ปฏิกิริยานานาชาติ เมื่อป้อมปราการสุดท้ายของไอเอสล่มสลาย
รัฐบาลซีเรียได้เรียกชัยชนะดังกล่าวว่า ‘เหตุการณ์สำคัญครั้งประวัติศาสตร์’ แต่ก็ยังคงเตือนประชาชนถึงภัยคุกคามที่ยังหลงเหลืออยู่
Reasons to Read
- รัฐบาลซีเรียได้เรียกชัยชนะดังกล่าวว่า ‘เหตุการณ์สำคัญครั้งประวัติศาสตร์’ แต่ก็ยังคงเตือนประชาชนถึงภัยคุกคามที่ยังหลงเหลืออยู่
- มาซลูม โคบาเน ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองกำลังประชาธิปไตยซีเรียได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการต่อสู้กับกลุ่มไอเอสว่า “เฟสใหม่ในการต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายกำลังจะเริ่มต้นขึ้น … เป้าหมายของการต่อสู้ในครั้งนี้คือเพื่อกำจัด ‘เซลล์ที่หลับใหล’ ของกลุ่มไอเอส”
- โดนัลด์ ทรัมป์ เตือนวัยรุ่นบนอินเทอร์เน็ตว่าหากหลงเชื่อในโฆษณาชวนเชื่อของกลุ่มไอเอสและเข้าร่วมกลุ่ม ทุกคนจะตายในที่สุด และขอให้คิดถึงการมีชีวิตที่ดีแทน
ธงประจำกองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย หรือ เอสดีเอฟ โบกสะบัดเหนือเมืองบากูซ อัล-ฟอว์กานี ทางภาคตะวันออกของซีเรีย เพื่อแสดงถึงชัยชนะในการปราบปรามกองกำลังรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในซีเรีย หลังกองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย (เอสดีเอฟ) ซึ่งมีสหรัฐอเมริกาให้การสนับสนุนร่วมกับพันธมิตรนักรบชาวเคิร์ด อาหรับ และอีกหลายกลุ่ม นำกำลังบุกโจมตีฐานที่มั่นสุดท้ายของไอเอสในเมืองดังกล่าวตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จนสามารถกวาดล้างกลุ่มไอเสสได้สำเร็จ ตามการรายงานของสำนักข่าวต่างประเทศเมื่อวันที่ 23 มีนาคม ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ รัฐบาลซีเรียได้เรียกชัยชนะดังกล่าวว่า ‘เหตุการณ์สำคัญครั้งประวัติศาสตร์’ แต่ก็ยังคงเตือนประชาชนถึงภัยคุกคามที่ยังหลงเหลืออยู่ เช่นเดียวกับนักวิเคราะห์ที่ระบุว่า การบุกโจมตีครั้งนี้ยังน่าจะเป็นจุดจบของกลุ่มไอเอส ในฐานะกำลังสำคัญในภูมิภาค ขณะเดียวกันผู้นำจากหลายประเทศก็ได้ออกมาแสดงท่าทีต่อเรื่องดังกล่าว ดังนี้
เคิร์ดซีเรีย
มาซลูม โคบาเน ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเอสดีเอฟ ร่วมพิธีแสดงความเคารพนักรบที่เสียชีวิตและเฉลิมฉลองการยึดบากูซ ซึ่งในพิธีดังกล่าว เขาได้กล่าวถ้อยแถลงโดยใจความส่วนหนึ่งได้เรียกร้องให้รัฐบาลของประธานาธิบดี บาชาร์ อัลอัสซาด แห่งซีเรีย เริ่มการดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อแสวงหาทางออกทางการเมือง
นอกจากนี้ มาซลูมยังได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการต่อสู้กับกลุ่มไอเอสว่า “เฟสใหม่ในการต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายกำลังจะเริ่มต้นขึ้น” พร้อมเสริมว่าเป้าหมายของการต่อสู้ในตอนนี้คือเพื่อกำจัด ‘เซลล์ที่หลับใหล’ ของกลุ่มไอเอส
สหรัฐฯ จะยังคงเฝ้าระวังกลุ่มไอเอส
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า สหรัฐฯ จะยังคงเฝ้าระวังกลุ่มไอเอส โดยจัดกองกำลังต่อต้านการก่อการร้ายระดับโลกเพื่อต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธจนกว่าจะพ่ายแพ้ในที่สุด และเตือนวัยรุ่นบนอินเทอร์เน็ตว่าหากหลงเชื่อในโฆษณาชวนเชื่อของกลุ่มไอเอสและเข้าร่วมกลุ่ม ทุกคนจะตายในที่สุด และขอให้คิดถึงการมีชีวิตที่ดีแทน “เมื่อคราวที่คนขี้ขลาดเหล่านี้จะกลับมาอีกครั้ง พวกเขาก็ได้สูญเสียทั้งศักดิ์ศรีและอำนาจไปแล้วทั้งหมด พวกเขาเป็นผู้แพ้และจะเป็นผู้แพ้ตลอดไป” ทรัมป์ กล่าวถึงกลุ่มไอเอส
ในขณะเดียวกัน วิลเลียม โรบัค รองผู้ว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะผู้แทนพิเศษของพันธมิตรนานาชาติเพื่อกวาดล้างกลุ่มไอเอส กล่าวว่า “เราขอแสดงความยินดีกับประชาชนชาวซีเรียและโดยเฉพาะอย่างยิ่งกองกำลังซีเรียในการกวาดล้างผู้นำศาสนาอิสลามจอมปลอมของกลุ่มไอเอส ในขณะที่เราเอาชนะกลุ่มไอเอสในซีเรียและอิรักได้สำเร็จ เรายังคงมีงานอีกมากที่ต้องทำเพื่อให้บรรลุถึงความพ่ายแพ้ที่ยั่งยืนของไอเอส ซึ่งยังคงถือว่าเป็นภัยคุกคามที่สำคัญในภูมิภาค สำหรับสหรัฐอเมริกาและพันธมิตรของเรา” เขากล่าวเสริม
ฝรั่งเศส
ประธานาธิบดี แอมานุแอล มาครง ของฝรั่งเศส กล่าวว่า “ต้นตอของความรุนแรงที่แฝงเร้นอยู่ ได้ถูกกำจัดไปแล้ว แต่ขอเตือนว่าภัยคุกคามยังคงมีอยู่ และการต่อสู้กับกลุ่มผู้ก่อการร้ายจะต้องดำเนินต่อไป”
ส่วนบนทวิตเตอร์ส่วนตัวของมาครง ได้ทวีตข้อความระบุว่า “กองกำลังประชาธิปไตยของซีเรียได้ประกาศว่าฐานที่มั่นสุดท้ายของกลุ่มไอเอสได้ล่มสลายไปแล้ว ผมขอแสดงความนับถือต่อพันธมิตรของเราและกองทัพพันธมิตรระหว่างประเทศซึ่งฝรั่งเศสก็เป็นส่วนหนึ่ง เพราะพวกเขาต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายด้วยความมุ่งมั่นเพื่อความปลอดภัยของเรา”
สหราชอาณาจักร
นายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์ กล่าวว่า “รัฐบาลอังกฤษยังคงมุ่งมั่นที่จะกำจัดอุดมการณ์อันเป็นพิษของกลุ่มไอเอส และการคืนเอกราชให้ดินแดนสุดท้ายของกลุ่มไอเอสจะเป็นไปไม่ได้หากปราศจากความกล้าหาญอันยิ่งใหญ่ของกองทัพอังกฤษและพันธมิตรของเรา เราจะทำสิ่งที่จำเป็นต่อการปกป้องประชาชนชาวอังกฤษและพันธมิตรของเราจากภัยคุกคาม”
สำหรับสหราชอาณาจักรได้ส่งกองกำลังติดอาวุธเกือบ 1,400 นาย เพื่อให้การสนับสนุนกองกำลังท้องถิ่นซีเรีย นอกเหนือจากนั้นยังสนับสนันการโจมตีทางอากาศจำนวนมากที่ดำเนินการโดยกองทัพอากาศ รวมถึงการช่วยฝึกกองกำลังความมั่นคงของอิรักโดยกองทัพของสหราชอาณาจักร
เยอรมนี
ไฮโก มาสส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเยอรมนี เรียกจุดจบของกลุ่มไอเอสในครั้งนี้ว่า เป็น ‘ก้าวสำคัญ’ และเช่นเดียวกับรัฐบาลชาติอื่นๆ เยอรมนียังคงเตือนว่ากลุ่มไอเอสยังเป็นภัยคุกคามที่สำคัญ และเยอรมนีจะไม่ประมาทต่อการคุกคามนั้น