New DB12 Volante ผสมผสานความภูมิฐานและความเป็นอิสระสไตล์รถเปิดประทุน
และแล้วที่สุดแห่งยนตรกรรม Super Tourer เปิดประทุน ก็มาให้ได้สัมผัสกัน เมื่อแอสตัน มาร์ติน แบงคอก ผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ แอสตัน มาร์ติน อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ได้เปิดตัว ดีบี12 โวลานเต้ ใหม่ (New DB12 Volante) ซึ่งเป็นรุ่นซึ่งต่อยอดจาก ดีบี12 คูเป้ (DB12 Coupe) ที่ผสมผสานสมรรถนะของยนตรกรรมซูเปอร์ทัวเรอร์ เข้ากับความสุนทรีย์ของการขับรถเปิดประทุน นับเป็นยนตรกรรมสปอร์ตสุดหรูที่มีระดับ มีความสง่างามและคุณลักษณะแบบสปอร์ตที่ยากจะหาใครมาเทียบ และนั้นทำให้ ดีบี12 โวลานเต้ เป็นยนตรกรรมรุ่นล่าสุดในกลุ่มรถเปิดประทุนสมรรถนะสูงของ แอสตัน มาร์ติน ที่มาพร้อมความประณีตทุกรายละเอียด และรูปลักษณ์ที่อยู่เหนือกาลเวลา ผสานเทคโนโลยีและวิศวกรรมล้ำสมัย
เสน่ห์เย้ายวน เกินต้าน กับหลังคาอัตโนมัติ ‘K-FOLD’
หากมองจากภายนอก แอสตัน มาร์ติน ดีบี12 โวลานเต้ มีดีไซน์ที่กล้าแกร่งของยนตรกรรมสไตล์คูเป้ โครงสร้างตัวถังอะลูมิเนียมมีความแข็งแกร่งสูง ผสานกลไกหลังคาผ้าใบอัตโนมัติ ‘K-Fold’ ซึ่งตั้งชื่อตามการพับเก็บสองขั้นตอน ทำให้มีความสูงเพียง 260 มิลลิเมตร รูปทรงเพรียวบางและดูงดงาม ใช้เวลาเปิด-ปิดเพียง 14 และ 16 วินาที ตามลำดับ พร้อมฉนวนมากถึง 8 ชั้น ทำให้ ดีบี12 โวลานเต้ มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นเหนือรถเปิดประทุนทั่วไป โดยเมื่อเปิดใช้งาน หลังคาจะพับเก็บอัตโนมัติอยู่ใต้ฝาปิดหนังแท้ ผสานเส้นสายตัวถังที่เพรียวบาง นำสายตาสู่ห้องโดยสารอันหรูหรา ตัดกันกับตัวถังด้านท้ายที่ดูบึกบึนและทรงพลัง
หรูหรา สะดุดตาทุกมิติ กับห้องโดยสารอันล้ำสมัย
รายละเอียดที่ทำให้ห้องโดยสารของ ดีบี12 โวลานเต้ ดูแตกต่างจากรถคูเป้ คือ แผงไม้หรือแผงคาร์บอนไฟเบอร์บนพนักพิง แบบเดียวกับขอบประตู ที่สร้างมิติดึงดูดใจ ซึ่งมาพร้อมความหรูหราแบบพิเศษ ระบบอินโฟเทนเมนต์ล้ำสมัย และ HMI (Human Machine Interface) แบบใหม่ ช่วยให้ผู้โดยสารไม่พลาดทุกการเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ ที่แสดงผลผ่านจอทัชสกรีนอเนกประสงค์ ‘Pure Black’ ขนาด 10.25 นิ้ว ควบคู่กับการติดตั้งปุ่มและสวิตช์ควบคุมระบบที่สำคัญ เพื่อให้ผู้ขับสามารถใช้งานได้ง่ายที่สุด ทั้งยังเพิ่มความสุนทรีย์ยามขับเคลื่อนด้วยเครื่องเสียง Bowers & Wilkins 390 วัตต์ 11 ลำโพง
แรงสะใจ ทรงพลังมากที่สุดในรถกลุ่มเดียวกัน
ยกระดับให้กับรถ จีที สู่การเป็นยนตรกรรมซูเปอร์ ทัวเรอร์ เพื่อขึ้นทำเนียบยนตรกรรมพลังแรงที่สุดในคลาส ด้วยขุมพลังเบนซินทวินเทอร์โบ วี8 สูบ 4.0 ลิตร 680 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 800 นิวตันเมตร ที่ 2,750-6,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ (ZF 8HP75) อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 3.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 325 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เฉียบคม กับแฮนด์ลิงระดับซูเปอร์ทัวเรอร์
อีกหนึ่งความพิเศษของ แอสตัน มาร์ติน DB12 คือ ช่วงล่างหน้า-ดับเบิลวิชโบน และหลัง-มัลติลิงค์ พร้อมโช้กอัพอะแดปทีฟ ‘BILSTEIN DTX’ ที่มีความความยืดหยุ่น นุ่มหนึบ และความละเอียดในการขับมากขึ้นถึง 500% (เทียบกับ DB11 V8) นอกจากนั้นยังเป็นครั้งแรก ที่มีการติดตั้งเฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิป ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (e-diff) กับยนตรกรรมสายพันธุ์ DB ควบคุมรถอย่างมั่นใจด้วยคาลิเปอร์เบรกหน้า 6 พ็อต หลัง 4 พ็อต จับคู่จานเบรกโลหะเจาะรูระบายความร้อน หน้า-หลังขนาด 400 และ 360 มิลลิเมตร ตามลำดับ พร้อมมีจานเบรกคาร์บอนเซรามิก เจาะรูระบายความร้อน หน้า-หลังขนาด 410 และ 360 มิลลิเมตร เป็นออปชั่น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการชะลอความเร็ว และลดน้ำหนักใต้สปริงได้ถึง 27 กิโลกรัม ปิดท้ายด้วยล้อฟอร์จขนาด 21 นิ้ว จับคู่กับยาง Michelin Pilot Sport S 5 แก้มยางระบุอักษร ‘AML’ บ่งบอกว่าผลิตมาสำหรับ แอสตัน มาร์ติน DB12 พิเศษกับโครงสร้างโฟมด้านใน ช่วยลดเสียงรบกวน และนุ่มนวลยิ่งขึ้น โดยมีขนาดหน้า-หลัง 275/35/ZR21 และ 325/30/ZR21 ตามลำดับ
นับว่าแอสตัน มาร์ติน ดีบี12 โวลานเต้ ยังคงรักษาจุดเด่นของยนตรกรรมซูเปอร์ทัวเรอร์ไว้ได้อย่างครบถ้วน ทั้งความประณีตหรูหรา ทั้งยังพร้อมด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยที่เข้ามาผสานสุนทรียะแห่งการขับรถเปิดประทุน จึงนับเป็นยนตรกรรมที่พร้อมมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้กับผู้ครอบครองได้อย่างแท้จริง