fbpx

พ.ร.บ.คู่ชีวิตกับโอกาสสร้างเม็ดเงิน ด้านการท่องเที่ยวของไทย

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยมีมูลค่าเป็น 1 ใน 5 ของเศรษฐกิจและเติบโตอย่างรวดเร็วกว่าภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ และปัจจุบันตลาด LGBT ได้กลายเป็นกุญแจสู่ความมั่งคั่งของการท่องเที่ยวไทย

Reasons to Read 

  • อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยมีมูลค่าเป็น 1 ใน 5 ของเศรษฐกิจและเติบโตอย่างรวดเร็วกว่าภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ และปัจจุบันตลาด LGBT ได้กลายเป็นกุญแจสู่ความมั่งคั่งของการท่องเที่ยวไทย
  • คาดว่ารายได้จากตลาดการท่องเที่ยวขาเข้าของกลุ่ม LGBT จะอยู่ที่ประมาณ 5.3 พันล้านดอลลาร์ซึ่งคิดเป็นประมาณ 8.4% ของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย ขณะที่กระทรวงการท่องเที่ยวของประเทศคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวมากกว่า 41 ล้านคนในปีนี้
  • ในช่วงที่การท่องเที่ยวจากบางประเทศในยุโรปและตะวันออกกลางได้ชะลอตัวลง นักท่องเที่ยว LGBT จึงสามารถเพิ่มรายได้ให้กับการท่องเที่ยวของไทยได้

ปัจจุบันประเทศไทยกำลังพัฒนากฎหมายเพื่อรองรับความสัมพันธ์และสิทธิ์ของคนหลากหลายทางเพศ และหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดของประเทศอย่าง ‘การท่องเที่ยว’ ก็ได้ให้ความสนใจในประเด็นนี้เช่นกัน

ท่ามกลางบรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งที่เข้มข้นขึ้นทุกขณะ คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติคู่ชีวิต (พ.ร.บ.คู่ชีวิต) ที่จะให้สิทธิ์ทางฎหมายกับคนรักเพศเดียวกันมากขึ้น (แต่ยังไม่รองรับการสมรส) และเร่งเสนอไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แม้ว่าร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวจะยังไม่กลายเป็นกฎหมายแต่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวก็ใช้โอกาสนี้ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยในฐานะประเทศที่เป็นมิตรกับชาว LGBT โดย ‘ศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์’ รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวในการให้สัมภาษณ์ว่า

“ประเทศไทยมีสินค้าและบริการที่รองรับตลาดนี้อยู่แล้ว และตอนนี้เราจะให้ความสำคัญกับวิธีการที่เราจะให้บริการนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้ดีกว่านี้”

ในปีนี้ ททท. จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมการท่องเที่ยว LGBT และวางแผนเข้าร่วม ‘ไพรด์พาเหรด’ ในเมืองต่างๆ มากขึ้น เช่น นิวยอร์กและเทลอาวีฟ หลังจากที่เมื่อเดือนที่แล้ว ททท. ได้เปิดตัววิดีโอโปรโมตการท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยว LGBT รวมถึง Roxanne Weijer และ Maartje Hensen สองบล็อกเกอร์เลสเบี้ยนชื่อดัง มาร่วมแสดง และในงานมหกรรมการท่องเที่ยวกรุงมาดริดในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ททท. ก็ได้มีโอกาสร่วมออกบูธโปรโมตประเทศไทยเป็นครั้งแรก โดยเน้นที่กลุ่มนักท่องเที่ยวเกย์และเลสเบี้ยนเป็นหลัก ทำให้เห็นการดำเนินงานที่จริงจังในการดึงดูดนักท่องเที่ยว LGBT มากขึ้น ทั้งนี้ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยมีมูลค่าเป็น 1 ใน 5 ของเศรษฐกิจและเติบโตอย่างรวดเร็วกว่าภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ ปัจจุบันตลาด LGBT ได้กลายเป็นกุญแจอีกดอกหนึ่งสู่ความมั่งคั่งของการท่องเที่ยวไทย มีรายงานจาก LGBT Capital บริษัทที่ปรึกษาด้านการเงินซึ่งให้บริการกลุ่ม LGBT เป็นหลัก ระบุว่า รายได้จากการท่องเที่ยวของชาว LGBT คิดเป็นร้อยละ 1.15 ของ GDP ประเทศไทย ซึ่งเป็นส่วนแบ่งที่มากกว่าจุดหมายปลายทางอื่นๆ โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติสร้างรายได้ให้กับเศรษฐกิจไทยประมาณ 63,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปีที่แล้ว 

 ส่วนปีนี้ LGBT Capital คาดว่ารายได้จากตลาดการท่องเที่ยวขาเข้าของกลุ่ม LGBT จะอยู่ที่ประมาณ 5.3 พันล้านดอลลาร์ซึ่งคิดเป็นประมาณ 8.4% ของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ในขณะที่กระทรวงการท่องเที่ยวของไทยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวมากกว่า 41 ล้านคนในปีนี้ และสร้างรายได้เกือบ 70 พันล้านเหรียญสหรัฐ แม้ว่าประเทศไทยจะเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว LGBT ที่สำคัญที่สุดของเอเชีย แต่ก็ยังคงมีกฎหมายและบางแง่มุมทางวัฒนธรรมที่ล้าหลังกว่าประเทศอื่นๆ เช่น สหรัฐอเมริกา สเปน และสหราชอาณาจักร ซึ่งประเทศเหล่านี้ล้วนมีรายได้จากนักท่องเที่ยว LGBT มากกว่าประเทศไทย สำหรับ พ.ร.บ.คู่ชีวิต ที่ถูกเสนอเข้าสู่ สนช. ในครั้งนี้ ยังไม่อนุญาตให้คู่รักเพศเดียวกันแต่งงานกันได้ แต่จะให้สิทธิทางกฎหมายในการจัดการสินทรัพย์และหนี้สินร่วมกัน สิทธิและหน้าที่ช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูกัน สิทธิในการให้ความยินยอมในการรักษาพยาบาลและจัดการทรัพย์สิน ฯลฯ ตอนนี้การพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต ยังไม่สิ้นสุดและยังไม่มีการออกเป็นกฎหมาย แต่รัฐบาลคาดว่าจะกลับมาพิจารณาอีกครั้งหลังการเลือกตั้ง ซึ่ง สนช. ในอนาคตอาจจะมีการอัปเดตร่าง พ.ร.บ.นี้ ด้วยการมอบสิทธิอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อแก้ไขข้อกังวลที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เชื่อว่าร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิตของไทย จะเป็นตัวแทนของความก้าวหน้าของสิทธิ LGBT ในเอเชีย เช่นเดียวกับที่เวียดนามและไต้หวันได้ดำเนินการหลายขั้นตอนในการเสนอร่างกฎหมายให้ยอมรับคู่รักเพศเดียวกันในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งอาจมีผลบังคับใช้ในปีนี้ 

 ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาประเทศไทยได้กลายเป็นที่รู้จักในเรื่องทัศนคติที่เป็นมิตรต่อนักท่องเที่ยว LGBT โดย ‘กรุงเทพฯ’ ได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองที่ดีที่สุดในเอเชียสำหรับนักท่องเที่ยว LGBT แซงหน้าโตเกียว ฮ่องกง และเซี่ยงไฮ้ ตามการจัดอันดับของ Nestpick บริการค้นหาอพาร์ตเมนต์ออนไลน์ ขณะที่กลุ่ม LGBT ในประเทศจะยังคงเผชิญกับอุปสรรคในการจ้างงาน (ยกเว้นในอุตสาหกรรมบันเทิงและบริการ) มีงานวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่าคนกลุ่ม LGBT มีรายได้สูงกว่าประชากรทั่วไปและมีแนวโน้มที่จะเดินทางไปต่างประเทศ ดังนั้นในช่วงที่การท่องเที่ยวจากบางประเทศในยุโรปและตะวันออกกลางได้ชะลอตัวลง นักท่องเที่ยว LGBT จึงสามารถเพิ่มรายได้ให้กับการท่องเที่ยวของไทยได้ 

 โรเบิร์ต ชาร์ป (Robert Sharp) ผู้ก่อตั้ง Out Adventures บริษัทท่องเที่ยวในกรุงโตรอนโตของแคนาดา ที่มุ่งเน้นการบริการไปที่กลุ่มเกย์ ได้นำนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันและชาวแคนาดาหลายพันคนมายังประเทศไทยในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เขากล่าวว่า “ลูกค้าส่วนใหญ่ใช้เวลาอย่างน้อยสามครั้งต่อปีในการเดินทางไปต่างประเทศและบางครั้งก็พิจารณาจุดหมายปลายทางที่ต้อนรับกลุ่ม LGBT เท่านั้น” “ผมคิดว่าประเทศไทยมองว่ากลุ่มนี้เป็นโอกาสในการโปรโมตประเทศและร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิตนี้ จะช่วยได้ในช่วงแรกเท่านั้น ซึ่งประเทศไทยอาจเป็นตัวอย่างที่ทำให้เห็นถึงประโยชน์ทางการเงินของการยอมรับสังคม LGBT และประเทศอื่นๆ สามารถเรียนรู้จากไทยได้”

Digiqole ad

บทความที่น่าสนใจ