Ferrari 296 GTS: ม้าลำพองแห่งมาราเนลโล สุดยอดยนตรกรรมไฮบริด พิชิตทุกถนน
คาวาลลิโน มอเตอร์ ผู้นำเข้าเฟอร์รารี่อย่างเป็นทางการในประเทศไทย สานต่อความร้อนแรงของยนตรกรรมแห่งความสนุกในการขับขี่อย่างไม่สิ้นสุดไปกับ เฟอร์รารี่ 296 GTS ซูเปอร์คาร์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด เปิดประทุน 830 แรงม้า ที่เพิ่มมิติของความสนุกในการขับขี่ให้มากยิ่งขึ้นด้วยหลังคาแข็งแบบพับเก็บได้ (RHT) อันโด่งดังของเฟอร์รารี่ พร้อมเพิ่มขีดความสามารถในการใช้งานและให้อรรถรสในการขับขี่ให้โดดเด่นขึ้น ผ่านการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในรูปแบบดิจิทัล ถ่ายทอดสด Live Streaming และสามารถรับชมย้อนหลังผ่านช่องทาง Facebook Official Page: www.facebook.com/cavallinoferrari thailand และ YouTube Cavallino Motors Ferrari Thailand : www.youtube.com/c/cavallinomotors ferrarithailand
นันทมาลี ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการบริษัท คาวาลลิโน มอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “ช่วงเวลา 3 ปีที่ผ่านมา คาวาลลิโนฯ ได้เปิดตัวเฟอร์รารี่ รวม 7 รุ่น ซึ่งต้องขอขอบคุณในความสนับสนุนและการตอบรับที่ดีของลูกค้าทุกท่าน ที่ทำให้เราได้ครองตำแหน่งดีลเลอร์อันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และครั้งนี้พร้อมแล้วสำหรับการเปิดตัวเฟอร์รารี่ 296 GTS ยนตรกรรม Berlinetta (เบอร์ลิเนตต้า) เครื่องยนต์วางกลางลำรุ่นล่าสุด จากเฟอร์รารี่ ถือเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมและมียอดจองทะลุเป้าตั้งแต่ก่อนเปิดตัว เพราะเป็นขุมพลังที่เป็นการเปิดประตูสู่ยุคใหม่ของเครื่องยนต์ V6 ซึ่งหยั่งรากลึกลงไปในประวัติศาสตร์ที่ไม่มีใครเทียบเคียงได้กว่า 75 ปี ของเฟอร์รารี่ รวมทั้งมอบความสนุกในการขับขี่แบบ EN PLEIN AIR พร้อมดื่มด่ำกับธรรมชาติและสายลม
ด้วยนิยามแนวคิดใหม่แห่งความสนุกหลังพวงมาลัย รับประกันความเร้าใจ ไม่เพียงแค่ในขณะที่ขับขี่ อยู่บนขีดจำกัด สูงสุดของรถเท่านั้น แต่ยังรวมถึงขณะขับขี่ในชีวิตประจำวันอีกด้วย โดยชื่อรุ่นของรถ ได้มาจากการรวมเอาตัวเลขของความจุ กระบอกสูบ (2,992 ซีซี) และจำนวนลูกสูบ เข้ากับอักษร GTS (Gran Turismo Spider) ตัวย่อที่ดีที่สุดของวัฒนธรรมเฟอร์รารี่ เพื่อเน้นย้ำว่าเครื่องยนต์รุ่นใหม่นี้ คือการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของมาราเนลโล”
ปิยะเลิศ ใบหยก CEO แห่งใบหยก กรุ๊ป ผู้หลงใหลในความเป็นเบอร์หนึ่งของเฟอร์รารี่ และได้รับเกียรติเป็นผู้นำชม เฟอร์รารี่ 296 GTS อย่างใกล้ชิดในงานเปิดตัวครั้งนี้ กล่าวว่า “ผมชอบรถสปอร์ต และเฟอร์รารี่เป็นแบรนด์ในฝันของเด็กหลายคน รวมถึงผมที่มีเฟอร์รารี่เป็นแรงบันดาลใจในการทำงานเพื่อมีคันแรกเป็นของตัวเองก่อนอายุสามสิบ ก่อนจะมีคันอื่นๆ ตามมา สำหรับ เฟอร์รารี่ 296 GTS ในมุมมองของผม รถคันนี้คือรถแห่งอนาคต ที่มีความไฮเทค ขับง่าย ขับสบาย โดยยังคงความแรงและเร็วอันเป็นเอกลักษณ์ของเฟอร์รารี่เอาไว้อย่างครบถ้วน ตอบโจทย์ทั้งวัยรุ่นและผู้ใหญ่ที่ชื่นชอบความเป็นเฟอร์รารี่”
ไรย์อันณ์ สิทรัพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามชัยเซอร์วิส จำกัด กล่าวชื่นชมบรรยากาศของการจัดงาน ที่แสดงถึงความหรูหรา สะท้อนตัวตนของเฟอร์รารี่ และการนำชม เฟอร์รารี่ 296 GTS โดยละเอียดภายในงาน ทำให้ได้รับความรู้เกี่ยวกับการออกแบบและด้านสมรรถนะได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
“เฟอร์รารี่เป็นคำที่ผมได้ยินมาตั้งแต่เด็ก เป็นแบรนด์ที่ทำให้เรารู้สึกถึงความพิเศษด้วยความเป็นหนึ่งทั้งในแง่ของรูปลักษณ์ ความมีเอกลักษณ์ และประวัติศาสตร์ที่ยาวนานซึ่งไม่มีใครมาแทนที่ได้ ผมชอบความพิเศษของ เฟอร์รารี่ 296 GTS ซึ่งมีความเรียบหรูของเส้นสายที่น้อยแต่มีเอกลักษณ์ สะท้อนตัวตนของเฟอร์รารี่ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ดูเข้มขึ้นด้วยสีโทนดำซึ่งเป็นความแปลกใหม่ ความเป็นไฮบริดทำให้มีราคาที่น่าสนใจ และเสียงสตาร์ตเครื่องยนต์ที่นุ่มเบา เหมาะกับการใช้งานในเวลาที่เราไม่ต้องการให้มีเสียงรบกวน แต่ถ้าอยากจะขับขี่สนุกๆ บนทางโล่งๆ ในแบบฉบับของเฟอร์รารี่ ก็สามารถเลือกใช้ระบบการขับแบบปกติได้ สิ่งเหล่านี้ทำให้เราได้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่ตอบยุคสมัยของเฟอร์รารี่”
อิทธิฤทธิ์ รัตนทารส Assistant General Manager Business Development แห่ง The Em District กล่าวถึงความผูกพันที่มีต่อเฟอร์รารี่ และความน่าสนใจของ เฟอร์รารี่ 296 GTS ว่า “ตอนที่ผมยังเด็ก คุณพ่อจะขับเฟอร์รารี่ แคลิฟอร์เนีย มารับหลังเลิกเรียน และพาเราเปิดประทุนขับไปหัวหินกัน เป็นภาพจำของรถสีแดงที่ผมคุ้นชินมาโดยตลอดและอยากขับบ้าง สำหรับผมแล้วเฟอร์รารี่จึงเป็นรถที่เป็นที่สุดและลักชัวรี่ที่สุดในความคิดของผม และยังเป็นรถที่มีมูลค่าพุ่งขึ้นตลอด ยิ่งเก่ายิ่งราคาสูง ส่วน เฟอร์รารี่ 296 GTS คันนี้ก็มีรูปลักษณ์ที่ผมชอบมาก คือมีความปราดเปรียว ไฟหน้าดูมีความแบดบอย มีเสน่ห์ และสีโทนดำที่มีความแมตต์ซึ่งนำมาโชว์ในวันนี้ ก็สะท้อนคาแรกเตอร์ของ เฟอร์รารี่ 296 GTS ได้เป็นอย่างดี ส่วนสมรรถนะด้านอื่นๆ ของเฟอร์รารี่นั้น เป็นเรื่องที่ทุกคนเข้าใจกันอยู่แล้ว”
เฟอร์รารี่ 296 GTS มาพร้อมหลังคาแข็งแบบ RHT หรือ Retractable Hard Top ซึ่งสามารถพับเก็บได้ภายในเวลา 14 วินาที ขณะที่รถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วไม่เกิน 45 กม. / ชม. ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์แบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์ V6 ติดตั้งเทอร์โบไว้กึ่งกลาง เสื้อสูบทำมุม 120 องศา ให้กำลังสูงสุด 663 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 122 กิโลวัตต์ (167 แรงม้า) ผลิตกำลังรวมสูงสุดถึง 830 แรงม้า ขึ้นสู่อัตราเร่ง 0-100 กม./ ชม. ภายใน 2.9 วินาที ต่อเนื่องไปถึง 200 กม./ ชม. ภายใน 7.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 330 กม./ ชม. ทั้งยังมอบประสิทธิภาพเกินความคาดหมาย พร้อมนวัตกรรมใหม่ ที่ทำให้ได้มาซึ่งเสียงคำรามเร้าอารมณ์ และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
นอกจากนี้ระบบ ปลั๊ก-อิน ไฮบริด (PHEV) ของ เฟอร์รารี่ 296 GTS ช่วยให้มั่นใจได้ว่านี่จะเป็นรถที่สามารถ ใช้งานได้ครอบคลุมจนน่าทึ่ง ด้วยการตอบสนองคันเร่งแบบทันทีทันใด ทั้งยังขับเคลื่อนแบบไฟฟ้าล้วนในโหมด eDrive ได้ไกลถึง 25 กิโลเมตร มิติอันกะทัดรัดของรถและการใช้นวัตกรรมระบบควบคุมไดนามิกแบบใหม่ ตลอดจนแอโรไดนามิกส์ที่ปรับแต่งมาอย่างพิถีพิถัน จะทำให้ผู้ขับต้องประทับใจในทันทีอย่างแน่นอน ด้วยความคล่องตัวจนน่าอัศจรรย์ และการบังคับควบคุมที่ตอบสนองได้ตามสั่ง ดีไซน์แบบสปอร์ต โฉบเฉี่ยว และขนาดที่กะทัดรัด ยังตอกย้ำให้เห็นถึงรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์และทันสมัย ในขณะเดียวกันก็สะท้อนภาพของรุ่น 250 LM ปี 1963 ออกมาได้อย่างชาญฉลาด นับเป็นการผสมผสานที่สมบูรณ์แบบระหว่างความเรียบง่ายและการใช้งานจริง ด้านรูปโฉมของเฟอร์รารี่ 296 GTS ยังเน้นย้ำถึงเส้นสายที่ดูสะอาดตาและหรูหราแบบเดียวกับใน 296 GTB เมื่อเปิดหลังคาจะให้ความสง่างาม ในแบบรถไฮบริดเปิดประทุนได้อย่างไม่มีใครเทียบเคียง นี่คือสถาปัตยกรรมที่ไม่เคยมีมาก่อนในรถแบบสไปเดอร์ ถือเป็นการเปิดบทใหม่ให้กับประวัติศาสตร์ของแบรนด์เลยทีเดียว ส่วนห้องโดยสารได้รับการพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิดใหม่ของอินเตอร์เฟซแบบดิจิทัลเต็มรูปแบบ ที่โดดเด่น สง่างามและทรงพลังซึ่งสะท้อนดีไซน์ภายนอกเข้ามาสู่ห้องโดยสารได้อย่างสมบูรณ์แบบ
