ความหวังของหนังไทย
เรื่อง : ตติยา แก้วจันทร์ ภาพ : GDH
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2560 ภาพยนตร์เรื่อง ‘ฉลาดเกมส์โกง’ จากค่ายจีดีเอช ห้าห้าเก้า คือภาพยนตร์ไทยที่สามารถคว้ารางวัลสุพรรณหงส์มาครองได้มากที่สุดถึง 12 รางวัล รวมถึงรางวัลระดับนานาชาติอีกมากมาย ทำเงินทั่วโลกได้กว่า 1,400 ล้านบาท อีกทั้งกำลังจะถูกฮอลลีวูดนำไปรีเมคอีกด้วย เรียกว่าเป็นภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จทั้งในด้านกระแสตอบรับและรายได้!
‘บาส-นัฐวุฒิ พูนพิริยะ’ คือชื่อของผู้กำกับฯ ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จครั้งนี้ เขาคือพี่ชายแท้ๆ ของ จูนจูน-พัชชา พูนพิริยะ นักแสดงวัยรุ่นที่โด่งดังจากภาพยนตร์เรื่อง Mary is happy, Mary is happy (2556) ก่อนหน้านี้นัฐวุฒิเคยมีผลงานกำกับฯ ภาพยนตร์เรื่อง Countdown (2555) รวมถึงภาพยนตร์สั้น มิวสิกวิดีโอ และโฆษณาอีกมากมาย
จากเด็กวัยรุ่นที่มีความฝันอยากเป็นผู้กำกับฯ ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมศึกษา โดยมีภาพยนตร์เรื่อง Goodfellas ของมาร์ติน สกอร์เซซี เริ่มต้นจุดประกายแรงบันดาลใจ หลังจากนั้นเขาเข้าศึกษาต่อที่คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ก่อนจบออกมาทำงานในฐานะมนุษย์ออฟฟิศอยู่ราว 2-3 ปี
แต่แล้วเขาตัดสินใจก้าวออกจากคอมฟอร์ตโซน ด้วยการบินลัดฟ้าไปศึกษาต่อด้านกราฟิกดีไซน์และเรียนภาษาควบคู่ไปด้วยที่มหานครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา แน่นอน, เส้นทางนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะมหานครแห่งความศิวิไลซ์และเพ้อฝันที่เขาเคยเห็นผ่านภาพยนตร์ ช่างแตกต่างจากความเป็นจริงที่เขาเผชิญอยู่ตรงหน้า
ชายหนุ่มทำงานพิเศษเป็นเด็กเสิร์ฟตามร้านอาหารเพื่อจะมีรายได้พิเศษมาลดภาระค่าครองชีพที่สูงลิ่ว แต่ขณะเดียวกันการใช้ชีวิตต่างแดนอย่างยากลำบากก็ทำให้เขาได้มุมมองและประสบการณ์ชีวิตที่คุ้มค่ากลับคืนมา พร้อมๆ กับไอเดียมากมายที่ผุดขึ้นมาระหว่างการพูดคุยกับผู้คนท่ามกลางพื้นที่เมือง ซึ่งเต็มไปด้วยอิสระและความคิดสร้างสรรค์
หลังจากกลับเมืองไทย นัฐวุฒิกลับมาทำงานกำกับฯ ภาพยนตร์อย่างจริงจัง จนกระทั่งเกิดปรากฏการณ์ ‘ฉลาดเกมส์โกงฟีเวอร์’ ภาพยนตร์สะท้อนระบบการศึกษาที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์นักเรียนโกงข้อสอบ ขึ้นแท่นภาพยนตร์ไทยที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลในต่างประเทศ ล้มแชมป์เก่าอย่างองค์บาก (2546) และต้มยำกุ้ง (2548)
หากใครได้ชมภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวจะเห็นว่าบท การลำดับภาพ รวมถึงชั้นเชิงในการเล่าเรื่อง มีความโดดเด่นเกินมาตรฐานหนังไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นี่ไม่ใช่ความบังเอิญ แต่คือมันสมองและประสบการณ์ที่นัฐวุฒิเก็บสั่งสมมาตลอดการทำงาน
สำหรับผลงานเรื่องใหม่ของเขามีชื่อว่า ‘One For The Road’ ถ่ายทำทั้งในไทยและมหานครนิวยอร์ก โดยมี ‘หว่อง การ์ไว’ ผู้กำกับฯ ชื่อดังชาวฮ่องกงมานั่งแท่นโปรดิวเซอร์ แน่นอนว่ากลายเป็นภาพยนตร์อีกเรื่องที่แฟนๆ รอคอยพิสูจน์ฝีมือในลำดับถัดไปของผู้กำกับฯ หนุ่มคนนี้
เขานี่แหละคือความหวังใหม่ของหนังไทย
