ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป เดินหน้าเปิด อมารี-โอโซ่-ชามา ตอบสนองการฟื้นตัวท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ย้ำวิสัยทัศน์ “The Best Medium-sized Hospitality Management Company in Southeast Asia” มุ่งเดินหน้าตามแผนงาน ขยายโรงแรมและที่พักภายใต้การบริหารมากกว่า 50 แห่งภายในปี 2025 และมุ่งสู่ 70 แห่งภายในปี 2028

ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป หนึ่งในบริษัทหลักภายใต้กลุ่มบริษัทอิตัลไทย ที่ดำเนินธุรกิจในฐานะบริษัทชั้นนำของประเทศไทยที่เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการโรงแรม รีสอร์ต เซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ และที่พักอาศัยระดับหรู โดยมีแบรนด์ภายใต้การดูแลเป็นที่ยอมรับและรู้จักอย่างกว้างขวางในหลากหลายประเทศในแถบภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค อาทิแบรนด์ อมารี (Amari) โอโซ่ (OZO) ชามา (Shama) และโอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ (Oriental Residence) ครอบคลุมทุกความต้องการเพื่อการพักอาศัยทั้งระยะสั้นและระยะยาวในหลายประเทศ ตอบสนองความต้องการของนักเดินทางทั้งด้านธุรกิจและเพื่อการพักผ่อนได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีการดำเนินธุรกิจด้านสปา ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ได้แก่ maai spa, Breeze spa, Prego, Amaya, Chom Sindh และ Nila อีกด้วย

นายยุทธชัย จรณะจิตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป กล่าวว่า “ในปี 2024 บริษัทตั้งเป้ารายได้ 9,463 ล้านบาท โดยแบรนด์ ‘อมารี’ (Amari) และ ‘โอโซ่’ (OZO) เป็นแบรนด์สำคัญในการขับเคลื่อนรายได้ ในขณะที่แบรนด์ ‘ชามา’ (Shama) มีทิศทางการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่องจากดีมานด์ในตลาดที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพของออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนานกว่า 5 ทศวรรษ ส่งผลให้บริษัทได้ความไว้วางใจจากลูกค้าและคู่ค้าที่มั่นใจและเชื่อในศักยภาพการบริหารจัดการ โดยดำเนินธุรกิจร่วมกันภายใต้สัญญาระยะยาว ทั้งนี้เป้าหมายรายได้ปี 2024 เติบโตขึ้นกว่า 19% เมื่อเทียบกับปีก่อนและ 23% เมื่อเทียบกับปี 2019 ซึ่งเป็นช่วงก่อนการแพร่ระบาดโควิด-19”

ทั้งนี้ ความเป็น ‘A Tailored Approach to Hospitality ’ หรือคือแนวคิดที่เน้นการทำงานร่วมกันกับคู่ค้าและพันธมิตรขององค์กร โดยใช้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่มีมาอย่างยาวนานกว่า 5 ทศวรรษ รวมทั้งความเข้าใจในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างถ่องแท้สามารถตอบโจทย์ทางธุรกิจ และความคล่องตัว คือจุดแข็งสำคัญขององค์กรที่ใช้ในการพัฒนากลยุทธ์ทางธุรกิจให้เติบโตได้อย่างโดดเด่นเช่นนี้

ปัจจุบันออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป มีโรงแรม รีสอร์ต และเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ ครอบคลุมทั้งในประเทศไทย มาเลเซีย จีน รวมไปถึง ฮ่องกง บังกลาเทศ และสปป.ลาว และกำลังขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องอีกหลายแห่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยนับจากปีนี้จนถึงปี 2025 มีโครงการที่เตรียมเปิดให้บริการกว่า 9 แห่ง ในประเทศมาเลเซีย 3 แห่ง จีนและฮ่องกง 2 แห่ง ไทย 2 แห่ง ลาว 1 แห่ง และ ศรีลังกา 1 แห่ง เป็นต้น
สำหรับอมารี แบรนด์ที่รู้จักอย่างกว้างขวางทั้งในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ในฐานะแบรนด์โรงแรมระดับ Upper Upscale ที่มุ่งเน้นตลาด ทั้ง City MICE, Urban MICE และรีสอร์ต ที่พร้อมมอบบริการอย่างเต็มรูปแบบ ตอบรับทุกความต้องการของนักธุรกิจและนักท่องเที่ยว ผ่านรูปแบบบริการที่หลากหลายระดับ Luxury โดยมีแผนเปิดตัวโรงแรมใหม่ 3 แห่ง ประกอบด้วย อมารี โคลัมโบ ประเทศศรีลังกา อมารี เวียงจันทน์ ประเทศลาว และอมารี เดอะไทด์ บางแสน ประเทศไทย

นอกจากนี้ยังมีความเคลื่อนไหวสำคัญที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2024 คือการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ อมารี กรุงเทพฯ ซึ่งได้ทำการปรับปรุงใหม่และปรับชื่อจาก ‘อมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพฯ’ โดยมีเป้าหมายโดยรวมในการเป็นจุดหมายปลายทางชั้นนำของเมือง ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทั้งนักเดินทางเพื่อการพักผ่อน ธุรกิจ และ MICE โดยโรงแรมอมารี กรุงเทพฯ โฉมใหม่ ประกอบด้วยห้องพรีเมียร์และห้องสวีทใหม่ทั้งหมด พร้อมการตกแต่งภายในสไตล์ร่วมสมัย มีการเพิ่มร้านอาหารใหม่ๆ จำนวนมากเพื่อรองรับความต้องการของนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลก อาทิ ‘นิลา’ (Nila) และ ‘ชมสินธุ์’ (Chom Sindh) รวมถึง ‘ไหม สปา’ (maai spa) ซึ่งประสบความสำเร็จในการเปิดตัวสาขาแรกที่ประเทศไทย ณ อมารี พัทยา ไป เมื่อปี 2023

นอกเหนือจากแบรนด์ อมารี แล้ว แบรนด์ที่มีความโดดเด่นอย่างมากอีกแบรนด์ คือ ‘ชามา’ (Shama) ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนที่พักมากกว่า 2,500 ยูนิตจากทั้งหมด 20 แห่ง โดยยังดำเนินการขยายแบรนด์อย่างต่อเนื่องตามแนวโน้มความนิยมที่เพิ่มขึ้นของการมองหาที่พักระยะยาวทั้งในและต่างประเทศ อาทิ ชามา ซัวซานา มาเลเชีย, ชามา ฮับ เมโทร เซาธ์ ฮ่องกง, ชามา ฮับ เฉียนถัง หางโจว ประเทศจีน
สำหรับแบรนด์ ‘โอโซ่’ (OZO) แบรนด์โรงแรมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบความเรียบง่ายและความสนุกจากการผจญภัยเพื่อเรียนรู้โลกกว้าง ทำเลที่ตั้งอยู่ในใจกลางสิ่งอำนวยความสะดวกที่พร้อมเชื่อมต่อทุกความสนุกและสีสันในการผจญภัย อีกหนึ่งแบรนด์ธง ของ ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ล่าสุดเตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือน มิถุนายน 2024 ที่กำลังจะถึงนี้ และมีแผนเปิดตัว OZO Medini ที่ประเทศมาเลเซีย ในไตรมาส 2 ในปี2024 นี้ ซึ่งนับเป็น โรงแรมโอโซ่ แห่งที่ 5 จากปัจจุบัน 4 แห่งประกอบด้วย โอโซ่ พัทยา, โอโซ่ ภูเก็ต, โอโซ่ สมุย, โอโซ่ จอร์จทาวน์ ปีนัง

นอกจากนี้เสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจ ด้วยการขยายพอร์ตโฟลิโอไปยังธุรกิจด้านฮอสพิทาลิตี้อื่นๆ เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่กำลังเดินหน้าไปในทิศทางบวก ล่าสุดเตรียมเปิด ‘เปรโก้’ (Prego) แบรนด์ร้านอาหารอิตาเลียนสไตล์โฮมเมด สาขาหาดกะตะ จ.ภูเก็ต ภายปี 2024 และเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ยังได้เปิดตัวแบรนด์ ‘นิลา’ (Nila) ร้านอาหารสไตล์ Coastal Indian Cuisine เพื่อเจาะกลุ่มตลาดอินเดียในประเทศไทย สร้างสรรค์อาหารโดยเชฟ Bharath S. Bhat เชฟชาวอินเดียคนแรกที่คว้าชัยชนะจากการแข่งขัน เชฟกระทะเหล็กประเทศไทย ONE-ON-ONE BATTLE และแบรนด์ร้านอาหาร ‘ชมสินธุ์’ (Chom Sindh) ตำรับอาหารที่ได้แรงบันดาลใจจากความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเลและแม่น้ำทั่วประเทศไทย
ทั้งนี้การดำเนินธุรกิจยังตระหนักถึงการสร้างความยั่งยืน โดยเน้นย้ำแนวปฏิบัติครอบคลุมแง่มุมต่างๆ เช่น การใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างคุ้มค่า การอนุรักษ์น้ำ และการจัดการของเสียอย่างรับผิดชอบ ซึ่งไม่เพียงแต่สร้าง ‘ปัจจุบัน’ เท่านั้น แต่ยังมองภาพ ‘อนาคต’ ที่คนรุ่นต่อไปจะได้รับสิ่งดีๆ จากการเดินทางท่องเที่ยว โดย ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป เป็นบริษัทบริหารจัดการโรงแรมแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ประกาศความมุ่งมั่นระยะยาวในการทำงานร่วมกับองค์การ UNESCO เพื่อความยั่งยืนทางวัฒนธรรม (Cultural Sustainability) นับเป็นหลักชัยสำคัญในความมุ่งมั่นของ ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ด้านความยั่งยืน นอกเหนือจากการตั้งเป้าหมายเพื่อให้บรรลุถึงความเป็นกลางคาร์บอนอีกด้วย
เยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.onyx-hospitality.com
