fbpx

NIA ชูไฮไลต์ “หุ้นส่วนนวัตกรรม” ชวนคนไทยร่วมพัฒนาไทยสู่ชาตินวัตกรรม ผ่านงาน SITE 2023

สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาขน) หรือ NIA ชวนคนไทย นับถอยหลังสู่งาน “สตาร์ทอัพและอินโนเวชันไทยแลนด์ เอ็กซ์โป 2023” (STARTUP x INNOVATION THAILAND EXPO 2023: SITE 2023) งานมหกรรมนวัตกรรมและเครือข่ายสตาร์ทอัพไทยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 หลังจากเริ่มต้นจัดงานครั้งแรกเมื่อปี 2018 จนกลายเป็นงานนวัตกรรมแห่งชาติที่ทุกภาคส่วนเฝ้ารอ จนทำให้ปีนี้ NIA เลือกจัดงานภายใต้แนวคิด INNOVATION PARTNERSHIP – TOGETHER WE GROW ร่วมสร้าง “หุ้นส่วนนวัตกรรม” เพื่อนำไทยสู่ชาตินวัตกรรม โดยกำหนดจัดงานขึ้นระหว่างวันที่ 22-24 มิถุนายน 2023 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยทุกกิจกรรมเปิดให้ผู้ชมเข้าร่วมชมและรับฟังฟรี

สตาร์ทอัพและอินโนเวชันไทยแลนด์ เอ็กซ์โป 2023 (STARTUP x INNOVATION THAILAND EXPO 2023: SITE 2023) งานด้านนวัตกรรมอันดับหนึ่งของไทยที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี และวนมาถึงอีกครั้งในปี นี้ มีทั้งเรื่องราวใหม่ ๆ และความต่อเนื่องจากปีก่อน เพื่อเป็นพัฒนาต่อเนื่องด้านนวัตกรรมไทยให้ไปสู่เป้าหมายการเป็นชาตินวัตกรรมระดับแนวหน้าของโลก

โดยในปีนี้นี้ ดร. พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) (NIA) หรือ เอ็นไอเอ กล่าวว่า งาน SITE 2023 จะเป็นอีกปีที่สะท้อนการพัฒนาศักยภาพด้านนวัตกรรมของไทยที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลากหลายสาขา ซึ่งส่วนสำคัญเป็นผลสำเร็จมาจากงาน SITE 2022 ที่มุ่งส่งเสริมระบบนิเวศที่เหมาะกับการลงทุนด้านนวัตกรรมจนเกิดผลสำเร็จในหลาย ๆ ด้าน

อาทิ การทำให้กรุงเทพมหานครมีความเป็น Digital Nomad อันดับ 2 ของโลก ที่ดึงดูดให้ต่างชาติเข้ามาจัดตั้งธุรกิจ, มหาวิทยาลัยเกิดการตื่นตัวตั้งศูนย์บ่มเพาะ (Incubator) และกองทุนเพื่อส่งเสริมสตาร์ทอัพ, มีกฎเกณฑ์และกฎหมายที่ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ธุรกิจสตาร์ทอัพมากขึ้น ส่งผลให้การลงทุนในสตาร์ทอัพคึกคักต่อเนื่อง

ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา เอ็นไอเอมีภารกิจผลักดัน Government Procurement เพื่อนำไปสู่การพัฒนาบริการของภาครัฐที่ดีขึ้น การลงทุนในสตาร์ทอัพ ระหว่าง Angel Investor และบริษัทขนาดใหญ่ เพื่อดึงดูดการลงทุนในระดับสากล และสุดท้ายคือการผลักดันให้เกิด พรบ.ส่งเสริมสตาร์ทอัพ” ดร.พันธุ์อาจ กล่าว

การดำเนินการดังกล่าวส่งผลต่อเนื่องมาถึงการจัดงาน SITE 2023 ในปีนี้ โดยนอกจากทำให้สังคมไทยมีทัศนคติที่ดีต่อนวัตกรรม หรือเกิด Innovation Mindset ที่จะใช้รับมือกับความท้าท้ายและการเปลี่ยนแปลงได้แล้ว จึงต้องส่งเสริมต่อเนื่องให้สามารถนำนวัตกรรมไปหาโอกาสใหม่ ๆ โดยร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ สร้างการเปลี่ยนแปลงและขยายผลต่อไป

จึงเป็นที่มาของไฮไลต์ของงาน SITE 2023 ในปีนี้ที่จะโฟกัสเรื่องของ “หุ้นส่วนนวัตกรรม” ที่มุ่งหวังสร้างประเทศไปสู่ชาติแห่งนวัตกรรมด้วยการสร้างและปลูกฝังให้หน่วยงานหรือบุคลากร ทั้งในระดับภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ตลอดจนภาคประชาชน ร่วมมือเปิดรับนวัตกรรมและสร้างความพร้อมต่อความเปลี่ยนแปลงในอนาคต ไปจนถึงการร่วมมือกันสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับโลก

ดังนั้น งาน SITE 2023 จึงกลับมาจัดเต็มรูปแบบ เป็น​งาน Tech Conference ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็​นมหกรรมนวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี ที่จะรวมเหล่านักรบเศรษฐกิจใหม่ทั้งรุ่นใหญ่รุ่นเล็กพร้อมเหล่าหัวกะทิสตาร์ทอัพจากทั่วโลก ผู้ประกอบการธุรกิจนวัตกรรม นักลงทุน ภาครัฐ ภาคเอกชน ที่เป็นหุ้นส่วนนวัตกรรม มารวมตัวกัน โดยจะเป็นความร่วมมือทางนวัตกรรมครั้งสำคัญของ 4 ภาคส่วน ได้แก่ ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศึกษาและภาคประชาสังคม เพื่อรองรับการเติบโตของผู้ประกอบการสตาร์ทอัพและธุรกิจนวัตกรรม สร้างความเข้มแข็งในระบบนิเวศนวัตกรรมไทยและขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นชาตินวัตกรรม ภายใต้แนวคิด INNOVATION PARTNERSHIP – TOGETHER WE GROW ร่วมสร้าง หุ้นส่วนนวัตกรรมเพื่อนำไทยสู่ชาตินวัตกรรมตามเป้าหมาย

มีอะไร? ในงาน SITE 2023

ภายในงาน SITE 2023 ประกอบด้วย 4 กิจกรรมหลัก ได้แก่

1) FORUM พบกับสัมมนาจากวิทยากรระดับท๊อปทั้งชาวไทยและต่างประเทศกว่า 20 ท่าน ตลอด 3 วันเต็ม ภายใต้ 3 หัวข้อหลัก คือ BRIDGING PUBLIC & PRIVATE PARTNERSHIP, ACCELERATING INNOVATION BUSINESS & PARTNERSHIP และ HACKING FOR NEW INVESTMENT & GROWTH MODEL ภายใต้หัวข้อสัมมนาที่น่าสนใจในหลากหลายประเด็น กว่า 30 หัวข้อ อาทิ นวัตกรรมด้านสังคมเพื่อโลกในอนาคตโดย Mr. Renaud Meyer, Resident Representative, UNDP, ความคิดสร้างสรรค์และทุนทางวัฒนธรรม: ขุมพลังขับเคลื่อนนวัตกรรมไทย,ถอดรหัสความสำเร็จองค์กรนวัตกรรม” ”การเชื่อมโยงกลไกสนับสนุนทุนนวัตกรรมของภาครัฐสำหรับผู้ประกอบการไทยและ การเปิดตัว Startup Universe 2023 Update” โดย ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการเอ็นไอเอ ฯลฯ

2) BUSINESS OPPORTUNITY เป็น โอกาสสำคัญในการพบปะ แลกเปลี่ยนความรู้ ต่อยอดธุรกิจ พบกับตลาดสินค้านวัตกรรมจากสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการธุรกิจนวัตกรรมชั้นนำที่จะมาแนะนำสินค้านวัตกรรมกว่า 250 ราย พร้อมด้วยกิจกรรม PITCHING การนำเสนอแผนธุรกิจจากสตาร์ทอัพและธุรกิจนวัตกรรมกว่า 50 ราย, INTERNATIONAL ZONE พบกับหน่วยงานต่างชาติกว่า 10 หน่วยงานจาก 5 ประเทศ กิจกรรมจับคู่ธุรกิจใน BUSINESS MATCHING และ NETWORKING สานสัมพันธ์และสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ

3) SHOW การแสดงนวัตกรรมที่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงในอนาคต และ

4) AWARD พิธีประกาศผลรางวัลอันทรงเกียรติให้แก่ผู้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาระบบนิเวศสตาร์ทอัพและเอสเอ็มอีของประเทศ และเสริมสร้างศักยภาพทางธุรกิจให้แก่สตาร์ทอัพและเอสเอ็มอีให้ก้าวสู่ตลาดต่างประเทศ พร้อมด้วยรางวัลสำหรับนวัตกรรมรับมือวิกฤตเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

เตรียมสัมผัสและเป็นส่วนหนึ่งของความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมไทยไปพร้อมกัน? ในงาน SITE 2023 หรือ STARTUP THAILAND x INNOVATION THAILAND 2023 ระหว่างวันที่ 22-24 มิถุนายนนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ฟรี!!! ไม่เสียค่าใช้จ่าย ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนได้ที่ site/nia.or.th แล้วเตรียมตัวก้าวสู่ชาติแห่งนวัตกรรมไปพร้อม ๆ กัน



การเดินทางของ SITE ก่อนเข้าสู่ปีแห่ง “หุ้นส่วนนวัตกรรม”

    •  

เอ็นไอเอ เริ่มจัดงาน SITE ครั้งแรกเมื่อปี 2018 ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้น ด้วยคอนเซ็ปต์การจัดงานที่สะท้อนนวัตกรรมที่เข้าถึงได้และเกี่ยวข้องกับประชาชนคนไทย มีผู้ชมงานในส่วนนวัตกรรมปีแรก 1 หมื่นคน ขณะที่งานสตาร์ทอัพไทยแลนด์ที่จัดขึ้นพร้อมกันมีผู้เข้าถึงชมถึง 6 หมื่นกว่าราย พร้อมกับมีการลงทุนถึง 5 หมื่นล้านบาท ในปีถัดมามีผู้ชมออนไลซต์ 2 หมื่นราย ลงดแต่สามารถเพิ่มผู้ชมผ่านออนไลน์ที่เพิ่มเข้ามาอีก 5.5 แสนราย ส่วนงานสตาร์ทอัพไทยแลนด์ผู้เข้าชมคงเดิมแต่มีผู้รับชมผ่านเว็บไซต์เพิ่มขึ้นมากกว่า 1 ล้านราย และมียอดเงินลงทุนเพิ่มเป็น 1.5 หมื่นล้านบาท

    •  

นับจากปี 2020 เอ็นไอเอนำงาน STARTUP THAILAND และ INNOVATION THAILAND EXPO รวมเข้าด้วยกัน เป็นงาน STIE ขึ้นเป็นปีแรก และจัดงานในรูปแบบโลกเสมือนจริงที่สะท้อนนวัตกรรมได้อย่างดีเป็นครั้งแรกของประเทศ เพราะเป็นปีที่ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยอยู่ในช่วงเผชิญกับโควิด-19 แต่ก็ยังคงมีผู้เข้าชมงานผ่านโลกเสมือนมากถึง 1.9 แสนราย และยังคงเม็ดเงินลงทุนมากกว่า 2 หมื่นล้านบาท

    •  

ปี 2021 SITE 2021 ยังคงต้องสะท้อนการจัดงานที่แสดงให้เห็นถึงการปรับกระบวนทัศน์ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อรับมือกับภาวะวิกฤตต่าง ๆ จึงเน้นถ่ายทอดและส่งเสริมพัฒนาและสร้างโอกาสเติบโตในเทคโนโลยีเชิงลึก (Deep Tech) เพื่อเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่โลกอนาคตได้อย่างทัดเทียมประเทศชั้นนำของโลก

    •  

จนมาถึงปี 2022 แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด19 เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดี แต่ยังไม่สามารถวางใจได้เต็มร้อย งาน SITE จึงสร้างสะพานเชื่อมผู้คนในแวดวงนวัตกรรมจากประเทศไทยและทั่วโลกมาเจอกัน (Reconnecting the World) ให้กลับมามีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน เพื่อรองรับการเปิดเมือง หลังวิกฤตโควิดคลี่คลาย

Digiqole ad

บทความที่น่าสนใจ