fbpx

บำรุงใจในวันที่มืดมน : วิธีอยู่กับความเศร้าและก้าวต่อไป

เรื่อง : GM Live Editor

มันเป็นเรื่องที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ว่าในแต่ละวัน อารมณ์อันหลากหลายจากกิจกรรมและการปฏิสัมพันธ์ย่อมเข้ามามีส่วนร่วมกับชีวิตไม่มากก็น้อย และ ‘ความเศร้า’ ก็ดูจะเป็นหนึ่งในอารมณ์ที่พบเจอได้บ่อยครั้ง มันเป็นอารมณ์ด้านลบที่ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่ในความเป็นจริง เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ และเราต้องเจอกับวันที่ความเศร้าโหมกระหน่ำซ้ำเติมจนดูเหมือนทุกอย่างรอบตัวช่างมืดมน ไร้หนทางออก ไม่มีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์…

เราจะทำอย่างไรเมื่อ ‘ความเศร้า’ เข้ามาเยือน? เราจะรับมือกับมันอย่างไร? และเราจะ ‘ก้าวข้าม’ ความเศร้าเหล่านี้ได้อย่างไร เราอยากร่วมแชร์แนวทางโดยคร่าวๆ สำหรับการรับมือกับความเศร้า และการปลุกปลอบประโลมจิตใจให้ก้าวเดินต่อไปอย่างมั่นคง แข็งขัน และพร้อมสู้กับวันใหม่ที่เข้ามา มันอาจจะไม่ใช่เรื่องที่สลับซับซ้อนมากนัก แต่เราเชื่อว่า ถ้ามันก่อให้เกิดประโยชน์แก่คุณผู้อ่านได้บ้างแม้สักนิด เราก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง

-ลดความคาดหวังอันสูงลิบลง และอยู่กับสิ่งที่เป็นไปได้

หนึ่งในสาเหตุของความเศร้าที่มักจะพบเห็นได้บ่อยครั้ง เกิดจากการที่คนคนหนึ่ง ตั้ง ‘ความคาดหวัง’ ที่มีต่อตัวเองในเรื่องที่ทำ และไม่สามารถไปถึงจุดแห่งความคาดหวังนั้นๆ จนกลายมาเป็นความโศกเศร้า ผิดหวัง และท้อถอย เราอยากจะบอกว่า คุณไม่จำเป็นต้องคาดคั้นเอาเป็นเอาตายกับชีวิตขนาดนั้น เพราะแม้ว่ามันจะไม่สามารถไปถึงจุดที่ตั้งเป้าเอาไว้ได้ อย่างน้อย คุณก็ได้พยายามแล้ว เราอยากให้คุณหันกลับมามองสิ่งที่เป็นไปได้ อย่างละเล็กละน้อย ค่อยเป็นค่อยไป และบอกกับตัวเองเอาไว้เสมอว่า มันยังคงมีโอกาสสำหรับการลองครั้งใหม่ ไม่เสียหายที่จะผิดพลาด แต่คุณได้เรียนรู้อะไรจากมันต่างหาก คือสิ่งสำคัญ

-ความเศร้าไม่ใช่สาเหตุที่คุณจะทำร้ายตัวเอง ใจดีกับตัวเองได้ไม่ผิดอะไร

ความโศกเศร้าอันเกิดจากความรู้สึกด้านลบที่เข้ามา การมองภาพตัวเองที่ไม่ได้อย่างใจ และการรู้สึกระทดท้อกับสภาวะที่ไม่สามารถแก้ไข ทำให้หลายคน เลือกหนทางที่จะทำร้ายตัวเอง ไม่ว่าจะด้วยพฤติกรรมเสี่ยงหรือการเสพของมึนเมา ด้วยความรู้สึกที่ว่า เราไม่ควรค่าแก่ ‘ความสุข’ ใดๆ อีกต่อไปแล้ว แต่ลองหันกลับมามองตัวตนของคุณในกระจก จ้องตาเขาแล้วถามด้วยความสัตย์จริง ว่าคนในนั้นไม่ควรค่าแก่ความสุขจริงๆ หรือ? เราจะผ่อนปรนและ ‘ใจดี’ ให้กับตัวเอง ให้ตัวเรามีความสุขแม้สักนิด จะผิดอะไรนักหนากัน? มนุษย์ทุกคน ไม่ว่าจะยากดีมีจน ควรค่าแก่การที่จะได้รับความสุข และความเศร้า ไม่ใช่เหตุผลที่จะปิดกั้นสิ่งเหล่านั้นไม่ให้เข้ามาในชีวิต

-จัดลำดับความสำคัญของสิ่งที่ต้องทำ

ภาระชีวิตอันยุ่งเหยิง หลายสิ่งอย่างที่ต้องทำและมีความสำคัญไม่ต่างกัน และการไม่สามารถรับมือกับหลายอย่างที่ถาโถมเข้ามา ก่อให้เกิดความเศร้าที่ว่า ทำไมเราถึงไร้ประสิทธิภาพได้ถึงขนาดนี้ ทำไมเราไม่สามารถจัดการและสะสางสิ่งต่างๆ ได้อย่างที่ควรจะเป็น มันก็ย้อนกลับไปที่ข้อแรกที่ว่า คุณอาจเป็นคนหนึ่งที่มีความคาดหวังในตัวเองสูง เราผ่อนปรนได้นั้นเป็นก้าวแรก และการจัดลำดับความสำคัญอย่างพินิจพิเคราะห์ จะช่วยลดความว้าวุ่นกังวลใจที่เกิดขึ้นให้เจือจางเบาบางลง จัดการสิ่งที่มีความสำคัญที่สุดให้เรียบร้อย และค่อยๆ ไล่เรียงดูแลเรื่องอื่นๆ ที่แม้ว่าวันนี้อาจจะไม่สำเร็จ แต่คุณก็จะสามารถบอกตัวเองได้ว่า ได้ทำบางสิ่งได้ครบถ้วนเรียบร้อย ส่วนที่เหลือ ปล่อยให้เป็นเรื่องของวันพรุ่งนี้มาจัดการต่อก็ไม่สาย

-พูดคุยกับคนใกล้ตัว เปิดเผยและระบายความเศร้านั้นออกมา

หลายคนรู้สึกว่าความเศร้า เป็นสัญญาณด้านลบที่ไม่ควรมีใครเห็น จึงเลือกที่จะเก็บซ่อนมันไว้ภายใต้ใบหน้าเปื้อนยิ้ม แต่ข้างในนั้นอกตรม มันเป็นความทรมานชนิดหนึ่งที่เรื้อรั้งและยากที่จะประสาน การได้ใครสักคนที่รักและห่วงใย ช่วยแบ่งเบาความเศร้า และความทุกข์ใจ เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง เรารู้ว่ามันอาจจะเป็นเรื่องยากในสังคมปัจจุบัน ที่จะเลือกว่าใครควรได้รับฟังเรื่องราวที่เรามองว่าไม่ควรเปิดเผย แต่เชื่อเถอะ ถ้ามนุษย์ถูกสร้างมาให้มีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน มันจะต้องมีคนที่พร้อมจะรับฟังคุณอย่างเข้าใจ และพร้อมให้กำลังใจเพื่อก้าวเดินต่อไป หรือถ้าหาไม่ได้จริงๆ บริการทางการแพทย์อย่างนักจิตเวชและจิตแพทย์ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ไม่ใช่เรื่องน่าอาย และอาจได้รับคำแนะนำดีๆ กลับมาก็เป็นได้

-อย่าปฏิเสธความเศร้า จงรับรู้มันอย่างเข้าใจ

บางคนเมื่อเกิดความเศร้าเข้ามาเยือนในจิตใจ ก็เลือกที่จะปฏิเสธมัน ไม่รับรู้การมีอยู่ของมัน และพยายามฮึดขึ้นมาให้ได้ แม้ว่าใจจะบอบบางและอ่อนกำลัง นี่ไม่ใช่วิธีการรับมือกับความเศร้าที่ถูกต้อง เพราะแม้คุณอยากจะลืมมันสักเพียงไหน แต่ความเศร้านั้นก็มีอยู่และเกิดขึ้นจริง การปฏิเสธไม่รับรู้มันย่อมก่อให้เกิดผลเสียต่อสภาพจิตใจอย่างเรื้อรัง อนุญาตให้ตัวเองเศร้าได้ ร้องไห้ได้ แต่เมื่อน้ำตาเปื้อนหน้าแล้ว เช็ดมันออก รับรู้ว่าเราได้สัมผัสความเศร้านั้นแล้ว และเดินหน้าต่อไป

-จำไว้ว่า ความเศร้าเป็นเพียงเรื่องชั่วคราว และมันจะผ่านพ้นไป

ในหลายความเศร้านั้น ดูจะรุนแรง เรื้อรัง และทำให้เรารู้สึกว่าชีวิตมันช่างยากเย็น ไร้หนทางออก ไม่รู้จะไปต่ออย่างไร ไม่รู้จะออกจากหล่มหลุมของความรู้สึกนี้ได้เมื่อใด แต่ขอให้ระลึกไว้เสมอว่า ความเศร้าก็เป็นอารมณ์ชนิดหนึ่ง ซึ่งผ่านมา และจะผ่านไป ขอเพียงเรายังคงเดินหน้า รับรู้ และเชื่อเสมอว่าวันที่ความเศร้าจะผ่านพ้นนั้นต้องมาถึง แม้มันจะเป็นหนทางที่ยาวนานไปบ้าง แต่ขอให้คงความเชื่อเหล่านั้นไว้ มันจะช่วยให้คุณมีกำลังใจที่จะทำสิ่งที่ดีกับตัวเอง เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายปลายทางนั้นๆ

เรารู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายนัก กับการรับมือกับ ‘ความเศร้า’ ในวันที่มืดมน ที่ปัญหาและระดับความเศร้าของแต่ละคนก็แตกต่างกัน เราไม่อนุมานว่าทุกความเศร้าจะใช้เวลาเพียงไม่นานในการเยียวยาจนหายขาด แต่เช่นเดียวกับทุกสิ่งบนโลกนี้ ที่หลากหลายไปด้วยอารมณ์และความรู้สึก ความเศร้าเป็นหนึ่งชนิดของอารมณ์ ไม่ใช่ทั้งหมด และมันจะมีวันที่ทุกอย่างผ่านพ้น ฟ้าเปิดสว่างกระจ่างใส และคุณพร้อมที่จะก้าวต่อไป เราขอเป็นหนึ่งในกำลังใจ สำหรับคนที่กำลังเผชิญหน้ากับความเศร้าทุกคน ว่าคุณ … ไม่ได้อยู่เพียงลำพัง 

Digiqole ad

บทความที่น่าสนใจ