ลุคใหม่แฟลกชิพสโตร์ Massimo Dutti ในโทนสีที่เรียบง่ายและเป็นธรรมชาติ
แบรนด์แฟชั่นสไตล์พรีเมียมคลาสสิคสัญชาติสเปน
เป็นอีกหนึ่งแบรนด์แฟชั่นระดับโลกที่คุ้นชินกับคนไทยมาหลายสิบปีสำหรับ Massimo Dutti (มาสสิโม ดุตติ) แบรนด์แฟชั่นเครื่องแต่งกายสไตล์พรีเมียมคลาสสิคสัญชาติสเปน ซึ่งปัจจุบัน มีร้านค้ากว่า 600 สาขา ใน 72 เมือง ทั้งยุโรป อเมริกา และเอเชีย รวมถึงประเทศไทย
และวันนี้ GM Live จะพาไปชมลุคใหม่แฟลกชิพสโตร์ Massimo Dutti ในโทนสีที่เรียบง่ายและเป็นธรรมชาติ ซึ่งมีพื้นที่กว่า 360 ตารางเมตร ณ ชั้น 1 โซนนอร์ทวิง ศูนย์การค้าสยามพารากอน
ซึ่งการออกแบบและตกแต่งร้านในสไตล์ใหม่ครั้งนี้มาจากแนวคิดที่ทางแบรนด์ต้องการแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการที่สะท้อนผ่านความโดดเด่นของคอลเลคชันต่างๆ รวมไปถึงเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีเมื่อได้เข้ามาเยือน Massimo Dutti
โดยคอนเซปต์ใหม่ได้ปรับเปลี่ยนตั้งแต่ความพิถีพิถันในการเลือกใช้วัสดุที่เน้นคุณภาพ และเทคนิคของช่างฝีมือที่ละเอียดอ่อน รวมทั้งดีไซน์เฟอร์นิเจอร์ในรูปทรงธรรมชาติที่ช่วยเพิ่มลูกเล่นให้กับพื้นที่ต่างๆ ผสานเข้ากับโทนสีที่เรียบง่ายและเป็นธรรมชาติให้ความรู้สึกสะอาดตา ซึ่งเป็นการย้ำภาพลักษณ์ใหม่ขให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ในส่วนการจัดสรรพื้นที่นั้น บริเวณทางเข้าได้รับการออกแบบให้มีความโปร่งโล่งสบายตา เพื่อพร้อมรับผู้มาเยือน ด้วยการสื่อผ่านวินโดว์ดิสเพลย์ซึ่งได้จัดแสดงคอลเลคชันต่างๆ ที่จะผลัดเปลี่ยนในแต่ละซีซัน
ภายในร้านแบ่งแยกโซนไว้อย่างลงตัวและง่ายต่อการเข้าถึง ทั้งคอลเลคชันของสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ โดยใช้แสงไฟในการรังสรรค์บรรยากาศให้มีความอบอุ่นและเป็นธรรมชาติ เป็นการรวมทุกองค์ประกอบเข้าด้วยกัน เพื่อบอกเล่าเรื่องราวและตัวตนอันเป็น DNA ของแบรนด์ที่อยู่ภายใต้แนวคิดโฉมใหม่ของแฟลกชิพสโตร์ในลุคที่ทันสมัย
ART IN STORES
คอนเซปต์ใหม่ของ Massimo Dutti ที่ได้รับการเนรมิตให้เป็นพื้นที่ทางวัฒนธรรม โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อผสมผสานฟังก์ชันภายในร้านเข้ากับสไตล์และศิลปะ และสำหรับแฟลกชิพสโตร์แห่งนี้เป็นการสานต่อความสำเร็จของโครงการ ArtinProgress ของประเทศไทยอีกครั้ง เพราะสถานที่แห่งนี้ยังเป็นการจัดแสดงนิทรรศการสุดพิเศษผลงานของ คุณอ้อ สุทธิประภา (Aor Sutthiprapha) ศิลปินเซรามิกชาวไทยมากความสามารถ ซึ่งงานชิ้นนี้ของเธอจะจัดแสดง ตั้งแต่วันที่ 8 – 25 พฤษภาคม 2568 นี้
ทั้งนี้ คุณอ้อ สุทธิประภา ศิลปินและนักออกแบบเซรามิก ผู้สร้างสรรค์ผลงานโดยเชื่อมโยงความหลงใหลที่มีต่อดินเหนียวและการทำสมาธิเข้าไว้ด้วยกัน ด้วยการสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างความสามารถทางจิตและศักยภาพภายในตนเอง ผลงานเซรามิกร่วมสมัยของเธอจึงสื่อสารออกมาอย่างเป็นรูปธรรมถึงบทสนทนาภายในจิตใจที่เกิดขึ้นตลอดกระบวนการบ่มเพาะผลงานที่ต้องผ่านการทำซ้ำและอาศัยระยะเวลา (เพิ่มเติมได้ที่ https://social.massimodutti.com/paper/en/art-in-stores/)
TECHNOLOGY AND PREMIUM SERVICE
Massimo Dutti เป็นแบรนด์ผู้นำที่มุ่งมั่นในการผสานแฟชั่น การบริการ และเทคโนโลยี เข้าไว้ด้วยกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบประสบการณ์การใหม่ๆ บนพื้นฐานของนวัตกรรมและการปรับตัวอยู่เสมอ ทำให้กลายเป็นแบรนด์ที่สร้างบรรทัดฐานของการสร้างประสบการณ์ที่ดีเสมอมา ทั้งยังมุ่งมั่นในการทำงานอย่างมีจริยธรรมและมีความรับผิดชอบโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและสังคมอยู่เสมอ ไม่่ว่าะเป็นใบเสร็จอิเล็กทรอนิกส์ หรือการนำถุงใส่ของมาเอง ซึ่งเป็นการช่วยลดขยะจากกระดาษ และยังเป็นการก้าวไปทีละขั้นสู่แฟชั่นที่ยั่งยืนอย่างสมบูรณ์
สัมผัสกับแฟลกชิพสโตร์ลุคใหม่ เรียบง่าย เป็นธรรมชาติ ของMassimo Dutti ที่ให้ความรู้สึกมากกว่าเป็นเพียงแค่แฟชั่น แต่คืองานศิลปะที่สวยงาม
