fbpx

‘Nostalgia กับการระลึกถึงวันเก่าก่อน ในมิวสิควิดีโอใหม่ของ ป๊อด โมเดิร์นด็อก’

ในประสบการณ์ชีวิตของคนคนหนึ่ง ย่อมเป็นส่วนผสมของเรื่องราวที่หลากหลาย ปะปน คละเคล้ากันไป มีทั้งสุขที่ทำให้ยิ้ม ทุกข์จนต้องร้องไห้ และเจ็บปวดเพื่อเรียนรู้จากมัน ในวันและวัยที่กำลังวังชายังดี แต่มีประสบการณ์ชีวิตที่ยังไม่ผ่านพ้นเบญจเพส ความสำเร็จและความผิดพลาด ความรักที่สมหวังและผิดหวัง ความสัมพันธ์ที่เริ่มต้น จนถึงปิดฉากลง

เมื่อวันและเวลาผ่านไป การย้อนหวนคืนระลึกถึงวานวันเก่าๆ ก็ทำให้เกิดความรู้สึกที่หลากหลาย ยิ้มทั้งน้ำตา ทอดถอนใจอย่างเสียดาย แม้จะทำอะไรกับมันไม่ได้ แต่มนุษย์ ก็ชื่นชอบ และมักจะโหยหา ‘วันคืนเก่าก่อน’ เพียงเพื่อหวังจะได้สัมผัสห้วงเวลาเหล่านั้นอีกครั้ง หรือกลับไปแก้ไขความผิดพลาด ด้วยวัยวุฒิ และประสบการณ์ของปัจจุบัน

‘Nostalgia’ หรืออารมณ์โหยหาอดีต จึงเป็นสิ่งที่เกิดได้กับคนทุกผู้ และเป็นหนึ่งในอารมณ์ ที่ถูกนำมาปรับใช้ กับดนตรีชิ้นใหม่ของ ธนชัย อุชชิน หรือ ‘ป๊อด โมเดิร์นด็อก’ ที่มาพร้อมกับสองคู่ขวัญแห่งภาพยนตร์ ‘เพื่อนสนิท’ ที่เป็นดั่งตัวแทนของอารมณ์แห่งความโหยหาอดีตเหล่านี้

Nostalgia เป็นศัพท์ที่มีรากมาจากภาษากรีกสองคำนั่นคือ ‘Nostos’ อันหมายถึง ‘การกลับคืน’ และ ‘Algos’ ที่หมายถึง ‘ความเจ็บปวด’ เดิมศัพท์คำนี้ ใช้ในความหมายในทางลบ อันหมายถึงความโศกเศร้าลึกซึ้งของผู้ที่โหยหาการกลับบ้าน แต่มีพัฒนาการความหมายให้เป็นไปในแง่บวกมากขึ้น

ปัจจุบัน Nostalgia เป็นศัพท์ทางจิตวิทยา อันหมายถึง การโหยหาอดีต หรือโหยหาช่วงเวลาที่มีความหมาย มักจะเกิดขึ้น ในยามที่ชีวิตประสบพบเจอกับปัญหา หรือช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ซึ่งความโหยหาเหล่านี้ สามารถเกิดขึ้นได้ จากการกระตุ้นของประสาทสัมผัสทั้งห้า รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ที่เชื่อมโยงกับประสบการณ์ที่เคยประสบพบเจอในอดีต

ในบทเพลง ‘I’m ok/ not ok’ ของป๊อด โมเดิร์นด็อก ชิ้นใหม่นี้ นำผู้ฟังและผู้ดูมิวสิควิดีโอ ให้ไปพบกับ ‘ดากานดา’ และ ‘ไข่ย้อย’ สองเพื่อนซี้จากภาพยนตร์เรื่อง ‘เพื่อนสนิท’ ในโมเมนต์สมมติ ที่เมื่อเวลาผ่านไปนับยี่สิบปี ทั้งสองคนได้กลับมาพบเจอกันอีกครั้ง นั่นทำให้การหวนระลึกถึงวันวานในอดีต เป็นโมเมนต์ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

ความสัมพันธ์ของดากานดา และ ไข่ย้อย คือส่วนผสมของประสบการณ์ และห้วงทรงจำร่วมที่ทั้งสองเคยมีให้กัน ช่วงเวลาสนุกสนาน ช่วงเวลาที่พบเจอกับปัญหา และการเผยความรู้สึกในวันเวลาที่สายเกินไป เหล่านี้ ในแง่หนึ่ง มันไม่ได้เป็นแค่เรื่องของคนสองคน แต่เป็น ‘ความทรงจำร่วมสมัย’ ของคนยุค Generation Y ที่เคยผ่านเวลาเหล่านั้นมาด้วยตนเอง

รักที่ไม่สมหวัง ช่วงเวลาที่เรียบง่ายไม่มีปัญหาหนักหนาสาหัสของชีวิต ความผิดพลาดที่เคยทำไว้ที่อยากกลับไปแก้ไข และอื่นๆ อีกมากมาย เป็นสิ่งสามัญที่สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกคน และยิ่งเวลาผ่านไป ความเข้มข้นของการโหยหาอดีต ก็ยิ่งทรงพลังมากยิ่งขึ้น

การโหยหาอดีต นัยหนึ่ง สามารถเป็นได้ทั้งพลังบวก เป็นแรงใจในวันที่เหนื่อยล้า เป็นหมุดหมายในการค้นหาความหมายในชีวิต แต่ก็สามารถเป็นสิ่งถ่วงรั้งไม่ให้เราเดินต่อไปข้างหน้า ก่อให้เกิดความโศกเศร้า และความขมขื่นได้ถ้าหากเราปล่อยจิตใจให้ล่องลอยกับห้วงเวลาที่ผ่านเลยไปเหล่านั้น

แต่ท้ายที่สุด ห้วงเวลาที่ผ่านเลยไปแล้ว ก็ไม่อาจหวนคืนย้อนกลับมา และไม่ว่าเราจะ Ok หรือ ไม่ Ok กับมัน แต่เวลาก็เปรียบเสมือนสายน้ำ ที่ไหลผ่านโตรกเขาลงไปสู่ธารเบื้องล่าง ไปข้างหน้า ไม่ไหลย้อนกลับ และคงมีปัจจุบันเท่านั้น ที่เป็นเพื่อน เป็นศัตรู เป็นอุปสรรค และเป็นสิ่งที่เป็นจริงที่สุด

แต่การโหยหาอดีตบ้าง เป็นบางครั้งบางคราว ก็ไม่ได้เสียหายอะไรนัก ถ้าหากมันทำให้เรามีพลังใจ ที่จะเดินต่อไป ท่ามกลางสายธารของชีวิตที่รอคอยเหล่านี้

Digiqole ad

บทความที่น่าสนใจ