คุณค่าต้องมาก่อนมูลค่าเสมอ
เรื่อง : ชัชฎาพร จุ้ยจั่น
บ้านต้นมะขาม (Bann Tonmakham) ธุรกิจหัตถศิลป์ชั้นสูงที่อยู่คู่กับคนไทยมายาวนานกว่า 100 ปี ปัจจุบันได้ทายาทรุ่นที่ 4 วิสัยทัศน์กว้างไกลอย่าง ‘ธามาริน เจริญพิทักษ์’ หรือ ‘เติ้ง’ เข้ามาสานต่อความงดงามและประวัติศาสตร์แห่งบ้านต้นมะขามที่กำลังเติบโต แตกกิ่งก้านขยายสาขามากมาย
ด้วยดีกรีปริญญาตรีจาก London College of Communication ในสาขา Book Arts & Crafts ความรักในศิลปะทำให้เติ้งใส่ใจในรายละเอียดลึกซึ้ง แม้เจ้าตัวจะบอกตนเองว่าไม่ได้มีความสนใจในด้านแฟชั่นหรือความสวยความงามแม้แต่น้อย แต่ด้วยความรู้ความสามารถด้านการผลิตสื่อจาก Production House จึงนำประสบการณ์ทั้งหมดนี้มาผลิตคอนเทนต์ที่น่าสนใจ สื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียด้วยเวลาเพียง 4 ปี บ้านต้นมะขามก็มีสินค้าและบริการต่างๆ เพิ่มขึ้น
“สำหรับผมสิ่งที่ยากคือการสานต่อหรือดำรงไว้ซึ่งความสำเร็จนั้น คือการถ่ายทอดทักษะสืบต่อกันมา ผสานกับเครื่องมือที่ทันสมัย แต่ยังคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมไว้อย่างการฉลุลาย ทั้งลายใบมะขาม ลายใบโพธิ์ ลายม้วน ลายขัดแตะ และกลุ่มลายไทยต่างๆ เสริมด้วยเทคนิคของช่างทอง และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร การสร้างเอกลักษณ์จึงเป็นสิ่งที่สำคัญรวมถึงการมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าหรือบริการในธุรกิจของเราให้ดีขึ้นครับ” เติ้งเสริมถึงแนวคิดในการทำธุรกิจเครื่องประดับ Fine Jewelry (ฟายน์ จิวเวลรี่) อีกว่า
“คุณค่าต้องมาก่อนมูลค่าเสมอ…นั่นหมายถึงการสร้างเอกลักษณ์และตัวตนให้กับเครื่องประดับชิ้นนั้นๆ ซึ่งผมก็ใช้แนวคิดนี้ในการทำธุรกิจอื่นๆ ด้วย ไม่ว่าจะทำอะไร ผมจะพยายามหาข้อมูลเพื่อให้สินค้าหรือบริการที่จะทำนั้นตอบโจทย์ของลูกค้าและต้องมีเอกลักษณ์ที่ชัดเจนคงความงามตามธรรมชาติของอัญมณีเอาไว้ งานออกแบบของเราจัดว่าเป็นงานหัตถศิลป์ประเภทงานสานและลงยา รังสรรค์โดยช่างทองโบราณที่ถ่ายทอดทักษะสืบต่อกันมายาวนาน”
ปัจจุบันเติ้งนั่งแท่นผู้บริหารแบรนด์บ้านต้นมะขามอย่างเต็มตัวในฐานะคนหนุ่มรุ่นใหม่ที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำของกิจการที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน สิ่งที่เขาให้ความสำคัญที่สุดคือ
“ทีมงานคือหัวใจครับ การเห็นความสำคัญและให้ค่าตอบแทนกับช่างที่มีทักษะและฝีมือที่สูงนั้นเป็นสิ่งสำคัญมากกับธุรกิจฟายน์ จิวเวลรี่ เพื่อให้สินค้าของเรานั้นยังคงมาตรฐานที่สูงสุดไว้เสมอ รวมถึงคอยผลักดันให้ทีมงานที่ประสบ-การณ์น้อยให้มีความพยายามที่จะเรียนรู้เพื่อพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้นไป ซึ่งเป็นการสร้างความสำเร็จไปด้วยกัน
“ส่วนตัวผมนั้น ถ้าถามว่าจะให้คะแนนความสำเร็จตัวเองเท่าไร ผมให้เพียง 50% เพราะเป้าหมายอีก 50% ของผมคือการผลักดันเครื่องประดับที่มีอยู่ในเครือทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์บ้านต้นมะขาม และ TMKMEN (ทีเอ็มเคเม็น) ไปสู่ระดับโลก เพราะผมมั่นใจว่าในวงการเครื่องประดับของคนไทยนั้นมีฝีมือและทักษะไม่แพ้ชาติใดในโลกครับ”
