เซบาสเตียน ไว้ชื่อ โสฬสจินดา Hotelier หนุ่มไทย-สวีเดน ผู้นิยาม Service Mind ว่า คือการเปลี่ยนชีวิตแขกท่านหนึ่งให้ดีขึ้น

ทำความรู้จัก เซบาสเตียน ไว้ชื่อ โสฬสจินดา หนุ่มลูกครึ่งไทย-สวีเดน มากความสามารถที่พูดได้ทั้งไทย สวีเดน อังกฤษ และฝรั่งเศส ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการสื่อสารโรงแรมโซ โซฟิเทล หัวหิน และ โซฟิเทล หลวงพระบาง และ 3 นากาส์ หลวงพระบาง เอ็มแกลเลอรี่ บาย โซฟิเทล ที่ปรึกษาด้านแบรนด์ดิ้งในการเปิดโรงแรม และการรีแบรนด์โรงแรม วิทยากรพิเศษ Hospitality Marketing ม.กรุงเทพ และผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย
Reasons to Read
- ทำความรู้จัก เซบาสเตียน ไว้ชื่อ โสฬสจินดา หนุ่มลูกครึ่งไทย-สวีเดน มากความสามารถที่พูดได้ทั้งไทย สวีเดน อังกฤษ และฝรั่งเศส ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการสื่อสารโรงแรมโซ โซฟิเทล หัวหิน และ โซฟิเทล หลวงพระบาง และ 3 นากาส์ หลวงพระบาง เอ็มแกลเลอรี่ บาย โซฟิเทล ที่ปรึกษาด้านแบรนด์ดิ้งในการเปิดโรงแรม และการรีแบรนด์โรงแรม วิทยากรพิเศษ Hospitality Marketing ม.กรุงเทพ และผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย
- เซบาสเตียน หรือ ‘เซบ’ หนุ่มหน้าฝรั่งหัวใจไทยคนนี้ เลือกที่จะมาเป็นคนโรงแรมเพราะประทับใจในสถานที่ที่มี Magical Feeling ทุกครั้งที่ไปโรงแรมตอนเด็กๆ
- วันนี้เขานำความรู้สึก Extraordinary และประสบการณ์สุด Extreme ที่ได้รับมาสร้างสรรค์เป็นงานสื่อสารการตลาดและประชาสัมพันธ์ ผ่านแคมเปญที่ประสบความสำเร็จมากมาย อาทิ
1. ที่มาของชื่อ ‘ไว้ชื่อ’ ฟังดูไทยมาก
คุณแม่ได้ไปขอพ่อท่านสมณะโพธิรักษ์ที่สันติอโศกไว้ครับ ความหมายคือรักษาชื่อเสียงตนเองเอาไว้เพื่อประจักษ์ไว้แก่คนอื่น ไว้ชื่อ ไว้เสียง ไว้ลาย
2. สิ่งที่ผู้คนมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับตัวคุณ
หลายคนนึกว่าพูดไทยไม่ได้ และยังคิดว่าผมเป็นเกย์ เพราะสายงานโรงแรมและมาร์เก็ตติ้งส่วนใหญ่มักเป็นผู้หญิงที่ทำงานด้านนี้ แต่ผมชอบผู้หญิงและมีแฟนแล้วนะครับ
3. ความแตกต่างของการเป็นเด็กลูกครึ่งในโรงเรียนไทยและที่สวีเดน
ตอนอยู่โรงเรียนไทยถือเป็นของแปลก โดนล้อ ตอนไปอยู่สวีเดนไม่มีปัญหาอะไรเลย กลายเป็นว่าเราปกติในหมู่เด็กลูกครึ่งด้วยกันและฝรั่ง ในวัยเด็กเรามักอยากจะ Fit in ส่วนไปอยู่สวีเดนไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่คงมาจากความที่เราเติบโตมากับ 2 วัฒนธรรมพร้อมก็เลยมีความยืดหยุ่นในการปรับตัว ตอนย้ายไปอยู่ เพราะผมอยู่ที่สวีเดนตั้งแต่เกิดจนถึง 6 ขวบ จนอายุ 6-12 ปีกลับมาอยู่ที่ไทย และกลับไปเรียนที่สวีเดนตอนอายุ 12-18 ปี

4. สิ่งที่จุดประกายให้เรียนต่อด้านการโรงแรมที่สวิตเซอร์แลนด์
คุยกับผู้ใหญ่หลายท่านเพื่อหาคำตอบแต่ละท่านว่าชอบงานอะไรและทำไม เพื่อจะช่วยหาคำตอบให้ตัวเอง ตอนไฮสกูลจบสายวิทย์มาแต่รู้สึกไม่ใช่ ก็เลยไม่เอาต่อ ลองถามว่าเลือกได้อยากทำงานในสถานที่แบบไหน อยากทำในสถานที่ที่มีความพิเศษ Magical Feeling มีความ Extraordinary เวลาไปโรงแรมตอนเด็กๆ ตื่นเต้นมาก ที่นี่ทำไมสวยจัง มีแต่คนยิ้มแย้มไปหมด ต้อนรับเด็กอย่างเราดีจัง เลยเกิดความคิดที่อยากทำด้านการโรงแรม น่าสนุกดี เลยมองหาว่าจะเรียนการโรงแรมต้องไปไหนก็ต้องไปสวิตเซอร์แลนด์ แถมข้างโรงเรียน 5 นาที มีที่เล่นสโนว์บอร์ดด้วย! รีบสมัครเลยครับ
5. นิยามของคำว่า service mind
คือการเปลี่ยนชีวิตแขกท่านหนึ่งให้ดีขึ้น การเป็นส่วนร่วมที่จะสร้างความทรงจำที่ดีโดยที่แขกอาจจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ได้ มันคือการมีความคิดของผู้ให้ การสร้างประสบการณ์ที่ประทับใจ ซึ่งผมไม่ได้เป็นหมอช่วยชีวิตที่อาจมีบทบาทมากกับชีวิตของแขกคนหนึ่ง แต่ผมมองว่าการมี service mind ที่ดีก็มีความสามารถสร้างความทรงจำที่ช่วยให้ชีวิตคนนึงมีความสุขขึ้นได้ครับ
6. ประสบการณ์ฝึกงานหรือทำงานที่ extreme ที่สุดในชีวิต
extreme สุด คงเป็น internship ครั้งแรกที่ The Ritz London, ใส่สูทเพนกวินฝึกงานอยู่แผนก Room Service เสิร์ฟอาหารในห้อง และเติมมินิบาร์ โรงแรมมีอยู่ 8 ชั้นและลิฟต์หลังบ้านตัวเดียว หลายครั้งวิ่งขึ้นวิ่งลงแทนเพราะต้องเร็ว ทำงานรอบเช้า บ่าย และกลางคืน ช่วงแรกเลือดกำเดาไหลบ่อยเพราะไม่ชิน เสร็จกะก็ขอทำงานต่อใน banquet เสิร์ฟแขกวีไอพีเพี่อหาประสบการณ์และค่าขนมพิเศษ ทำงานตั้งแต่แปดโมงเช้าถึงเที่ยงคืน แล้วต่ออีก เหนื่อยสุดๆ extreme มากแต่ตอนนั้นเรายังเด็ก เลยไหวครับ
7. ในฐานะ ‘แขก’ ประสบการณ์เข้าพักในโรงแรมที่ประทับใจที่สุดคือที่ไหน
อาจฟังเป็นสิ่งเล็กๆ แต่ผมประทับใจมาก พักที่ Mandarin Oriental Tokyo ตอนกินอาหารเช้า ผมไปหยิบโยเกิร์ต กลับมาที่โต๊ะแล้วลืมหยิบช้อน เดินไปหยิบ 10 วิฯ กลับมามีช้อนเล็กวางอยู่อย่างมหัศจรรย์ ใส่ใจรายละเอียดสุดๆ เหมือนเสกมา ทุกวันนี้ยังทึ่งอยู่เลย

8. ทราบมาว่าคุณเป็นหนุ่มเนิร์ด ขอรายชื่อหนังสือโปรด 3 เล่ม
ช่วงนี้อ่านน้อยมาก แต่ 3 เล่มนี้กลับมาอ่านตลอด 1. The Power of Now by Eckhart Tolle, 2. Outliers, Malcolm Gladwell 3. ชินจัง ภาคภาษาไทย คลายเครียดดีครับ
9. ของสะสมของเซบาสเตียน
ผมไม่ชอบสะสมของครับ รู้สึกรก ออกไปทาง Minimalist ชอบทิ้งของมากกว่า ขอบอะไรโล่งๆ ของโล่ง ใจโล่ง

10. กีฬาสุดโปรด และนักกีฬาที่คุณชื่นชม
ผมชอบสโนว์บอร์ดและฟุตบอล นักกีฬาโปรดคือ Shaun White แชมป์สโนว์บอร์ดโอลิมปิกฤดูหนาว 3 สมัย เขาเคยตกรอบปี 2014 และกลับมาคว้าแชมป์อีกครั้งปี 2018 ผมนับถือในความทุ่มเทของเขา
11. ซีรีส์ที่ประทับใจ หรือสร้างปรากฏการณ์ในรอบปีผ่านมา
Sex Education นำเสนอเรื่องราววัยรุ่นที่สะท้อนอารมณ์วัยรุ่นดี ชวนคิด ช่วยตอบคําถาม เข้าถึงได้ง่าย ทำให้มองเห็นว่าทุกคนล้วนมีความแตกต่างและปัญหาส่วนตัว อีกเรื่องคือ SKAM จากนอร์เวย์ สอนให้เรารู้จักคนอื่นและตัวเราเองไปในตัว
12. บุคคลที่เป็นแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต
ไม่มีครับ เพราะผมเชื่อว่าทุกคนมีความแตกต่าง ผมแค่อยากจะเป็นคนที่ดีกว่าเมื่อวาน ซึ่งนั่นสร้างแรงบันดาลใจให้กับผม ผมรักที่จะเป็นตัวเอง!
13. สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการเป็น Hotelier
โรงแรม 5 ดาวไม่ได้ขายแค่ห้อง แต่ขายประสบการณ์ บางทีของเล็กๆ น้อยๆ ที่แขกมองข้ามไป หลายครั้งมาจากการวางแผนเป็นสัปดาห์ระหว่างหลายแผนก เพื่อที่สิ่งเล็กๆ แต่ละจุดกับการแลกเปลี่ยนระหว่างแบรนด์กับแขกจะไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อสะท้อน Brand DNA

14. Motto ที่ใช้ในการทำงานและดำเนินชีวิต
เครียดมากๆ ก็จะถามคุณพ่อ ท่านตอบว่า Don’t take life too seriously. อย่าซีเรียสกับตัวเองมากจนไม่มีความสุข มีภาษาสวีเดนอีกคำหนึ่งคือ ‘Lagom’ ซึ่งแปลว่าพอประมาณ
15. นโนบายการหาเสียงของพรรคการเมืองที่อยากให้กลายมาเป็นความจริง
การศึกษาครับ เรียนฟรีจนถึงปริญญาโท ผมมองว่าวิธีเดียวที่จะยกประเทศนี้ขึ้นคือยกเกณฑ์ความรู้ของทุกคนขึ้น ให้ทุกคนมีโอกาส รื้อการศึกษาใหม่หมด ทุกคนควรมีสิทธิ์ได้เรียนรู้อย่างมีมาตรฐาน
นักเขียน : อัฐกร เอ้งฉ้วน
