fbpx

‘เจอร์เกน คล็อปป์’ ผู้จัดการทีมที่ดีที่สุดของหงส์แดงกับเส้นทางคว้าแชมป์ของลิเวอร์พูล

ลิเวอร์พูลในยุคของเจอร์เกน คล็อปป์ ทำให้แฟนหงส์แดงได้มีลุ้นการคว้าถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลที่ผ่านมาเพราะหลังจากเข้ามาคุมทีมตั้งแต่ปี 2015 เขาสามารถพาทีมเก็บแต้มจนเกือบเอาชนะทีมแชมป์ได้ด้วยคะแนนที่ห่างกันเพียงแต้มเดียว

Reasons To Read

  • ผลงานชิ้นใหญ่สมัย เจอร์เกน คล็อปป์ คุมทีมไมนทซ์ 05 ก็คือการพาทีมเข้าสู่บุนเดสลีกาลีกได้เป็นครั้งแรก หลังจากรอคอยมานานถึง 41 ปี
  • คล็อปป์เซ็นสัญญาเข้ารับตำแหน่งผู้จัดการทีมสโมสรลิเวอร์พูลแทน เบรนดัน ร็อดเจอส์ เมื่อปี 2015 ซึ่งถือเป็นการคุมทีมฟุตบอลอังกฤษครั้งแรกในชีวิต

สโมสรลิเวอร์พูลในยุคของ เจอร์เกน คล็อปป์ ทำให้แฟนบอลหงส์แดงได้มีลุ้นกันสุดๆ กับการคว้าถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลที่ผ่านมานี้ เพราะหลังจากการเข้ามาคุมทีมตั้งแต่ปี 2015 ในฤดูกาลนี้ คล็อปป์สามารถพาทีมเก็บแต้มจนเกือบเอาชนะทีมแชมป์ได้ด้วยคะแนนที่ห่างกันเพียงแต้มเดียวเท่านั้น ซึ่งผลงานชิ้นนี้อาจทำให้หลายคนเริ่มมั่นใจขึ้นมาแล้วว่าคล็อปป์จะสามารถพาทีมหงส์แดงคว้าแชมป์ได้อีกเป็นแน่

แม้ศึกพรีเมียร์ลีกจะจบลงด้วยชัยชนะอันดับที่ 2 ของทีมลิเวอร์พูล ทำให้พลาดคว้าแชมป์ที่รอมานาน 30 ปีไปอย่างน่าเสียดาย แต่ก็ต้องยอมรับว่าตลอดระยะเวลา 9 เดือนของฤดูกาลที่ผ่านมา ทีมหงส์แดงทำผลงานออกมาได้อย่างน่าชื่นชมและไม่ทำให้เดอะค็อปผิดหวังเลยจริงๆ ซึ่งนอกจากฝีเท้าของนักเตะที่ยอดเยี่ยมแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ไม่กล่าวถึงคงไม่ได้ก็คือการคุมทีมของ เจอร์เกน คล็อปป์ ที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ชื่อของเขาติดอยู่ในรายชื่อผู้จัดการทีมที่ดีที่สุดคนหนึ่งของโลกอย่างมีเหตุผล โดยไม่ใช่เพียงผลงานในสมัยการคุมทีมลิเวอร์พูลเท่านั้น แต่ทั้งผลงานในอดีต และความสามารถในการดึงศักยภาพของนักเตะออกมาในสนาม รวมถึงการจัดการทีมที่ดีและคอยเชียร์ผู้เล่นอย่างมีอารมณ์ร่วมอยู่เสมอ ทำให้ เจอร์เกน คล็อปป์ ได้รับการยกย่องว่าเป็นโค้ชฟุตบอลที่มีฝีมือที่สุดคนหนึ่งของโลก

จากนักเตะสู่ผู้จัดการทีมครั้งแรกในลีกอังกฤษ

เจอร์เกน คล็อปป์ เริ่มเข้าสู่วงการฟุตบอลอาชีพด้วยการเป็นผู้เล่นให้ สโมสรไมนทซ์ 05 ในประเทศเยอรมนี ปรากฏตัวบนสนามราว 300 ครั้ง รับหน้าที่เป็นตัวยิงก่อนเปลี่ยนเป็นกองหลัง รวมประตูที่ทำได้ทั้งหมด 52 ประตูตลอดระยะเวลาการเล่น 12 ปี ก่อนจะแขวนสตั๊ดและผันตัวมาเป็นผู้จัดการทีมอย่างเป็นทางการในปี 2001 ให้กับทีมเดิม และผลงานชิ้นใหญ่ของเขาก็คือ การพาทีมไมนทซ์เข้าสู่บุนเดสลีกาลีกได้เป็นครั้งแรก หลังจากรอคอยมานานถึง 41 ปี

จากนั้นในปี 2008 คล็อปป์ย้ายมาคุมทีมให้กับ สโมสรโบรุสซีอา ดอร์ตมุนต์ ในประเทศเยอรมนี พาทีมแข่งและจบลงที่อันดับ 13 ของลีกบุนเดสลีกาในฤดูกาลแรกของการรับตำแหน่ง ก่อนจะได้อันดับที่ 6 และเลื่อนขึ้นเป็นอันดับที่ 5 ในปีต่อๆ มา อีกทั้งพาทีมชนะถ้วยเยอรมันคัพในฤดูกาล 2011/12 พาทีมเข้ารอบสุดท้ายยูฟาแชมเปียนส์ลีกในปี 2013 ก่อนคล็อปป์จะจบสมัยของตัวเองที่ดอร์ตมุนต์ในฤดูกาล 2014/15 หลังจากคุมทีมนาน 7 ปี

และในวันที่ 8 ตุลาคม 2015 เจอร์เกน คล็อปป์ ก็ได้เซ็นสัญญาเข้ารับตำแหน่งผู้จัดการทีมสโมสรลิเวอร์พูลแทน เบรนดัน ร็อดเจอส์ ผู้จัดการคนก่อน ซึ่งถือเป็นการคุมทีมฟุตบอลอังกฤษครั้งแรกในชีวิต เปิดตัวด้วยเกมแรกกับผลแข่งที่เสมอกับทีมทอตนัมฮอตสเปอร์ หลังจากนั้นในปี 2016 ก็พาทีมเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศในยูฟายูโรปาลีก และคุมทีมคว้าที่ 4 ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2016/17 ก่อนได้เข้ารอบชิงในยูฟาแชมเปียนส์ลีกปี 2018

ส่วนผลงานล่าสุดกับพรีเมียร์ลีกที่เพิ่งปิดฤดูกาลไป เจอร์เกน คล็อปป์ ก็คุมทีมจนเฉียดคว้าแชมป์ด้วยคะแนนเป็นรองเพียงแต้มเดียว โดยลิเวอร์พูลลงแข่งทั้งหมด 38 เกม ชนะไป 30 เกม แพ้ 1 เกม ทำให้มีคะแนนรวมอยู่อันดับที่ 2 ของตารางพรีเมียร์ลีก แม้ผลครั้งนี้จะทำให้พลาดถ้วยแชมป์ไปอย่างน่าเสียดาย เนื่องจากนักเตะที่มีความพร้อมและโอกาสที่ดูจะมากกว่าทุกที แต่ผลการแข่งขันที่ผ่านมาก็คงทำให้แฟนหงส์แดงรู้สึกภูมิใจกันอยู่ไม่น้อย

อย่างไรก็ตาม เจอร์เกน คล็อปป์ และนักเตะลิเวอร์พูลก็ยังคงเหลือรางวัลให้ลุ้นกันอยู่อีกหนึ่งรายการ ซึ่งก็คือยูฟาแชมเปียนส์ลีก ที่ต้องมาลุ้นกันว่า ลิเวอร์พูลจะคว้าถ้วยยูฟาแชมเปียนส์ลีกใบที่ 6 ไปได้หรือไม่ หลังจากคว้าแชมป์ครั้งล่าสุดไปเมื่อปี 2005

Digiqole ad

บทความที่น่าสนใจ