เมื่อมวลมนุษยชาติร้างไร้กีฬาโอลิมปิก
เรื่อง: สันทัด โพธิสา
ทันทีที่ประธานโอลิมปิกสากล นาย โทมัส บาค ต่อโทรศัพท์สายตรงถึงนายกรัฐมนตรี ชินโสะ อาเบะ ของญี่ปุ่น เพื่อสรุปความเห็นอันตรงกันว่า ‘ควรเลื่อน’ ข่าวคราวความคาราคาซัง ความสับสน ความไม่แน่นอน ที่มีต่อโอลิมปิกเกมส์ 2020 ก็ยุติลงทันที
สรุปตรงนี้ว่า ‘เลื่อน’ อย่างแน่นอนแล้ว
โอลิมปิกเกมส์เลื่อนไปปีหน้า วันเวลาคงมีประกาศอย่างชัดเจนในภายหลัง คาดการณ์กันว่า คงเป็นเดือน ก.ค.-ส.ค. 2021 แต่ยืนยันแล้ว่า ยังคงใช้ชื่อเดิมคือ ‘โอลิมปิกเกมส์ 2020’
ถึงตรงนี้ มนุษยชาติล้วนเบาใจไปเยอะเลยนะครับ เพราะก่อนหน้านี้หลายฝ่ายก็มีความเห็นกันไปต่างๆ นานา บ้างอยากให้เลื่อน บ้างอยากให้เลิก บ้างตัดสินใจไม่มาแข่ง (ถ้าจะจัดกันจริงๆ) ซึ่งแน่นอน เจ้าภาพอย่างญี่ปุ่นเองยืนกรานมาตลอดว่า จัดได้
น่าเห็นใจ และเข้าใจในความเป็นเจ้าภาพ มีตัวเลขรายงาน การเลื่อนจัดงานโอลิมปิกของญี่ปุ่นในครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อความสูญเสียทางเศรษฐกิจ (economic losses) ของประเทศไม่ต่ำกว่า 6 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 2 แสนล้านบาท สอดคล้องกับ Goldman Sachs วาณิชธนกิจรายใหญ่ที่ได้คาดการณ์เช่นเดียวกันว่า การเลื่อนจัดงานโอลิมปิกของญี่ปุ่น จะทำให้ญี่ปุ่นสูญเสียรายได้จากการบริโภคทั้งในและนอกประเทศไม่ต่ำกว่า 550 ล้านเยน หรือประมาณ 1.6 แสนล้านบาทเลยทีเดียว
เรื่องตัวเลขก็ส่วนหนึ่ง แต่หากว่ากันลงไปในรายละเอียด การเลื่อนครั้งนี้ก็มีผลต่อทีมหรือตัวนักกีฬาเองเหมือนกัน ยกตัวอย่าง ทีมฟุตบอลทีมชาติญี่ปุ่น ชุดอายุต่ำกว่า 23 ปี หรือที่เรียกกันติดปากว่า ชุดโอลิมปิก ถ้าเลื่อนไปจัดปีหน้า แม้ตัวเลขปีการจัดจะยังคงเดิม แต่ตัวเลขอายุของนักฟุตบอลจะหยุดอยู่กับที่คงไม่ได้ พูดง่ายๆ ทีมที่เตรียมไว้สำหรับปีนี้ ก็ต้องปรับเปลี่ยน โดยเฉพาะถ้ามีนักเตะบางคนอายุเกิน ทำให้ต้องเตรียมทีมกันใหม่ต่อไป
นี่แค่ฟุตบอลชนิดเดียว กีฬาอื่นๆ ก็คงต้องรอการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมเช่นกัน
มีคนสนใจเรื่องแล้วไฟคบเพลิงที่ถูกจุดขึ้นมาแล้ว ทำไงต่อละ? ตามรายงานข่าว ไฟคบเพลิงถูกจุดขึ้นมาตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา ณ ประเทศกรีซ ซึ่งล่าสุดเดินทางมาถึงญี่ปุ่นเรียบร้อย แต่ยังจะถูกเก็บไว้ และจัดแสดงไว้ที่จังหวัดฟุกุชิมะ เพื่อรอเวลาให้ถึงปีหน้า ไฟคบเพลิงนี้จะถูกนำมาใช้อย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง
ดูเหมือนจะเป็นความยุ่งเหยิงกันพอสมควร แต่ในเมื่อสถานการณ์เหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับใครคนใดคนหนึ่ง หรือกับประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่เป็นเรื่องของ ‘คนทั้งโลก’ ที่ต้องประสบชะตากรรมเดียวกัน เราจึงต้องยอมรับกับความยุ่งเหยิงเหล่านี้แต่โดยดี หากมองโลกในแง่ดี การที่มนุษยชาติร้างไร้โอลิมปิกเกมส์ (ในวันนี้) ก็ยังดีกว่า โอลิมปิกเกมส์จะร้างไร้มนุษยชาติ
เพราะก่อนหน้าที่จะมีประกาศการเลื่อนแข่งออกไป หลายต่อหลายชาติ อาทิ ออสเตรเลีย แคนาดา ประกาศถอนทีมตั้งแต่ยังไม่เลื่อนแข่งด้วยซ้ำ ถ้ายังมีการแทงกั๊กจากผู้จัดต่อไป เห็นจะไม่มีนักกีฬาคนใด หรือประเทศไหน ‘กล้า’ ที่นำนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันเป็นแน่
นับเป็นครั้งแรกในรอบ 76 ปี ที่โอลิมปิกเกมส์ไม่สามารถจัดในปีที่กำหนดตามวงรอบ 4 ปีได้ แถมนี่ยังเป็นครั้งที่ 2 ที่ประเทศญี่ปุ่นมีผลได้ผลเสียต่อการจัดโอลิมปิกอีกด้วย เนื่องจากสมัยสงครามโลก (ช่วงปี 1940-1944) ญี่ปุ่นก็ได้รับการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน แต่ครั้งนั้นถึงขั้นต้องยกเลิกไปเพราะติดภัยสงครามโลกนั่นเอง
ว่ากันว่า ฟ้าหลังฝน ย่อมงดงามเสมอ ท้องฟ้าหลังความอลหม่านเพราะการระบาดของโควิด-19 ก็คงรอวันกลับมาสดใสอีกครั้งเช่นเดียวกัน
ในไม่ช้า ห่วงทั้ง 5 วงอันเป็นสัญลักษณ์ประจำการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก จะกลับมาตั้งตระหง่านในการแข่งขันของมวลมนุษยชาติอีกครั้ง
แต่ก่อนจะถึงวันนั้น ห่วงทั้ง 5 อันหมายถึง ผู้คนบนโลกนี้ทั้ง 5 ทวีป คงต้องร่วมมือร่วมใจกัน ขจัดไวรัสร้ายนี้ไปให้หมดจากโลกให้เร็วที่สุด…
