ไชย ไชยวรรณ
นักบริหารไทยเจ้าของรางวัลระดับโลก Stevie Awards 2011 : Executive of the Year
ที่ผ่านมา คนไทยได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศโดยการไปกวาดรางวัลจากการประกวดและการแข่งขันในหลายเวที สะท้อนให้เห็นว่าความสามารถในหลายๆ ด้านของชนชาวสยามไม่ได้ด้อยไปกว่าชนชาติอื่นเลยแม้แต่น้อย GM มีโอกาสพูดคุยกับ ไชย ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด นักบริหารที่เพิ่งคว้ารางวัลระดับโลก Stevie Awards 2011 ประเภท Executive of the Year สาขาธุรกิจประกันชีวิต ถือเป็นนักบริหารชาวไทยคนแรกที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ ถึงเบื้องหลังความสำเร็จและเคล็ดลับในการบริหารงานในองค์กรที่มีอายุยืนยาวกว่า 7 ทศวรรษความที่บริษัทไทยประกันชีวิตเป็นธุรกิจครอบครัวที่สืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น การที่คุณไชยมารับไม้ต่อเพื่อสืบทอดธุรกิจครอบครัวให้ยั่งยืนย่อมเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก
โดยปัจจัยในการขับเคลื่อนองค์กรให้ถึงฝั่งฝันส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับทักษะการบริหารงานของคนในครอบครัว และอีกส่วนคือการคัดเลือกนักบริหารมืออาชีพมาร่วมบริหารงานในบริษัท “สิ่งสำคัญคือคนในครอบครัวสามารถจะบริหารงานตรงนั้นได้หรือเปล่า ถ้าบริหารงานไม่ได้เนื่องจากไม่มีความรู้ ไม่มีทักษะ เราก็หามืออาชีพมาบริหาร แต่ถ้าเราสามารถบริหารได้ ผมเชื่อว่าคนในครอบครัวจะบริหารได้ดี เขาต้องรักองค์กรของเขาแน่นอน เพราะมันเป็นธุรกิจของเขาเอง”ย้อนกลับไป 30 ปีก่อน ช่วงที่คุณไชยเข้ามาบริหารงานในบริษัทใหม่ๆ จุดอ่อนของธุรกิจที่เขามองเห็นคือ แบรนด์ไทยประกันชีวิตเป็นแบรนด์ในประเทศ (Local Brand) แล้วต้องไปแข่งขันกับแบรนด์ประกันชีวิตของต่างชาติ ซึ่งผู้ซื้อส่วนใหญ่เชื่อมั่นในแบรนด์ของบริษัทจากประเทศตะวันตกเหล่านั้นมากกว่า จึงต้องเปลี่ยนจุดอ่อนนั้นให้กลายเป็นจุดแข็ง ซึ่งจุดแข็งของไทยประกันชีวิตคือการเป็นบริษัทคนไทย“เราต้องการให้ผู้บริโภครู้สึกว่าแบรนด์ไทยประกันชีวิตเป็นแบรนด์ที่เข้าใจวิถีชีวิต ความรู้สึกนึกคิด และคุณค่าของชีวิตคนไทยมากที่สุด จึงวางตำแหน่งทางการตลาด (Brand Positioning) ว่าเป็น ‘บริษัทคนไทย เพื่อคนไทย’ โดยมี Brand Promise คือ ‘คุณค่าของชีวิตและความรัก’ หรือ Value of Life & Love ซึ่งหมายถึงคำมั่นสัญญาว่า ไทยประกันชีวิตเห็นความสำคัญของทุกชีวิต และต้องการจุดประกายให้คนในสังคมเห็นคุณค่าและความหมายของชีวิต” สิ่งที่ช่วยอธิบายคำกล่าวข้างต้นของคุณไชยได้อย่างเห็นภาพมากขึ้น คือภาพยนตร์โฆษณาของไทยประกันชีวิตที่ตอบโจทย์ Brand Promise เน้นการสื่อสารอารมณ์ (Emotional) ที่มีพื้นฐานจาก Real Life Lesson เป็นการหยิบยกชีวิตจริงซึ่งเป็นแง่มุมที่เกี่ยวพันกับชีวิตของคนมาถ่ายทอด“เราไม่ใช่แค่ทำหนังโฆษณา เราอยากจะทำหนังโฆษณาดีๆ ที่ให้สาระและความคิดกับผู้ชม อย่างน้อยผู้ชม ชมแล้วสามารถนำเอาความคิดเหล่านั้นไปใช้ได้ และเป็นประโยชน์ต่อสังคม…ผมเชื่อว่าการทำหนังโฆษณา ไม่ใช่แค่ขายสินค้า มันน่าจะให้สาระ ให้ความคิดแก่สังคม ทำให้สังคมดีขึ้น และคนในสังคมนำสาระและข้อคิดที่ได้จากโฆษณาไปต่อยอดได้”ท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจในหลายครั้งที่ผ่านมา หัวเรือใหญ่ของไทยประกันชีวิตผู้นี้ก็สามารถนำพาองค์กรให้ผ่านพ้นวิกฤติมาได้ โดยการพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส เมื่อ 15 ปีก่อนในช่วงวิกฤติการณ์ต้มยำกุ้ง เขาเร่ง ‘ปฏิวัติ’ องค์กรให้เป็นบริษัทประกันชีวิตของคนไทยในระดับเวิลด์คลาส ผ่านการปรับเปลี่ยนระบบการจัดการต่างๆ ให้ได้มาตรฐานในระดับโลก เช่น นำระบบบัญชีที่เป็นระบบมาตรฐานสากลมาใช้ หรือในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาก็พยายามสร้างวิสัยทัศน์ใหม่ให้ไทยประกันชีวิตเป็นมากกว่าการประกันชีวิต หรือ More Than Just Life Insuranceเพราะการบริหารบริษัทประกันชีวิตคือการบริหารความเสี่ยง ดังนั้น Prudent & Dynamic หรือความรอบคอบและรัดกุม จึงเป็นหัวใจสำคัญประจำตัวของนักบริหารที่จะมานั่งเก้าอี้ซีอีโอของบริษัทประกันชีวิต“เรากำลังเอาเบี้ยประกันหรือเงินของประชาชนมาบริหารจัดการ ต้องพยายามที่จะรอบคอบและรัดกุมให้มาก พร้อมทั้งตระหนักอยู่เสมอว่าเงินนั้นไม่ใช่เงินของผู้ถือหุ้นหรือเงินของผู้บริหาร แต่มันเป็นเงินของประชาชน นโยบายของไทยประกันชีวิตคือเราจะให้ความสำคัญกับ Optimize Profit หรือกำไรที่เหมาะสม มากกว่า Maximize Profit กำไรสูงสุด เพราะการที่เราทำ Optimize Profit มันหมายความว่าอย่างน้อยกำไรที่พอเพียงตรงนี้สามารถจะตอบแทนคืนผู้ถือหุ้นได้ ตอบแทนคืนผู้เอาประกันได้ ตอบแทนคืนสาธารณชน และตอบแทนคืนพนักงานได้ แต่ถ้าเราคิดว่าทุกปีจะต้อง Maximize Profit ความคิดของผู้บริหาร ความคิดของผู้ถือหุ้นก็จะมองว่ากำไรแค่นี้มันไม่พอ ปีหน้าต้องมากกว่านี้ สุดท้ายมันก็อาจจะ Drive ผู้บริหารให้ไปบริหารจัดการอะไรบางอย่างที่มีความเสี่ยงสูง โดยขาดความรอบคอบและรัดกุม ซึ่งอาจมีข้อเสียมากกว่าข้อดี”บริษัทไทยประกันชีวิตได้รับการยอมรับทั้งในระดับประเทศและระดับสากลทั้งในด้านการบริหารงานและด้านการสร้างแบรนด์ ยืนยันได้จากรางวัลที่กวาดมาได้จากหลายสถาบัน ล่าสุดคือ รางวัล Stevie Awards 2011 : Executive of the Year สาขาธุรกิจประกันชีวิต ที่คุณไชยได้รับมา โดย The International Business Awards หรือ Stevie Awards เป็นรางวัลทางธุรกิจชั้นนำระดับโลก ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2002 แบ่งรางวัลออกเป็น 40 สาขา มีบริษัทและองค์กรสมัครเข้าชิงชัยรางวัลนี้กว่า 200 บริษัท จากกว่า 60 ประเทศทั่วโลกด้วยความคิดฝังหัวผู้บริโภคชาวไทยจำนวนไม่น้อยที่ว่า แบรนด์ต่างชาติย่อมดีและมีคุณภาพมากกว่าแบรนด์ไทย คุณไชยมองว่ารางวัล Stevie Awards ที่ได้รับมาจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคได้ ในเรื่องที่ว่าบริษัทไทยประกันชีวิตมีมาตรฐานในระดับเดียวกับบริษัทต่างชาติ และเป็นแบรนด์ระดับโลก“ถามว่ามีความภูมิใจไหมกับรางวัลที่ได้รับ ก็ต้องบอกว่ามีความภูมิใจในฐานะที่เราเป็นคนไทย บริหารธุรกิจประกันชีวิตซึ่งก็ไม่ได้ใหญ่โตเท่ากับธุรกิจประกันชีวิตในโลกตะวันตก แต่ในขณะเดียวกัน ผมเชื่อว่ารางวัลเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราตระหนักว่า เราทำแล้วเราพบความสำเร็จ ได้รับการยอมรับจากสากล ในขณะเดียวกัน ผมก็คิดว่าสิ่งที่ผมยึดในการบริหารงานตลอดเวลาก็คือว่า ทำทุกวันให้ดีที่สุดก็พอ” เหนือสิ่งอื่นใด รางวัลที่คุณไชยและบริษัทไทยประกันชีวิตได้รับมาตลอดการดำเนินธุรกิจช่วง 70 ปีที่ผ่านมา ไม่สำคัญเท่ากับการบ่มเพาะ ‘เมล็ดพันธุ์แห่งการให้’ ให้เบ่งบานในใจคนไทยประกันชีวิต เพื่อสร้างองค์กรให้ยั่งยืน “CSR กับ GG (Good Governance-ธรรมาภิบาล) ต้องเกิดพร้อมๆ กัน ต้องเริ่มจากคนในองค์กรก่อน ถ้าคนในองค์กรรู้จักการให้ รู้จักความเอื้ออาทร รู้จักความมีน้ำใจ ธรรมาภิบาลก็จะเกิดขึ้นเอง หิริโอตตัปปะก็จะเกิดขึ้นเอง หลังจากนั้นสิ่งที่ตามมาอีกก็คือองค์กรจะอยู่ได้อย่างยั่งยืน แบรนด์ที่อุตส่าห์สร้างมาก็จะอยู่ได้อย่างยั่งยืนด้วย เพราะผมเชื่อในการสร้างแบรนด์ที่อยู่ได้อย่างยั่งยืน”คำกล่าวทิ้งท้ายของคุณไชยชวนคิดไม่น้อย เพราะน้ำใจจากคนไทยไม่เพียงสร้างองค์กรให้ยั่งยืน แต่ยังทำให้สังคมไทยน่าอยู่ขึ้นด้วย
รางวัล Stevie Awards 2011 : Executive of the Year สาขาธุรกิจประกันชีวิต
The International Business Awards หรือ Stevie Awards เป็นรางวัลทางธุรกิจชั้นนำระดับโลก ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2002 แบ่งรางวัลออกเป็น 40 สาขา มีบริษัทและองค์กรสมัครเข้าชิงชัยรางวัลนี้กว่า 200 บริษัท จากกว่า 60 ประเทศทั่วโลก