Inspiring WATCHES
เรื่อง : FULLMOON
นาฬิกาที่สร้างสรรค์ขึ้นจากแรงบันดาลใจ และก่อให้เกิดแรงบันดาลใจใหม่ๆ ให้กับผู้สวมใส่ต่อไปได้เช่นกัน
ถ่ายทอดแรงบันดาลใจ พร้อมทั้งอุทิศให้กับ Eric Clapton และการคัฟเวอร์ใหม่ของเขาให้กับเพลง ‘I Shot the Sheriff’ ของ Bob Marley ซึ่งพาให้เพลงนี้ขึ้นอันดับ 1 ของชาร์ตเพลงอเมริกาในช่วงปี 1974 โดยกระจกคริสตัลแซฟไฟร์บนหน้าปัดแกะสลักด้วยเลเซอร์เป็นชื่อเพลง ‘I Shot the Sheriff’ และสัญลักษณ์ตราดาวนายอำเภอที่เคลือบด้วยทอง 4N ในตัวเรือนสเตนเลสสตีล 47 มม. ซึ่งผลิตจำนวนจำกัดเพียง 25 เรือน
ดึงแรงบันดาลใจจากโลกแห่งกีฬาทางน้ำและท้องทะเลลึกมาสู่หน้าปัดสีเขียวกากีใหม่ พร้อมด้วยขอบตัวเรือนเซรามิกสีเดียวกัน รวมถึงสายที่สามารถเปลี่ยนสลับจากสายสเตนเลสสตีลไปเป็นสายยางสีเขียวได้อย่างง่ายดาย หลอมรวมความโดดเด่นอยู่ในตัวเรือนสเตนเลสสตีล ขนาด 41 มม. ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ L888.5 กันน้ำได้ลึกสูงสุด 300 เมตร
ร่วมฉลองครบรอบ 60 ปี โดยได้แรงบันดาลใจมาจากความสวยงามของธรรมชาติที่รายล้อมเมือง Shizukuishi บ้านเกิดของนาฬิกาจักรกล Grand Seiko นำมาถ่ายทอดเป็นหน้าปัดสีเขียวแกะสลักลวดลายอย่างพิถีพิถัน เพื่อมอบประกายแสงสะท้อนสีเขียวและสีขาวที่เห็นเป็นภาพอันคุ้นเคยของป่าต้นซิลเวอร์เบิร์ช (Silver Birch) ใกล้กับสตูดิโอสร้างสรรค์นาฬิกาของแบรนด์บรรจุอยู่ในตัวเรือนโรสโกลด์ ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 120 เรือน
ได้แรงบันดาลใจมาจากหน้าปัด Prototype ซึ่งไม่เคยปรากฏโฉมมาก่อน เป็นมรดกชิ้นสำคัญของโรงงานการผลิตแห่งนี้ โดยนำกลับมาปลุกฟื้นขึ้นใหม่เป็นหน้าปัดโครโนกราฟของนาฬิการุ่นปัจจุบันของตระกูล Chronomaster บรรจุในตัวเรือนดั้งเดิมของรุ่น 1969 ขนาด 38 มม. ทำจากสเตนเลสสตีลคู่สายหนังจระเข้สีน้ำเงิน ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติ El Primero 400 Automatic อันโด่งดังของแบรนด์นี้เช่นกัน
สีสันที่ได้แรงบันดาลใจมาจากท้องทะเล รวมถึงสัญลักษณ์ของการเป็นผู้จับเวลาอย่างเป็นทางการของ America’s Cup ครั้งที่ 36 โดยรุ่นนี้ผลิตในจำนวนจำกัด 2,021 เรือน ควงคู่มากับตัวเรือนสเตนเลสสตีล 43.50 มม. กับขอบตัวเรือนกันน้ำเซรามิกสีน้ำเงิน ผสานด้วยลิควิดเซรามิกสีแดงและสีขาวบนสเกลช่วง 5 นาทีสำหรับนับเวลาถอยหลัง รวมทั้งหน้าปัดเซรามิกสีขาว ประทับชื่อการแข่งขันไว้ที่ 6 นาฬิกา และโลโก้ America’s Cup บนเข็มวินาทีกลาง ฝาหลังคริสตัลแซฟไฟร์โชว์กลไก OMEGA Master Chronometer Calibre 8900
เป็นแรงบันดาลใจให้กันและกัน กับนาฬิกา Franck Muller ที่หยิบเอาความโดดเด่นของคอลเลกชัน Crazy Hours มาออกแบบและตกแต่งที่ได้ต้นแบบมาจากยนตรกรรมหรูอย่าง Rolls-Royce Wraith นำมาสู่การเปิดตัวนาฬิการุ่นพิเศษในตัวเรือนสีดำหรือสีน้ำเงิน คมเข้มด้วยหน้าปัดโทนสีน้ำเงินสง่างามที่เป็นรหัสสีของรถหรู ‘RR’ พร้อมทั้งขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ สำรองพลังงานได้ 42 ชั่วโมง ลงตัวกับสายหนังสีน้ำเงิน