุ่นที่เป็นหน้าปัดสีขาวและสีเบจ ที่เน้นให้เห็นถึงภาพลักษณ์ในแบบสไตล์วินเทจ รวมถึงในช่องแสดงวันที่ ซึ่งเลือกใช้รูปตัววู้ดสต๊อคแทนเลข “1” ในวันที่ 1 ของเดือนเพื่อเพิ่มลูกเล่นให้กับงานออกแบบโดยหน้าปัดสีขาวจะผลิตอยู่ที่ 7,800 เรือน และสีเบจ 3,100 เรือน 

รุ่น Semi Skeleton มีจุดเด่นจากการเจาะช่องบริเวณตำแหน่ง 9 นาฬิกา เผยให้เห็นถึงการทำงานของกลไกภายในคาแรคเตอร์รูปสนู้ปปี้และวู๊ดสต๊อค ที่วางไว้ภายในหน้าปัดย่อยวงกลมของเข็มวินาทีในตำแหน่ง 6 นาฬิกาเพิ่มเติมความมีเสน่ห์ เป็นมิตร และดูอบอุ่นให้กับดีไซน์ในแบบคอนเทมโพรารี่ ผลิตอยู่ที่ 1,900 เรือน เท่านั้น

และในเรือนสุดท้ายไลน์อัพของซีรีส์ลิมิเต็ดอิดิชั่นอย่างDiver Design 40 ที่สืบทอดวิถีแห่งนาฬิกาดีไซน์ดำน้ำอันมีประวัติศาสตร์ยาวนานของแบรนด์ ถูกแต่งแต้มลูกเล่นด้วยการแทนวันที่หนึ่งของเดือนด้วยหัวของตัววู๊ดสต๊อค   และมีขนาดตัวเรือนที่พอเหมาะผนวกเข้ากับการเป็นนาฬิการูปทรงดำน้ำที่มีดีไซน์ไม่เทอะทะ ลงตัวกับภาพลักษณ์ที่มีอารมณ์ขันของ Peanuts  ทำให้นาฬิกาได้รับมุมมองในแบบที่แตกต่างไปจากเดิม และมีจำนวนการผลิตอยู่ที่ 3,800 เรือน

นาฬิกาทุกรุ่นมาพร้อมกับกลไกอัตโนมัติ in-house ที่สามารถสำรองพลังงานได้สูงสุด 40 ชั่วโมงและมีความเที่ยงตรงสม่ำเสมอ ด้านบนฝาหลังประทับคำว่า Orient 75th Anniversary” ในรูปแบบลายมือและโลโก้ 75 ปีของ Peanuts รวมถึงรูปตัววู๊ดสต๊อคและหมายเลขประจำตัวเรือน นาฬิกาทุกเรือนถูกบรรจุอยู่ในกล่องพิเศษที่พิมพ์ด้วยลวดลายโลโก้ 75th Anniversary โดยมีสายนาฬิกาของรุ่น Classic & Simple Style 38 และ Semi Skeleton มาพร้อมกับสปริงบาร์แบบอีซี่เอ๊กซ์เชนจ์ที่มีคันโยกเพื่อถอดเปลี่ยนสายได้อย่างง่ายดาย

เพิ่มเติมข้อมูลได้ที่ โทร. 02-255-8822  และช่องทางออนไลน์ Orient Thailand Official:

Facebook: www.facebook.com/orientthailand.watch

Instagram: www.instagram.com/orientwatch.thailand/

Digiqole ad

บทความที่น่าสนใจ