From Rooftop Farm to Table สวนผักออร์แกนิค สะท้อนความใส่ใจเรื่องความยั่งยืน โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์
เสิร์ฟความสดใหม่จากฟาร์ม

หากเอ่ยถึงเรื่อง ความยั่งยืน หรือSustainability หลายคนคงคุ้นชินกับคำๆ นี้ แต่ความคุ้นชิ้นใช่จะหมายถึงความเข้าใจ GM Live เลยจะไปพาไปชม From Rooftop Farm to Tableสวนผักออร์แกนิค ตัวอย่างที่จับต้องได้ซึ่งสะท้อนความใส่ใจเรื่องความยั่งยืน ของ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ ทั้งยังเสิร์ฟความสดใหม่จากฟาร์มให้ได้ลิ้มลองกัน GM Live บอกได้เลยว่าป็น Rooftop Farm ใหญ่และจัดการแบบจริงจังมาก ลดมูลค่าการซื้อผักสลัดได้ถึงปีละเกือบหนึ่งล้านบาท

ที่จริงเรื่องของ “ความยั่งยืน” เป็นแนวคิดสำคัญที่มีเป้าหมายในการสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นปัจจุบันโดยไม่กระทบต่ออนาคต โดยผ่านเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือSustainable Development Goals (SDGs) มีทั้งหมด 17 เป้าหมาย โดยองค์การสหประชาชาติแบ่งทั้ง 17 ข้อ ออกเป็น 5 มิติ ได้แก่ มิติสังคม (People) มิติเศรษฐกิจ (Prosperity) มิติสิ่งแวดล้อม (Planet) มิติสันติภาพและสถาบัน (Peace) และมิติหุ้นส่วนการพัฒนา (Partnership)

และการที่ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งต้องถือว่าเป็นภาคเอกชน ดำเนินการเรื่องสวนผักออร์แกนิค From Rooftop Farm to Tableในครั้งนี้ นับว่าเป็นความมุ่งมั่น ใส่ใจในรายละเอียด และวิสัยทัศน์อันกว้างไกล ที่ตระหนักถึงความสำคัญของการส่งเสริมสิ่งแวดล้อม และการดูแลสุขภาพของผู้มาใช้บริการอย่างยั่งยืน ทั้งยังเป็นวิธีประยุกต์ใช้ความยั่งยืนในชีวิตประจำวัน ตามแผนพัฒนาSDGs ที่องค์การสหประชาชาติกำหนดไว้ ที่ต้องพัฒนาแล้วเสร็จอย่างมีคุณภาพภายในปี 2573

โดยโครงการนำร่องฟาร์มผักออร์แกนิก ครั้งนี้ ถือเป็นโรงแรมต้นแบบแห่งแรกในกลุ่มเซ็นทารา ที่เปลี่ยนพื้นที่ว่างเปล่าให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวมีขนาด 1,296 ตารางเมตร บริเวณชั้น 26 ของโรงแรม ซึ่งแต่เดิมคือสนามเทนนิสที่ไว้บริการผู้มาพักนั่นเอง








ทั้งนี้พื้นที่ดังกล่าวถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นโรงเรือนปลูกผักแบบระบบเปิด มีหลังคาโปร่งแสงเพื่อป้องกันฝน พร้อมช่องเปิดด้านข้าง สำหรับการระบายอากาศที่ดี โดยผักทุกชนิดปลูกแบบออร์แกนิก 100% ไม่มีการใช้สารเคมีใดๆ ตลอดกระบวนการเพาะปลูก โดยเลียนแบบธรรมชาติ เพื่อให้พืชผักเติบโตอย่างสมบูรณ์ในวิถีธรรมชาติอย่างแท้จริง สำหรับผักที่ปลูกได้ในปีที่ผ่านมา เช่น
Butter Head : เก็บผลผลิตได้ 467.18 กิโลกรัม
Green Oak : เก็บผลผลิตได้ 421.11 กิโลกรัม
Green Cos : เก็บผลผลิตได้ 306.23 กิโลกรัม
Red Oak : เก็บผลผลิตได้ 132.26 กิโลกรัม
Kale : เก็บผลผลิตได้ 440.40 กิโลกรัม
Italian Basil : เก็บผลผลิตได้ 182.25 กิโลกรัม

ซึ่งปี 2567 ที่ผ่านมา เก็บผลผลิตตั้งแต่เดือนมกราคม – ธันวาคม ได้ถึง 3,776 กิโลกรัม โดยสามารถลดค่าใช้จ่ายในส่วนของผักได้ถึง 897,310.30 บาท (แปดแสนเก้าหมื่นเจ็ดพันสามร้อยสิบบาทสามสิยสตางค์) เมื่อเปรียบเทียบกับราคาท้องตลาด

นอกจากนี้ ทางโรงแรมยังนำเศษอาหารจากห้องอาหารพนักงานมาผลิตเป็นปุ๋ยหมักอินทรีย์ที่ใช้ในการเพาะปลูก ทำให้ได้ผักที่ปลอดภัยไร้สารเคมีปนเปื้อนอย่างแท้จริง โดยมีเจ้าหน้าที่ดูแลสวนคอยตรวจสอบคุณภาพของพืชผักอย่างใกล้ชิดเพื่อให้แน่ใจว่าจะได้รับประทานผักที่สด สะอาด และมีคุณภาพดีต่อสุขภาพ

สำหรับพืชผักที่ปลูกในโรงเรือนนี้ ได้แก่ บัตเตอร์เฮดใบเขียว, กรีนโอ๊ค, เรดโอ๊ค, ร็อคเก็ต และผักสวนครัวหลากชนิด ซึ่งทั้งหมดจะถูกนำไปใช้ในการรังสรรค์เมนูอาหารสุขภาพในห้องอาหารของโรงแรม เรียกได้ว่าเสิร์ฟความ สดใหม่จากฟาร์มเลยทีเดียว ผู้ที่ลิ้มลองจะสัมผัสได้ถึงความสดใหม่ ปลอดภัย ทั้งยังมีคุณค่าทางโภชนาการตามนโยบายด้านความรับผิดชอบต่อสังคมของโรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา

อีกทั้งโครงการต่อไปในปีหน้า คุณอรรณพ แก้วพุฒตาล, ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไปศูนย์การประชุม และฝ่ายอาหารและเครื่องดื่ม โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์ ยังมีแผนทำเครื่องปุ๋ยหมักเศษอาหาร เพื่อใช้ในสวนผักโดยตรง และลดปริมาณขยะอินทรีย์ในครัวเรือน, ประหยัดค่าใช้จ่ายในการดูแลสวนผัก, ส่งเสริมการเรียนรู้ด้านเกษตรอินทรีย์และการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ผลลัพธ์ที่คาดว่าจะได้รับคือ สวนผักที่อุดมสมบูรณ์ด้วยปุ๋ยอินทรีย์ ลดปริมาณขยะอาหารได้อย่างเห็นผล และก่อให้เกิดความตระหนักในเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนอีกด้วย

และนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่กำลังขยายไปสู่อนาคตแห่งความยั่งยืนอย่างแท้จริง
