ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ
The Lawmaker กูรูกฎหมายแห่ง กสทช.
งานหนักครั้งใหม่ของ ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ นักกฎหมายที่มีความสามารถชนิดหาตัวจับได้ยาก หลังจากฝากฝีมือไว้กับตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง และพ่วงตำแหน่งโฆษก กกต. อีกหนึ่งตำแหน่ง คือการก้าวสู่ตำแหน่งที่สื่อมวลชนตั้งฉายาว่าเป็นหนึ่งใน ‘11 อรหันต์ กสทช.’ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) นอกจากเขาจะนำจุดแข็งของตนเองมาพัฒนาองค์กรอย่างเป็นระบบ เพื่อมุ่งเน้นการแข่งขันโดยเสรีและเป็นธรรม งานหลักในตอนนี้คือการกำหนดอนาคตผู้ใช้เทคโนโลยี 3G ในประเทศไทย
“หน้าที่ของผม นอกจากที่บอร์ด กสทช. ยังเป็นประธานคณะอนุกรรมการบูรณาการและปรับปรุงกฎหมายและระเบียบด้านโทรคมนาคม เพื่อปรับปรุงกติกาต่างๆ ด้านกิจการโทรคมนาคม และยังได้รับมอบหมายให้ยกร่างกฎเกณฑ์เกี่ยวกับการบริหารงานของสำนักงาน กสทช. เป็นงานด้านกฎหมาย โดยเฉพาะทางด้านโทรคมนาคม เรื่องเทคโนโลยี 3G ที่กำลังเป็นเรื่องเด่น สืบเนื่องมาจากการจัดประมูล 3G ครั้งที่แล้ว ที่เริ่มดำเนินการไปได้ไกล แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จและเกิดความเสียหาย กรรมการ กสทช. ชุดนี้จึงมีหน้าที่นำบทเรียนมาดูว่าความล้มเหลวที่เกิดขึ้นนั้นเป็นอย่างไร และทำอย่างไรจึงจะประสบความสำเร็จ”
ดร. สุทธิพลพบว่าหลักสำคัญ คือต้องไม่ทำให้ฐานกฎหมายที่รองรับอำนาจของ กสทช. มีช่องโหว่ ซึ่งรูปแบบในการดำเนินการจะต้องโปร่งใสชัดเจน โดยการสร้างกติกาใหม่เพื่อที่จะทำให้เกิดการแข่งขันดำเนินต่อไปได้ ทำให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศ
ในฐานะของ กสทช. ด้านกฎหมาย เชื่อว่าหลายคนคงอยากรู้ว่า ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ มีความมั่นใจในการประมูลคลื่นความถี่ครั้งนี้ ว่าจะมีความเป็นธรรม และบรรลุผลสำเร็จได้มากน้อยเพียงใด
“ผมมีหน้าที่ดูแลทั้งผู้บริโภคและผู้ประกอบการ ผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยทั่วไป เราอาจมองว่าผู้บริโภคอ่อนแอกว่า แต่ถ้าเราดูแลผู้บริโภคอย่างเดียว แล้วเพิ่มภาระให้ผู้ประกอบการ เงินจากต่างชาติที่จะเข้าประเทศก็จะน้อยลง ธุรกิจก็อาจอยู่ไม่ได้ เพราะฉะนั้นในแง่ของการรักษาความเป็นธรรม ต้องทำให้พอดี แต่ในขณะเดียวกันเราก็ต้องระมัดระวังไม่ให้บางกลุ่มผลประโยชน์ ใช้เราเป็นเครื่องมือ”
สิ่งสำคัญคือต้องพัฒนาระบบการรับเรื่องร้องเรียน ให้ยุติธรรมและเป็นไปตามลำดับขั้นตอน แต่ก็ต้องไม่ล่าช้า เพราะการพิจารณาเรื่องที่ล่าช้า ก็คือการปฏิเสธความยุติธรรมอย่างหนึ่ง นอกจากนี้ต้องมีระบบไกล่เกลี่ยเข้ามาช่วยเป็นระบบเสริม เป็นทางเลือก ใหม่ในการระงับข้อพิพาทระหว่างผู้บริโภคและผู้ประกอบการ
ซึ่งนี่คือวิธีที่เขานำความรู้จากศาลและ กกต. มาใช้ในการปฏิบัติงานที่โปร่งใสชัดเจน และมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ อีกด้านหนึ่ง เขายังปรับปรุงประกาศ กสทช. เรื่องการกำหนดข้อห้ามการกระทำที่มีลักษณะเป็นการครอบงำกิจการโดยคนต่างด้าว จนมีการประกาศบังคับใช้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม 2555 ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการประมูลคลื่นความถี่ 3G ที่จะเกิดขึ้นในช่วงเดือนตุลาคมนี้ ทำให้ผู้ประกอบการชาวต่างชาติเข้ามาได้ตามกรอบที่กฎหมายกำหนด แต่เมื่อเข้ามาแล้วต้องปฏิบัติตามกฎหมายไทย โดยไม่เอาเปรียบผู้อื่น เพราะคลื่นความถี่เป็นทรัพยากรสื่อสารเพื่อประโยชน์สาธารณะ การนำไปใช้จึงต้องระมัดระวัง ที่สำคัญต้องยึดหลักบรรษัทภิบาล และไม่ดำเนินการใช้สิทธิในลักษณะเป็นการเลี่ยงกฎหมาย อันทำให้การแข่งขันเกิดความไม่เป็นธรรม
ในประเด็นนี้ ดร. สุทธิพลได้ทำการชี้แจงต่อคณะผู้แทนของสหภาพยุโรปและบรรดานักลงทุนต่างประเทศเพื่อสร้างความเข้าใจแล้ว ในขณะเดียวกันก็รับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่ายกลับมาปรับปรุงการทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
นักกฎหมายนักพัฒนา
นิติศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยม) จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้รับพระราชทานทุนมูลนิธิอานันทมหิดลไปศึกษาต่อต่างประเทศ
มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ผ่านหลักสูตรสำคัญหลายหลักสูตรทางด้านกฎหมาย และล่าสุดได้รับประกาศนียบัตรชั้นสูง หลักสูตรการกำกับดูแลด้านกิจการโทรคมนาคมจากประเทศอังกฤษ เป็นต้น ผ่านมาแล้วตั้งแต่งานวางรากฐาน ไปจนถึงงานรื้อสร้างเมื่อครั้งทำงานที่กระทรวงพาณิชย์ ได้ทำงานการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ การพิทักษ์รักษาผลประโยชน์ทางการค้า โดยทำหน้าที่ผู้แทนประเทศไทย ไปเจรจาการค้าเรื่องราวเกี่ยวกับข้อพิพาทในประเด็นใหญ่ๆ หลายประเด็นเมื่อครั้งเป็นผู้พิพากษา มีโอกาสร่วมก่อตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ซึ่งในเวลานั้น ดร. สุทธิพลได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้พิพากษา และเลขานุการศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางและเมื่อมีรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 ซึ่งมีการแยกกระทรวงยุติธรรมออกจากศาลยุติธรรม เพื่อให้ศาลมีการทำงานที่เป็นอิสระ ดร. สุทธิพลได้รับความไว้วางใจให้เข้ามาดูแลการวางรูปแบบของคณะกรรมการ ฯ ไปจนถึงการวางระบบเทคโนโลยี ต่อมาได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขานุการศาลฎีกา ก่อนจะมารับหน้าที่สำคัญใน กกต. และ กสทช.
